ตอนที่ 19
เพราะรู้ว่าพรุ่งนี้ถึงกำหนดต้องชำระหนี้ คืนนี้คอนจึงนำเงินที่เก็บเล็กผสมน้อยเอาไว้ออกมานับ
เพื่อเตรียมไว้จ่ายดอกให้จอม แต่คล้าวที่นั่งมองแม่อยู่ สีหน้า เหมือนปลงตก บอกกับแม่ว่าเขาจะเอาทั้งดอก ทั้งต้นพร้อมกัน เขาคงยึดบ้านยึดนาของเราแน่
"เอายังงี้ลูก แม่จะลองไปพูดกับเขาดูนะลูกนะ"
"แม่...ไม่นะจ๊ะแม่ พอเถอะนะ ถ้าเขาอยากจะยึดจริงๆ ก็ปล่อยให้เขายึดไปเถอะจ้ะ ถ้าจะต้องแลกกับการที่แม่ต้องไปกราบตีนเขาอีกหนูยอมไม่ได้หรอกจ้ะ แผ่นดินมันไม่ได้มีแค่หนองทรายขาวเท่านี้หรอก อยู่ที่นี่ไม่ได้ เราก็ไปหาที่ใหม่ อยู่กัน ไปหักล้างถางพงเอาก็ได้จ้ะแม่" พูดไปแล้วก็เจ็บแปลบหัวใจ ขยับตัวลุกขึ้นจะลงจากเรือน
"เอ็งจะไปไหน ค่ำมืดแล้วนะคล้าว"
"หนูจะไปวัดจ้ะแม่"
คล้าวเดินซึมออกไปท่ามกลางความมืด แล้วไปเจอเชนกำลังกู้เบ็ดแถวหนองน้ำซึ่งเป็นทางผ่านจะไปวัด เขาหยุดทักเชนก่อนจะถามถึงดวงใจว่าเป็นยังไงบ้าง เชนตอบอย่างไม่เคอะเขินว่า
"ดีขึ้นเรื่อยๆครับ ไม่ค่อยแพ้เหมือนตอนแรก ผมสงสัยว่าจะเป็นลูกผู้ชาย ฤทธิ์มันเยอะเหลือเกินครับ ทำเอาแม่มันแย่เลย"
"ดวงใจยังโชคดีนะที่ได้เจอคนดีๆอย่างนายเชน ดูแลกันให้ดีๆล่ะ พี่ไปนะ"
เชนรับคำแล้วถือคันเบ็ดอีกกำจะไปปักมุมอื่น ส่วนคล้าวมุ่งหน้าไปทางวัด แค่คล้อยหลังไม่ถึงสิบนาที เชนที่ยังก้มๆเงยๆอยู่ในหนองน้ำก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินสวบสาบผ่านมา แต่ละคนแต่งตัวรัดกุมมีผ้าโพกหัวปิดหน้าปิดตามิดชิดผิดปกติ แถมมีอาวุธทั้งมีดดาบและปืน เชนรู้ได้ทันทีว่าไม่ชอบ มาพากล รีบพาตัวเองหลบเข้าที่กำบัง
"พี่จอมเขาบอกให้ไปทางตะวันตกโว้ย เขาบอกว่าบ้านแถวนั้นมันอยู่กันโดดๆ อาทิตย์ที่แล้วมันเพิ่งขายข้าวกัน คงมีทั้งเงินทั้งทองโขอยู่...ไปโว้ย"
เสียงพูดนั้นแม้เชนจะได้ยินไม่ถนัด แต่ใจก็เต้นไม่เป็นส่ำด้วยความกลัว
ooooooo
ไปถึงกุฏิหลวงพ่อ ปรากฏว่าเพื่อนๆของตนอยู่ กันพร้อมหน้า คล้าวแทบไม่มีกะจิตกะใจจะทักใคร กราบหลวงพ่อแล้วตอบคำถามเรื่องหนี้สินที่หลวงพ่ออยากรู้ว่ายังขาดอยู่อีกเท่าไหร่ เมื่อรู้ว่าคล้าวยังไม่มีทั้งต้นทั้งดอก หลวงพ่อจึงเรียกพวกแว่นเข้ามาช่วยกันนับเงินในหีบ ซึ่งเป็นเงินกองกลางของวัดแล้วจะให้ คล้าวเอาไปไถ่บ้านไถ่นาออกมาจากนายจอม
"ไม่ได้หรอกครับหลวงพ่อ ผมทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกครับ" คล้าวปฏิเสธ
"ไม่มีใครรู้หรอกน่า ถ้าไอ้พวกนี้มันไม่เอาไปพูด ถ้าใครมันปากสว่างพวกเอ็งก็เฉ่งกันเอาเองละกัน"
"ไม่ครับหลวงพ่อ เป็นตายยังไงก็ไม่ได้ครับ"
"นี่มันเงินกองกลางของวัด กรรมการวัดเขาตกลงกันเอาไว้แล้วว่าเอาไว้ช่วยเหลือคนที่ยากลำบาก เอ็งไม่ผิด ข้าก็ไม่ผิด เพราะเอ็งกำลังตกที่นั่งลำบากจริงๆนี่หว่า"
คล้าวสีหน้าลำบากใจ แม้เพื่อนๆต่างคะยั้นคะยอเป็นเสียงเดียวกันให้รับไว้ แต่คล้าวก็ยังลังเลอยู่ดี หลวงพ่อเลยเปลี่ยนคำพูดใหม่ ให้คล้าวคิดเสียว่ามากู้กองทุนวัดไปใช้ มีเมื่อไหร่ค่อยเอามาคืน จะให้ดอกวัดเท่าไหร่ หลวงพ่อก็ไม่ขัด
"กรรมการวัดน่ะ ใครล่ะครับ ก็หลวงพ่อองค์เดียว ผมรับไม่ได้หรอกครับ ผมจะให้ใครมานินทาว่าร้ายหลวงพ่อทีหลังไม่ได้เด็ดขาด ถึงหลวงพ่อจะว่าชอบธรรมยังไง ผมก็กลัวตกนรกอยู่ดี"
"คล้าวเอ๊ย ถ้าข้าไม่ช่วยเอ็งแล้วใครวะจะช่วยเอ็งได้ เอ็งอย่าคิดอะไรมากเลย ข้าบอกไว้ซะก่อนเลยนะ ถ้าข้ากลับมาคราวนี้แล้วไม่ได้เห็นหน้าเอ็งอีก ข้าจะเสียใจมาก"
"คล้าว...หลวงพ่อท่านต้องไปธุระหลายวันนะโว้ย เอ็งรับๆไปก่อนเหอะ เรื่องอื่นเอาไว้คิดกันทีหลัง แก้ผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน เชื่อข้าเหอะ" แว่นพยายามโน้มน้าว คนอื่นๆก็ร่วมด้วยช่วยกันเซ็งแซ่ แต่ท่าทางจะไม่ได้ผล เพราะคล้าว เอาแต่ส่ายหน้ายืนยันความคิดตัวเอง
ooooooo
เสือผาดนำสมุนออกปล้นฆ่าชาวบ้านตามคำสั่งของจอมแล้วโยนความผิดให้คล้าว โดยตอนปล้นเสือผาด ได้เปล่งเสียงครั้งแล้วครั้งเล่าว่า "ไอ้เสือคล้าวบุก" นี่เองเป็นเหตุให้เมียของชายเจ้าของบ้านที่รอดตายปักใจเชื่อว่าถูกคล้าวปล้นจริงๆ
รุ่งขึ้นข่าวนี้แพร่สะพัดไปทั้งหนองทรายขาว เพชรกับหมึกวิ่งร้องไห้มาบอกพวกก้อนที่ล้อมวงกันอยู่บนเรือน ทุกคนพากันแตกตื่นตกใจก่อนจะวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานา ก้อนกับทับทิมนั้นกระหน่ำซ้ำเติมคล้าวไม่มีชิ้นดี แต่ สำหรับทองกวาว ยังไงเธอก็ไม่เชื่อว่าคล้าวจะทำเรื่องเลวทรามอำมหิตแบบนี้ได้
จอมกับเจิดทำตัวเป็นพลเมืองดีพาตำรวจบุกไปจับตัวคล้าวที่บ้าน แต่พบเพียงคอนคนเดียว เพราะคล้าวไปนอนที่วัดตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่กลับ คอนพอรู้เรื่องก็ร่ำไห้น้ำตานองหน้า ปฏิเสธปากคอสั่นว่าลูกของตนไม่ใช่โจร แล้วก็วิ่งล้มลุกคลุกคลานตามพวกจอมกับตำรวจที่มุ่งหน้าไปจับคล้าวที่วัด
ทองกวาวตามไปทันเห็นคล้าวถูกตำรวจจับใส่กุญแจมือ นั่นแสดงว่าข้อกล่าวหาเป็นจริงแน่นอน ทองกวาวรับไม่ได้แทบล้มทั้งยืน ขณะที่คอนร้องไห้จนเป็นลมหมดสติไปต่อหน้าต่อตาพวกแว่นที่ไม่อาจช่วยเหลืออะไรคล้าวได้เลย
เพชรกับหมึกก็ไม่เชื่อว่าคล้าวจะเป็นโจรใจเหี้ยมปล้นฆ่าชาวบ้าน ทั้งคู่เถียงก้อนคอเป็นเอ็น พอธรรมรักษ์กับธีระผสมโรงกับก้อนด้วย ทั้งคู่ยิ่งออกฤทธิ์ใส่สองหนุ่มอย่างไม่เกรงกลัวก้อนกับทับทิม
ทองกวาวกลับมาในสภาพไร้เรี่ยวแรง หลบเข้าห้องร้องไห้อย่างทำใจไม่ได้ พอบุปผาทำท่าจะตามไปปลอบทองกวาว ก้อนไม่วายพูดถึงแว่นว่าอีกไม่นานก็ต้องเข้าตะรางตามคล้าว ไปด้วย พวกมันต้องสมรู้ร่วมคิดกันแน่ๆ ทำให้บุปผาเริ่มใจคอไม่ดีขึ้นมาอีกคน
หลังจากยัดเยียดข้อหาให้คล้าวสำเร็จแล้ว สองพ่อลูกตัวบงการก็รีบกลับมาบ้าน บอกเสือผาดให้เอาเงินทองที่ปล้นมาได้แบ่งกันเองกับลูกน้อง แล้วก็เก็บเนื้อเก็บตัวกันดีๆ อย่าโผล่ไปให้ใครเห็นอย่างเด็ดขาด
สายใจเพิ่งรู้ข่าวร้าย เธอทิ้งงานทุกอย่างวิ่งร้องไห้ออกจากบ้านไปทันที เชนกับดวงใจก็ไม่เชื่อว่าคนดีๆอย่างคล้าว จะทำเรื่องสิ้นคิดได้ จึงชวนกันไปดูคล้าวที่โรงพัก
มาเห็นคล้าวถูกคุมขัง สายใจฟูมฟายใจแทบขาด พาลโวยวายทุบตีหมู่น้อยด้วยความโกรธ
"ไอ้หมู่น้อย ปล่อยพี่คล้าวออกมาเดี๋ยวนี้ กูบอกให้ปล่อยพี่คล้าวออกมา มึงขังพี่คล้าวได้ยังไง ปล่อยออกมา มึงเป็นเพื่อนพี่คล้าว ทำไมมึงไม่ช่วยพี่คล้าว"
สายใจตบตีหมู่น้อยอย่างบ้าคลั่ง ดวงใจกับเชนต้องวิ่งตามเข้ามาห้ามเพราะหมู่น้อยเอาแต่ยืนเฉยให้สายใจระบายอารมณ์ พอถูกจับแยกออกมา สายใจก็หันไปเกาะกรงขังร่ำร้องเรียกคล้าวทั้งน้ำตา
"พี่คล้าว...ให้สายใจเข้าไปอยู่ด้วยคนนะจ๊ะ สายใจจะอยู่เป็นเพื่อนพี่คล้าว พี่คล้าวอยู่ไหน สายใจก็จะอยู่นั่นนะจ๊ะพี่คล้าว"
สายใจยื่นมือเข้าไปกอดคล้าว ทองกวาววิ่งเข้ามาเห็นพอดี หยุดชะงักมองภาพนั้นด้วยความเจ็บปวดเสียใจ เข้าใจว่าทั้งคู่คงรักกันมากจริงๆ จึงตัดใจหันกลับออกไป บุปผาที่มาด้วยกำลังจะก้าวตาม แต่เหลือบไปเห็นแว่นเข้าจังๆ แว่นเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันเหมือนอยากจะด่าแต่แล้วสะบัดหน้าใส่บุปผา ฝ่ายบุปผาก็ไม่ยอมเสียศักดิ์ศรี เชิดหน้าใส่แว่นแล้วตามทองกวาวออกไป
หลังจากรับปากคล้าวที่ฝากฝังให้ดูแลคอน สายใจก็เดินร้องไห้ผ่านหมู่น้อยออกไปโดยไม่เหลียวมองเขาสักนิด หมู่น้อยน้ำตาตกใน ชาตินี้ทั้งชาติต่อให้ทำความดีขนาดไหนก็คงไม่อยู่ในสายตาสายใจ แต่ยังไงหมู่น้อยคนนี้ก็จะช่วยคล้าวให้ถึงที่สุดเพื่อสายใจ
แต่ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนฝูงหรือนายเชนที่มาช่วยเป็นพยานยืนยันความบริสุทธิ์ให้คล้าว ก็ไม่อาจทำให้คล้าวพ้นข้อกล่าวหาได้ และเร็วๆนี้คล้าวก็จะถูกส่งตัวไปดำเนินคดีในจังหวัดแล้วด้วย ซึ่งโทษอาจจะถึงขั้นประหารชีวิต
คอนทำใจไม่ได้ร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด นอนซม อยู่กับบ้านแล้วยังถูกจอมมาขู่เข็ญยึดบ้านยึดนาซ้ำเข้าไปอีก ส่วนเจิดก็ตามไปทำร้ายเชนถึงบ้านโทษฐานที่เชนสาระแนไปเป็นพยานให้คล้าว ดวงใจเข้าห้ามก็ถูกเจิดตบจนล้มคว่ำไปอีกคน
ขณะที่คล้าวกำลังเผชิญชะตากรรมครั้งใหญ่หลวง ทองกวาวเองก็ทั้งผิดหวังและทำใจไม่ได้ ชีวิตเหมือนไร้จุดหมายปลายทาง เคยรักคล้าวมากมายแต่กลายเป็นต้องมาผิดใจกันและถึงขั้นจะต้องพรากจากกันแบบนี้อีก ยิ่งทำให้ทองกวาวรู้สึกท้อแท้ สิ้นหวัง เมื่อพ่อแม่มาเอ่ยปากเรื่องแต่งงานกับธรรมรักษ์ หลังจากทองคำเจรจาสู่ขอแล้ว ทองกวาวจึงตกปากรับคำไปอย่างง่ายดาย ส่วนบุปผาก็บอกว่าจะแต่งงานกับธีระด้วยเหมือนกัน
ก่อนที่คล้าวจะถูกนำตัวไปดำเนินคดีในจังหวัด พวกแว่นนึกขึ้นได้ว่ายังมีพยานสำคัญอีกคนที่จะช่วยคล้าวให้พ้นผิดได้ ซึ่งนั่นก็คือหลวงพ่อ เพราะคืนเกิดเหตุหลวงพ่อยังนั่งคุยกับพวกเราทุกคนอยู่ครึ่งค่อนคืนก่อนจะออกเดินทางไปธุดงค์เอาตอนรุ่งสาง ดังนั้น แว่น ตี๋ และไข่จึงเร่งเดินทางไปตามหลวงพ่อกลับมา โดยให้หมู่น้อยคอยถ่วงเวลาทางนี้เอาไว้ก่อน
ในที่สุดแว่นและเพื่อนก็พาหลวงพ่อกลับมาทันเวลาพอดี แต่จอมกับเจิดก็ยังพยายามบิดเบือนความจริงแถมใส่ความหลวงพ่อว่าถูกพวกแว่นจ้างวานให้มาเป็นพยาน นี่เองเป็นเหตุให้ชาวบ้านที่เลื่อมใสศรัทธาหลวงพ่อรับไม่ได้ถึงกับตะโกนด่าทั้งสองพ่อลูกกันระงม
"ข้าครองผ้าเหลือง ปวราณาตนเป็นศิษย์ตถาคตมาชั่วชีวิต ก็เพิ่งจะเคยได้ยินคำสบประมาทจากปากคนอย่างเอ็งนี่แหละเป็นคนแรกไอ้เจิดเอ๊ย ข้าบวชแล้วก็อยู่ในพระธรรมวินัยมาตลอด ใครๆก็รู้จริงไหม"
"ใช่ๆ หลวงพ่อท่านเป็นพระจะมามุสาได้ยังไง" ชาวบ้านตะโกนเป็นเสียงเดียวกัน
"เอาล่ะ ถ้าข้าพูดเท็จ ข้าก็พร้อมจะตกนรกลงไปต่ำกว่าขุมที่เอ็งอยู่อีกก็ได้นะไอ้เจิด"
สองพ่อลูกเงียบไปอย่างจนมุม ผู้หมวดไขกุญแจมือให้คล้าวเป็นอิสระ ท่ามกลางความโล่งอกดีใจของทุกคนที่รักและเป็นห่วงคล้าว รวมถึงทองกวาวที่มายืนดูอยู่รอบนอก ไม่กล้าเข้ามาใกล้เพราะเห็นสายใจกอดประคองทั้งคอนและคล้าวราวกับคนในครอบครัวเดียวกัน
เพชรกับหมึกดีใจไม่แพ้ใครรีบวิ่งกลับไปป่าวประกาศให้คนที่บ้านรู้ แต่ก้อนกับทับทิมยังไม่วายเหน็บแนมกระแหนะ กระแหนคล้าว โดยมีธรรมรักษ์กับธีระร่วมวงด้วย ทำให้เพชรกับหมึกหมั่นไส้จนสุดทนออกฤทธิ์กับว่าที่พี่เขยทั้งสองเข้าอีก
พาลูกชายกลับมาถึงบ้าน คอนนำน้ำมนต์มาอาบให้ลูกเพื่อชำระล้างสิ่งอัปมงคลทั้งหลาย โดยมีสายใจที่ยังตามติดแจคอยช่วยเหลือ แถมยังยินดีที่จะให้คล้าวและคอนเก็บข้าวของสัมภาระย้ายไปอยู่ที่บ้านของเธอ เพราะบ้านหลังนี้ถูกจอมยึดไปแล้ว
คล้าวตกใจมากแต่ก็ตัดใจยอมรับเพราะสงสารแม่ที่เอาแต่รำพันโทษตัวเอง ยิ่งพอรู้ข่าวจากสายใจอีกว่าทองกวาวกำลังจะหมั้นและแต่งงานกับธรรมรักษ์เร็วๆนี้ คล้าวยิ่งขมขื่น ตัดสินใจจะพาแม่ไปหาที่อยู่ใหม่ให้รู้แล้วรู้รอด
แต่ถึงจะพยายามทำใจและตัดใจยังไง ภาพความหลังอันหวานชื่นระหว่างคล้าวกับทองกวาวก็ยังตามหลอกหลอนอยู่ไม่เลือนราง คล้าวจึงซึมเศร้าทุกครั้งเมื่ออยู่ลับหลังคนอื่น เพชรกับหมึกสงสารคล้าวมากและยังอยากได้คล้าวเป็นพี่เขย สองคนจึงสมรู้ร่วมคิดกันวางแผนเพื่อให้คล้าวกับทองกวาวได้พูดคุยปรับความเข้าใจกันอีกสักครั้งก่อนวันแต่งงาน รวมถึงแว่นกับบุปผาด้วยอีกคู่
แล้วเพชรกับหมึกก็สบโอกาสในวันที่คณะของก้อนตั้งใจจะพาธรรมรักษ์กับธีระไปตระเวนโชว์ตัวอวดชาวหนองทรายขาว โดยเพชรแกล้งไม่สบาย หมึกจึงอาสาอยู่เฝ้า ส่วนทองกวาวกับบุปผาที่เบื่อหน่ายไม่อยากไปอยู่แล้วก็ได้โอกาสอยู่ดูแลน้องชายดีกว่า
เมื่อพวกผู้ใหญ่ไปกันหมดแล้ว เพชรก็เริ่มมารยาว่าปวดท้องอย่างหนักนอนร้องครวญครางเสียจนทองกวาวกับบุปผา
แทบทำอะไรไม่ถูก ฝ่ายหมึกแอบย่องออกจากบ้านไปตามคล้าวกับแว่นถึงกุฏิหลวงพ่อ หลอกว่าเพชรไม่สบายอาการหนักมากและที่บ้านไม่มีใครอยู่เลย จึงอยากให้ทั้งคู่ช่วยไปดูอาการเพชรหน่อย คล้าวกับแว่นเห็นแก่ความดีของเพชรที่มีต่อกันจึงยอมตามหมึกไป
แล้วเพชรกับหมึกก็ช่วยจัดฉากให้สองคู่รักได้อยู่กันตามลำพัง หวังว่าพวกเขาจะได้พูดคุยปรับความเข้าใจกันด้วยดี แต่กลายเป็นว่าพวกเขาเกิดมาทะเลาะกันหนักยิ่งขึ้นไปอีก
ทางด้านก้อนกับทับทิมพาว่าที่เขยเล็กและเขยใหญ่อวดใครต่อใครอย่างชื่นมื่น จนกระทั่งไปเจอเจิดที่ตลาดสองผัวเมียก็ยิ่งคุยโวโอ้อวด แต่หารู้ไม่ว่าธรรมรักษ์หน้าถอดสีเพราะกลัวเจิดจะปากสว่างเรื่องที่เขาชอบเล่นการพนันและได้รู้จักกับเจิดในบ่อน ดังนั้น ธรรมรักษ์จึงรีบเอาตัวรอดชวนก้อนและทับทิมกลับบ้านโดยเร็ว
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่คล้าวกับเพื่อนๆกำลังปรึกษาหารือกันเรื่องทำมาหากิน จู่ๆบุญยืนก็มาเยือนถึงบ้านคล้าวอย่างคาดไม่ถึง พอบุญยืนรู้ว่าคล้าวกับแว่นกำลังลำบากมาก แต่ที่แย่สุดๆก็เรื่องของหัวใจ เพราะสาวคนรักของทั้งคู่กำลังจะแต่งงานกับชายอื่นซึ่งเป็นหนุ่มกรุงเทพฯ
หลังจากได้เห็นแฟนใหม่ของทองกวาวกับบุปผา บุญยืนก็รีบเดินทางกลับกรุงเทพฯไปเล่าให้ฤทัยฟัง ก่อนจะช่วยฤทัยวางแผนเล่นงานธรรมรักษ์กับธีระให้อยู่หมัด ถือเป็นการช่วยแว่นกับคล้าวไปในคราวเดียวกัน
ก่อนจะถึงวันหมั้นวันแต่ง ทองคำพาธรรมรักษ์กับธีระกลับกรุงเทพฯไปเตรียมสินสอดทองหมั้น ธรรมรักษ์ไปถึงบ้านไม่เจอฤทัย ตามไปที่ไนต์คลับก็ปรากฏว่าไนต์คลับปิดอีก ธรรมรักษ์ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เดือดดาลพลุ่งพล่านอยากจะเอาเรื่องฤทัย แต่เขาก็จนปัญญาเพราะหาฤทัยไม่เจอ
เวลานั้น ฤทัยกับบุญยืนเดินทางไปถึงหนองทรายขาวแล้วพร้อมด้วยวงดนตรีและหางเครื่องชุดใหญ่ บุญยืนพาฤทัยไปทำความรู้จักกับพวกคล้าว ก่อนที่ฤทัยจะพาคณะของตนไปปรากฏตัวที่บ้านก้อนในวันรุ่งขึ้นที่ทองคำพาธรรมรักษ์และธีระ กลับมาพร้อมสินสอดทองหมั้น แต่ฤทัยทำเป็นไม่รู้จักธรรมรักษ์ กับธีระ แนะนำตัวเองว่าเป็นเจ้าของวงดนตรีซึ่งเดินสายมาจากกรุงเทพฯ ได้ข่าวว่าบ้านนี้จะมีงานมงคลก็เลยตั้งใจว่าจะมาช่วยงาน ก้อนกับทับทิมดี๊ด๊ายินดีเพราะชอบอยู่แล้วของฟรี แต่ธรรมรักษ์กับธีระถึงกับเหงื่อตก ไม่รู้ว่าฤทัยจะมาไม้ไหนกันแน่
พอมีโอกาสเหมาะธรรมรักษ์ก็รีบทำความตกลงกับฤทัย โดยธรรมรักษ์หลอกฤทัยว่าที่เขาต้องแต่งงานกับทองกวาวก็เพราะถูกผู้ใหญ่บังคับ กะว่าแต่งไปสักพักก็จะขอเลิก เพราะใจของ เขามีฤทัยเพียงคนเดียว ขอฤทัยอย่าทำลายงาน ให้มันผ่านไปก่อนเพื่ออนาคตของเราสองคน ฤทัยทำเหมือนเชื่อคำเขา แถมยังบอกด้วยว่าไม่ใช่แค่เราสองคน แต่เป็นสามเพราะเธอกำลังตั้งท้อง
ฝ่ายจอมกับเจิดพอรู้ว่าคุณนายทองคำเตรียมทั้งเงินและทองมามากมายมหาศาล สันดานโจรก็ออกลาย จอมเรียกเสือผาดมาวางแผนและสั่งการว่าคืนพรุ่งนี้พวกเราจะปล้นบ้านไอ้ก้อน...
ooooooo
มิ่งยังคงหมกมุ่นอยู่กับเหล้า พอเมาได้ที่ก็หาเรื่อง ดุด่าเชนอีกเหมือนเคย แม้เชนจะทำดีแค่ไหนก็ไม่เคยได้ใจมิ่ง มีแต่บ่นแต่ด่าและนับวันก็ยิ่งรุนแรงขึ้นทุกที จนวันนี้เชนทนไม่ไหวตัดสินใจจะไปจากบ้านมิ่ง แต่เอาเข้าจริงๆเชนก็ต้องล้มเลิกเพราะถูกดวงใจอ้อนวอนขอร้อง
ถึงเวลาที่คล้าวกับแม่เตรียมตัวเดินทางไปหาที่อยู่ใหม่ สายใจตื๊อหนักจะไปด้วยให้ได้ พอหมู่น้อยทักท้วงห้ามปราม สายใจก็ใช้วิธีเดิมๆกลั่นแกล้งทำให้หมู่น้อยต้องถูกผู้หมวดจับไปขังคุก
ทองกวาวรู้จากเพชรว่าคล้าวกับแม่กำลังจะออกเดินทางก็อดใจหายไม่ได้ แต่พอรู้ว่ามีสายใจไปด้วยทองกวาวก็เลิกสนใจ ตัวเธอเองพรุ่งนี้ก็ต้องหมั้นและแต่งกับธรรมรักษ์แล้วเหมือนกัน และตอนนี้ทุกคนก็กำลังวุ่นวายเตรียมงานกันอย่างเอิกเกริก โดยเฉพาะก้อนกับทับทิมดีใจถึงกับดื่มฉลองกันจนเมามาย แล้วเผลอพูดเรื่องแผนการอันแยบยลของตัวเองที่ทำให้คล้าวกับทองกวาว และแว่นกับบุปผาเข้าใจผิดกันจนถึงขั้นตัดขาด เพชรได้ยินเต็มสองหู รีบวิ่งไปบอกหมึกที่กำลังสัปหงกให้ไปบอกพี่ทองกวาวกับพี่บุปผาด้วยว่าอย่าเพิ่งแต่งงาน เพราะทั้งคู่ถูกหลอก ส่วนตนจะรีบไปบอกพี่คล้าวเดี๋ยวนี้เลย
เพชรวิ่งฝ่าความมืดออกไปอย่างสุดฝีเท้าเพื่อตามคล้าวที่ออกเดินทางไปแล้วพร้อมคอนกับสายใจ แต่ระหว่างทางเพชรไปเจอเจิดกับพวกเสือผาดกำลังวางแผนการปล้นอยู่ในกระท่อมร้างชายป่า เพชรได้ยินชัดว่าคืนพรุ่งนี้สองยามเจิดให้เสือผาดทำทีเข้าไปปล้นบ้านพ่อจอมเพื่อดึงความสนใจของชาวบ้าน แล้วหลังจากนั้นห้านาทีเจิดกับสมุนก็จะเข้าปล้นบ้านก้อน แล้วจับทองกวาวมาทำเมีย
เพชรตกใจสุดๆ จะรีบกลับไปบอกทุกคนที่บ้าน แต่ก็หมดโอกาสเพราะเจิดรู้ตัวและจับเพชรเอาไว้ได้
ooooooo
เสียงไก่ขันระงมตอนเช้ามืด ก้อนกับทับทิมสะดุ้งตื่นแล้วกระวีกระวาดเมื่อนึกขึ้นได้ว่าวันนี้ที่บ้านจะมีงานมงคล และพวกตนกำลังจะได้ลูกเขยเป็นเศรษฐีกรุงเทพฯ ความตื่นเต้นดีใจทำให้สองผัวเมียลืมลูกชายคนเล็กไปเลย มัวแต่ห่วงเรื่องเตรียมความสวยหล่อของตัวเอง และของทองกวาวกับบุปผา
ส่วนหมึกที่เมื่อคืนเพชรได้สั่งการเอาไว้ให้บอกทองกวาวกับบุปผาว่าอย่าเพิ่งแต่งงานเพราะถูกพ่อกับแม่หลอก หมึกมัวแต่ง่วงงุนเลยไม่ได้ใส่ใจ แถมเช้านี้ตื่นมาก็ยังไม่รู้ด้วยว่าเพชรหายไปไหน
เพชรถูกเจิดจับขังไว้ในกระท่อมตั้งแต่เมื่อคืน เช้าขึ้นเพชรดิ้นรนจะหนีจึงถูกเจิดตบตีจนหมดสติ แล้วเจิดกับพวกเสือผาดก็พากันกลับไปที่บ้านของจอมเพื่อเตรียมการปล้นหลอกๆในคืนนี้
ส่วนคล้าว คอนและสายใจที่ออกเดินทางโดยใช้ควายสองตัวเป็นพาหนะ นึกไม่ถึงว่าระหว่างทางจะสวนกับขบวนขันหมากอันยาวเหยียดยิ่งใหญ่ของธรรมรักษ์และธีระ ยิ่งเห็นคล้าวก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยกว่าเถ้าธุลี ได้แต่เก็บกลั้นความชอกช้ำระกำใจ เบี่ยงเลี่ยงทางให้พวกเขาผ่านไปก่อน
ขบวนขันหมากมาจ่อที่หน้าบ้านก้อนแล้ว สองผัวเมียตื่นเต้นดีใจกอดกันกลมราวกับถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง หมึกแทรกเข้ามาบอกทั้งคู่ว่ายังหาเพชรไม่เจอ ก้อนกลับบอกช่างหัวมันเถอะ ป่านนี้มันคงรำเฉิบๆอยู่ในขบวนกับเขานั่นแหละ หมึกได้ฟังก็นึกสนุกขยับแข้งขยับขาออกไปร่วมวงทันที
ถึงเวลาทำพิธีบนบ้าน ทองคำเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายชาย ซึ่งเจ้าบ่าวเตรียมแหวนเพชรเม็ดเป้งมาคนละวง สินสอดทองหมั้นอีกมากมายทำเอาก้อนกับทับทิมหูอื้อตาลายไปหมด...ไม่ทันที่เจ้าบ่าวจะสวมแหวนให้เจ้าสาว ฤทัยก็นำชาวคณะเข้ามาร้องรำทำเพลงสร้างบรรยากาศให้ครึกครื้นเป็นที่ถูกอกถูกใจสองผัวเมียเจ้าของบ้าน แต่ไม่ชอบอยู่นิดเดียวก็ตรงที่มีแว่น ตี๋ และไข่ร่วมวงมาด้วย
ฤทัยมาในชุดสวยเซ็กซี่ พอกับสาวๆหางเครื่องอีกหลายคนที่ล้วนเป็นเด็กของธีระ แล้วฤทัยกับสาวๆทุกคนก็เริ่มวาดลีลายั่วยวนใส่พวกแว่นไปตามจังหวะเพลง ทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่ ในงานรู้สึกทะแม่งๆ ธรรมรักษ์กับธีระเองก็เริ่มเดือดเมื่อเห็นเมียของตนยั่วยวนชายอื่นต่อหน้าต่อตา ที่สุดธรรมรักษ์ก็ตบะแตกแสดงความหึงหวงฤทัยที่ยอมให้แว่นอุ้มและหอมแก้ม
เมื่อธรรมรักษ์ลืมตัวโมโหหึงแสดงตัวเป็นผัวฤทัย และสาวๆหางเครื่องก็แสดงตัวว่าเป็นเมียธีระ งานมงคลวันนี้จึงล้มไม่เป็นท่า ทองคำ ก้อน ทับทิม รู้สึกอับอายขายหน้าและหัวเสียสุดๆที่ถูกสองหนุ่มหลอก ต่างพากันก่นด่าและไล่ตีสองหนุ่มเป็นพัลวัน...
เหตุการณ์สงบลงแล้วแต่หมึกยังหัวเราะท้องคัดท้องแข็งอยู่คนเดียว เลยถูกก้อนเอากล้วยยัดปากก่อนจะแถมด้วยเขกหัวไปอีกที ส่วนธรรมรักษ์กับธีระสภาพยับเยินนั่งหน้าเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ตรงหน้าทองคำ มีฤทัยนั่งขนาบอีกข้าง สองหนุ่มกราบขอโทษทองคำ ก้อน ทับทิม แล้วก็พร้อมที่จะกราบขอโทษทองกวาวกับบุปผาด้วย แต่สองสาวชิงลุกหนีไปเสียก่อน
ทองกวาวหนีมานั่งซึม บุปผาเดาไม่ออกว่าทองกวาวรู้สึกยังไงกันแน่ จึงเอ่ยถามขึ้นว่า
"ทองกวาว...เสียใจที่ไม่ได้แต่งงานเหรอ"
"ไม่รู้สิ ทองกวาวไม่แน่ใจว่าตัวเองควรจะดีใจหรือเสียใจกันแน่ แต่ทองกวาวสงสารพ่อกับแม่มากกว่า พ่อกับแม่คงขายหน้ามาก"
"บุปผาว่ามันคงเป็นโชคดีของเรานะ ที่ยังไม่ทันถลำไปมากกว่านี้ เออ ไอ้เพชรมันคงน้อยใจเรานะ ตั้งแต่มาส่งข่าวเรื่องพี่คล้าวเมื่อคืนมันก็หายจ้อยไปเลย"
"เพชร...จริงด้วย แล้วเพชรมันหายไปไหน"
"ถ้าบุปผาทายไม่ผิด บุปผาว่าเพชรมันคงไปกับ..."
"กับใคร?"
"จะกับใคร ก็พี่คล้าวน่ะสิ"
ทองกวาวใจหายวาบ แล้ววิ่งนำหน้าบุปผาออกไปจากบ้านทันที วิ่งไปร้องเรียกคล้าวไปด้วย แต่ก็ไร้วี่แวว ได้แต่ยืนสะอื้นอย่างปวดใจ
"จะบอกลากันซักคำก็ไม่มี พี่คล้าวเขาคงเกลียด ทองกวาวมาก"
บุปผาอึ้งไปอย่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูก จู่ๆแว่นกับอีกสองสหายก็ดาหน้ากันเข้ามา
"ทองกวาวเอ๊ย คล้าวมันเกลียดคนที่มันรักมากที่สุดไม่ลงหรอก แต่มันคงจะน้อยใจในโชควาสนาของมันมากกว่า พี่ว่าปล่อยมันไปตามทางของมันเถอะ พวกเรามาช่วยอวยพรให้ชีวิตใหม่ของมันดีกว่าที่แล้วๆมากันเถอะ"
"อีกซักห้าปี สิบปี ยี่สิบปี หรือสามสิบปี เราคงจะได้ข่าวของมันบ้างละว่ะ"
ฟังคำของแว่นกับตี๋แล้วทองกวาวยิ่งน้ำตาไหลพราก เพราะนานขนาดนั้นก็คงไม่ต่างจากตายจากกัน
"ข้าว่าไม่ต้องห่วงมันหรอก อีกไม่นานมันก็คงออกลูกออกหลานออกเหลนกันยั้วเยี้ยเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมดแหละ เพราะท่าทางนังสายใจมันจะเป็นพันธุ์ลูกดกดีซะด้วย" ไข่กระทุ้งเข้าไปอีก ตี๋ยิ่งสนุกเสริมขึ้นว่า อย่างต่ำสายใจคงมีลูกกับคล้าว ซักสองโหล หัวปีท้ายปี เผลอๆบางปีเป็นแฝดอีกต่างหาก
ทองกวาวทนฟังไม่ไหววิ่งร้องไห้ออกไปทันที บุปผาจะวิ่งตามแต่ถูกแว่นขวางเอาไว้
"ถอยไปนะไอ้แว่น"
"พี่รู้ว่าบุปผาคงจะเสียใจไม่น้อยที่ไม่ได้แต่งงาน แล้วก็ไม่ได้เป็นเมียหัวหน้าวงดนตรีกรุงเทพฯด้วย บุปผาโทษพี่แว่นคนเดียวก็ได้ ถึงพี่แว่นจะรู้อยู่เต็มอกว่าพี่แว่นคงจะไม่มีวาสนาได้ร่วมหอลงโลงกับบุปผาในชาตินี้ แต่พี่แว่นก็ไม่อยากเห็นบุปผาต้องเสียใจน้ำตาเช็ดหัวเข่าไปมากกว่านี้ พี่แว่นอยากจะบอกบุปผาว่าพี่แว่นรักบุปผามากที่สุด ไม่เคยคิดจะรักใครได้มากเท่านี้อีกแล้ว พี่แว่นรักบุปผา รักเหมือน...เหมือน..."
"เหมือนอะไร ก็พูดมาสิพี่แว่น" บุปผาลุ้น
"เหมือนพี่สาวแท้ๆของพี่แว่นเลยจ้ะ"
"ไอ้แว่น!" บุปผาโกรธจี๊ดปล่อยหมัดตรงเข้ากลางหน้าแว่นเต็มๆ แล้ววิ่งปึงปังตามไปปลอบทองกวาวให้ตัดอกตัดใจเสียเถอะ
"ทองกวาวผิดเอง ทองกวาวผิดต่อพี่คล้าว"
"เขาก็ไปตามทางของเขา จะมามัวนั่งซึมเหงาหงอยอย่างนี้ทำไม เราก็ต้องมีชีวิตของเราต่อไป ทำอย่างบุปผาสิ ไม่เห็นจะต้องยี่หระกับอะไรทั้งนั้น ทำตัวให้ยิ่งดีขึ้น น่ารักขึ้น สวยขึ้น คนสวยๆอย่างทองกวาวน่ะนะจะต้องมีผู้ชายดีๆเข้ามาให้เลือกอีกถมเถไป เชื่อบุปผาเถอะ จะหาให้ดีกว่าอีตาธรรมรักษ์ ร้อยเท่าพันเท่าก็ยังได้เลย"
ทองกวาวยังทำใจไม่ได้ เดินซึมออกมา แต่บุปผาก็ยังพยายามดักหน้าดักหลังปลอบใจ
ooooooo










