สมาชิก

หวานใจกับนายจอมหยิ่ง

ตอนที่ 17

ค่ำนั้น ทศวินติดต่อไปหาแม่ที่อเมริกา สอบถามเรื่องกุญแจที่พ่อเก็บไว้มิดชิดข้างรูป แม่บอกไม่เคยรู้เห็นมาก่อน แต่เมื่อลูกถามต่ออีกว่าพ่อมีที่เก็บเอกสารพิเศษในห้องทำงานหรือเปล่า แม่นึกได้ว่ามีอีกที่ที่พ่อแอบเก็บปืน เพราะพ่อชอบไปยิงปืนแต่คุณย่าไม่ชอบ เลยต้องเก็บไว้พิเศษ

หลังได้ข้อมูลจากแม่แล้ว ทศวินเข้าไปในห้องเก็บของ แต่ยังไม่ทันค้นหา คุณยุบลก็ก้าวเข้ามาเสียก่อน ทศวินบอกคุณย่าว่าเขามาค้นดูรูปพ่อ พลางก็ถามเรื่องที่พ่อชอบยิงปืน คุณยุบลหน้าเศร้าขึ้นมาทันที เล่ากึ่งบ่นว่าพ่อของทศชอบปืนผาหน้าไม้ เหมือนคุณปู่ แต่ย่าก็กังวลตามประสาผู้หญิง แล้วในที่สุดสิ่งที่ย่าไม่ชอบก็มาทำร้ายลูกย่าถึงสองคน ทั้งพ่อของทศแล้วก็พ่อของชัช

"แล้วคุณย่าทราบไหมครับว่าคุณพ่อเก็บ ปืนไว้ที่ไหน"

"ทศถามทำไม"

"ไม่มีอะไรครับ ผมอยากดูว่าคุณพ่อเล่นปืนอะไร"

"ไม่เอานะทศ ย่าขอร้อง อย่ายุ่งกับของพวกนี้เลยนะลูก ย่าใจไม่ดี...ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้เราต้องประชุมกันแต่เช้านะ"

ทศวินจำต้องนิ่งไว้ก่อน ประคองพาคุณย่ากลับออกไป โดยไม่รู้ว่าเพลินจิตแอบมองอยู่ในมุมมืดนอกห้อง...

เช้า ขึ้น ทศวินขับรถไปโรงแรมเพื่อเข้าประชุม แต่ไม่ทันจอดรถสนิทก็มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งขับปาดหน้าแล้วล้มลงขวางทาง ทศวินตกใจรีบลงไปดู ชายคนนั้นกลับลุกพรวดคว้าไม้ที่ซ่อนในเสื้อกระหน่ำตีทศวินไม่นับ โชคดีจอมใจขับรถมาเห็นเหตุการณ์กดแตรดังลั่น คนร้ายจึงผละไปขึ้นรถขับหนีอย่างรวดเร็ว

ทศวินถูกตีสลบถูกนำตัวส่ง โรงพยาบาล คุณยุบลและคนอื่นๆกำลังรอประชุม พอรู้ข่าวร้ายก็แตกตื่นตกใจรีบพากันไปโรงพยาบาลทันที ส่วนยุทธผู้รับคำสั่งจากวิชาให้ทำงานนี้ ยุทธไม่ได้ลงมือเอง แต่ก็รับรองกับเพลินจิตและวิชาว่าทศวินคงเดี้ยงไม่เป็นท่า

"แกแน่ใจ นะว่าจะไม่ถึงตัวแก" เพลินจิตยังระแวง

"แน่ยิ่งกว่าแน่อีกครับ เพราะผมไม่ได้ลงมือเอง แค่โทร.คุยกับไอ้หัวหน้าแผนกให้มันไปบอกพวกคนขับรถว่าโรงแรมจะเปลี่ยนระบบ พวกมันจะต้องตกงาน แล้วผลก็เป็นอย่างที่เรารู้ๆกัน"

ผู้บงการทั้งสอง ยิ้มพอใจ แล้วโยนเงินก้อนหนึ่งให้ยุทธไป จากนั้นเพลินจิตก็ตามพวกยุบลไปโรงพยาบาล ทุกคนกำลังสอบถามทศวินที่เพิ่งฟื้น แต่ยังบ่นเจ็บศีรษะอยู่ อุไรริสาก็มากับเขาด้วย และแสดงความห่วงใยทศวินอย่างออกนอกหน้า จนคุณยุบลรู้สึกขัดตา

หมอ รายงานผลการตรวจสมองว่าไม่มีอาการร้ายแรงอะไร พรุ่งนี้ให้กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ และควรพักอยู่กับบ้านเพื่อดูอาการให้แน่ใจสักอาทิตย์ เพลินจิตแอบเจ็บใจที่ทศวินไม่เป็นอะไรมาก แต่อุไรริสาก็ยังไม่วายเสนอหน้าเป็นห่วง จนคนอื่นๆเข้าไม่ถึง โดยเฉพาะจอมใจที่แอบหึง ซึ่งอัศวินสังเกตและรับรู้ได้อย่างเข้าใจ

ที่สุด คุณยุบลก็ต้อนทุกคนกลับ อ้างว่าทศวินจะได้ พักผ่อน แต่อุไรริสายังหน้าด้านขออยู่ดูแลต่อ คุณยุบลอึ้ง แล้วตัดสินใจให้อัศวินกับจอมใจอยู่เป็นเพื่อนทศวิน จะได้ ไม่น่าเกลียด พอพ้นออกจากห้อง คุณยุบลถามสุมนาทันทีว่า อัศวินกับอุไรริสารักกันดีหรือเปล่า สุมนาตอบอึกอักว่า ไม่เคยเห็นมีปัญหาอะไรกัน

"ดูลูกไม่ค่อยจะมั่นใจเลยนะ" คำทักท้วงของคุณยุบล ทำให้สุมนาแปลกใจ คนเป็นแม่เลยต้องขยายต่อไป "ฉันรู้สึกว่าหนูริสาจะเป็นห่วงตาทศมากเกินไปหน่อยนะ ตาวินก็ไม่ค่อยจะเข้าหาหนูริสาเลย"


เพลินจิตที่เดินตามหลังได้ทีกรีดเสียงเยาะหยัน "ต๊าย ตาวินนี่อ่อนหัดไปซะทุกเรื่องเลยนะคะ ทั้งเรื่องงาน...เรื่องผู้หญิง"

สุมนา มองเพลินจิตอย่างไม่ชอบใจ พลันเหลือบเห็นชัชวินเดินมาพร้อมแก้วใส จึงยิ้มเย้ยเพลินจิตเข้าให้บ้าง

"แล้วลูกชายเธอคงจะได้ดั่งใจเธอ มากสินะ"

เพลินจิตเห็นชัชวินก็ปรี่เข้าไปดึงมาจากแก้วใส พร้อมกันนี้ก็บ่นลูกกระทบแก้วใสว่า ทำไมเพิ่งมา มัวแต่เสียเวลาทำอะไรอยู่ ชัชวินบอกไปซื้อของเยี่ยม แล้วถามคุณย่าว่าทศวินเป็นยังไงบ้าง คุณยุบลบอกฟื้นแล้ว ชัชวินจึงขอตัว คว้ามือแก้วใสเดินเข้าห้องไปเลย

"นี่ มันผิดฝาผิดตัวไปมั้ย มันชักยังไงๆ หนูจอมต้องคู่กับตาชัชไม่ใช่เหรอ" คุณยุบลออกปากอย่างงงๆ เพลินจิตไม่สบอารมณ์ถึงกับพูดโพล่งก่อนเดินหนีไป

"จะ แม่จอมใจหรือยัยแก้วใส เพลินก็ไม่รับทั้งนั้นล่ะค่ะ"

ooooooo

ชัช วินและแก้วใสเข้ามาทักถามอาการทศวินได้พักเดียวก็มีอันต้องรีบตามจอมใจกลับ ไปเพราะอุไรริสาเป็นต้นเหตุ อุไรริสาแย่งจอมใจปอกผลไม้ ทั้งที่ทศวินเจาะจงให้จอมใจจัดการ...พออยู่กันน้อยคน อัศวินก็ชิ่งไปอีก ทศวินเลยต้องอยู่กับอุไรริสาตามลำพังอย่างกระอักกระอ่วนใจ

เมื่อทศวิ นบาดเจ็บต้องหยุดพัก คุณยุบลจึงจะแบ่งหน้าที่แบบชั่วคราวไปก่อน เพลินจิตกับวิชาไม่เห็นด้วย พยายามดันชัชวินสุดตัว อ้างว่ายังไงชัชวินก็ต้องขึ้นมาบริหารเพราะเป็นจีเอ็มอีกคน พอสุมนาท้วงว่าทำแบบนี้เท่ากับทศวินเสียเปรียบไปอาทิตย์นึง เพลินจิตก็ออกอาการไม่พอใจ พูดประชดให้ฝ่ายบัญชีของสุมนาขึ้นมาบริหารซะเอง...ในที่สุด คุณยุบลก็จำใจยอมรับตามที่เพลินจิตกับวิชาเสนอ ให้เรียกชัชวินมาทำงานได้เลย

ตก เย็นจอมใจกลับมาเยี่ยมทศวินอีกครั้ง ทศวินกำลังอ้อนให้จอมใจป้อนอาหาร แต่ก็มีมารตัวเดิมมาผจญอีกจนได้ อุไรริสายิ้มแป้นแล้นเข้ามาแย่งถาดอาหารไปจากมือจอมใจจะป้อนเอง ทศวินห่วงความรู้สึกจอมใจจึงขอกินเอง...ชัชวินเข้ามาอีกคน พอได้ยินจอมใจบอกว่าจะกลับ ชัชวินอาสาไปส่ง เพราะกำลังหิวจะได้แวะหาอะไรกินกัน จอมใจหมั่นไส้ทศวินจึงตอบตกลงทันที อุไรริสาเองก็ได้ที พอทั้งคู่ออกไปแล้ว เธอพูดยั่วยุว่าชัชวินเสน่ห์แรง ทั้งแก้วใสและจอมใจดูเหมือนจะรุมชอบเขา แต่แน่ๆได้ยินว่าคุณท่านจะจับคู่ให้ชัชวินกับจอมใจด้วย

ทศวินได้ฟัง ถึงกับกินข้าวไม่ลง บ่นปวดหัว ขอร้องอุไรริสากลับไปก่อน อุไรริสาหน้าตึงพูดไม่ออก คว้ากระเป๋ากลับออกไปอย่างไม่พอใจ...แต่พอเช้าวันใหม่ อุไรริสาก็ลอยหน้ามาอีก เจอจอมใจตรงหน้าลิฟต์ก็ทำกางกั้น แถมพูดจาให้ดูเหมือนว่าตัวเองเฝ้าทศวินอยู่ทั้งคืน จอมใจยิ่งขุ่นเคืองไม่อยากขึ้นไปเยี่ยมทศวิน พอดีคุณยุบลมาพร้อมสุมนา เห็นอุไรริสาเช้าถึงเย็นถึงแบบนี้ คุณยุบลจึงกระซิบบอกสุมนาให้เตรียมงานหมั้นอัศวินกับอุไรริสาเป็นการด่วน

ขณะ ที่สุมนากลับมาสยามธาราและเดินตามหาอัศวินเพื่อบอกข่าวเรื่องหมั้น ปรากฏว่าเจออัศวินกำลังตื๊อกุลที่พยายามหลบหน้าหลบตาเขา คำพูดของสุมนาที่ว่าจะไปดูฤกษ์หมั้นวันนี้ทำให้อัศวินและกุลอึ้งตะลึงไปด้วย กัน อัศวินปฏิเสธว่าเขาไม่ได้ชอบอุไรริสา สุมนาสวนทันทีว่าแม่รู้ จากนั้นก็หันมาพูดกับกุลเชิงขอร้อง

"แต่คนที่รักกันจริงต้องไม่ดึง อีกคนให้ตกต่ำตามเราไป หนูคงเข้าใจที่ฉันพูดนะ"

"ค่ะ หนูไม่คิดจะดึงคุณอัศวินลงมาหรอกค่ะ" กุลกลั้นน้ำตา หันหลังเดินจากไป อัศวินขยับจะตามแต่ถูกสุมนาดึงแขนไว้

"วินต้องมองไปถึงอนาคตนะลูก วินต้องเลือกคนที่เหมาะสมมาเคียงข้าง ความรักมันไม่สำคัญเท่าความเหมาะสมหรอกลูก คนที่ต่างกันมากๆ น้อยรายที่จะไปกันได้นาน"
อัศวินสุดเศร้า ได้แต่มองตามกุลไปตาละห้อย

ooooooo

ก่อน จะออกไปทำงาน ชัชวินนวดมือนวดแขนให้ประกิตที่สดชื่นดูดีขึ้นกว่าแต่ก่อน แถมพอชัชวินพูดคุยด้วย ประกิตก็ส่งเสียงอืออาตอบรับ ทำให้ชัชวินดีใจและมีกำลังใจที่จะช่วยพ่อให้หายเร็วๆ แต่คนที่ไม่ค่อยพอใจก็คือเพลินจิต ที่เห็นลูกชายมาเสียเวลากับคนพิการอย่างประกิต

เพลินจิตเดินหน้าตึง เข้ามามองทั้งคู่ แล้วตั้งคำถามเสียงเข้มกับชัชวินว่า

"ตาชัช วันนี้จะมีการประชุมเรื่องสัมปทานรถลีมูซีน ของไอ้ทศวิน แกรู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไง"

"ต้องทำอะไรล่ะครับ ผมก็แค่เซ็นอนุมัติ"

"ไอ้ ลูกโง่ ถ้าแกเซ็น แกรู้ไหมว่าฉันจะเสียหายย่อยยับแค่ไหน"

"นี่มัน เรื่องอะไรกันแน่ครับเนี่ย คุณแม่ไปทำอะไรไว้ครับ"

"บริษัทของลลิตา จะแบ่งค่าคอมฯให้ ถ้าเราซื้อรถลีมูซีน จากบริษัทเขา แล้วก็จะยกหนี้สิบล้านให้แม่ ถ้าแกคบกับลลิล"

"เสียใจครับคุณแม่ ผมคงต้องนึกถึงศักดิ์ศรีของอัคร–ศิริมากกว่าที่จะเล่นตามเกมของคุณแม่" พูดจบชัชวินเดินออกไปจากห้องอย่างหงุดหงิด เพลินจิตโมโหฮึดฮัด แอบบ่นงึมงำ

"ลูก บ้า...จะไปนึกถึงทำไม แกก็ไม่ใช่อัครศิริสักหน่อย"

ครั้นชัชวินไปถึง โรงแรม เริ่มงานแทนทศวิน โดยมีอัศวินมาช่วยอีกแรง แต่พอเจอปัญหาลูกค้าโวยวายไม่ได้ดังใจเรื่องการบริการ สองหนุ่มที่ยังอ่อนประสบการณ์ก็แก้ปัญหาไม่ได้ จนคุณยุบลต้องมาช่วยแก้ปัญหาให้ แล้วบอกหลานทั้งสองให้ตามไปพบที่ห้องทำงาน

คุณ ยุบลกับสุมนาลูกสาว และหลานๆ รวมทั้งลูกสะใภ้ อย่างเพลินจิตกับนายวิชาลูกน้อง...ทุกคนนั่งอยู่ต่อหน้าตำรวจสองนายที่มา ติดตามคดีทศวินถูกลอบทำร้าย ซึ่งเขาสงสัยว่าปมประเด็นน่าจะมาจากเรื่องรถลีมูซีนมากที่สุด

"ตาย แล้ว...เรื่องรถลีมูซีนอย่างที่เพลินสงสัยเลยล่ะค่ะคุณแม่ พวกคนขับรถคงไม่พอใจ จู่ๆก็ต้องตกงานกันยกเคาน์เตอร์ เป็นสิบๆคน" เพลินจิตรีบออกตัว

"แต่คนที่ไม่เห็นด้วยกับการให้สัมปทานรถลีมูซีนก็ มีคุณวิชา และคุณอีกคนนึงนี่ครับ"

"คุณตำรวจคะ ถ้าจะมาสอบสวนดิฉันก็ได้นะคะ ดิฉันยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์"

"ผมก็ ยินดีให้ปากคำครับ" วิชากล่าวนิ่งๆ ไม่สะทก สะท้านใดๆ

จากนั้นอีกพัก ผลการสอบสวนก็เสร็จสิ้นลง เพลินจิต วิชา และชัชวินตามออกมาส่งตำรวจด้านหน้าโรงแรม

"ขอบคุณนะคะคุณตำรวจที่ ให้ความยุติธรรมกับดิฉัน"

"ทางเราไม่มีหลักฐานหรือมูลเหตุจูงใจจาก คุณเพลินจิตและคุณวิชา พวกเราเลยตัดประเด็นคุณสองคนออกไป"

"แล้วใคร ล่ะครับที่เป็นคนทำร้ายพี่ชายผม"

"ตำรวจชุดที่สอบพวกคนขับรถของ โรงแรมเขาเจอตัวการแล้วครับ ตอนนี้กำลังรอหมายจับ แต่ผู้ต้องหาให้การสารภาพและคิดว่าไม่หนีครับ"

"แล้วพวกเขาทำทำไม ครับ" ชัชวินซัก

"เพราะโกรธที่คุณทศวินจะเปลี่ยนระบบ และยังมีหลักฐานมัดตัวอีกหลายอย่างที่เอาผิดได้"

เพลินจิตพยักหน้า รับรู้ แล้วทันทีที่ตำรวจขึ้นรถจากไป เพลินจิตก็หันมาสบตาวิชา ลอบยิ้มให้กันอย่างพอใจที่รอดตัว

ooooooo

เย็นนั้น คุณย่ากับคุณอาไปรับทศวินจากโรง- พยาบาลกลับมาพักฟื้นต่อที่บ้าน เพลินจิตตามมาทีหลัง โผล่หน้าเข้ามาหลังจากคุณยุบลกับสุมนากลับออกไปแล้ว

"ทำไม รีบกลับซะล่ะ น่าจะนอนเล่นที่โรงพยาบาลอีกสักหน่อย"

"ไม่ละครับ ผมชอบอยู่ห้องนี้มากกว่า มีอะไรน่าค้นหากว่าเยอะ"

"อาเชื่อว่าเธอน่ะ ค้นเก่ง ถึงได้เจอดี ไม่คิดเหรอว่านี่อาจจะเป็นการสั่งสอน"

"นั่นคง เป็นความคิดของคนบงการมากกว่าครับ แต่ อย่างว่า ถ้าผมจะปราบคนโกงคนเลวในสยามธาราก็ต้องเสี่ยงบ้าง"

"คิดได้แบบนี้ก็ ดี อาเป็นห่วงกลัวว่าครั้งต่อไปจะหนักกว่านี้" เพลินจิตยิ้มเยาะ หันกลับออกไป ทศวินมองตามถอนใจเครียด แล้วหยิบกุญแจที่พกติดตัวออกมาดูอย่างมาดหมาย

ทศวินแอบเข้ามาในห้อง เก็บของ และใช้กุญแจนั้นค้นจนเจอเอกสารงบประมาณการแตกแต่งโรงแรมสยามธาราเชียงใหม่ พอค่ำจึงโทร.ไปสอบถามแม่ที่อเมริกาอีกครั้งว่าเคยรู้เรื่องนี้หรือไม่

"เท่า ที่แม่รู้ตอนที่พ่อเป็นประธาน อาประกิตเป็นคนดูแลเรื่องนี้ แต่ช่วงประมูลงานอาเพลินเป็นคนทำ แต่ทุกอย่างก็ผ่านด้วยดีนะ"

"ถ้า งั้นทำไมคุณพ่อต้องเก็บเอกสารพวกนี้ไว้ในที่มิดชิดแบบนั้นด้วย ผมว่ามันต้องมีอะไรสักอย่าง"

"คนเดียวที่จะรู้ก็คงเป็นอาประกิต เพราะช่วงนั้นคุณพ่อกับอาประกิตทำงานด้วยกันตลอดก่อนที่จะเกิดเรื่อง"

"อาประ กิตเหรอครับ" ทศวินพึมพำแล้วนิ่งไป จะรอ โอกาสเหมาะสอบถามเรื่องนี้จากอาประกิตให้จงได้...

ยังหัวค่ำ อุไรริสาโผล่มาพร้อมของเยี่ยมเต็มสองมือ ล้วนเป็นของบำรุงคนป่วย เธอกำชับทศวินต้องทานให้หมด คุณยุบลเดินลงมาเห็นสองคนใกล้ชิดก็ไม่ค่อยพอใจ แล้วตัดสินใจขอคุยกับอุไรริสา โดยให้
ทศวินไปตามอัศวินมาพบย่าด้วย

เมื่อ ทุกคนมาพร้อมหน้า รวมทั้งสุมนาด้วย คุณยุบลก็บอกเรื่องหมั้นระหว่างอัศวินกับอุไรริสาที่สุมนาไปดูฤกษ์มาแล้ว กำหนดเป็นวันอาทิตย์หน้า อุไรริสาตกใจถึงกับหน้าถอดสี แต่ก็ไม่กล้าทักท้วงโต้แย้งใดๆ ขณะที่อัศวินก็เจื่อนไป ไม่อาจปฏิเสธคุณยายกับคุณแม่ได้เหมือนกัน

ooooooo

เช้าวัน รุ่งขึ้น จอมใจมาทำงานด้วยอาการเหม่อๆ ชัชวินเห็นแล้วอดแซวไม่ได้ว่าเหม่อคิดถึงใครอยู่ จอมใจบอกคิดอะไรนิดหน่อย ชัชวินเดาต่อทันทีว่าเรื่องทศวินใช่ไหม?
หญิงสาวพยักหน้าก่อนบ่นอย่าง เป็นกังวล ถ้าทศวิน กลับมาทำงานไม่รู้จะเจออะไรอีก

"คงไม่มีแล้วมั้ง เพราะพวกที่ทำร้ายนายทศก็ถูกจับ ไปหมดแล้ว ถึงปล่อยตัวกลับมาก็เข้ามาโรงแรมอีกไม่ได้... สบายใจขึ้นหรือยัง" ชัชวินจับไหล่ปลอบ จอมใจยิ้มบางๆอย่างขอบคุณ ชาย

หนุ่มจึงวางแฟ้ม เอกสารลงตรงหน้า "งานที่ผมทำต่อจากนายทศ ผมเซ็นฉลุย"

คุณยุบลกับ สุมนายืนแอบดูอยู่ห่างๆ ยิ้มปลื้มที่เห็นสองคนสนิทสนมกันดี จากนั้นในตอนกลางวัน ทั้งคู่ก็พากันไปพบบดีกับนงนุชถึงบ้าน เจรจาทาบทามจอมใจให้ชัชวิน

"ถ้าคุณบดีกับคุณนงนุชไม่รังเกียจ ดิฉันก็อยากขอโอกาสให้กับหลานชาย"

"คือทางผมกับคุณนุชน่ะไม่รังเกียจ อะไรหรอกครับ ถือเป็นเกียรติด้วยซ้ำ แต่ว่าเรื่องแบบนี้เราสองคนคงต้องปล่อยให้จอมเขาเป็นคนเลือกเองครับ"

"แค่ คุณบดีกับคุณนงนุชไม่ขัดข้องดิฉันก็ขอบคุณมาก" คุณยุบลยิ้มแย้มกับสองสามีภรรยา แล้วหันมาสบตากับสุมนาอย่างมีความหวัง โดยไม่ทันสังเกตว่าสองสามีภรรยาซ่อนความไม่แน่ใจเอาไว้

ค่ำลงลูกสาว คนสวยกลับมาถึงบ้าน พอเธอรู้เรื่องจากพ่อแม่ก็ตกใจ ปฏิเสธพัลวันว่าต้องเข้าใจอะไรผิดแน่ๆ

"แต่ท่านกับคุณสุมนายืนยันว่า ลูกกับคุณชัชดูสนิทสนมแล้วก็เข้ากันได้ดี"

"เรื่องนั้นจอมไม่เถียง คุณชัชเขาชอบกินเหมือนจอม ตรงไปตรงมา สนุกสนานเหมือนจอม แต่มันก็ไม่ใช่อ่ะ ยังไงจอมก็ไม่คิดกับคุณชัชเกินเพื่อนเด็ดขาด"

"แต่ทางโน้นเขาก็ไม่ ได้บังคับ ถ้าหนูยังไม่มีใครเขาก็อยากให้จอมพิจารณาหลานเขา"

"เสียใจ ค่ะ คุณชัชมีคนที่ชอบแล้ว"

"จริงเหรอ มิน่า เดี๋ยวนี้ข่าวเรื่องความเจ้าชู้เพลย์บอยเงียบสนิท แล้วหนูรู้ไหมว่าเขาชอบใคร" นงนุชรุกเร่งอยากรู้ แต่ ถูกบดีเตือนว่ามันไม่เกี่ยวกับเรา ทำเอานงนุชหน้าเสียไปนิด แต่แล้วจอมใจกลับโพล่งขึ้นมาว่า

"ใครว่าไม่เกี่ยวคะคุณพ่อ คนที่คุณชัชชอบน่ะแก้วใสไงคะ"

"ถ้างั้นจบข่าว พ่อไม่ชอบให้ลูกสาวพ่อไปแย่งชิงเรื่องแบบนี้กับใคร"

"แม่ก็ไม่ยอมจ้ะ ลูกแม่ออกจะสวย เก่งขนาดนี้ ยังมีคนดีๆอีกเยอะให้เลือก...เอ แล้วถ้าเปลี่ยนเป็นคุณทศวินล่ะ" นงนุชกระเซ้ายิ้มๆ

"รายนั้นเขามีคน ชอบเยอะค่ะ ขนาดนอนเดี้ยงเป็นผักยังมีคนมาป้อนข้าวป้อนยาเลย เขาคงไม่สนจอมหรอก" จอมใจหน้างอง้ำ บดีเลยดักคอว่า ลูกพ่อพูดเหมือนกำลังตัดพ้อคนรัก...จอมใจชะงักได้สติ ออกอาการเขินอายจนพ่อแม่แอบยิ้มให้กันอย่างรู้ทัน...

ooooooo

สาย วันใหม่ ทศวินยืนมองออกไปนอกหน้าต่างเหมือนรอใครบางคน พอเห็นรถจอมใจแล่นเข้ามา คนป่วยก็หน้าแช่มชื่นเดินออกจากห้องลงไปที่ครัวทันที จอมใจมาพร้อมข้าวของที่จะทำอาหารให้ประกิต ทศวินอาสาเป็นลูกมือ จอมใจกลับเมินไม่มองหน้าเขา พอเขาถามว่าโกรธอะไร เธอปฏิเสธทันที เขาจึงรุกไล่ว่า ถ้างั้นทำไมตอนเขาป่วย ไม่เห็นเธอดูแลเขาเลย

จอมใจเก็บอาการน้อยใจไม่มิด ยอกย้อนว่า เขามีคนดูแลอย่างดีแล้ว ทศวินรู้ว่าจอมใจหมายถึงอุไรริสา จึงจะอธิบายให้ฟัง แต่จอมใจขัดขึ้นว่า ไม่จำเป็น เธอเชื่อในสิ่งที่เห็น

"เธอ จะเชื่อยังไงก็ช่าง แต่สำหรับฉันแล้ว ผู้หญิงที่รู้สึกสนิทมากเป็นพิเศษคือเธอ และความรู้สึกนี้ฉันก็ให้ผู้หญิงคนอื่นไม่ได้" ทศวินไม่พูดเปล่า จับมือจอมใจบีบเบาๆเป็นการยืนยัน จอมใจยิ้มเขิน หัวใจพองโตคับอก ความโกรธความน้อยใจหายไปสิ้น...

เสร็จสิ้นการป้อนอาหารให้ประกิตแล้ว ทศวินขอคุยธุระส่วนตัวกับอาประกิต จอมใจจึงผละออกไปพร้อมเด็กรับใช้

"คุณ อาครับ คุณทราบเรื่องการทุจริตการก่อสร้างโรงแรมในเครือเมื่อยี่สิบปีก่อนหรือเปล่า ครับ"

ประกิตกระดิกนิ้วมือที่ทศวินจับอยู่ ส่งสัญญาณว่าอยากเขียนหนังสือ ทศวินรีบหยิบกระดาษกับปากกามาให้ ประกิตเขียนด้วยความยากลำบากได้คำเดียวว่า "รู้" แต่เท่านี้ทศวินก็ดีใจอย่างบอกไม่ถูก

"คุณอาช่วยผมด้วยนะครับ ผมเจอเอกสารการขายหุ้นพวกนี้ ทุกฉบับทำไมจึงลงลายมือชื่อคุณอาครับ"

ประกิต มองเอกสารที่หลานชายวางลงตรงหน้า แล้วนึกย้อนเหตุการณ์ในอดีตเมื่อยี่สิบปีก่อน...กลางดึกคืนนั้น ปกรณ์เรียกประกิตและเพลินจิตมาพบในห้องทำงาน ปกรณ์จับได้ว่าเพลินจิตโกงเงินค่าตกแต่งโรงแรมในเครือที่เชียงใหม่ และยังแอบมีชู้กับวิชา ยักยอกเงินไปซื้อรังรัก แต่เพลินจิตปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะที่ประกิตก็ทำท่าจะไม่เชื่อ จนกระทั่งปกรณ์ต้องนำสำเนาหลักฐานการโกงออกมายืนยัน และรูปถ่ายของเพลินจิตกับวิชาในอิริยาบถต่างๆ ที่ส่อแสดงกันฉันท์ชู้สาว ประกิตเสียใจมาก ต่อว่าเพลินจิตทำไมทำกับตนแบบนี้

"เพราะฉันไม่เคย รักคุณไง" เพลินจิตสวนทันควัน แล้วหันขวับไปทางปกรณ์ "เอกสารตัวจริงอยู่ไหน"

"ฉันให้เวลาเธอสามวันในการเอาเงินก้อนนี้มา คืน ไม่ อย่างนั้นเอกสารตัวจริงถึงมือตำรวจแน่"

"มันไม่ง่ายขนาดนั้น หรอก" เพลินจิตจ้องหน้าปกรณ์ด้วยความเคียดแค้น นาทีนั้นเองวิชาเดินเข้ามาพร้อมปืนในมือ สองพี่น้องผงะถอย แต่ก็หนีคมกระสุนไม่พ้น ปกรณ์ถูกยิงตายคาที่ ส่วนประกิตบาดเจ็บสาหัส กระสุนเข้ากระดูกสันหลัง ทำให้พิการพูดและเดินไม่ได้

เพลินจิตที่ อยู่ในเหตุการณ์ตลอดแต่กลับให้ปากคำกับตำรวจว่า ก่อนหน้าที่เธอจะเข้านอน ประกิตบ่นให้ฟังว่าอึดอัดที่รู้ว่าพี่ชายโกงค่าตกแต่งโรงแรมไปเกือบห้าสิบ ล้าน แล้วบอกจะลงไปคุยกับเขา ให้เธอนอนไปก่อน พอเธอมารู้อีกทีก็เกิดเหตุร้ายขึ้น คาดว่าปกรณ์คงเครียดหาทางออกไม่ได้ และโกรธที่น้องชายรู้เรื่อง เลยยิงน้องชาย แล้วยิงตัวตาม...

ภาพอดีต เลือนหายไปแล้ว คงเหลือแต่ประกิตที่นั่งน้ำตาเอ่อคลอ ตัวเกร็ง หายใจไม่ออก ทศวินที่เฝ้ามองด้วยความสงสัยตลอดเวลาตกใจมาก ส่งเสียงเอะอะจนจอมใจแตกตื่นเปิดประตูเข้ามาทันที

"เกิดอะไรขึ้นคะ"

"ฉัน ก็ไม่รู้ แต่รีบพาไปโรงพยาบาลก่อน"

สองคนช่วยกันเข็นรถพาประกิตออก จากห้อง จากนั้นไม่นานก็ส่งประกิตถึงมือหมอ ส่วนพวกเขายืนรอหน้าห้องฉุกเฉินอย่างจดจ่อ โดยเฉพาะทศวินที่ดูร้อนรนและเครียดจัด กล่าวโทษตัวเองที่ทำให้อาการของคุณอาแย่ลง

"คุณทำอะไรคะ" จอมใจสงสัย

"ฉัน ถามความจริงบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องในอดีต"

ทันใดประตูห้องฉุกเฉิน เปิดออก หมอเดินออกมาบอก ขอคุยกับทั้งคู่เกี่ยวกับอาการของคุณประกิต ทศวินกับจอมใจจึงก้าวตามหมอเข้าไปด้านใน ที่ประกิตนอนสงบอยู่บนเตียง

"อาการ ของคนไข้วันนี้ไม่ได้มีอะไรมาก   เพียงแต่ความดันขึ้น  สาเหตุอาจจะมาจากความเครียด  แต่อีกสาเหตุที่ผมอ่านรายงานก็คงจะเป็นจากโรคไตที่เป็นโรคประจำตัวของคนไข้ ซึ่งจะส่งผลกับความดันอยู่แล้ว ในรายงานคุณหมอเจ้าของไข้ก็ได้แนะนำเรื่องอาหารไปแล้ว และอีกอย่างคือเรื่องกายภาพบำบัด เพราะเท่าที่ดูคนไข้ไม่เคยมาทำเลย ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ"

ทศวินพูดไม่ออก ได้แต่จับมือคุณอาบีบเบาๆ ด้วยความสงสาร ซึ่งไม่ต่างไปจากความรู้สึกของจอมใจที่นั่งอยู่ใกล้ๆ

หลังจากนั้นอีก พัก ทศวินกับจอมใจพาประกิตมาพักผ่อนที่บ้าน ไม่ทันทั้งคู่จะกลับออกไป สาวใช้ก็นำผลไม้เข้ามาให้ ประกิต จอมใจทักถามอย่างแปลกใจ เพราะเคยบอกแล้วให้งดของพวกนี้ไปก่อน

"แต่คุณเพลินบอกว่าอาหารมี ประโยชน์พวกนี้ ต้องให้ คุณประกิตทานทุกวันห้ามขาดนะคะ"

"นี่เธอให้ คุณอาทานผลไม้พวกนี้ทุกวันเลยเหรอ" ทศวินเสียงเขียว

"เอ่อ...คุณ เพลินบอกว่าให้ช่วงที่คุณจอมใจไม่อยู่ค่ะ"

พอจอมใจให้เอาผลไม้พวก นี้ไปเก็บ สาวใช้หน้าเจื่อน กลัวเพลินจิตรู้เข้า เธอต้องถูกไล่ออกแน่ๆ

"เอา งี้ เธอเอาไปทานหรือเอาไปทิ้งก็เรื่องของเธอ ถ้าคุณเพลินถามก็โกหกไปว่าให้แล้ว" ทศวินสรุปแกมสั่ง สาวใช้จึงยกผลไม้กลับออกไป จากนั้นทศวินหันมาขอร้องจอมใจให้ปิดเรื่องที่หมอพูดวันนี้ไว้เป็นความลับ

"หมายความ ว่าไง แล้วเรื่องกายภาพบำบัดล่ะ"

"ไม่ต้องห่วง เรื่องนั้นฉันทำแน่ แต่ฉันไม่อยากให้อาเพลินรู้ว่าเรารู้แล้ว"

"คุณทศ...ตกลงคุณมีความ ลับอะไรมากมาย เล่าให้ฉันฟังได้ไหม"

"เธอนี่มันจุ้นจริงๆเลยนะ" ว่าแล้วเขาทำท่าลังเล จอมใจส่งสายตาคาดคั้นอยากรู้เต็มที่ ชายหนุ่มเลยปฏิเสธไม่ออก กลับออกไปคุยกันเงียบๆด้านนอก

"ที่แท้คุณก็ มาเพื่อพิสูจน์ความจริงนี่เอง เรื่องคุณพ่อคุณฉันก็พอรู้มาบ้างจากคุณพ่อคุณแม่ฉัน   แต่ไม่คิดว่ามันจะซับซ้อนขนาดนี้"

"ฉันเองก็ยังหาหลักฐานอะไรไม่ได้ มากถึงไม่อยากบอกใคร"

"แต่คุณไม่คิดว่านี่มันอันตรายเกินไปเหรอ"

"ไม่ หรอก ถ้ามันจะทำให้พ่อของฉันพ้นมลทิน"

"ฉันจะช่วยคุณอีกแรงนะ"

"อย่า เลย แค่นี้ฉันก็รู้สึกว่าเธอลำบากมากแล้ว"

"นี่คุณไม่เคยได้ยินเห รอ   ที่เขาว่าคนเดียวหัวหาย

สองคนเพื่อนตาย"

"เธอไม่กลัวเห รอว่ามันอาจจะตายทั้งสองคน"

"กลัว...แต่ไม่ถอย" จอมใจพูดจริงจัง ทศวินยิ้มบางๆอย่างขอบคุณ

ตกเย็นเพลินจิตกลับจากทำงาน พอรู้จากสาวใช้ว่าเมื่อกลางวันทศวินกับจอมใจพาประกิตไปโรงพยาบาล เพลินจิตแสดงอาการโมโห บ่นสาวใช้เป็นวรรคเป็นเวรที่ไม่ยอมไปกับพวกเขาด้วย

"ก็...คุณ ทศวินบอกไม่ต้องไปนี่คะ"

"แล้วแกก็เชื่อ ถ้าเกิดพวกเขาพาคุณประกิตไปตาย แกจะว่ายังไง"

"มันไม่มีทางเป็นอย่าง นั้นหรอกครับ" เสียงทศวินแทรกขึ้นมา เพลินจิตเจื่อนไปนิด แต่รีบกลบเกลื่อนถามทศวินว่า คุณหมอว่ายังไงบ้าง "ก็แค่สำลักแล้วความดันเลยขึ้นนิดหน่อยครับ"

"คงเป็นเพราะอาหารของ แม่นั่นน่ะสิ"

"ไม่หรอกครับ จอมใจเขาเชี่ยวชาญด้านนี้ ผมเองก็คุมอยู่ อะไรที่จะเป็นอันตรายกับคุณอาประกิต ผมไม่มีวันทำเด็ดขาด หลังจากวันนี้แล้วต่อไปผมจะยิ่งควบคุมใกล้ชิด คุณอาสบายใจได้ครับ"

ทศ วินผละไปแล้ว เพลินจิตหันมาหาสาวใช้ ถามคาดคั้นว่าอาหารที่เธอสั่งไว้ เอาให้คุณประกิตหรือเปล่า สาวใช้ซ่อนพิรุธตอบรับตามที่ทศวินแนะนำกำชับไว้ทันที แต่พอเพลินจิตหันไปเห็นอาหารมื้อเย็นที่สาวใช้เตรียมเอาขึ้นไปให้ประกิต เกิดสงสัยว่าใครทำ?

"คุณจอมเตรียมไว้ก่อนกลับบ้านค่ะ  เห็นว่าคุณทศจะป้อนท่านเอง"

เพลินจิตชะงักนิ่งไปด้วยความสงสัย แอบรำพึงกับตัวเองขณะมองสาวใช้นำอาหารขึ้นไปข้างบน

"พวกมันคงไม่รู้ หรอกน่า..."

แล้วในตอนค่ำ เพลินจิตก็ถือน้ำผลไม้เข้าไปกรอกปากประกิตเหมือนที่เคยทำ พอจะกลับออกมาเกิดสะดุดตากับเศษกระดาษแผ่นหนึ่งข้างเตียง  หยิบมันขึ้นมาดูแล้วต้องตกใจจ้องเขม็ง แม้ลายมือจะโย้เย้แต่ก็อ่านได้ว่า "รู้"

"นี่คุณเขียนเหรอ...ฉันคงประมาทแกไม่ได้อีกแล้ว" เพลินจิตดวงตาวาวโรจน์ จ้องประกิตราวจะกินเลือดกินเนื้อ...

ooooooo

วัน รุ่งขึ้นมีนัดกับลลิตาเรื่องธุรกิจ เพลินจิตถึงกับซีดเจื่อนถูกลลิตาต่อว่าด้วยอารมณ์โมโหฉุนเฉียว

"ฉัน ไม่ยอมนะ ไหนบอกว่าถ้าลูกเธอเป็นจีเอ็ม ระบบลีมูซีนจะเหมือนเดิม"

"ตา ชัชเขาก็พยายามเต็มที่แล้ว แต่กรรมการทุกคนดันเห็นด้วยกับที่ไอ้ทศเคยเสนอไว้"

"เธอทำให้ฉันสูญ เงินเป็นสิบๆล้าน...เพลิน ฉันคงนับเธอเป็นเพื่อนต่อไปไม่ได้แล้ว"

"ทำไม พูดอย่างนั้นล่ะลิตา อีกหน่อยลูกของเราก็ต้องแต่งงานกันนะ"

"เลิกฝัน ได้แล้ว คืนเงินที่ยืมฉันมาให้หมด ส่วนเรื่องลูกก็ถือว่าเราไม่เคยคุยกัน"

ใช่ แต่เพลินจิตที่ตกใจ ลลิลที่นั่งอยู่ด้วยก็พลอยตกใจกับประกาศิตของแม่

"คุณ แม่คะ มันมาเกี่ยวอะไรกับเรื่องของหนูล่ะคะ"

"ลิตา ใจเย็นๆก่อนนะ ใช่ วันนี้ฉันอาจจะพลาด แต่ถ้าวันหน้าตาชัชได้เป็นประธาน ทุกอย่างก็จะอยู่ในมือของฉันกับตาชัช และถ้าหนูลลิลคือสะใภ้ของอัครศิริ คนที่จะได้ผลประโยชน์จากงานนี้ก็คือเธอกับลูกนะ"

"คุณแม่คะ ให้หนูคบคุณชัชเถอะนะคะ หนูไม่อยากแพ้นังแก้วใส" ลลิลทั้งอ้อนทั้งประจบจนลลิตาใจอ่อนเห็นแก่ลูกสาว

"ฉันจะให้โอกาสเธอ อีกครั้ง จัดการให้ลูกเธอกับลูกฉันหมั้นกันโดยเร็วที่สุด"

ลลิล ขอบคุณคุณแม่อย่างสุดแสนดีใจ ขณะที่เพลินจิตก็ใจชื้นขึ้นเป็นกอง บอกลลิตาให้รอฟังข่าวดีได้เลย...แต่แล้วเมื่อเพลินจิตกลับมาคุยกับชัชวิน เรื่องหมั้นกับลลิล ชัชวินไม่พอใจและไม่ยอมทำตามความต้องการของเพลินจิตอย่างเด็ดขาด ทั้งยังยืนกรานด้วยว่า เขาจะไม่หมั้นหรือแต่งกับใคร นอกจากแก้วใส คนเดียว แล้วขณะไปส่งแก้วใสในตอนค่ำวันนี้ ชัชวินตัดสินใจเอ่ยปากขอแก้วใสหมั้น ทำเอาแก้วใสตะลึงแทบไม่เชื่อหูตัวเอง...

ส่วนอัศวินก็ยังอาลัยอาวรณ์ กุล เขาโผล่ไปหาเธอถึงหน้าบ้าน แต่ถูกเธอไล่ให้กลับไป อัศวินสุดเศร้า ที่สุดก็ยอมแพ้ ตัดสินใจบอกลากุลด้วยดอกไม้และการ์ดใบหนึ่งในวันรุ่งขึ้น

"ผม ขอโทษที่วางแผนหลอกกุล ตอนแรกผมอยากจะใช้ดอกไม้พวกนี้ขอโอกาสจากกุล แต่กุลก็ทำให้ผมได้คิดว่าไม่ใช่กุลไม่เหมาะกับผม แต่เป็นผมต่างหากที่ไม่เหมาะกับกุล ผมอ่อนแอเกินกว่าจะปกป้องกุลได้ ผมคงต้องใช้ดอกไม้พวกนี้เป็นการบอกลากุล...อัศวิน"

กุลอ่านข้อความใน การ์ดจบ น้ำตาไหลทันที แก้วใสกอดกุลด้วยความสงสารจับใจ...

ด้านจอมใจ วันนี้เธอหนีงานตามทศวินพาประกิตไปทำกายภาพบำบัดที่โรงพยาบาล ทศวินไม่อยากให้เธอเสียงาน ให้หยุดได้ครึ่งวัน และแค่วันนี้วันเดียวด้วย ครั้นประกิตทำกายภาพเสร็จ พากลับไปส่งที่บ้าน จอมใจได้เห็นกระดาษที่ประกิตเขียนเมื่อวาน เธอหยิบมันขึ้นมาดู และถามทศวินด้วยความสงสัย ทศวินเห็นแล้วอึ้งไปทันที

"อาเพลินคงรู้ แล้วว่าฉันคุยอะไรกับอาประกิต"

"อย่างนี้คุณประกิตก็ไม่ปลอดภัยน่ะ สิ"

"ไม่หรอก ถ้าอาเพลินคิดว่าฉันสื่อสารกับอาประกิตได้ เขาคงไม่ทำอาประกิต แต่เขาจะต้องหาทางเล่นงานฉัน"

จอมใจหน้าตาตื่น แสดงอาการเป็นห่วงทศวิน แต่ทศวิน กลับบอกว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด...หลังจากนั้นจอมใจกลับเข้ามาทำงาน เพลินจิตที่จ้องหาตัวจอมใจอยู่แล้ว จึงตำหนิเธอทันที

"เธอหายไปไหน มา...เป็นแค่เด็กฝึกงานยังขาดระเบียบขนาดนี้ แล้วต่อไปจะทำอะไรได้"

"ขอโทษ ค่ะ คุณเพลินจิตมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ"

"อาหารที่เธอทำให้คุณประกิต น่ะ มันไม่ใช่ที่เขาชอบ และมันก็ไม่มีประโยชน์ ทำอาหารพวกนี้ให้เขา"

จอมใจ รับรายการอาหารจากเพลินจิตมาดู  แล้วทำท่าจะแย้งโดยอ้างว่าชื่อทศวิน แต่เพลินจิตไม่เปิดโอกาส สวนขึ้นทันทีว่า

"ฉันเป็นเมียเขา ดูแลมายี่สิบปี เธอกับทศวินจะไปรู้อะไร"

"แต่คุณทศคงรู้ค่ะ ถึงได้จัดอาหารให้จอมดูแล"

"ทำตามที่ฉันสั่ง"

"คงไม่ได้ค่ะ  เพราะประโยชน์จากอาหารบางอย่างก็อาจจะเป็นโทษสำหรับโรคบางชนิด หน้าที่ของจอมคือทำให้คุณประกิตดีขึ้นไม่ใช่ทำให้แย่ลง"

เพลินจิตจ้องจอมใจอย่างไม่พอใจแต่พยายามระงับอารมณ์ แล้วเดินเชิดหน้าออกไป จอมใจก้มดูรายการอาหารอีกครั้งก่อนบ่นพึมพำ

"เนี่ยนะอาหารมีประโยชน์ ยาพิษชัดๆ"

เพลินจิตหงุดหงิดงุ่นง่านกลับเข้าห้องทำงาน แล้วเรียกวิชามาพบ วิชารับฟังความวิตกกังวลของเพลินจิตแล้วกลับหัวเราะอารมณ์ดี ท่าทีไม่มีกลัวอะไรทั้งนั้น

"คุณจะกลัวทำไม กะอีแค่เขียนหนังสือได้คำเดียว ถึงวันลงโลงมันจะเขียนได้ถึงประโยคหรือเปล่าก็ไม่รู้"

"มันจะไม่ง่าย อย่างนั้นสิ ฉันว่าตอนนี้ไอ้ทศกับนังจอมใจมันคงรู้เรื่องโรคไตแล้ว มันถึงได้เข้ามาคุมอาหาร นังจอมใจนี่ก็อีกคน อยู่ดีไม่ว่าดีแส่สาระแนนัก"

"ยุ่ง ยากมากนักก็จัดการมันทั้งคู่นั่นแหละ"

"ยังจะมาพูดดี คราวที่แล้วมีโอกาสก็ไม่รู้จักตีมันให้ตาย"

"เอาน่า...คราวหน้าผมจะ ไม่ปล่อยให้พวกมันมาทำให้ คุณหงุดหงิดใจได้อีก"

เสียงเคาะประตูดัง ก่อนยุทธจะเปิดเข้ามา วิชากับเพลินจิตผงะออกจากกันแทบไม่ทัน   ยุทธนำรูปถ่ายชัชวินกับแก้วใสที่ไปแอบถ่ายตามคำสั่งของเพลินจิตเข้ามาให้ พร้อมกันนี้ยุทธก็ให้ข้อมูลของแก้วใสเพิ่มเติมอย่างละเอียดยิบว่า

"แก้ว ใสเป็นเด็กกำพร้า ยายเลี้ยงมาตลอด จนเมื่อสามปีก่อนยายก็เริ่มเป็นอัลไซเมอร์ อาศัยว่าเรียนเก่งเลยได้ ทุนเรียนดี และก็ยังมีรายได้เล็กๆน้อยๆจากการทำขนมขายมาเป็นค่าใช้จ่ายในบ้านกับค่า รักษาพยาบาลยาย แต่ก็คงไม่พอ เพราะเจ้าของบ้านบอกติดค่าเช่ามาสี่เดือนแล้ว จะไล่ก็สงสาร นี่ขนาดน้องจอมใจเพื่อนซี้ใช้บารมีพ่อให้ช่วยลดค่ารักษายายแล้วนะครับ ท่าทางจะจนหนัก"

เพลินจิตฟังแล้วคิดอะไรบางอย่างออก จากนั้นสามคนไปปรากฏตัวที่บ้านแก้วใสตอนใกล้ค่ำ เพลินจิตสั่งยุทธจับตัวยายของแก้วใสเพื่อขู่บังคับให้แก้วใสเลิกคบกับชัชวิน แก้วใสรักและห่วงยายมากจึงรับปาก และขอให้ปล่อยตัวยายของเธอมา เพลินจิตกลับไม่ยอมทำตาม

"ใจเย็นๆสิ เธอได้ตัวยายเธอคืนแน่ แต่หลังจากวันหมั้นของตาชัชกับหนูลลิลนะ"

แก้วใสตกใจร่ำร้องวิงวอน   แต่ไม่มีใครสนใจสักนิด พรากยายของเธอจากไปต่อหน้าต่อตา

ooooooo

รุ่ง ขึ้นไปทำงาน แก้วใสขอเปลี่ยนหน้าที่กับกุลเพื่อจะได้อยู่ห่างชัชวิน กุลไม่รู้ปัญหาของแก้วใส แต่ เธอเองก็อยากอยู่ห่างๆอัศวิน จึงตกลงอย่างง่ายดาย ครั้นพักเที่ยง จอมใจมาเห็นเพื่อนทั้งสองใส่ชุดฟอร์มสลับกันก็แปลกใจ ซักว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเป็นแบบนี้

"แก้วอยากฝึกแผนกดอกไม้"

"กุลก็อยากฝึกเบเก อรี่"

จอมใจมองหน้าเพื่อนอย่างคาดคั้น แต่ทั้งสองคนเงียบ ไม่กล้าจะสบตา

"พวกเธอมีปัญหาใช่ไหม ไหนบอกมาสิ"

"ไม่มี พวกเราตกลงกันเสร็จก็ไปบอกแผนกบุคคลทำเรื่องขอย้ายก็จบ"

"คุณชัชกับ คุณวินก็ไม่มีปัญหาเหรอ" จอมใจคาดคั้นอีก สองคนเอาแต่ก้มหน้าก้มตาไม่ตอบ  จังหวะนี้เองชัชวินเดิน หน้าตึงเข้ามาถามแก้วใสว่า ย้ายแผนกทำไมไม่บอก...

แก้ว ใสจำต้องเดินตามชัชวินไปที่ห้องทำงานของเขา และบอกเหตุผลที่ย้ายแผนกเพราะเธออยากอยู่ห่างๆเขา

"แก้ว...หมายความ ว่ายังไง มีใครทำอะไรแก้วอีกใช่ไหม คุณแม่ผมหรือพวกริสากับลลิล ผมจะจัดการพวกนั้นเอง"

"ไม่ใช่พวกนั้นค่ะ แต่เป็นตัวแก้วเอง"

"คุณ มีอะไร"

"คุณกับแก้วไปกันไม่ได้หรอกค่ะ"

"ทำไมพูดแบบนั้น ตอนนี้เราก็เข้าใจกันทุกอย่างแล้วนี่แก้วบอกความจริงกับผมเถอะ"

"แก้ว...เจอ คนที่ดีกว่า" ชัชวินอึ้งกับคำตอบของแก้วใส และแทบช็อกเมื่อแก้วใสพูดต่อไป "แก้วคิดแล้วว่า...แก้วชอบคุณทศ"

"แก้ว...นี่คือสาเหตุที่แก้วไม่รับ หมั้นผม?"

"ใช่ค่ะ ตอนแรกแก้วเคยชอบคุณเพราะคุณเป็นเหมือนชายในฝันของแก้ว แต่ยิ่งใกล้ชิดยิ่งได้ทำงาน แก้วกลับรู้สึกว่าคุณทศนี่แหละที่แก้วจะฝากชีวิตไว้ได้"

"ไอ้ทศมันดี กว่าผมตรงไหน"

"ทุกครั้งที่แก้วมีปัญหา คุณทศจะเข้ามาช่วยเหลือแก้วทุกครั้ง แม้แต่เรื่องขายขนมแก้วก็รู้ว่าคุณทศเป็นคนช่วย ในขณะที่คุณยังจำชื่อขนมของแก้วไม่ได้ด้วยซ้ำ"

"ถ้าผมจะขอปรับปรุง ตัวล่ะ"

"ไม่มีประโยชน์ แก้วคิดดีแล้วค่ะ"

"ถ้ามันเป็นความ ต้องการของแก้ว...ผมก็ยินดี" ชัชวินตัดใจยอมแพ้ แก้วใสกลั้นน้ำตาจะเดินออกจากห้อง...ชัชวินตัดสินใจพูดเรื่องที่ปกปิดมานาน "แก้ว...ขนมของแก้วชื่อทาร์ตหม้อแกง และผมเป็นคนสั่งมาขายที่โรงแรม"

แก้ว ใสตกตะลึง อยากจะกลับคำ แต่เพื่อความปลอดภัยของยาย เธอจึงเปลี่ยนใจเดินออกจากห้องไปทั้งน้ำตา เพลินจิตแอบมองอยู่ห่างๆ ยิ้มอย่างสะใจสมใจ

ไม่ทันข้ามวัน เพลินจิตก็พาชัชวินไปพบลลิตาถึงบ้าน ลลิลดีใจนั่งยิ้มแก้มแทบแตกอยู่ข้างแม่

"แหม...ได้ ข่าวดีแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย แล้วคุณชัช คิดไว้หรือยังคะว่าอยากจะหมั้นเมื่อไหร่ แต่งเมื่อไหร่"

"ยังครับ"

สอง แม่ลูกหน้าเสียที่ชัชวินดูไม่สนใจ เพลินจิตรีบแก้ สถานการณ์

"ถ้าให้ เร็วที่สุดก็หมั้นพร้อมคู่ตาวินกับหนูริสาไปเลยแล้วกัน"

"ก็ดีเหมือน กันนะคะ แบบนี้ต้องเป็นข่าวใหญ่แน่"

"ไม่ต้องห่วงเรื่องข่าวนะจ๊ะ น้าจะให้แผนกพีอาร์ทำข่าวให้ดังทั้งในและต่างประเทศเลย ว่าที่ประธานสยามธาราหมั้นทั้งที น้าไม่ยอมให้น้อยหน้าคนอื่นแน่นอน"

ทุก คนยิ้มแย้มชื่นมื่น ยกเว้นชัชวินที่นิ่งขรึมอย่างสุดเซ็ง เมื่อเพลินจิตพาลูกชายกลับมาบอกกล่าวคุณยุบลเรื่องหมั้น คุณยุบลแสดงความไม่พอใจ เพราะได้ไปทาบทามจอมใจกับทางพ่อแม่ไว้แล้ว

"เพลิน ต้องขอโทษคุณแม่ด้วยค่ะ แต่ตาชัชเขาเลือกที่จะหมั้นกับหนูลลิล"

"แน่ใจ แล้วเหรอที่จะหมั้น"

"แน่สิคะ ยังไงหนูลลิลก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเด็กจอมใจหรอกค่ะ"

"ฉันถามตาชัช" คุณยุบลเสียงแข็ง เพลินจิตถึงกับหน้าเจื่อนจ๋อย

"ผมแล้วแต่คุณแม่ ครับ"

"ย่าเห็นเราเข้ากันได้ดีกับหนูจอมใจก็นึกว่าจะชอบกัน"

"ผม กับจอมเป็นเพื่อนที่คุยกันถูกคอครับ   ไม่มีอะไรมากกว่านั้น   ผมขอโทษคุณย่าด้วยนะครับที่ทำให้คุณย่าผิดหวัง"

"ไม่หรอก ถ้าเราคิดว่าใครเหมาะสมย่าก็ไม่ว่า"

เพลินจิตมองออกว่าคุณยุบลผิด หวังไม่น้อย แอบยิ้มเยาะอย่างสะใจ

ooooooo

ชัชวินเซ็งจัดจนไม่มีอารมณ์ทำงาน ยิ่งพอเจอปัญหาเรื่องห้องพักกับลูกค้า  แทนที่ชัชวินจะแก้ปัญหา เขากลับบอกปัดให้ลูกค้าไปจองโรงแรมอื่น เพลินจิตรู้เข้าของขึ้นตำหนิชัชวินยกใหญ่ จังหวะนี้เองมีปัญหาเกิดขึ้นอีกที่ฟิตเนส นาฬิกาแพงระยับลูกค้าระดับวีไอพีสูญหาย ลูกค้าต้องการพบผู้บริหารไม่ใช่แค่ผู้จัดการ ชัชวินกลับให้เลขาฯบอกไปว่าเขาไม่ว่าง ติดประชุม

"นี่เป็นอะไรของแก ทำไมไม่รีบลงไป รู้ไหมว่าแขกฟิตเนสของเราน่ะมีแต่คนมีระดับทั้งนั้นนะ" เพลินจิตว้ากลูกชาย

"วันนี้ผมไม่มีอารมณ์ อยากอยู่นิ่งๆ"

วิชา ที่ยืนฟังอยู่ด้วย สีหน้าเหนื่อยหน่าย บอกเพลินจิตว่าเขาจะลงไปดูเอง พอวิชาคล้อยหลัง เพลินจิตก็เอ็ดชัชวินต่อทันที

"แกทำแบบนี้เท่ากับ ฆ่าตัวตายนะ ตอนนี้โอกาสเป็นของแกแล้ว ไอ้ทศมันกำลังป่วย แกควรจะเร่งทำคะแนนให้คุณย่าเห็นสิ"

"ถ้าคุณแม่อยากได้ไอ้ตำแหน่ง ประธานมาก คุณแม่ก็เข้ามาทำเองแล้วกัน" ชัชวินลุกออกจากห้องอย่างไม่แคร์... เพลินจิตทุบโต๊ะเปรี้ยงอย่างเจ็บใจ

"ไอ้ลูกบ้า เมื่อไหร่จะได้อย่างใจฉันซะทีนะ"

ตกเย็น พวกจอมใจกำลังจะกลับบ้าน เห็นพนักงานติดประกาศที่บอร์ด นึกว่ามีข่าวด่วนอะไร จึงเร่เข้ามาดู ปรากฏว่าเป็นข่าวการจัดงานหมั้นของชัชวินและอัศวิน สามสาวถึงกับชะงักงัน โดยเฉพาะแก้วใสและกุลหน้าซีดหน้าเสีย เศร้าไปตามกัน

ขณะเดียวกันนั้น ลลิลเริงร่าสุดขีด เดินคุยกับอุไรริสา ที่จะได้หมั้นพร้อมกัน แถมยังจะได้เป็นข่าวดังระเบิดระเบ้อ ด้วย แต่อุไรริสากลับนิ่งขรึมกว่าที่ควรจะเป็น บอกลลิลว่าเร็วไป พี่ยังไม่พร้อม ลลิลค้านทันทีว่าเร็วอะไร เธออยากหมั้นให้เสร็จภายในชั่วโมงนี้ด้วยซ้ำ

"จ้ะ...พี่ รู้ เธอน่ะดีใจจนโหงวเฮ้งกระเด็นออกมานอกหน้าแล้ว"

"พี่ริสาคะ ลิลรู้นะว่าพี่น่ะไม่อยากหมั้นเพราะใจไปอยู่กับคุณทศ แต่ถึงตอนนี้แล้วลิลคงบอกพี่ได้แค่ว่า ถ้าพี่ไม่ได้หมั้นกับคนที่พี่รัก พี่ก็ต้องรักคนที่พี่หมั้นแล้วล่ะค่ะ"

"ถ้าเป็นเธอ เธอทำได้อย่างที่พูดเหรอ"

"ไม่แน่นอนค่ะ เพราะลิลเป็นคนโชคดี อยากได้อะไรแล้วต้องได้ ทำใจเถอะนะคะ ได้คุณวินที่เป็นมือรองของคุณชัชก็ดีกว่าไม่ได้ใครเลยนะคะ" พูดจบลลิลเดินแยกไป อุไรริสามองตามหมั่นไส้ แผนการบางอย่างผุดขึ้นในหัว พึมพำออกมาอย่างช่วยไม่ได้

"ถ้างานหมั้นล้มก็ขอโทษด้วยนะจ๊ะ น้องลลิล"

ooooooo

จอมใจปลอบแก้วใสและกุล เพราะรู้ดีว่าทั้งคู่ เสียใจแต่ยังทำปากแข็งว่าไม่เป็นไร อ้างว่าพวกเราทำใจมานานแล้ว...พอกลับไปถึงบ้าน พ่อแม่รู้ข่าวนี้แล้วจากคุณยุบล จอมใจเลยได้ปรับทุกข์ของเพื่อนๆกับพ่อแม่ เธอรู้ดีว่าทั้งกุลและแก้วใสต่างก็แย่ แต่ไม่แสดงออกให้เธอเห็น

ทศ วินเพิ่งรู้เรื่องหมั้นของชัชวินและอัศวินจากคุณย่าในตอนค่ำ เขามาเคาะห้องขอคุยกับชัชวิน ด้วยห่วงความรู้สึกของแก้วใส ชัชวินกลับนิ่งเฉยไม่ตอบ ทศวินนึกว่าน้องเสียใจจึงเดินมาตบไหล่ปลอบ แต่รายนั้นกลับปัดมือทศวินออกอย่างแรง

"ชัช...นายเป็นอะไร ทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ นายก็รู้ว่าแก้วใสโดนอะไรมาบ้าง"

"ใช่...ฉัน รู้ว่าใครแกล้งแก้ว ใครทำร้ายแก้ว แต่ที่ฉันไม่รู้ก็คือนาย"

"นายพูด อะไร ฉันไม่เข้าใจ"

"นายดีกับแก้วมาก มากจนเขาไม่รักฉัน เขารักนาย แก้วบอกไง รู้ไหม เขาบอกว่านายคือคนที่เขาจะฝากชีวิตด้วยไม่ใช่ฉัน พอใจหรือยัง" ชัชวินโมโหเงื้อหมัดจะชกทศวิน แต่เปลี่ยนใจแค่ผลักอกแล้วผลุนผลันออกจากห้องไป ทิ้งทศวินยืนงงเป็นไก่ตาแตก...

ส่วนที่หน้าบ้านแก้วใสยามนี้ รถของเพลินจิตแล่นมาจอด แก้วใสยืนกระวนกระวายรอคอยรีบวิ่งไปที่รถ เห็นยายของตนเองนั่งอยู่ข้างใน นึกว่ายายจะได้กลับมาอยู่กับเธอตามปกติ แต่กลายเป็นว่าเพลินจิตกับวิชาเท่านั้นที่ลงมา ส่วนยายถูกยุทธจับตัวไว้ไม่ปล่อย

แก้วใสต่อว่าเพลินจิตผิดสัญญา ทั้งที่เธอพยายามตัดขาดกับชัชวินแล้ว เพลินจิตไม่ยี่หระ ต่อรองขึ้นมาอีกข้อ แก้วใส ต้องแยกจอมใจออกจากทศวินเสียก่อน เธอถึงจะคืนยายให้ แก้วใสสงสัยว่าจอมใจมาเกี่ยวอะไรด้วย เพลินจิตตวาดทันที

"ไม่ต้องถาม ฉันสั่งอะไรก็ทำ ถ้าเธอทำให้จอมใจกระเด็น ออกจากอัครศิริได้เมื่อไหร่ ฉันจะคืนยายเธอให้"

"ไม่...ฉันไม่เชื่อคุณแล้ว" แก้วใสพุ่งเข้าหารถ พยายามจะเปิดประตู แต่ถูกวิชาผลักกระเด็น แล้วทรุดลงร้องไห้ เมื่อได้ยินเพลินจิตประกาศก่อนพากันกลับขึ้นรถไปว่า

"เธอไม่มีทาง เลือก..."

แก้วใสไม่มีทางเลือกอย่างเพลินจิตว่าจริงๆ เช้ารุ่งขึ้นแก้วใสทำโจ๊กไปเยี่ยมทศวินที่ยังพักผ่อนอยู่กับบ้าน จอมใจมาทีหลังเห็นสองคนนั่งคุยกัน จึงจะเลี่ยงไปทำหน้าที่ของตัวเองเรื่องอาหารให้ประกิต แก้วใสเรียกจอมใจมานั่งด้วยกัน ก่อนบอกให้รู้ว่าพรุ่งนี้ทศวินจะไปทำงานได้แล้ว ส่วนตัวเธอเองอยากเปลี่ยนแผนกฝึกงาน จะขอมาฝึกกับทศวินแทนจอมใจ

ทั้ง จอมใจและทศวินฟังแก้วใสแล้วชะงักแปลกใจ ทศวินถามแก้วใสว่ามีปัญหาอะไรที่แผนกดอกไม้หรือเปล่า แก้วใสบอกเปล่า เธอแค่คิดว่าอยู่กับเขา เธอจะได้ความรู้มากกว่า อีกอย่างเธอก็ไม่เก่งด้านจัดดอกไม้เหมือนจอมใจกับกุล

"แต่ผมว่ามันจะ ไม่เหมาะนะ คือผมหมายถึงแก้วเพิ่งทำเรื่องเปลี่ยนแผนก แล้วจะเปลี่ยนอีกครั้ง"

"แต่ถ้าคุณทศเซ็นให้แก้วทุกอย่างก็จบ ใช่ไหมจอม"

"ใช่ ถ้าแก้วอยากเปลี่ยนจริง ฉันก็ไม่มีปัญหา"

ทศ วินอึดอัดพูดไม่ออก จอมใจลุกเดินเข้าครัวไปเงียบๆ ทศวินลุกตามอย่างอาทร บอกจอมใจว่าไม่ต้องเปลี่ยนแผนกก็ได้ จอมใจเห็นแก่เพื่อนที่กำลังไม่สบายใจ บางทีการย้ายไปอยู่แผนกของเขาอาจจะดีกว่า

"จะดีกว่าตรงไหน นั่นยิ่งทำให้แก้วใกล้กับนายชัชมากขึ้นไปอีก"

"ชีวิตของแก้วลำบากมา มาก อะไรที่จะทำให้เพื่อนมี ความสุขได้ ฉันก็อยากจะทำ" ทศวินทำท่าจะท้วงอีก จอมใจรีบตัดบท "ฉันจะทำอาหารค่ะ คุณไปอยู่เป็นเพื่อนแก้วเถอะ"

ทศ วินยืนนิ่งไม่อยากไป จอมใจไม่สนใจเริ่มลงมือทำกับข้าว แก้วใสแอบฟังอยู่หน้าห้อง น้ำตาซึมเพราะรู้สึกผิดต่อเพื่อนรัก...

ที่สุด จอมใจก็ย้ายมาอยู่แผนกดอกไม้ ส่วนแก้วใสได้ไปเป็นสาวออฟฟิศอยู่แผนกเดียวกับทศวิน นอกจากนี้ แก้วใสยังสารภาพกับจอมใจด้วยว่า เธอชอบทศวิน จอมใจถึงกับตัวชา อึ้งไปชั่วขณะ

"แล้ว...แก้วมาบอกฉันทำไม"

"เพราะฉันรู้สึก ว่าคุณทศชอบจอมมาก ถ้าจอมยังอยู่ใกล้ๆเขา ฉันคงไม่มีโอกาส"

"แล้วคุณ ชัชล่ะ"

"เรื่องนั้นมันจบไปแล้ว"

จอมใจพูดไม่ออก เดินแยกไปอีกทาง ฝ่ายกุลที่ขอย้ายไปอยู่ร้านเบเกอรี่ก่อนหน้านี้แล้ว พอรู้เรื่องแก้วใสขอย้ายไปอยู่กับทศวิน กุลก็ทนไม่ไหว พูดกับแก้วใสอย่างมีอารมณ์ว่า

"แก้ว ฉันไม่เข้าใจนะว่าแก้วกำลังคิดอะไร แต่สิ่งที่แก้วทำมันไม่ได้ให้ความสุขกับแก้วและจอมหรอก" ว่าแล้วกุลเดินตามจอมใจไปทันที เพลินจิตแอบดูเหตุการณ์ค่อยๆเยื้องกรายเข้ามาหาแก้วใสด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ

"ดี มาก ฉันเลือกคนไม่ผิดเลย"

"ยายฉันเป็นไงบ้าง"

"เขายังมีลม หายใจรอเธออยู่แน่นอน" เพลินจิตกระซิบแล้วเดินจากไป แก้วใสสุดคับแค้น ก้มหน้าลงกับโต๊ะร้องไห้กระซิก...

ooooooo

สองวันมาแล้วที่ จอมใจพยายามหลบหน้าทศวินทั้งที่บ้านตอนไปทำอาหารให้ประกิต และตอนมาทำงานที่โรงแรม กลางวันวันนี้ทศวินมาชวนไปทานข้าว จอมใจก็ปฏิเสธเขาอีก อ้างพรุ่งนี้เป็นงานหมั้นของเจ้านาย เธอยุ่งมาก แต่ทศวินก็ยังตื๊อ จะรอให้เสร็จงาน แล้วค่อยไปกินด้วยกัน

อุไรริสา แอบมองทั้งคู่อย่างหมั่นไส้ จากนั้นก็เรียกพนักงานจัดเลี้ยงสองคนมาพบ ให้ช่วยงานบางอย่าง โดยมีค่าตอบแทนให้อย่างงาม...หลังสั่งงานเสร็จ อุไรริสาก็ไปประจ๋อประแจ๋ชวนกุลมาดูดอกไม้ที่งาน ในขณะเดียวกันจอมใจก็ถูกตามไปพบอัศวินแถวนั้นด้วย แล้วแผนเจ้าเล่ห์ของอุไรริสาก็สัมฤทธิผล เมื่ออัศวินบังเอิญมาเจอกับจอมใจและเกิดอุบัติเหตุจนทำให้ ทั้งคู่ตกอยู่ในลักษณะกอดรัดกัน ทั้งอุไรริสา ทศวิน และกุลต่าง ก็อึ้งกับภาพที่เห็น

แล้วอุไรริสาก็ไปโวยวายกับคุณยุบลที่ห้องทำงาน ยืนกรานยังไงเธอก็ไม่หมั้นกับอัศวิน เพราะเขาแอบไปพลอดรักกับจอมใจจนคนเห็นไปทั่ว ถ้าเธอหมั้น คนได้หัวเราะเยาะเธอแน่ อัศวินปฏิเสธ และว่าทุกคนกำลังเข้าใจผิด เพลินจิตที่ไม่ชอบจอมใจเป็นทุน ได้ทีขย่มไม่เลี้ยง

"จอมใจ เธอนี่มันร้ายกาจมากนะ ทำตัวสนิทสนมกับตาทศ ไปไหนมาไหนกับตาชัช แล้วนี่ยังคิดจะจับตาวินอีกเหรอ"

"ฉันไม่ได้คิดนะคะ" จอมใจหันไปขอความเห็นใจจากยุบล แต่ยุบลมองจอมใจด้วยความผิดหวัง  พอหันไปหาทศวิน ก็เห็นทศวินหันหน้าหนีไปทางอื่น...เพลินจิตยิ้มเยาะสะใจ

"คุณยายคะ ริสาคงต้องบอกเรื่องนี้กับคุณพ่อคุณแม่ ริสาจะไม่ยอมแต่งงานกับคนที่ไม่จริงใจกับริสาเป็นอันขาด"

"ใจเย็นๆก่อนสิจ๊ะ หนูริสา ยายขอคุยเรื่องนี้อีกหน่อยนะ บางทีอาจจะเข้าใจผิดกันก็ได้"

"แล้วคุณยายจะให้ริสากับครอบครัวทำยังไงคะ ให้หมั้นกันทั้งๆที่ริสาเป็นฝ่ายเสียหายเหรอคะ"

"งั้นก็เลื่อนงานหมั้นไปก่อน จนกว่าจะสืบความจริง ให้ปรากฏ"

"ไม่ได้นะคะคุณแม่ แล้วของตาชัชกับหนูลลิลล่ะคะ" เพลินจิตโวย

"ถ้าเลื่อนก็เลื่อนกันหมด จะมาหมั้นคู่เดียวได้ยังไง"

"แต่เราส่งข่าวไปแล้วนะคะ แล้วแขกที่เชิญไว้อีกล่ะ แบบนี้จะเสียชื่อกันไปใหญ่นะคะ" สุมนาท้วงอย่างเป็นกังวล

"บอกไปว่าฉันไม่สบายกะทันหัน เป็นลมหัวฟาดพื้นอะไรก็ได้" ยุบลสั่งเสียงเครียด...เพลินจิตกลัวพลาดหวัง หันหาชัชวิน ให้พูดอะไรสักอย่าง

"ผมเห็นด้วยกับคุณย่าครับ" คำพูดของชัชวินทำเอาเพลินจิตโกรธแทบออกงิ้ว เดินปึงปังออกไปจากห้อง คนอื่นๆแยกย้าย คงเหลือแต่สุมนากับยุบล ที่ต่างก็คิดเห็นตรงกัน ไม่น่าเชื่อว่าจอมใจจะทำอะไรแบบนั้น...

จอมใจเดินตามทศวินไปถึงหน้าห้องทำงาน ขอร้องให้ เชื่อเธอ ทศวินกลับทำไม่ใส่ใจ ขอตัวไปดูแขก จอมใจอึดอัดแทบบ้า เริ่มเสียงดัง

"คุณทศ ฟังฉันก่อน ฉันกับคุณวินไม่มีอะไรกัน"

"ถ้าเธอบริสุทธิ์ใจ วันนึงทุกคน รวมทั้งฉันจะรู้เอง" ทศวินเดินหนีทันที จอมใจสุดเศร้า แก้วใสรีบลุกจากโต๊ะมาถามว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น จอมใจยังไม่ทันจะตอบ ชัชวินก็เดินเข้ามาแตะแขนปลอบใจโดยไม่แคร์สายตาของแก้วใสสักนิด

"ไม่เป็นไรนะครับจอม ยังไงผมก็อยู่ข้างจอมเสมอ" ว่าแล้วเขาจูงมือจอมใจออกไป แก้วใสมองตามอย่างเก็บกลั้นความเสียใจ ขณะที่ทศวินซึ่งยังไม่ได้ไปไหนไกลก็เหลียวมองทั้งคู่หน้าเศร้า...

หลังจากแผนสำเร็จสมใจ อุไรริสาเรียกพนักงานสองคนที่จ้างวานมาสำทับแกมข่มขู่ห้ามไม่ให้เรื่องนี้หลุดออกไป แต่ อุไรริสาหารู้ไม่ว่าพวกเธอก็ใช่ย่อย ทวงสัญญาเรื่องบรรจุเราสองคนเป็นพนักงานประจำ แล้วยังแอบอัดเสียงการสนทนาไว้ในโทรศัพท์มือถือด้วย ถ้างานนี้อุไรริสาเบี้ยว เรื่องต้องแดงแน่ๆ

เพลินจิตร้อนใจเรื่องงานหมั้นที่ถูกคุณยุบลสั่งเลื่อนออกไปก่อน ถึงขนาดมาอ้อนวอนอุไรริสา เพราะมันกระเทือนไปถึงชัชวินกับลลิลด้วย ขอให้อุไรริสารับหมั้นอัศวินไปก่อน แล้วค่อยถอนหมั้นก็ได้

"ทำแบบนั้นหนูก็ถูกคุณยายตำหนิสิคะ คุณน้าขา เห็นใจริสาเถอะนะคะ ตราบใดที่นังจอมใจมันยังอยู่ตำตาแบบนี้ ริสาจะไว้ใจได้ยังไงคะ ว่ามันจะไม่หวนกลับมาหาคุณวินอีก"

"เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง น้าจะเขี่ยมันออกจากสยามธาราเอง แต่หนูต้องสัญญานะว่าจะหมั้นให้เร็วที่สุด ถ้าน้าจัดการกับนังจอมใจแล้ว"

อุไรริสาตอบรับด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ แต่พอลับหลังเพลินจิต รอยยิ้มนั้นกลับเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์เพทุบาย พูดกับตัวเองอย่างมาดมั่นว่า...ถึงตอนนั้นคู่หมั้นของเธอก็จะเป็นทศวิน!

ส่วนจอมใจ หลังเกิดเรื่องไม่งามเป็นที่เล่าลือไปทั่วโรงแรม เธอถูกจับตาและซุบซิบนินทาให้เข้าหู แม้แต่แก้วใสและกุลเพื่อนรักก็ยังเข้าใจไปตามนั้น จนไม่อยากจะเสวนากับจอมใจอีกเลย โดยเฉพาะกุลที่รักชอบอัศวินอยู่ ถึงกับตบหน้าจอมใจและตัดขาดความเป็นเพื่อน

จอมใจทั้งเศร้าทั้งกลุ้ม หนำซ้ำยังถูกลลิลมากล่าวหาว่าเธอจงใจล้มงานหมั้น เพราะอิจฉาที่ลลิลจะได้หมั้นกับชัชวิน

"นี่ลลิล เธอคิดมากไปหรือเปล่า ฉันเนี่ยนะจะอิจฉาคนอย่างเธอ"

"ยังกล้าปากดีอีกเหรอ" นิลรัตน์แหวขึ้นมา "ตอนนี้เธอน่ะมองดูตัวเองดีกว่าว่ามีอะไรสู้พวกเราได้ ถ้าดีจริงคนจะรังเกียจทั้งโรงแรมเหรอ"

"ฉันปล่อยให้เธอรังแกฉันมามากแล้ว วันนี้ฉันจะเอาคืน" ว่าแล้วลลิลไม่รอช้า ตั้งท่าตบจอมใจ โดยให้นิลรัตน์กับ

ข้าวปุ้นช่วยจับจอมใจไว้ ขณะทั้งหมดกำลังชุลมุนกัน ทศวินขับรถผ่านมาเห็น เสียงแตรรถทำให้ทุกคนหยุดชะงัก แล้วก็หน้าเสียไปด้วยกัน เมื่อทศวินลงมาตำหนิ โดยเฉพาะพวกลลิลที่เป็นฝ่ายหาเรื่อง

"รู้ไหมว่าการมีเรื่องในสถานที่ฝึกงาน  อาจทำให้พวกเธอถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัยได้"

พวกลลิลรีบผละไป จอมใจก้าวมายืนข้างทศวิน ขอบคุณเขาที่มาช่วย ทศวินกลับบอกว่าเขาทำไปตามหน้าที่ จอมใจถึงกับสะอึกอึ้ง ยิ่งเห็นแก้วใสก้าวออกมาเร่งทศวินให้รีบไป เพราะเธอหิวแล้ว จอมใจยิ่งเจ็บแปลบแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่...

พอไปถึงร้านอาหาร ทศวินถามแก้วใสที่บอกว่ามีเรื่องจะปรึกษา แก้วใสนิ่งลังเลชั่วขณะ ก่อนจะรวบรวมความกล้าบอกเขาว่า เธอชอบเขา ทศวินชะงักเล็กน้อย แล้วจ้องหน้าคาดคั้นถามถึงชัชวิน

"แก้วไม่ได้รักคุณชัชแล้ว แก้วรู้ว่าเราไปกันไม่ได้ แก้วต้องการคนแบบคุณทศ แก้วรู้ว่าคุณทศจะเป็นคนที่ดูแลแก้วได้"

"แต่ผมไม่เคยคิดกับแก้วมากไปกว่าความเป็นเพื่อน"

"แก้วรู้ค่ะ คุณทศคงจะชอบจอม แต่ขอโอกาสแก้วบ้างนะคะ"

"แก้ว ผมอยากให้คุณคิดดูดีๆ สิ่งที่คุณกำลังทำมันอาจจะทำร้ายคนหลายๆคน ทั้งนายชัช จอม และอาจจะเป็นตัวคุณเอง"

แก้วใสอึ้ง รู้สึกละอายใจไม่กล้าสู้หน้าทศวิน ส่วนชัชวินที่นั่งซุ่มอยู่ในรถจับจ้องมองเข้ามายังคนทั้งคู่ด้วยความรู้สึกเจ็บแค้น...

ข้างฝ่ายจอมใจที่เจ็บปวดไม่แพ้ชัชวิน ที่เห็นเพื่อนรักนั่งรถไปกับผู้ชายที่เธอชอบต่อหน้าต่อตา จอมใจกลับไปถึงบ้านในสภาพหมองเศร้าไร้เรี่ยวแรง ปัญหาต่างๆประเดประดังเข้ามาจนยากที่จะรับได้ แต่ไม่ว่าพ่อแม่จะซักถามอย่างไร จอมใจก็ไม่ปริปาก ได้แต่บอกพวกท่านว่า ถ้าจอมเรียนจบ จอมขอไปเรียนต่อที่อังกฤษ พ่อกับแม่แปลกใจทำไมลูกสาวถึงเปลี่ยนใจ ทั้งที่เมื่อก่อน
ท่านอยากให้ไป แต่ลูกกลับไม่ยอม

"คนเราก็อย่างนี้แหละค่ะ เวลาเปลี่ยน ความคิดก็เปลี่ยน" จอมใจสรุปแล้วผละหนี ไม่อยากตอบคำถามใดๆของพ่อแม่อีก...

ใกล้ค่ำ ทศวินขับรถมาส่งแก้วใสที่บ้าน โดยไม่รู้ว่าถูกชัชวินสะกดรอยตามมาตลอด ชัชวินเห็นทศวินประคองแก้วใสที่เกิดหน้ามืดกะทันหันเข้าไปในบ้าน ก็ยิ่งแค้นแทบจะระงับอารมณ์ ไม่อยู่ อยากตามเข้าไปตะบันหน้าทศวินสักหมัดสองหมัด

แก้วใสเป็นลมเพราะวันทั้งวันเธอแทบไม่ได้กินอะไร เมื่อครู่ที่ไปกับทศวิน เธอก็กินไม่ลง ทศวินจึงอาสาทำอาหารง่ายๆให้ แต่ก่อนจะผละเข้าครัว ทศวินนึกได้ถามถึงยาย แก้วใสอึกๆอักๆโกหกเขาว่า   ยายคงนอนแล้ว...พอทศวินเดินลับไป   แก้วใสน้ำตาร่วงพรู  พูดกับรูปถ่ายยายอย่างหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้

"ยายจ๋า...แก้วไม่อยากทำร้ายจอมกับคุณทศเลย แก้วจะทำยังไงดี"

ส่วนอัศวินที่ถูกกุลปฏิเสธทุกทาง เขาเครียดจัดหันไปพึ่งเหล้าอีกตามเคย ตกดึกเมาแอ๋กลับเข้าบ้าน เพ้อรำพันเรื่องไม่อยากหมั้น และไม่ได้มีอะไรกับจอมใจ เขารักกุลคนเดียว ทั้งแม่และยายเห็นสภาพเขาแล้วพากันหดหู่สงสาร เพราะเขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน คนเป็นยายถึงกับออกปากกับลูกสาวว่า บางทีแม่คงต้องทบทวนเรื่องหมั้นใหม่ สุมนาเห็นด้วยทันที เพราะดูอุไรริสาก็ไม่ได้
ชอบอัศวิน  ท่าทางจะชอบทศวินเสียมากกว่า...

ooooooo

หวานใจกับนายจอมหยิ่ง

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด