ตอนที่ 14
พอออกมานั่งที่เก้าอี้ยาวนอกบ้าน หอมพุธเงยหน้ามองเขนที่ยืนอยู่ถามว่ามีความลับอะไรจะบอกหรือ เขนขอดูพระของหอม ถูกบ่นว่าจะดูอะไรกันบ่อยๆ
พอเขนรบเร้าก็จำต้องถอดให้ดู เขนดูแล้วเปรยว่าของปลอมหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะดูใกล้ๆแล้วไม่ค่อยเหมือนองค์เก่าของหอมเลย แล้วเอาสร้อยพระของตัวเองออกมาขอเปลี่ยน รับรองว่าเป็นของจริงแท้แน่นอนจะได้ป้องกันภูตผีปีศาจได้
หอมพุธลุกพรวดตวาด “อย่านะ!” หอมพุธโกรธจนตากลับเป็นตาขาวหมด ไล่เขน “ไปให้พ้น!!”
เมื่อปัญหาชัดเช่นนี้แล้ว เขนยื่นคำขาดให้พุธกันยาคืนร่างให้เพื่อนตน พุธกันยาดึงดันบ้าคลั่งขู่จะหักคอเขน
“คุณพุธ เราพูดกันดีๆก็ได้ เขนเคารพคุณเสมอ หอมก็เหมือนกัน คืนร่างให้หอมเถอะนะคะ คุณตายแล้ว”
ไม่ว่าเขนจะขอร้องอย่างไรพุธกันยาก็ไม่ยอมคืนร่างให้หอมซ้ำยังวิ่งหนีไปดื้อๆ เขนชูสร้อยวิ่งตามตุ้บตั้บจนเนื้อกระเพื่อม พุธกันยาสะดุดหกล้ม เขนกระโดดใส่ชูสร้อยพระขึ้น ท่ามกลางเสียงวิงวอนของพุธกันยาว่าอย่าทำอะไรตนเลย ตนก็แค่อยากคุยกับลูกกับสามี อยากอยู่กับครอบครัวเท่านั้น
“ไม่ต้องดราม่า ถึงเขนจะสงสารคุณขนาดไหน แต่เขนก็ต้องเลือกเพื่อนของเขน” เขนคล้องสร้อยพระทันที พุธกันยาร้องกรี๊ด ร่างรางๆของพุธกันยากระเด็นออกจากร่างหอมทันที
ในห้องของพุธกันยา วิญญาณหอมนอนไร้เรี่ยวแรงอยู่ในห้องท่ามกลางเสียงพายุหวีดหวิว พลันก็มีลำแสงส่องมาที่ร่างหอมม้วนร่างนั้นหอบออกไปปล่อยใส่ร่างหอมที่พุธกันยาทิ้งไว้ และเขนกับศวัสกำลังปลุกหอมด้วยความเป็นห่วง ทันทีที่วิญญาณหอมถูกปล่อยลงมาสวมร่างพายุก็สงบลง ทั้งศวัสและเขนเขย่าและเรียกหอมเมื่อยังไม่รู้สึกตัว ศวัสบอกให้พาเข้าข้างในดีกว่า แล้วช้อนร่างหอมอุ้มไป
“ศวัส...ช่วยแม่ด้วย...ช่วยแม่ด้วย...อย่าใจร้ายกับแม่นักเลย” พุธกันยาคร่ำครวญร้องไห้สะอึกสะอื้น
อุ้มหอมเข้ามาในห้องรับแขกแล้วหอมก็ยังไม่รู้สึกตัว ศวัสอุ้มขึ้นจะพาไปหาหมอ หอมรู้สึกตัวลืมตาขึ้นต่างมองหน้ากันอย่างใกล้ชิดจนต่างเขิน ศวัสรู้สึกตัววางหอมลงบอกว่า “ฉันกำลังจะพาเธอไปโรงพยาบาล” หอมพูดอุบอิบว่าตนไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ศวัสดุว่า “รู้” จนเขนขอร้องอย่าดุเลยเพราะหอมเพิ่งจะฟื้น
“แจ่ม ไปต้มข้าวต้มร้อนๆ มาให้คุณหอมน้ำหน่อย” ศวัสสั่งแจ่มเห็นสายตาที่ศวัสกับหอมมองกันก็ชวนเขนไปด้วย
ศวัสดูแลหอมอย่างใกล้ชิดห่วงใย บอกว่าเธอไม่ควรจะต้องมาเดือดร้อนจนแทบเอาชีวิตไม่รอดอย่างนี้เลย พูดอย่างผิดหวังว่า “ไม่นึกเลยว่าคุณแม่จะฉวยโอกาสทำเรื่องเห็นแก่ตัวได้ขนาดนี้”
พุธกันยามาได้ยินพอดี ศวัสเห็นอากัปกิริยาของหอมก็ถามว่าคุณแม่อยู่ที่นี่หรือ หอมพยักหน้า
“บอกท่านด้วยว่า ฉันผิดหวังในตัวท่านมาก” หอมพยายามจะไม่ให้ศวัสพูด แต่เขายังพูดต่ออย่างผิดหวังว่า “หากท่านฆ่าตัวตายจริงๆ ฉันยังไม่เสียใจและผิดหวังเท่านี้เลย”
พุธกันยาขอโทษยอมรับว่าตนผิดไปแล้ว ศวัสไม่ได้ยินแต่จะพาหอมออกไปข้างนอก ก่อนออกไปยังบอกว่า
“อ้อ...แล้วบอกคุณพุธกันยาด้วยว่า กรุณาอย่าตามมา” ทำให้พุธกันยายิ่งร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความเสียใจ
ศวัสยังพูดถึงความผิดหวังต่อพุธกันยา หอมแก้ต่างให้ว่าเพราะท่านรักเขาและคุณลุงมาก
“แต่ก็ไม่ควรมาทำให้คนอื่นเดือดร้อน” บ่นว่า “ความรักของคุณไม่ใช่การเสียสละ แต่คือการทำลาย” แล้วเตือนหอมให้ระวังตัวด้วย แต่แล้วก็บอกว่า “ฉันจะคอยระวังให้เธอ ฉันจะคอยปกป้องเธอจากคุณแม่เอง ฉันต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่คุณแม่ทำลงไป ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น จากนี้ไป ฉันจะคอยดูแลเธอ อ้อ...เอาสร้อยของเขนคืนให้เขาเสีย แล้วสวมสร้อยพระของฉันติดคอไว้เลย ห้ามเอาออกเด็ดขาด”
“ขอบพระคุณคุณหมอมากค่ะ”หอมไหว้ด้วยความซาบซึ้งใจทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาของพุธกันยาที่แอบดูอยู่ที่หน้าต่างทั้งที่แก้มยังเปื้อนคราบน้ำตา
ก่อนกลับ ศวัสยังจัดการให้หอมน้ำกับเขนอยู่ด้วยกันโดยเขนให้หอมไปอยู่กับตน ศวัสช่วยพาหอมไปส่งแล้วจึงกลับ
“เราจะผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้ ฉันสัญญา” ศวัสบอกหอมก่อนเดินออกจากห้องไป
ooooooo
เมื่อกลับถึงบ้าน ศวัสตรงไปที่ห้องของพุธกันยา กราบโกศกระดูกของแม่อ้อนวอน
“คุณแม่ ผมรู้ว่าคุณแม่อยู่ในห้องนี้ ผมมากราบขอร้องให้คุณแม่เลิกคิดที่จะสิงร่างหอมเสียที มันบาปนะครับ...หอมน้ำยังเด็ก คุณแม่อย่าเอาชีวิตของเขาไปเลย เขาควรจะได้ใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุข”
ระหว่างนั้น พุธกันยาตอบโต้น้ำตาไหลพรากว่าตนก็อยากใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุขเหมือนกันแต่ศวัสไม่ได้ยินศวัสยังอ้อนวอน และเผยความรู้สึกของตนกับผู้เป็นแม่ว่า
“ผม...ผมรักหอมน้ำ ผมอยากให้คุณแม่อวยพรให้เรา”
“ไม่...ฉันไม่อวยพรให้ใครทั้งนั้น” พุธกันยาเอามืออุดหูอย่างไม่อาจทนฟังได้
คืนนี้พุธกันยายังไปหาหอมที่ห้องพักของเขน แต่หอมมีพระที่ศวัสให้ไว้ใส่ติดตัว หอมไม่กลัวและพุธกันยาก็ทำอะไรหอมไม่ได้ พอพุธกันยาไป หอมยกพระขึ้นจบบูชา
ooooooo
วันต่อมา หอมก็ได้รับโทรศัพท์จากเจคเรียกให้ไปพบที่ออฟฟิศจะให้หอมเล่นละครเพราะหอมเซ็นสัญญาไว้แล้ว หอมบอกว่าตนไม่เล่น
“ถ้าปฏิเสธตอนนี้ ก็เท่ากับอาต้องเสียหาย หนูก็รู้ว่าทุกอย่างเตรียมพร้อม รอแค่เปิดกล้องต้นเดือนหน้า อาคงเปลี่ยนตัวนางเอกไม่ทัน ทุกคนเขาคิวเต็มหมด”
หอมหนักใจมาก ไม่อยากแสดงแต่พุธกันยาก็เซ็นสัญญาไว้แล้วเป็นลายมือหอมเหมือนเปี๊ยบ เขนบอกว่าเดี๋ยวปรึกษาคุณหมอดู แม่ก่อเรื่อง เราก็ต้องปรึกษาลูก เมื่อปรึกษาศวัส พอเขารู้จากหอมว่าพุธกันยาในร่างหอมเซ็นสัญญาแล้ว ศวัสอาสาจะคุยกับเจคให้เอง
เจครู้แก่ใจดีว่าเรื่องเป็นอย่างไร เมื่อศวัสมาขอร้อง เจคตัดสินใจว่า
“เอาอย่างนี้ ในฐานะที่ครอบครัวของหมอกับอารู้จักสนิทสนมกันมานาน อาจะยกเลิกสัญญาทั้งหมด” แต่ก็มีข้อแม้ว่า “อาจะขอร้องให้หอมน้ำเล่นให้อาสักเรื่อง เพราะอาหานางเอกไม่ได้ หลังจากนั้นก็สุดแล้วแต่เขา” ศวัสไหว้ขอบคุณ เจครับไหว้บอกไม่เป็นไร แต่ตาเป็นประกายเจ้าเล่ห์ขึ้นแว่บหนึ่ง
หอมไม่มั่นใจตัวเองว่าจะเล่นได้ ยิ่งเมื่อเห็นบทพูดยาวมากก็ยิ่งท้อ พุธกันยาอาสาจะช่วย หอมปฏิเสธอย่างเข็ดขยาดว่าไม่ต้อง ถ้าตนเล่นไม่ได้ เจคก็เปลี่ยนคนใหม่เองแหละ
ขณะเดียวกัน เจคฝันว่า ตนเรียกหากัลยาว่าอยู่แถวนี้หรือเปล่า พลันก็ปรากฏหน้ากัลยาในโน้ตบุ๊ก
เจคดีใจมากอุทาน
“กัล...คุณอยู่ในนี้จริงๆ ผมสัญญาว่าจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้คุณกลับมาให้ได้ ผมจะช่วยคุณ เราจะช่วยกัน”
พุธกันยาในโน้ตบุ๊ก ยิ้มอย่างพอใจ...แล้วหายไป เจคร้องเรียก “อย่าเพิ่งไป...อย่าเพิ่งไป...”
เจคตกใจตื่น มองไปรอบห้อง ทุกอย่างในห้องเป็นปกติ ไม่มีร่องรอยของความฝันเหลืออยู่เลย
เจคเดินออกไปดูข้างนอก ทุกอย่างก็เป็นปกติ เขากลับมาล็อกห้องนอน นัยน์ตาจับจ้องเพดานอย่างครุ่นคิด...
ooooooo
เช้านี้ ขณะศวัสกับบุรีเดินคุยกันที่สนาม พอบุรีรับรู้เรื่องราวของหอม ก็ตบไหล่ลูกชายพูดแซวๆ
“ร้ายนะเรา ทำเป็นหวังดีช่วยซ้อมบทให้เขา”
“อ้าว...ผมก็หวังดีจริงๆนี่ครับ อีกอย่าง คุณแม่ก็ทำกับหอมน้ำไว้มาก”
แล้วทั้งสองก็ชะงัก เมื่อแจ่มเดินมาบอกอย่างตื่นเต้นว่าเจอสร้อยพระแล้ว พบอยู่ในลิ้นชักนั่นเอง ศวัสขอบใจบอกว่าตนจะเอาไปคืนหอมน้ำเอง พอแจ่มไป ศวัสถามบุรีว่า “คุณพ่อคิดว่ายังไงครับ” บุรีบอกว่าตนก็คิดไม่ออกเหมือนกัน ตัดบทบอกศวัสไปทำงานเถอะ ศวัสถามว่า “เย็นนี้คุณพ่ออยู่บ้านหรือเปล่า”
พอบุรีบอกว่ามีนัด ศวัสยิ้มบอกว่า “ทานข้าวให้อร่อยนะครับ” บุรีขอบใจแล้วศวัสก็แยกไป พอบุรีหันกลับมาอีกที เห็นเยาวภายืนอยู่ในทรงผมทรงเดียวกับพุธกันยา เขาขมวดคิ้วมอง
“เยาว์ไปตัดผมมาน่ะค่ะ อยากจะเปลี่ยนหน้าบ้าง” เยาวภาลูบผมทรงเดียวกับพุธกันยาอย่างภูมิใจ บุรีไม่พูดอะไรเดินผละไป เยาวภามองตามอย่างน้อยใจปนเจ็บใจ แล้วก็ยิ่งเจ็บใจเมื่อแจ่มทักว่า ตัดผมเหมือนคุณผู้หญิงในรูปเลย เยาวภาถามเสียงขุ่นว่า “เหมือนแค่ผมหรือ!”
“ค่ะ...เหมือนแค่ผม หน้าตาไม่เหมือน” พูดแล้วรีบเดินตัวลีบไปให้พ้นหน้าบึ้งตึงของเยาวภา
ooooooo
หอมพยายามท่องบทละครอย่างไรก็จำไม่ได้สักที เขนคอยดูแลและให้กำลังใจ อาสาไปซื้อน้ำมะพร้าวกับผลไม้มาให้
ระหว่างที่เขนไปนั่นเอง พุธกันยาก็มาอาสาจะช่วยหอมอีก บอกว่าอยากแก้ตัวด้วยการช่วยหอม
ไม่ว่าพุธกันยาจะหว่านล้อมอย่างไร หอมก็ไม่เล่นด้วย ก็พอดีเขนกลับมา พุธกันยาจึงหายไป
ออกจากหอม พุธกันยาไปป่วนบุรีกับขวัญอนงค์ที่ไปทานข้าวและชวนไปดูหนังหรือไปฟิตเนสกันต่อ โดยไปนั่งที่เบาะหลัง ส่งกลิ่นเหม็นเน่าจนขวัญอนงค์เอะใจ บอกบุรีว่าตนกลับดีกว่า บุรีจะไปส่ง เธอขอกลับแท็กซี่เอง บุรีไม่ยอม
“เชื่อขวัญเถอะค่ะ ขวัญคิดว่ากัลกำลังโกรธมาก อย่าทำให้เขาโกรธยิ่งไปกว่านี้เลย”
พอเขนกับหอมมาที่บ้านศวัส เขนเห็นเยาวภาเปลี่ยนทรงผมก็ปากไวทักว่า
“คุณแม่บ้านเปลี่ยนทรงผมใหม่หรือคะ เหมือนทรงผมพุธกันยาเลย เอ้อ...เขนเห็นจากในรูปน่ะค่ะ แต่หอมเขาเห็นของจริง ใช่ไหมหอม” เยาวภาตวาดว่าอย่าบังอาจมาวิพากษ์วิจารณ์ตนแล้วเดินหนีไปเลย เขนหัวเราะบ่นเบาๆ “ขนาดยังไม่ตาย ยังน่ากลัวขนาดนี้”
พอดีแจ่มมาตามให้เข้าไปในบ้าน พอทั้งสองนั่งที่ห้องรับแขก แจ่มขอไปเอาของว่างมาให้ เขนขอตามไปด้วยเผื่อมีอะไรจะได้ช่วยดู
พอหอมอยู่คนเดียว ได้ยินเสียงพุธกันยาร้องไห้คร่ำครวญว่าอยากตาย บอกว่าขวัญอนงค์ยั่วบุรี ทำให้บุรีลืมตน หอมบอกว่าตนจะไม่ฟังเรื่องเหลวไหลอย่างนี้อีกแล้ว พุธกันยาอ้อนวอนว่าถ้าหอมไม่ช่วยคงไม่มีใครช่วยตนได้แล้ว บอกว่าตนอยากไปผุดไปเกิด ขอให้หอมยกโทษให้ด้วย หอมจึงอโหสิเพื่อพุธกันยาจะได้ไปผุดไปเกิด พุธกันยาน้ำตาไหลพรากครวญว่าหอมเกลียดตนจริงๆ ต้องขอโทษด้วย จนหอมเริ่มใจอ่อน
ดีที่เขนกลับมาพอดี พอรู้ว่าพุธกันยามาก็เตือนเพื่อนว่าอย่าใจอ่อนเด็ดขาด และห้ามถอดสร้อยพระออกด้วย
ooooooo
พุธกันยาไปร้องโหยหวนดังเข้ามาในห้องจนหอมที่กำลังจิ้มขนมกินทำส้อมตก แต่พอเขนกับแจ่มถามว่าเป็นอะไร? คุณพุธหรือ? หอมบอกว่าไม่มีอะไรท่านไม่ได้อยู่ในนี้
ส่วนศวัสพอบุรีโทร.เล่าเรื่องขวัญอนงค์ให้ฟัง เขาถามว่าอาขวัญเป็นอะไรหรือเปล่า พอรู้ว่าไม่เป็นอะไรก็โล่งใจและรีบกลับมาดูแลหอม
ศวัสช่วยซ้อมบทและแนะนำการแสดงแก่หอมให้เป็นธรรมชาติ หอมเกร็งจนซ้อมอย่างไรก็ทำไม่ได้
เจคโทร.ถึงเขนเพราะหอมปิดเครื่อง พอรู้จากเขนว่าหอมซ้อมละครอยู่กับศวัส เจควางสายหน้าเครียดพึมพำ
“ปล่อยให้สนิทกันต่อไปไม่ดีแน่ ต้องหาทางให้กัลยากลับเข้าสิงหอมน้ำโดยเร็วที่สุด!”
พุธกันยายังวนเวียนอยู่ในห้องที่หอมกับศวัสซ้อมละครกันจนหอมไม่มีสมาธิ พอศวัสรู้ว่าพุธกันยายังวนเวียนอยู่ เขาพูดลอยๆว่า
“คุณแม่ครับ ถ้าคุณแม่อยู่แถวๆนี้ก็กรุณารักษาความสงบเรียบร้อยด้วย ไม่อย่างนั้นผมคงต้องจุดธูปเชิญคุณแม่ไปที่อื่น” แล้วบอกให้หอมซ้อมกันต่อ หอมยิ้มแห้งๆ บอกว่าตนลืมไปหมดแล้ว จำอะไรไม่ได้เลย หอมอัดอั้นจนร้องไห้ ศวัสปลอบใจจะพาไปเดินข้างนอกให้หายเครียด หอมไม่ไป จึงจับบทขึ้นซ้อมกันต่อ
พุธกันยาไปนั่งที่กอพุดซ้อน ร้องไห้คร่ำครวญอย่างเจ็บปวด...
“ไม่ว่าที่ไหน ฉันก็เป็นแค่ส่วนเกิน พี่บุรีมีขวัญอนงค์ ศวัสมีหอมน้ำ...หรือว่า...ฉันควรจะไปเสียที”
เกิดแสงสว่างระยิบระยับเป็นทางอยู่เบื้องหน้า พุธกันยาค่อยๆลุกเดินไปยังแสงนั้นอย่างแน่วแน่
เมื่อศวัสพาหอมออกมาเดินผ่อนคลายข้างนอก หอมมองไปที่กอพุดซ้อน ศวัสถามว่าคุณแม่ทำอะไร
“ท่านไปแล้วค่ะ...ท่านคงเสียใจ ที่จริงท่านเป็นดวงวิญญาณที่น่าสงสาร ไม่ยอมไปไหนเพราะความรักที่มีต่อคุณหมอแล้วก็คุณลุง” ศวัสบอกว่าตนก็รักแม่ ถึงท่านจะจากไปนานแค่ไหน แต่ท่านก็ยังอยู่ในความทรงจำของตนเสมอ...
หอมกับศวัสซ้อมบทละครกันต่อ ยิ่งซ้อมก็ยิ่งใกล้ชิดสนิทสนม แล้วความรู้สึกลึกๆของศวัสก็ไม่อาจปกปิดมิดชิดได้อีกต่อไป ระหว่างซ้อมจึงมีหยอกล้อกันไป
ตามประสา จนเขนมาตามไปทานข้าว หอมลุกเดินก้มหน้าไปเขินๆ เขนมองยิ้มๆอย่างรู้ทัน...
ooooooo
ศวัสเอาสร้อยพระที่เอามาจากแจ่มคืนให้หอม จึงสงสัยกันว่าแล้วสร้อยพระปลอมเส้นนั้นใครเป็นคนทำขึ้นมา เขนเชื่อว่าต้องเป็นคนที่รู้จักสนิทสนมกับพุธกันยาเป็นอย่างดีจึงได้ช่วยถึงขนาดนี้
ทุกคนช่วยกันคิดแต่ก็นึกไม่ออกว่าจะเป็นใคร จนศวัสถามบุรีว่าเจคเคยชอบคุณแม่หรือเปล่า
“พ่อคิดว่าชอบ แต่แม่เขาไม่เคยสนใจใครเลย”
แล้วจู่ๆเจคก็โทร.นัดหอมไปลองชุดที่ต้องใส่ในตอนจบของเรื่อง นัดพรุ่งนี้ 10 โมงเช้าไปพบที่ออฟฟิศ หอมนึกแปลกใจกับเรื่องกะทันหันนี้ แต่เขนตื่นเต้นคิดแค่ว่าหอมจะได้ใส่ชุดสวยๆ
หมออนุญาตให้เพลินพิศออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เธอโทร.เรียกไก่ให้มารับ ไก่ไม่ว่าง จึงโทร.ให้ธันวามารับ ธันวาก็ติดงานบวงสรวงละครเรื่องใหม่ เพลินพิศเลยโทร. “จ้าง” ลิซซี่มารับ คราวนี้สำเร็จ แต่ก็บ่น “พวกเห็นแก่เงิน”
เช้านี้ลิซซี่มีเวลาจึงขอลางานครึ่งวัน บอกวดีว่าต้องไปรับเพลินพิศออกจากโรงพยาบาล วดีพึมพำอย่างหมั่นไส้ว่า
“ทำไมจะต้องไปรับด้วย อยากจะทำเป็นคุณหนู จะไปไหนมาไหนก็ต้องมีพี่เลี้ยง!”
แต่พอลิซซี่ไปสตาร์ตรถปรากฏว่าไม่ติด เอิงมาเสนอให้เอารถตนไปก็ได้แต่...มีข้อแม้ แล้วนั่งรถไปกับลิซซี่ปรารภระหว่างทางว่าทำอย่างไรหมอศวัสจึงจะหันมาสนใจตนบ้าง ลิซซี่แนะว่า เมื่อเราพยายามแล้วเขายังไม่สนใจก็หาใหม่ดีกว่า
“ถ้าไม่มีนังหอมน้ำ พี่หมอต้องชอบน้องเอิงแน่” ลิซซี่ขอร้องอย่าพูดถึงเลยเพราะนางไม่ธรรมดา “ก็อีแค่ถูกผีสิง!”
“อย่าพูดค่ะน้องเอิง อย่าพูด!!” ลิซซี่ตกใจหวาดกลัวมาก พอมาถึงโรงพยาบาลก็ขอโทษเพลินพิศที่มาช้า เพราะรถติด เพลินพิศเห็นเอิงมาด้วยบอกว่าดีใจที่น้องเอิงมาด้วย เอิงบอกว่าไม่ตั้งใจมา แต่มีเรื่องต้องปรึกษาลิซซี่เลยติดรถมา
ooooooo
หอมมาถึงโรงอาหารออฟฟิศ เจคก็ทักทายทุกคนที่กินข้าวกันอยู่อย่างอ่อนน้อม โค้กลุกไปทันที ฟ้าลุกตามโค้กไป เหลือแต่อุมา ที่มาพูดคุยกับหอมและเขนอย่างเร่าร้อน
พอไปพบเจคที่ห้องทำงาน เจคเอาชุดให้ดู เขนชมว่าสวยมากถึงไม่ใช่ชุดสมัยนี้แต่ก็ดูวินเทจดี เจคชวนเขนออกไปกันเพื่อให้หอมเปลี่ยนชุด หอมขอให้เขนอยู่ด้วย เจคตามใจ แต่ครู่เดียวอุมาก็โทร.เรียกเขนให้ไปเอาขนมมากินกัน เขนบอกหอมว่าไปแป๊บเดียวเพราะกินข้าวแล้วยังไม่ได้กินของหวานล้างปากเลย
เขนไปรับขนมจากอุมา นกก็เอาขนมมาให้บอกว่าธันวาฝากไว้บอกให้ฝากหอมด้วย อึดใจเดียวเจคก็บอกให้อุมาไปเอาของที่บ้านคัมภีร์ให้หน่อย อุมาชวนเขนไปเป็นเพื่อน เขนบอกต้องไปอยู่กับหอม เจคบอกไม่เป็นไรเดี๋ยวให้นกไปดูก็ได้ แล้วอุมาก็คว้ามือหอมพาไปเลย
ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของเจค!
“น้องหอมขาน้องหอม” นกมาร้องเรียกอยู่หน้าห้อง พอหอมเปิดประตูให้ก็เข้ามาบอก “คุณเจคให้เอาน้ำส้มมาให้ นี่ขนมพี่ธันวาซื้อมาฝาก น้องเขนลืมไว้ที่โต๊ะพี่” แล้วนกก็ขอดูชุด หอมบอกไม่ได้เพราะเจคสั่งห้ามไว้ พอออกจากห้อง นกจิกตาพึมพำ “หวงดีนัก เดี๋ยวแม่จะปล่อยข่าวนางเอกหอมน้ำมาลองเสื้อในห้องเจ้าของค่ายละครเสียเลย”
ooooooo
พอนกออกไปหอมก็ดื่มน้ำส้มแล้วหยิบชุดมาดูอย่างชื่นชม พลันก็รู้สึกมีไอเย็นออกจากปากและลมหายใจ หอมชะงักได้ยินพุธกันยาพูดขึ้นว่า
“ฉันสวมชุดนี้ไปถ่ายละคร ก่อน...ก่อนตายสองวัน เป็นวันที่ฉันมีความสุขที่สุด ฉันไม่เคยรู้เหมือนกันว่าเจคเขายังเก็บชุดนี้ไว้...เขาคงอยากจะให้ฉันสวมชุดนี้อีก”
หอมเริ่มรู้สึกเบลอๆ พุธกันยาทำเป็นถามว่าเป็นอะไรไปน่ะ หอมบอกว่าไม่ทราบ อยู่ดีๆก็เวียนหัวอยากนอน พุธกันยาเหยียดยิ้มสมใจบอกว่าอยากนอนก็นอน หอมเริ่มโงนเงน นึกถึงน้ำส้มที่ดื่ม ถามเสียงขาดๆหายๆว่า
“พวกคุณ...จะทำอะไร...”
“อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง” พุธกันยา ก้มมองหอมพูดยิ้มๆอย่างสะใจ พลันก็ได้ยินเสียงเจคมาเรียก พุธกันยาบอกให้เข้ามาเลย เจคเข้ามาทรุดนั่งข้างหอมที่นอนอยู่ ถอดสร้อยพระที่ศวัสให้หอมออก แล้วเดินห่างออกไป
พริบตานั้น วิญญาณพุธกันยาลอยเข้ามาสวมร่างหอม พอหอมพุธลืมตาจะขยับลุก เจคก็รีบเข้าประคอง หอมพุธร้องห้าม มองพระในมือเจคบอกว่า เอาไปไกลๆเลย แสงนั่นแรงกว่าปกติ ท่านเกลียดตนเพราะตนเป็นคนบาป พอเป็นวิญญาณก็เป็นวิญญาณบาป
“ไม่เอาน่า ถึงเวลาเริ่มต้นชีวิตใหม่แล้ว อย่ามัวหมกมุ่นกับเรื่องที่ผ่านมาเลย”
“เขนต้องสงสัยแน่ เราจะทำยังไงดี” หอมพุธกังวล
“ก็ต้องค่อยๆแยกจากคุณอย่างนุ่มนวลที่สุด ผมจะให้อุมา มาดูแลคุณแทน”
ooooooo










