สมาชิก

มนต์รักลูกทุ่ง

ตอนที่ 16

เช้าวันนี้ ทองกวาวกับบุปผาช่วยกันขนหม้อแกงและถาดอาหารออกมาตั้งหน้าบ้าน บุปผาขนไปบ่นไป ไม่เข้าใจว่าทำไมย่าจะต้องเลี้ยงใหญ่โตอย่างนี้ด้วย

"เรานี่ไม่รู้อะไร นายตำรวจพวกนี้เขาเป็นหัวคะแนนในการประกวดให้กับเรา เราจะได้ลูกโป่งมากหรือน้อยก็อยู่ที่พวกเขานี่แหละ"

"นี่แปลว่าย่าซื้อเสียงเหรอจ๊ะ"

"ใครๆเขาก็ทำยังงี้ทั้งนั้นแหละ"

"ทองกวาวว่าเปลืองเงินเปล่าๆนะจ๊ะ"

"คิดมากไปได้ เราจะเอาผลประโยชน์จากเขา เราก็ต้องรู้จักลงทุนก่อน"

"แต่ทองกวาวไม่เห็นอยากจะได้เลยนี่จ๊ะ ผลประโยชน์ อะไรเนี่ย ทองกวาวประกวดเพื่อการกุศลเท่านั้นนี่จ๊ะ"

"เอาเถอะน่า ย่าน่ะเลี้ยงอาหารพวกตำรวจทั้งโรงพักเขาตอนปีใหม่ทุกปีอยู่แล้ว เราอยู่สุขสบายก็เพราะผู้พิทักษ์ สันติราษฎร์อย่างพวกเขานี่แหละ มันเป็นสินน้ำใจเล็กๆน้อยๆ ที่เราจะตอบแทนพวกเขาได้"

สองสาวเงียบไป แล้วอีกพักย่าหลานก็นั่งแท็กซี่เข้ามาจอดหน้าโรงพักที่หมู่น้อยถูกจับขังเมื่อวาน ซึ่งเมื่อสักครู่

คล้าวเพิ่งจะออกไปซื้อข้าวให้เพื่อนๆที่ยังรวมตัวกันอยู่ในห้องขัง

เมื่อย่าหลานขึ้นมาบนโรงพัก บุปผาเกือบจะได้เห็นแว่นอยู่แล้ว ถ้าทองกวาวไม่มาดึงตัวให้รีบตามทองคำที่เดินลิ่วไปทักทายนายตำรวจอีกด้าน

"สวัสดีค่าท่านรอง ท่านผู้กำกับอยู่ไหมคะ วันนี้ดิฉันเอาอาหารมาเลี้ยงสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าน่ะค่ะ เดี๋ยวเรียนเชิญนะคะ อ้อ นี่หลานสาวดิฉันค่ะ จะลงประกวดเทพีเหมันต์ปีนี้ ฝากด้วยนะคะ...ไปเร้วทองกวาว บุปผา รีบไปจัดเตรียมข้าวของ"

สองสาวจะก้าวตามทองคำ พลันได้ยินผู้ต้องหาในห้องขังโวยวาย บุปผารู้สึกคุ้นหูจะหันกลับไปมอง แต่ก็ถูกทองกวาวลากตัวออกไป เพราะกลัวย่าจะดุเอา

คล้าวได้ข้าวมาสองห่อกับโอเลี้ยงแล้วรีบจ้ำกลับโรงพัก แต่ความรีบร้อนทำให้คล้าวข้ามถนนโดยไม่ทันดูว่าข้างหลังมีรถยนต์คันหนึ่งแล่นมา กระทั่งเสียงแตรรถดังลั่นขึ้น คล้าวสะดุ้งตกใจจนห่อข้าวกับถุงโอเลี้ยงหลุดมือร่วงลงพื้น

"เฮ้ย...ไอ้บ้า อยากตายรึไงวะ เดินถนนไม่ดูตาม้าตาเรือ" ธรรมรักษ์ร้องด่าออกมาจากในรถ ธีระที่นั่งมาด้วยรีบขันอาสาลงมาจัดการเอง

"ไอ้ซุ่มซ่าม มาชกกันเลยดีกว่ามา ไม่เห็นรึไงว่ารถมา เกิดรถหรูๆของเถ้าแก่เขาเป็นรอยขึ้นมา เอ็งมีปัญญาชดใช้เขารึไง"

ธีระขึงขังดุดันจนคล้าวกลัวหงอ ยกมือไหว้ขอโทษปลกๆ

"ไอ้บ้านนอกเอ๊ย...เอ๊ะ ไอ้บ้า ยังจะมามองหน้าอีก รึจะลองดี"

"ไม่หรอกครับ ฉันขอโทษจ้ะ" คล้าวรีบเก็บห่อข้าวกับถุงโอเลี้ยงแล้วเดินหนีไปทันที ธีระได้ใจหันกลับมาพูดกับธรรมรักษ์ว่า

"คนระดับนี้อย่าไปแลกกับมันดีกว่าครับเถ้าแก่ ดูสิครับมันกลัวบารมีเถ้าแก่หัวหดไปเลย"

เข้าไปถึงโรงพัก คล้าวตัดสินใจเอาถุงโอเลี้ยงที่แตกเลอะเทอะทิ้งถังขยะแล้วเดินเข้าไปล้างมือในห้องน้ำ เพียงแค่ คล้าวคล้อยหลัง ทองคำกับหลานสาวสองคนก็ลงมาจากข้างบนพอดี

"ท่านผู้กำกับโรงพักนี้ท่านใจดีนะ เรามาทำความรู้จักท่านเอาไว้ อีกหน่อยจะขอความช่วยเหลืออะไร ก็ไม่ใช่เรื่องยากหรอก" สิ้นเสียงของทองคำ ธรรมรักษ์กับธีระเดินยิ้มเข้ามาสวัสดี เลยโดนทองคำแขวะเข้าให้ว่า "มาอะไรเอาป่านนี้ล่ะยะ เขาเลี้ยงกันไปจนเสร็จหมดแล้ว"

ธรรมรักษ์ขอโทษที่ตนตื่นสายไปหน่อย ธีระเสริมว่าเมื่อคืนกว่าจะเสร็จงานก็ตีสามตีสี่ ทองคำจึงไม่ว่าอะไรอีก พอธรรมรักษ์จะขอขึ้นไปพบท่านผู้กำกับด้วยเรื่องการประกวด ทองคำรีบขัดขึ้นว่า

"ไม่ต้องหรอกย่ะ ท่านผู้กำกับท่านออกไปข้างนอกแล้ว วันหลังค่อยมาใหม่ละกัน ฉันต้องรีบพาทองกวาวบุปผาไปลองชุด"

"งั้นเชิญที่รถเลยครับคุณป้า ไปครับน้องทองกวาว น้องบุปผา"

ทุกคนเดินตามกันออกไปที่รถ ส่วนคล้าวออกจากห้องน้ำหิ้วห่อข้าวขึ้นโรงพักเอาไปให้เพื่อนๆในห้องขัง ทุกคนเพิ่งงัวเงียตื่น แว่นบ่นคล้าวไม่น่าเรียกเลย ตนกำลังฝันดีว่าบุปผามาหา มายืนจ้องอยู่ใกล้ๆ ไข่กับตี๋เลยว่าแว่นเป็นเอามาก คิดถึงบุปผาจนเพี้ยนไปแล้ว

หมู่น้อยมองห่อข้าวอันน้อยนิดแล้วรู้สึกผิดที่ตัวเองทำให้เพื่อนต้องพลอยลำบากไปด้วย แต่คล้าวก็ให้กำลังใจ ไม่ให้หมู่น้อยคิดมาก ยังไงเราก็เพื่อนกัน...พอจะลงมือกิน เหมือนเทวดามาโปรด จ่านำอาหารหลายจานเข้ามาให้ บอกว่ามีคนใจบุญเอามาเลี้ยงปีใหม่ ทุกคนยิ้มออก ได้อิ่มท้องกันอีกหนึ่งมื้อ

สายอีกหน่อย คล้าว แว่น ตี๋และไข่พากันออกไปเล่นดนตรีแถวชุมชนใกล้ๆโรงพัก ซึ่งมีผู้คนให้ความสนใจและโยนเศษสตางค์มาให้ นับรวมแล้วได้สิบสองบาท ชาวคณะดีใจมากจะเอาไปซื้อข้าวมื้อกลางวันแล้วกลับไปกินกับหมู่น้อยในห้องขัง แต่ไม่ทันจะก้าวขา ก็มีเจ้าถิ่นสองคนเข้ามาวางอำนาจจะยึดเงินจำนวนนี้ แต่พวกคล้าวไม่ยอม สู้ยิบตาก่อนจะใส่ เกียร์โกยหนีไม่คิดชีวิตเพราะพวกมันยกโขยงกันมาอีกเพียบ

เมื่อกลับขึ้นโรงพักมาถึงหน้าห้องขัง ปรากฏว่าน้อยหายไป ทุกคนใจไม่ดีนึกว่าตำรวจเอาตัวน้อยไปประหาร รำพึงรำพันโศกาอาดูรกันใหญ่

"พวกเอ็งกลับกันมาแล้วเหรอ"

เสียงนั้นทำให้ทุกคนหันขวับไปมองด้านหลัง เห็นน้อยยืนยิ้มเผล่ หลังจากไปเข้าห้องน้ำมา คล้าวรีบไล่น้อยกลับเข้าไปข้างในเพราะกลัวผู้กองจะนึกว่าน้อยแหกห้องขังออกมา แต่จ่าเดินมาบอกทุกคนว่า ไม่ต้องกลับเข้าไปแล้ว ผู้กองท่านสั่งปล่อยแล้ว ทุกคนดีใจถึงกับกระโดดโลดเต้นกอดกันกลม แต่คล้าว ยังไม่วายสงสัย ถามคุณจ่าว่าทำไมถึงปล่อยเพื่อนผม

"เปลืองงบประมาณแผ่นดิน   อีกอย่างจะได้แบ่งๆให้

คนอื่นเขามาอยู่กันมั่ง ไปได้แล้ว กลับบ้านกลับช่องไป"

ทุกคนยกมือไหว้จ่าแล้วเฮละโลวิ่งกันออกมาคว้าเครื่องดนตรีประจำกายลงจากโรงพักไปด้วยความดีใจ ตั้งใจกันว่าจะกลับหนองทรายขาวเสียที เพราะไม่มีที่ไหนอยู่แล้วสุขกายสบายใจเท่าบ้านเราอีกแล้ว โดยตกลงกันว่าต่อไปนี้จนกว่าจะออกนอกเขตกรุงเทพฯ เราจะปิดหูปิดตาไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น ใครจะเป็นจะตายยังไงก็ไม่เกี่ยวกับเรา มุ่งหน้าสู่หนองทราย-ขาวบ้านเราลูกเดียว

ทุกคนขึงขังแน่แน่วในการกลับบ้าน แต่อีกเดี๋ยวเดียวเกิดวอกแวกเพราะเดินไปเจอแบงก์สิบบาทหล่นอยู่บนพื้นข้างถนน ตอนแรกก็ใจแข็งไม่มีใครหยิบสักคน แต่พอแบงก์ถูกลมพัดปลิวมาหล่นอยู่ข้างหน้า ทุกคนลงความเห็นกันทันทีว่า มันอยากไปกับเรา

เก็บเงินได้สิบบาทเอาไปฟาดก๋วยเตี๋ยวกันคนละชามอย่างเอร็ดอร่อย แต่พอเจ้าของร้านมาคิดเงิน ทุกคนแทบหงายหลังตกเก้าอี้ เพราะราคารวมแล้วตั้งยี่สิบห้าบาท ขอลดหย่อนก็ไม่ได้ เลยต้องขอเป็นลูกศิษย์อาจารย์โกย แต่หมู่น้อยที่รั้งท้ายดันวิ่งหนีไม่ทัน ถูกเจ้าของร้านคว้าตัวล็อกคอเอาไว้ได้

ในที่สุดทุกคนก็ต้องกลับมาชดใช้ค่าก๋วยเตี๋ยวด้วยการล้างจานชามให้เจ้าของร้าน ซึ่งต้องล้างไปจนกว่าเขาจะปิดร้าน แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดี บุญยืนมากินก๋วยเตี๋ยวที่นี่และจำพวกแว่นได้  ดังนั้นบุญยืนจึงพาชาวคณะ

ของแว่นกลับไปคุยกันที่บ้านของเขา

แล้วทุกคนก็ต้องเงื่องหงอยคอตกด้วยความผิดหวังเมื่อบุญยืนบอกว่า เจ้านายของตนเพิ่งตัดสินใจรับวงดนตรีอื่น ไปแล้วเพราะรอไม่ไหว หมู่น้อยโทษตัวเองที่ถูกจับจนทำให้ เพื่อนๆเสียเวลา แต่คล้าวบอกว่าไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้น

"แล้วพวกคุณจะเอายังไงกันต่อไป" บุญยืนถาม

"พวกเราก็คงจะกลับหนองทรายขาวกันครับ"

"เข็ดแล้วครับกรุงเทพฯ ถ้าไม่ได้งานเล่นดนตรี พวกเราก็ขอกลับบ้านดีกว่า"

"ผมนึกออกแล้ว พรุ่งนี้จะมีงานฤดูหนาวมีการแสดงดนตรีในเวทีประกวดเทพีเหมันต์ด้วย พวกคุณสนใจจะไปเป็นนักดนตรีเสริมไหม"

ทุกคนตื่นเต้นตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "สนใจครับ... สนใจ"

ooooooo

ก้อนกับทับทิมเพิ่งได้รับจดหมายจากทองกวาวที่เขียนมาเล่าเรื่องประกวดเทพีเหมันต์ซึ่งจะจัดในคืนนี้ ทับทิมตื่นเต้นมากอยากไปเชียร์ลูกหลานติดขอบเวที แต่ในเมื่อเดินทางไปไม่ทันก้อนก็จะไปจองโทรภาพของจอมให้เปิดช่องที่เขาถ่ายทอดสดตามที่ทองกวาวบอกมา

เพชรกับหมึกไชโยโห่ร้องด้วยความดีใจที่ทองกวาวกับบุปผาจะได้ออกโทรภาพ ทั้งคู่วิ่งออกจากบ้านไปป่าวประกาศคนในตลาด พอดีเจอคอนกับสายใจกำลังขายปลาขายผัก ทั้งคู่จึงแวะบอก คอนและแม่ค้าใกล้เคียงต่างพากันตื่นเต้น แต่สายใจกลับหัวเราะก๊ากออกมา

"โอ๊ย ขำว่ะ อยากจะหัวเราะให้ฟันร่วง น้ำหน้าอย่างพี่สาว

เอ็งสองคนน่ะเหรอวะจะประกวดเทพีเหมันต์ ขืนประกวดก็ตกรอบ แรกร่วงลงมาจากเวทีน่ะสิ ผู้หญิงกรุงเทพฯเขามีแต่สวยๆทั้งนั้น พี่สาวเอ็งนี่ช่างไม่รู้จักเจียมกะลาหัว แค่ในหนองทรายขาวนี่ความสวยก็กินข้าไม่ลงแล้ว ริอ่านจะไปประกวดกับคนกรุงเทพฯ จริงไหมพวกเรา"

แม่ค้าและชาวบ้านที่มุงฟังอยู่ไม่มีใครหืออือกับสายใจสักคน เพชรเคืองสายใจ ท้าให้รอดูทางโทรภาพคืนนี้ก็แล้วกัน

"ชิ...จะมาดูให้เสียสายตาทำไม ค่าดูตั้งบาทนึงเนอะป้าคอน"

"พ่อฉันเขาเหมารอบโทรภาพคืนนี้ ดูฟรีกันทุกคน ใครไม่อยากดูก็ไม่ต้องมา"

ชาวบ้านเฮด้วยความดีใจ สายใจจ๋อยไม่มีใครอยู่ข้างตนเลย

"ถ้ายังงั้นต้องรีบขายของกันแล้วละ" คอนกระวีกระวาด ชาวบ้านต่างคึกคักหันไปตะโกนขายของกันเซ็งแซ่ เศรษฐกิจสะพัดขึ้นทันที เพชรกับหมึกยิ้มแฉ่งแล้วเดินหน้าโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่อไป สายใจค้อนขวับอย่างหมั่นไส้และอิจฉา แอบแช่งทองกวาวให้เดินตกเวที

ค่ำลงก้อนแต่งตัวเต็มยศแถมยังให้หมึกขัดถูรองเท้าจนมันวับ บอกว่าคืนนี้ตนต้องหล่อให้สมกับพ่อเทพีเหมันต์ ฝ่ายทับทิมก็ไม่น้อยหน้าแต่งสวยด้วยชุดไทยประยุกต์ราวกับจะขึ้นเวทีประกวดกับเขาด้วย...

ส่วนที่เวทีจริงในกรุงเทพฯ บัดนี้มีประชาชนจำนวนมากทยอยกันเข้ามาจับจองที่นั่งซึ่งมีทั้งแขกรับเชิญและผู้ชมที่ซื้อบัตร ถัดจากที่นั่งคนดูถูกกั้นด้วยแผงเหล็กแล้วขึงที่สำหรับคนยืนดู  คล้าวกับเพื่อนเกาะแผงเหล็กจับจองที่ได้มุมหนึ่งเผชิญหน้ากับเวทีไกลๆ

บุญยืนเดินฝ่าผู้คนมามองหากลุ่มของคล้าวอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินเข้าไปบอกพวกเขาว่า

"คุณคล้าว คุณแว่น พวกคุณจะไปหลังเวทีตอนนี้ไม่สะดวกเลย คนมากจริงๆ เพราะใกล้เวลาประกวดแล้ว"

แว่นบอกไม่เป็นไร พวกเราอยู่ตรงนี้ได้ แต่ตี๋ท้วงแว่นว่าถ้าเราไปหลังเวทีก็จะได้เห็นสาวๆสวยๆทั้งนั้นเลย

คล้าวไม่เห็นด้วยปรามตี๋ว่าอยู่ตรงนี้แหละดีแล้ว  เข้าไปก็เกะกะ เขาเปล่าๆ

"นั่นสิ อยู่ตรงนี้ก็ได้ดูเหมือนกัน อีกอย่างเผื่อกล้องโทรภาพเขาจับมาเราจะได้ออกโทรภาพด้วยนะโว้ย"  คำพูดของไข่ ทำให้หมู่น้อยนึกถึงสายใจขึ้นมาทันที รำพึงออกมาว่า

"ไม่รู้น้องสายใจของข้าจะดูอยู่รึเปล่า"

"ประกวดเทพีเสร็จพวกคุณอาจจะได้ขึ้นไปเล่นแทนนักดนตรีบางคนนะ รอกันอยู่ตรงนี้นะ อย่าไปไหนแล้วผมจะมาตาม" บุญยืนกำชับแล้วเดินฝ่าผู้คนกลับไป ทั้งกลุ่มรู้สึกมีความหวัง ชะเง้อมองไปบนเวทีอย่างตื่นตาตื่นใจ

ooooooo

สายใจแต่งหน้าแต่งตัวสวยเข้มกว่าปกติ ผมเผ้า ก็ตั้งใจทำเสียอลังการจนน่าตกใจ ขนาดมิ่งเห็นคนแรกยังตกใจจนจานข้าวร่วงจากมือ ส่วนเชนกับดวงใจนั้นแทบ จำสายใจไม่ได้ ดวงใจถามพี่สาวว่าจะไปไหนมืดๆค่ำๆ

"จะไปดูโทรภาพซะหน่อย คนหนองทรายขาวจะได้ดูเปรียบเทียบกันให้เห็นกับตาไปเลยว่าระหว่างข้ากับนังทองกวาวใครมันสวยกว่ากัน"

"ข้าจะไปธุระหลังวัดพอดี เอ็งเดินไปส่งข้าด้วยนังสายใจ"

"ทำไมฉันจะต้องไปส่งพ่อหลังวัดด้วย"

"อ้าว ผีในป่าช้ามันเห็นเอ็งมันจะได้ตกใจไม่มาหลอกข้าน่ะสิวะ"

สายใจโกรธแทบเต้น กรี๊ดใส่หน้าพ่อแล้วปึงปังลงจากเรือนไปทันที พอไปถึงตลาดซึ่งผู้คนจับจองที่นั่งกันสลอนเพื่อรอชมการประกวดเทพีเหมันต์ผ่านจอโทรภาพของจอม สายใจเดินเชิดหน้าเข้ามากับคอน ชาวบ้านคนหนึ่งทักสายใจเสียงหลง

"ต๊าย...นังสายใจเหรอเนี่ย"

"สวยจนจำไม่ได้ใช่ไหมล่ะ สวยแบบเนี้ยเขาเรียกว่าสวยซ่อนรูปย่ะ"

"แหม ยังกะจะเข้าประกวดกะเขาเลยนะ"

"ก็แหงละ รู้ช้าไปนิดนึง ไม่งั้นฉันไปประกวดแล้ว แต่ก็ดีแล้วละ ขืนไปประกวดเข้าจริงๆ ใครบางคนที่มันคิดว่าตัวเองสวยซะเต็มประดาจะเสียหน้าเปล่าๆ"

คณะของก้อนชักแถวกันเข้ามาพอดี ก้อนป่าวประกาศเสียงดังฟังชัดว่า เศรษฐีก้อนเจ้ามือค่ำนี้มาแล้ว จอมรีบเดินมาทักทับทิมว่าวันนี้สวยจริงๆ ทับทิมยิ้มหน้าบานทันที

"ไม่ได้สิ ลูกสาวหลานสาวฉันขึ้นเวทีประกวดทั้งที มันก็ต้องให้สมหน้าสมตาหน่อย"

สายใจเบะปากใส่ทับทิม แต่คอนส่งยิ้มให้ ทับทิมเห็นแล้วกลับสะบัดหน้าใส่คอน จากนั้นจอมก็ทวงเงินค่าเหมารอบจากก้อนหนึ่งร้อย ก้อนใจดีให้ไปสองร้อยเลย แต่ชาวบ้านที่มาดูต้องช่วยกันเชียร์ทองกวาวกับบุปผาดังๆด้วย

หมึกกับเพชรจัดแจงหาที่นั่งแถวหน้าให้ก้อนกับทับทิม ก้อนหันไปเห็นคอนที่กำลังจับจองที่นั่งกับสายใจ ก็เลยร้องเรียกคอนมานั่งด้วยกันตรงนี้ ทับทิมไม่พอใจต่อว่าก้อนไปเรียกมันมาทำไม ก้อนไม่ตอบแต่ให้ทับทิมเฉยไว้

พอสายใจพาคอนเข้ามา คอนขอบใจก้อนที่ให้มานั่งข้างหน้าเห็นชัดแจ๋ว

"ไม่ต้องมาขอบอกขอบใจอะไรหรอก ที่ข้าเรียกเอ็งมานั่งตรงนี้ เอ็งจะได้เห็นชัดๆว่าทองกวาวลูกสาวข้าน่ะมันสวยหยาดฟ้ามาดินขนาดไหน  เอ็งจะได้เอาไปเปรียบดูกับไอ้คล้าว

ลูกชายเอ็งว่ามันขี้เหร่ไม่ได้ควรคู่กับลูกสาวข้าเลยแม้แต่

กระผีกริ้น"

คอนหน้าเจื่อนไปทันที แต่ทับทิมแสยะยิ้มสะใจ

"มาแล้วพ่อ มาแล้ว" เสียงเพชรดังขึ้น ท่าทางตื่นเต้นมากๆกับภาพในจอ

ooooooo

บนเวทีประกวด พิธีกรเริ่มประกาศรายชื่อสาวงามผู้เข้าประกวดทั้งหมด คล้าวกับแว่นพอได้ยินชื่อทองกวาว กับบุปผาก็ตะลึงพรึงเพริดนึกว่าตัวเองหูฝาดไป แต่พอสองสาวเดินปะปนออกมากับสาวงามคนอื่นๆ คล้าวก็บอกแว่นว่าเราไม่ได้หูฝาดหรอก

กลุ่มของคล้าวตื่นเต้นกันใหญ่ ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้ เจอทองกวาวกับบุปผาในงานนี้ หมู่น้อยอยากให้เพื่อนได้สมหวังได้ใกล้ชิดคนรัก จึงแอบมุดเข้าไปหาผู้ควบคุมวงดนตรีแล้ววางโน้ตเพลงก่อนยกมือไหว้เขาอย่างขอร้อง

ทันใดเสียงเพลงบรรเลงบนเวทีก็เงียบลง ทำเอาคนในงานและที่รอชมการถ่ายทอดทางบ้านพากันโห่ฮา แต่อีกครู่เดียวผู้ควบคุมวงก็ให้สัญญาณนักดนตรีขึ้นเพลงใหม่ คล้าว ตะโกนเรียกชื่อทองกวาวสุดเสียง ก่อนเดินฝ่ากลุ่มคนออกไปร้องเพลง

ทองกวาวกับบุปผาตะลึงมองคล้าวอย่างไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้พบกัน เสียงเพลงของคล้าวสะกดผู้ชมได้เป็นอย่างดี แต่ธรรมรักษ์กับธีระสงสัยว่าไอ้หมอนี่เป็นใคร แล้วทำไมถึงทำเหมือนรู้จักทองกวาว ถึงขนาดขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีคู่กัน แถมยังจับมือถือแขนราวกับเป็นแฟนกันด้วย

ที่ตลาดหนองทรายขาว เพชรกับหมึกดีใจสุดๆที่คล้าว ได้พบทองกวาว เปรียบเหมือนพระเอกตามหานางเอกเจอ แล้วที่สุดก็จะได้แต่งงานกัน ก้อนได้ยินแล้วอารมณ์เสียหันมาเฉ่งคอนว่าไอ้คล้าวมันเข้าไปในโทรภาพได้ยังไง

"ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันพ่อก้อน"

"ไม่รู้ได้ยังไง เป็นแม่ลูกกัน"

"ฉันไม่รู้จริงๆแม่ทับทิม ฉันรู้แต่ว่าคนเราถ้ามันเกิดมาคู่กันแล้ว ยังไงมันก็คงไม่คลาดแคล้วจากกันไปได้หรอกจ้ะ

ต่อให้มันต้องถูกพรากจากกันสุดหล้าฟ้าเขียว  มันก็ต้องตามหา

กันเจอจนได้น่ะแหละจ้ะ"

ก้อนหัวเสียทำอะไรไม่ได้ พุ่งเข้ามาตบหลังโทรภาพระบายอารมณ์ สายใจก็ขัดใจลุกมาทุบโทรภาพด้วยอีกคน พร้อมกับตะโกนสั่งคล้าวให้ออกมาเดี๋ยวนี้ สมุนจอมเห็นดังนั้นรีบเข้ามาขวางและกำราบก้อนกับสายใจเพราะกลัวเครื่องโทรภาพจะพัง

เพลงไพเราะกินใจของคล้าวกับทองกวาวที่ร้องโต้ตอบกันบนเวทีจบลงท่ามกลางเสียงปรบมือดังกึกก้องของผู้ชม แต่ทั้งคู่ยังไม่ทันได้พูดอะไรกันสักคำ เจ้าหน้าที่จัดงานก็เข้ามาดึงตัวคล้าวแยกออกไป โดยที่ทองกวาวได้แต่ยืนมองเพราะเธอยังอยู่ในช่วงของการประกวดเทพีเหมันต์

คล้าวกลับมายืนรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ แล้วอีกสักครู่ทั้งกลุ่มก็ได้เฮเมื่อได้ยินพิธีกรประกาศชื่อผู้ครองตำแหน่งเทพีเหมันต์ คือทองกวาว และตำแหน่งรองคือบุปผา

พวกทองคำที่ลุ้นอยู่ด้วยในงานก็ตื่นเต้นยินดี เช่นเดียวกับพวกก้อนที่หนองทรายขาวซึ่งดูผ่านจอโทรภาพต่างกระโดดโลดเต้นไชโยโห่ร้องด้วยความดีใจ รวมทั้งชาวบ้านที่มาเชียร์ ยกเว้นสายใจที่หน้าบูดหงุดหงิดขึ้นมาด้วยความอิจฉาทองกวาว

กลับมาถึงบ้านแล้วเพชรกับหมึกยังคึกคักดีใจไม่เลิกรา ก้อนกับทับทิมถึงจะดีใจแต่ก็อดเคืองลูกสาวไม่ได้ที่ไปโอบกอดกับคล้าวบนเวทีให้คนเขาเห็นกันทั่วประเทศ ทั้งคู่เลยตวาดดุเพชรกับหมึกให้หุบปากเสียที ไปอาบน้ำอาบท่าเข้านอนได้แล้ว แทนที่เพชรจะไปแต่โดยดี กลับทวงถามก้อนเรื่องแพ้พนันขึ้นมา ก้อนทำหน้างง ถามว่าข้าไปพนันอะไรกับเอ็งตั้งแต่เมื่อไหร่

"พ่อนี่ทำเป็นขี้ลืมไปได้ ก่อนพี่คล้าวเขาจะเข้ากรุงเทพฯ พ่อพนันกะฉันว่าพี่คล้าวไม่มีทางหาพี่ทองกวาวเจอหรอกไง คืนเนี้ยเห็นจะจะเต็มลูกตาเลย พยานก็มีทั้งตลาด พ่อจะว่ายังไง"

"อะไร ใครพูด" ก้อนเสียงแข็ง

"อ้าวลุง คนเราแพ้แล้วมันต้องรู้จักแพ้นะจ๊ะลุง" หมึก ตอกย้ำ

"เออ...แพ้ก็ได้โว้ย แล้วเอ็งจะเอาอะไรกัน จะเอาเงินละสิ"

"เงินน่ะมันเรื่องเล็กพ่อ ฉันขอแค่ให้พี่คล้าวมาเป็น พี่เขยฉันก็พอแล้ว"

เพชรกับหมึกดีใจดี๊ด๊ากันสุดๆ แต่ทับทิมหงุดหงิด ส่วนก้อนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันกร้วมๆ ยังไงก็รับไม่ได้

ooooooo

เสร็จงานประกวดแล้วทองกวาวกับบุปผากลับมาบ้านคุณนายทองคำโดยที่ไม่ได้เจอพวกคล้าวอีก แต่ถึงกระนั้นสองสาวก็ดีใจจนนอนไม่หลับ ทองกวาวบอกว่าจะรีบเรียนตัดเสื้อให้จบเร็วๆ จะได้กลับหนองทรายขาวตามที่ได้สัญญากับพี่คล้าวไว้ แต่บุปผายังอยากอยู่กรุงเทพฯ ต่อเพราะหวังว่าจะมีโอกาสได้เป็นดารา

"งั้นก็ต้องบอกพี่แว่นให้มีแฟนใหม่ไปเลย ไม่ต้องคอยบุปผาหรอก บุปผาอยากเป็นดารามากกว่า"

"ว้าย ไม่ได้นะ ทำอย่างนั้นไม่ได้เด็ดขาดนะทองกวาว"

"งั้นบุปผาก็ต้องเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วละ"

"ไม่เลือกไม่ได้รึไง ก็บุปผาอยากได้ทั้งสองอย่างเลยนี่" บุปผาโลภมากเสียจนทองกวาวส่ายหน้าขำๆ

ส่วนที่ห้องรับแขกชั้นล่าง ธรรมรักษ์กำลังเดินพล่านอย่างว้าวุ่นใจ โดยมีทองคำกับธีระนั่งมองอยู่มุมหนึ่ง

"ไอ้บ้านั่นมันต้องเป็นแฟนทองกวาวแน่ๆเลยครับคุณป้า"

"ป้าว่าไม่น่าเป็นไปได้หรอก ทองกวาวไม่เคยบอกป้า ซักคำว่ามีแฟน"

"โธ่...เรื่องแบบนี้ใครเขาจะเที่ยวป่าวประกาศให้ใครต่อใครรู้ล่ะครับ"

"ไอ้เจ้าหมอนั่นอาจจะเป็นแค่เพื่อนที่มาจากบ้านนอกก็ได้"

"เป็นเพื่อนยังไงมันก็ต้องไม่จับมือถือแขนกันนะครับคุณป้า ผมไม่ยอมนะครับ ผมรักของผม ไอ้บ้านนอกนั่นมันเป็นใคร จู่ๆจะมาแย่งของผม"

"ใจเย็นๆน่าพ่อธรรมรักษ์"

"คุณป้าต้องช่วยผมนะครับ คุณป้าทำให้ผมได้เจอ ทองกวาว ทำให้ผมรักน้องเขาแล้ว คุณป้าต้องทำให้ผมสมหวัง ไม่งั้นผมไม่ยอมด้วย"

ทั้งคำพูดและท่าทางของหลานสามีทำให้ทองคำรู้สึกหนักใจไม่น้อยเลย

ooooooo

เช้าขึ้น ข้าวของสมบัติส่วนตัวของหมึกถูกโยน ออกมาจากในบ้านด้วยความโกรธ หมึกตาลีตาลานวิ่งเก็บสมบัติของตัวเองชิ้นแล้วชิ้นเล่าที่ก้อนโยนออกมา

"ไอ้ลูกหลานไม่รักดี มีสมองแต่ไม่รู้จักคิด กูอยากจะบ้าตาย"

ของชิ้นสุดท้ายที่ถูกโยนออกมาคือวิทยุทรานซิสเตอร์ หมึกทิ้งทุกอย่างในมือแล้วกระโจนรับวิทยุเอาไว้ได้ก่อนจะร่วงพื้นพังเสียหาย

"ไอ้หมึก ถ้าเอ็งยังขืนพูดชื่อไอ้คล้าว ไอ้แว่น ให้ข้าได้ยินอีก เอ็งไม่ต้องอยู่บ้านหลังนี้ จะไสหัวไปไหนก็ได้"

หมึกจ๋อยสนิท ทับทิมก็สีหน้าไม่สู้ดี ตามออกมาขอร้องก้อนให้ใจเย็นๆก่อน

"ไม่เย็นแล้วโว้ย ฉันนอนไม่หลับทั้งคืน จะข่มตาลงก็เห็นแต่ภาพอีนังลูกหลานไม่รักดี กลุ้มโว้ยกลุ้ม จะต้องจัดการขั้นเด็ดขาดกันซะแล้ว"

เพชรเพิ่งกลับจากตลาดวิ่งเข้ามาไม่ดูตาม้าตาเรือ ขอตังค์พ่อหนึ่งบาทจะเอาไปซื้อไอติม เลยโดนก้อนทั้งด่าทั้งไล่ ให้ไปไกลๆ เพชรถึงกับจ๋อยตามหมึกไปอีกคน จากนั้นก้อนก็นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดขบคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะบอกทับทิมว่า ตนคิดอะไรดีๆออกแล้ว

ขณะเดียวกันนั้น ที่ศาลาท่าน้ำบ้านคุณนายทองคำ คล้าวกับผองเพื่อนพายเรือมาจอดเทียบท่า พลางช่วยกันทำเสียงนกกระปูด ไม่นานทองกวาวกับบุปผาซึ่งตากผ้าอยู่หลังบ้านก็วิ่งมาที่ศาลา คล้าวกับแว่นรีบขึ้นจากเรือไปหาสองสาว โดยที่ตี๋ ไข่ และหมู่น้อยคอยอยู่ในเรือ

สองคู่รักยิ้มระรื่นทักทายกันด้วยความคิดถึง ทองกวาวแปลกใจว่าพวกเขามาที่นี่ได้ยังไง คล้าวปากหวานทันทีว่า ไม่ว่าทองกวาวอยู่ที่ไหน พี่ก็ต้องตามหาจนเจอให้ได้

"ไปจ้ะ ทองกวาวจะพาพี่คล้าวไปหาย่าทองคำ"

"อย่าเพิ่งเลยทองกวาว พี่รู้ตัวดีว่าพี่มันต่ำต้อยเกินไป แค่พี่ได้มาเห็นกับตาว่าทองกวาวอยู่ดีมีความสุข พี่ก็สบายใจแล้ว...ทองกวาว พี่จะกลับหนองทรายขาววันนี้แล้วนะ"

"จ้ะ พี่คล้าว แล้วทองกวาวจะรีบตามไป ทองกวาวเรียนจบเมื่อไร เราเจอกันที่หนองทรายขาวบ้านเรานะจ๊ะ"

คล้าวประคองมือทองกวาวขึ้นจูบอย่างทะนุถนอม ส่วนคู่แว่นกับบุปผาก็ไม่น้อยหน้า โอบกอดกันพูดจาจ๊ะจ๋ากันหวานซึ้ง จนสามหนุ่มในเรือร้องแซวด้วยความอิจฉาตาร้อน...

"ชื่นใจพี่เหลือเกินทองกวาว พี่จะอดทนรอทองกวาวที่หนองทรายขาว ไม่ว่าพี่จะต้องทรมานใจเพราะคิดถึงทองกวาวขนาดไหนก็ตาม" คล้าวจูบมือทองกวาวอีกครั้ง ทองกวาวเอียงอาย ดึงมือออกจากมือคล้าว แล้วใช้มือสางผมตัวเองเบาๆ ได้เส้นผมติดมือมา

"ทองกวาวให้พี่คล้าวจ้ะ เก็บเอาไว้แทนความระลึกถึง พี่คล้าวจะได้แน่ใจว่าหัวใจทองกวาวไม่ได้ไปไหน แต่อยู่กับพี่คล้าวเสมอทุกลมหายใจเข้าออก"

คล้าวรับเส้นผมนั้นมาแนบไว้กับอกตัวเองด้วยความตื้นตันดีใจ ทันใดเสียงทองคำร้องเรียกสองสาวดังแว่วมา สองหนุ่มถึงเวลาต้องลาจาก แว่นไม่รอช้าดึงมือบุปผามาระดมจูบอีกชุดใหญ่ ก่อนจะผละไปลงเรือพร้อมกับคล้าว...

ooooooo

มนต์รักลูกทุ่ง

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด