ตอนที่ 19
เสือไทถูกคมสมคบกับงามตาฆ่าตาย โดยคมให้งามตาขณะมีประจำเดือนก้าวข้ามเสือไทที่เมาหลับอยู่ ทำให้ของเสื่อม ถูกคมยิงตายอย่างง่ายดาย
หลังจากนั้น คมกับงามตาไปหาราชาวดีที่ถูกขังอยู่ งามตาทำทีมาช่วยแต่ที่แท้จะพาไปขายซ่องแถวชายแดน
ระหว่างให้สมุนล็อกตัวราชาวดีไว้ คมกับงามตาก็ช่วยกันโกยเงินทองในตู้เซฟของภูมินทร์ใส่กระเป๋า
“ขน ไปให้หมด อย่าให้เหลือ สมบัติพวกนี้ น้ำพักน้ำแรงของฉันทั้งนั้น ไอ้ภูมินทร์มันได้แต่ชี้นิ้วสั่ง ให้มันไปรอรับส่วนบุญในนรกนั่นแหละดีแล้ว”
ขณะ ทั้งสองสาละวนกับการโกยเงินทองใส่กระเป๋านั่นเอง มีเงาดำทาบลงมา เงาของภูมินทร์นั่นเอง คมหันมองตะลึงงัน เห็นภูมินทร์ยืนอยู่ รอบตัวเป็นควันดำลอยอวล
“นาย...นี่นายยังไม่ตาย...”
“ฉันรอรับส่วนแบ่งจากแกไม่ไหว ก็เลยมาทวงถึงที่”
คม ชักปืนไม่ทันจะยิงก็ถูกภูมินทร์สะบัดพิษใส่จนปืนร่วงมือกลายเป็นสีดำ แล้วจิกเข้าที่หน้าคมอีกที พิษสีดำไหลจากนิ้วมือภูมินทร์ซึมไปทั่วหน้าคม พอภูมินทร์ปล่อยมือ ใบหน้าของคมก็เปื่อยยุ่ยเหมือนโดนน้ำกรดกัด!
“อ๊ากกกก!!!!” คมแผดเสียงอย่างเจ็บปวด งามตาชะงักฟังว่าเสียงอะไร ราชาวดีฉวยโอกาสนั้นกัดมือสมุนที่จับอยู่วิ่งหนีไป
งามตาถูกภูมินทร์สะบัดพิษใส่หน้า เธอเอามือปิดหน้าวิ่งเตลิดร้องไปตลอดทาง
“โอ๊ย...ช่วยด้วย...มันไม่ใช่คน มันเป็นปีศาจ!”
ราชาวดีโอบงามตาที่หน้าซีกหนึ่งเปื่อยยุ่ย ภูมินทร์ตามมา ราชาวดีหันไปเห็นภูมินทร์เธอตะลึงงัน เขาบอกเธอว่า
“พี่เอง...พี่กลับมาหาวดีแล้ว...”
ooooooo
ที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์...หาญเดินออกมาจากกลุ่มควันอย่างระวังตัว มองไปรอบๆ เห็นต้นไม้แห้งเหี่ยวเฉาตาย น้ำในบ่อเน่า เดือดปุดๆ
“อะไรกันนี่ มีพิษเต็มไปหมด ขุนโชติ...ขุนโชติ เอ็งอยู่ที่นี่รึเปล่า” หาญมองหา ร้องถาม
ทันใดนั้น น้ำในบ่อแหวกออกเป็นช่อง ร่างขุนโชติกระโจนขึ้นจากน้ำอย่างเร็ว หาญถามว่าเกิดอะไรขึ้น
“ไอ้ พ่อเลี้ยงภูมินทร์กับไอ้ทับ มันดักรอข้าอยู่ที่นี่ พวกมันมีกำลังกล้าแข็งนัก คิดใช้พิษทำลายศพกล้าไม่ให้เหลือซาก” หาญตำหนิว่าเขาไม่น่าพาศพกล้ามาที่นี่คนเดียว ขุนโชติชี้แจงว่า “ข้าเกรงจักไม่ทันเวลา เพราะร่างกายข้าอ่อนแอเต็มที”
“แล้วศพกล้าล่ะ ถ้าศพกล้าอยู่ใต้น้ำ คงถูกพิษเปื่อยยุ่ยไปหมดแล้ว”
“บุญ ของไอ้กล้า ตะกรุดที่คอมันศักดิ์สิทธิ์นัก” ขุนโชติเล่าว่า หลังจากตนอุ้มศพกล้ากระโจนลงน้ำแล้ว เห็นตะกรุดที่คอกล้าสว่างเรืองรอง แผ่รัศมีคลุมตัวทั้งสองคนไว้ พูดอย่างทึ่งว่า “อานุภาพของตะกรุดคลุมร่างไอ้กล้าไว้ ข้าจึงรีบขึ้นมาทำพิธีชุบชีวิตกล้า”
“แต่ร่างกายเอ็งบอบช้ำสาหัสนัก ข้าจะถ่ายพลังให้เอ็งก่อน”
“อย่าเสียแรงเปล่ากับข้า เก็บพลังของเอ็งไว้รักษาไอ้กล้าเถิด เอ็งต้องพาเหลนของข้ากลับไปให้จงได้ ให้สายเลือดของขุนโชติแห่งทุ่งพระกาฬคงอยู่ เพื่อแก้ไขบาปที่ข้ากระทำล่วงไปแล้ว”
ขุนโชติร่ายมนต์ วาดมือออกไป ควันพิษลอยขึ้นจากในน้ำ ถูกดูดเข้าสู่มือของขุนโชติ เลือดที่แขนซ้ายขุนโชติกลายเป็นสีดำแผ่กระจาย
พริบตานั้น! ขุนโชติใช้กงเล็บมือขวากระชากแขนซ้ายขาดกระเด็น เปื่อยยุ่ยไปทันที
“ขุนโชติ!!” หาญอุทานอย่างสะเทือนใจ แล้วเป่ามนต์ห้ามเลือดให้
“อย่าเพิ่งเป็นห่วงข้า จงเอาเลือดที่เหลือของข้า ชุบชีวิตให้ไอ้กล้าเถิด”
หาญหักใจ หยิบสนับเล็บเสือขึ้นมากรีดแขนขวาที่ขุนโชติชูขึ้น เลือดไหลลงบ่อน้ำเป็นสีแดงฉาน เลือดไหลเป็นสายวนรอบตัวกล้าแล้วพุ่งเข้าร่าง ตัวกล้าเป็นสีแดงทันที! กล้าค่อยๆลืมตาขึ้นมองตัวเอง ถามหาญงงๆ
“ผมยังไม่ตาย??”
“ใช่...ความดีคุ้มครองเอ็ง ไอ้กล้า”
กล้าดีใจโผเข้ากอดหาญ ขุนโชตินั่งพิงต้นไม้อย่างอ่อนแรงอยู่มองแล้วยิ้มดีใจ กล้าถามหาญว่าที่นี่ที่ไหน
“บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ขุนโชติเป็นคนเอาศพเอ็งมา”
“ไอ้ขุนโชติ มันอยู่ที่ไหน ผมจะฆ่ามัน คราวนี้ผมไม่ปล่อยมันแน่”
กล้าวิ่งอ้าวไปเจอขุนโชติเดินกุมแขนข้างที่ขาดโซเซมาแล้วทรุดลง กล้าพุ่งเข้าไปชกขุนโชติกระเด็นแล้วหิ้วคอขึ้นมาจะซ้ำ
“หยุด ไอ้กล้า” หาญตามมาตะโกน กระโดดดึงกล้าไว้
“ห้ามผมทำไม มันก่อกรรมทำเข็ญ ฆ่าคนมากมาย เราไม่ควรปล่อยมันไว้ให้หนักแผ่นดิน!”
“เอ็งพูดถูก ข้าควรตายไปเสีย อันที่จริงแล้วข้าไม่สมควรจักฟื้นขึ้นมาด้วยซ้ำ” ขุนโชติพูดแทรกขึ้น
“ขุนโชติได้รับผลกรรมแล้วกล้า”
“แค่นี้มันยังน้อยไปเทียบกับสิ่งที่มันทำ ปล่อยผมปู่ ถ้าผมจะตกนรกเพราะกำจัดคนชั่วอย่างมัน ผมก็ยอม”
“เอ็งตกนรกแน่ ถ้าเอ็งฆ่าทวดของเอ็งเอง!” หาญปล่อยกล้า แต่กล้ากลับชะงักถามว่าปู่หมายถึงใคร ขุนโชติส่ายหน้าไม่ให้หาญพูด กล้ายิ่งสงสัยถาม “ปู่พูดเรื่องอะไรกัน”
หาญจึงจำต้องบอกความจริงที่ทำให้กล้าช็อกว่า
“ขุนโชติคือปู่ทวดของเอ็งไอ้กล้า เอ็งเป็นลูกเสือผาด โจรที่ถูกตำรวจฆ่าตาย!”
ooooooo
ศรีแพรอาการดีขึ้น พอรู้สึกตัว ก็ชะเง้อรอหาญอย่างร้อนใจ แล้วตัดสินใจจะออกไป
“ศรีแพร ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าออกไปข้างนอก” ยิ่งยศเดินเข้ามาปราม
“แต่ข้าทนรออยู่แบบนี้ไม่ไหวแล้ว หาญอาจกำลังลำบาก”
“ไม่ไหวก็ต้องไหว ร่างกายเธอเพิ่งฟื้นจะไปทำอะไรได้ เป็นห่วงไอ้หาญมากสินะ” ศรีแพรหลบสายตาหน้าจ๋อย “ฉันพอมองออกว่าเธอรู้สึกยังไง แต่เธอต้องเข้มแข็ง แล้วก็อดทนรออยู่ที่นี่ หาญมีพญาสมิงเหล็กประทับร่างอยู่ ยังไงก็ต้องช่วยกล้ากลับมาได้แน่”
แต่พอศรีแพรสงบลง กระเต็นก็เข้ามาบอกว่า
ไม่รู้ว่าจุกหายไปไหน ตนหาจนทั่วแล้วไม่เจอ ยิ่งยศคิดว่าจุกคงหนีไปเล่นม้า บ่นอย่างเอือมระอาว่า
“ไอ้นี่มันผีพนันเข้าสิงจริงๆไม่รู้ว่าเป็นลูกศิษย์พระได้ยังไง”
ที่แท้จุกหนีไปเพราะกลัวตาย แต่พอเข้าเมืองก็ถูกตำรวจจับ จุกถูกเอาตัวไปสอบสวน รองฯอำนวยรับปากจุกว่าจะให้ตำรวจไปรับพวกกระเต็นมาคุ้มกัน แต่เมื่อสอบสวนเสร็จ จุกถูกจับใส่กุญแจมือ รองฯอำนวยสั่งให้เอาไปขัง
“อะไรกัน ไหนท่านบอกว่าจะกันให้พวกเราเป็นพยานไง” จุกโวยวาย
“ฆาตกรปล้นฆ่าอย่างพวกแกเนี่ยนะ ฝันไปแล้ว” รองฯอำนวยยิ้มเยาะแล้วเดินออกไปเลย
จุกเครียดจัด ทั้งเจ็บใจ เสียใจ ที่ตนก่อเรื่องเดือดร้อนให้กระเต็นอีกแล้ว...
ooooooo
กล้าทำใจไม่ได้กับความจริงที่หาญบอก วิ่งเตลิดไปกลางป่าจนเนื้อตัวถูกหญ้าบาดกิ่งไม้ขีดข่วนไปทั้งตัว
ขุนโชติซึ่งบัดนี้อ่อนแรงมากแล้ว ขอให้หาญไปตามกล้า แต่หาญอยากให้เวลากล้าได้คิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น แม้จะเป็นเรื่องยากที่จะรับได้แต่ถึงเวลาที่กล้าต้องเลือกแล้ว เพราะชีวิตของกล้าขึ้นอยู่กับคนอื่นมานานแล้ว
ขุนโชติกลัวกล้าจะฆ่าตัวตาย หาญฉุกคิดได้ รีบไปที่หน้าผาชะโงกดูใจคอไม่ดีพึมพำปลอบใจตัวเองว่า
“ไอ้กล้า...เอ็งคงไม่...”
“ผมอยู่นี่ครับปู่” กล้าเดินออกมาหาท่าทางสงบอย่างทำใจได้แล้ว ทั้งสองพากันกลับไปดูแลขุนโชติที่อ่อนแรงลงทุกทีทั้งยังกระอักเลือดออกมาอีก ขุนโชติบอกว่าเวลาของตนคงเหลือน้อยเต็มที
“พูดแบบนี้ไม่สมกับเป็นขุนโจรผู้ยิ่งใหญ่แห่งทุ่งพระกาฬเลย แผลแค่นี้ก็เรื่องเล็ก พักฟื้นไม่กี่วันก็หาย ทวดคงไม่ถอดใจง่ายๆ นะ”
ขุนโชติปลื้มปีติที่ได้ยินกล้าเรียกตนว่าทวด ถามว่ายอมรับตนแล้วหรือ ตนไม่ได้ฟั่นเฟือนไปใช่ไหม กล้าถามน้ำตาคลอว่า “ถึงผมไม่ยอมรับ มันก็คือความจริงไม่ใช่หรือ”
“เอ็งไม่โกรธไม่เกลียดข้ารึ”
“โกรธซิ ทั้งโกรธทั้งเกลียด ทั้งเคียดแค้น เกิดมาผมไม่เคยอยากฆ่าใครเท่านี้มาก่อน” ขุนโชติอึ้งงึมงำว่าข้ารู้...ข้ารู้... “แต่ผมก็ตั้งใจจะหยุดความรู้สึกพวกนี้ให้ได้ เพราะมันเท่ากับผมกำลังเกลียดตัวเอง และถ้าผมไม่ให้อภัยทวดก็เท่ากับผมไม่ให้อภัยตัวเองเหมือนกัน ผมขอโทษในทุกอย่างที่เคยล่วงเกิน อโหสิกรรมให้ผมด้วย”
“เหลนข้า...ข้าตายตาหลับแล้ว...” ขุนโชติยกมืออันสั่นเทาขึ้นลูบหัวกล้า กระอักเลือดออกมาอีก
“แข็งใจไว้ ขุนโชติ” หาญยิ้มทั้งน้ำตากับความเข้าใจกันของทวดกับเหลน
“จระเข้มีอายุยืนยาวหลายร้อยปี ทวดมีพลังกุมภีล์พิฆาต ต้องไม่เป็นอะไรอยู่แล้ว” กล้าให้กำลังใจ
“ร้อยปีที่หนักอึ้งด้วยทุกข์ จักสู้หนึ่งขณะจิตที่ละวางได้อย่างไร...ข้า...ข้าทำเรื่องผิดพลาดไว้มากนัก สัญญากับข้าว่าเอ็ง...เอ็งจะกลับไปแก้ไขมัน”
“ได้...ผมสัญญา แต่เราต้องกลับไปด้วยกัน ผมจะพาทวดไปชุบชีวิตที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์” กล้าแบกร่างขุนโชติขึ้นพยายามพูดถึงความผูกพันที่มีต่อกันอย่างร่าเริงเพื่อให้กำลังใจขุนโชติว่า “ท่าดาบสองมือตั้งหลายท่าที่ทวดยังไม่ได้ฝึกให้ผม”
“จริงสิ...เอ็งยังไม่ได้เรียนช้างประสานงา พญาครุฑยุดนาค...”
พูดได้แค่นั้นขุนโชติก็สิ้นใจ กล้าชะงัก รับรู้ถึงการจากไป แต่ก็ยังพยายามพูดต่อเพื่อข่มความสะเทือนใจของตัวเอง “คลุมไตรภพ ตลบสิงขร...ย้อนฟองสมุทร...” เสียงกล้าสั่นเครือ พยายามกลั้นสะอื้น จนหาญเอ่ยขึ้นว่า
“พอเถอะกล้า ขุนโชติไปดีแล้ว”
กล้าทรุดลง หาญเข้าช่วยประคองร่างขุนโชติให้นอนลง เอามือลูบปิดตา
กล้าคุกเข่าร้องไห้อย่างหนักด้วยความรู้สึกผูกพันกับขุนโชติอย่างลึกซึ้ง...
ooooooo
ราชาวดีที่ถูกขังในห้องที่บ้านภูมินทร์ เห็นกล้า มาหา ขณะกำลังเคลิ้มจะหลับ แต่พอมีมือมาลูบไล้ที่หน้า เธอลืมตาขึ้นกลายเป็นภูมินทร์สวมถุงมือลูบหน้าตัวเองอยู่!
“พ่อเลี้ยง!” เธอดีดตัวลุกขึ้นอย่างหวาดกลัว แม้ภูมินทร์จะพูดจาอ่อนหวานหว่านล้อมว่าไม่ต้องกลัว ตนไม่ทำอะไรเจ้าสาวตัวเองหรอก เห็นแหวนหมั้นที่นิ้วหายไปถามว่าแหวนหายไปไหน แต่ไม่คาดคั้น บอกเธอว่าไม่เป็นไรแล้วจะซื้อให้ใหม่งามกว่าเก่า
ราชาวดีกระถดหนีด้วยความหวาดกลัว ถูกภูมินทร์พุ่งเข้าตะครุบเหวี่ยงลงบนเตียงซุกไซ้อย่างเมามัน ราชาวดีดิ้นสุดชีวิต เมื่อไม่หลุด เธอหลับตาตั้งสติ ภาวนา
“ช่วยลูกด้วย...ช่วยลูกด้วย...”
ทันใดนั้น ภูมินทร์ผงะออกเพราะตัวราชาวดีร้อนเหมือนไฟ เขาแสยะยิ้มบอกเธอว่าตอนนี้กล้าเหลือแต่วิญญาณเท่านั้น ราชาวดีไม่เชื่อ
“พี่เห็นมันกับตา แล้วพี่ก็จัดการฝังมันไว้ก้นบ่อน้ำในป่าอาถรรพณ์โน่นพร้อมกับไอ้ขุนโชติ...ไม่เป็นไร พี่จะให้เวลาวดีทำใจ แต่ขอบอกไว้เลยนะว่าตอนนี้คนที่ได้ครอบครองวดี คือไอ้ภูมินทร์คนนี้คนเดียว!” พูดแล้วเดินหัวเราะออกไปอย่างสะใจ
ส่วนคะนึงนิจที่ถูกกล้าเอาไปไว้ในโกดัง วางจดหมายไว้ข้างกาย เมื่อเธอรู้สึกตัวขึ้นมา อ่านจดหมายของกล้า...
“พี่ขอโทษที่ทำให้นิจต้องเสียใจ นิจเข้าใจถูกแล้ว ทั้งหมดที่พี่ทำก็เพื่อให้ขุนโชติตายใจ พี่จะเป็นคนจบเรื่องนี้ก่อนที่มันจะไปเจอกับปู่ของพี่ที่อิสุโรให้ได้ พี่สัญญา...”
คะนึงนิจพึมพำอย่างสะเทือนใจ “โธ่...พี่กล้า...ทำไมพี่กล้าถึงทำแบบนี้...” เธอตะโกนขอความช่วยเหลือทุกอย่างเงียบกริบ แต่ในที่สุดเธอก็หาทางหนีออกจากโกดังไปจนได้
ooooooo
หลังจากหลอกเอาความลับจากจุกแล้ว รองฯอำนวยโทร.ไปคุยกับภูมินทร์ ฟังรองฯอำนวยแล้วภูมินทร์ถามขำๆ
“ผมน่ะเหรอตาย เข้าใจผิดกันใหญ่แล้ว คนที่ตายคือกล้ากับขุนโชติต่างหาก เรื่องมันยาว เอาไว้เจอกันแล้วผมจะเล่าให้ฟัง ส่วนไอ้คมมันก็ไปทำงานในที่ที่ไกลมากๆ ท่านอำนวยมีข่าวอะไรก็บอกมาเลยดีกว่า”
คุยกับรองฯอำนวยแล้ว ภูมินทร์ยิ้มร้ายอย่างมีแผน
คืนนี้เอง ศรีแพรบอกกระเต็นว่าได้ยินเสียงฝีเท้าคน กระเต็นคิดว่าจุกคงกลับมาแล้ว แต่พอถือปืนออกไปดูกระเต็นชะงักกึก เมื่อเจอเสือทับยืนจังก้าหน้าเหี้ยมอยู่ มันพูดเย้ยว่า
“แค่กับดักกระจอกพวกนี้ ไม่ทำให้พวกเอ็งหนีข้าพ้นหรอกโว้ย” เห็นกระเต็นว่าคาถาอย่างเร็ว ก็เยาะว่า “ไม่ต้องท่องคาถาไล่ผีให้เมื่อยหรอก เพราะข้าเป็นคนแล้ว”
“แก...แกกลายมาเป็นคนได้ยังไง”
“ก็เพราะสวรรค์เข้าข้างข้าน่ะสิ แต่เสียใจด้วยจริงๆ ที่ไอ้ขุนโชติมันชุบชีวิตให้ลูกชายเอ็งไม่สำเร็จ”
กระเต็นลั่นกระสุนใส่ เสือทับว่าคาถามหาอุดทำให้ปืนยิงไม่ออก เสือทับเตะปืนในมือกระเต็นร่วง ทั้งสองต่อสู้กันด้วยมือเปล่า ศรีแพรใช้คชกุศโดดเข้าฟันเสือทับ ถูกเสือทับเตะเข้าที่ท้องจนล้มลงไปจุก ขณะเสือทับสู้กับกระเต็นและศรีแพรอยู่นั้น ยิ่งยศพรวดเข้ามาประกาศ “อย่างลื้อมันต้องเจอกับอั๊ว!” ยิ่งยศบอกกระเต็นให้หลบไปก่อน แล้วตัวเองก็ปลุกเสือเผ่นสู้
จังหวะหนึ่งเสือทับถูกยิ่งยศซัดกระเด็น จึงเรียกสมุนเสือเมฆที่ตนชุบชีวิตขึ้นมารุม
“สมุนเสือเมฆ” ยิ่งยศจำได้
“ใช่ เอ็งหลอกใช้ข้าเป็นสาย เปิดทางให้ตำรวจทลายชุมราบเป็นหน้ากลอง วันนี้พวกมันจะมาคิดบัญชีกับเอ็ง”
เมื่อเผชิญกับพวกเสือทับ ยิ่งยศบอกให้กระเต็นกับศรีแพรรีบหนีไป แต่ยิ่งยศเองถูกเสือทับใช้ผ้าถุงทำ เป็นเชือกรัดจนดิ้นไม่หลุด เสือทับเหยียบอกยิ่งยศกระหน่ำซัดจนน่วม ใช้ด้ามพร้าทุบไม่ยั้ง
กระเต็นกับศรีแพรที่บาดเจ็บด้วยกันทั้งคู่ ประคองกันหนี ไปเจอภูมินทร์ออกมาดัก แสยะยิ้มพูดอย่างสะใจ
“เจอกันจนได้ คุณนายมือปราบ!”
ooooooo
หลังจากเผาศพขุนโชติในป่าอาถรรพ์และเก็บอังคารแล้ว กล้าหยิบเขี้ยวจระเข้ที่ขุนโชติห้อยคอประจำขึ้นดู
“เก็บไว้เถอะ ขุนโชติคงตั้งใจมอบให้คุ้มครองเอ็ง” หาญบอก
กล้าห้อยทั้งตะกรุดสามกษัตริย์และเขี้ยวจระเข้ของขุนโชติที่คอ เดินออกไปอย่างร้อนใจเป็นห่วงกระเต็นไม่รู้จะเป็นอย่างไรบ้าง หาญเรียกไว้ชี้ให้ดูกิ่งไม้ที่ตนหักเป็นเครื่องหมาย กล้าดูแล้วบอกว่าเหมือนเราเดินกลับมาที่เดิม
“ระวังตัวให้ดี ป่าอาถรรพ์มีอันตรายรอบตัว ปู่จะลองย่นระยะทางดู”
หาญเป่ามนต์ย่นระยะทางจับแขนกล้าโดดเข้าในวงอากาศหายไปด้วยกัน แต่พอทะลุวงอากาศออกไปปรากฏว่ายังวนกลับมาที่เดิม! กล้าพูดอย่างรู้สึกผิดว่าตนเป็นแค่ลูกโจรแต่กลับต้องมาทำให้ทุกคนเดือดร้อนถึงขนาดนี้
“เอ็งอย่าพูดแบบนั้น ที่มีเหตุจนข้าต้องสึกออกมาเช่นนี้ ก็อาจเป็นเพราะข้าต้องกลับมาชดใช้กรรมที่ทำเอาไว้ กับขุนโชติ ทุกคนต่างมีกรรมเป็นของตนทั้งนั้น... กรรมเก่ามันลบล้างไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะสร้างกรรมใหม่ที่ดีได้”
“สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ พ่อเคยสอนผมไว้”
“ถูกต้องแล้วกล้า เพชรก็ได้ชื่อว่าเป็นลูกโจร แต่เขาไม่เคยพ่ายแพ้ต่อความชั่ว เอ็งถึงได้ชื่อว่ากล้าไงล่ะ เพชรบอกข้าว่า อยากให้เอ็งกล้า กล้าทำในสิ่งที่ดีกล้าต่อสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง”
“ครับปู่ ผมจะกล้าหาญ เลือกในทางที่ถูกต้อง” กล้ารับคำเหมือนสัญญาที่ให้ไว้กับปู่หาญของเขา ยังความปลื้มปีติภูมิใจแก่หาญยิ่งนัก
ทันใดนั้น นกป่าพากันบินพึ่บพั่บแตกรังบินกระจายอย่างตื่นตระหนก เกิดลมแรงอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ตามด้วยแผ่นดินสะเทือนไหว ฟ้าแลบและผ่าลงมา จนกล้ากับหาญต้องกลิ้งหลบพัลวัน
พากันหลบฝนฟ้าและดินถล่มจนแทบไม่มีที่หลบ กล้าถามว่าจะทำอย่างไรดี หาญตัดสินใจว่าคาถาเบิกไพร ครู่เดียวทุกอย่างก็สงบลง ท้องฟ้าใส ปรากฏเทวดาอารักษ์เคลื่อนกายออกมาจากต้นไม้ ผายมือเป็นทางยาวออกไป หาญกับกล้าก้มกราบด้วยความซาบซึ้ง กล้าบอกว่า“คาถา เบิกไพรของปู่ได้ผล”
“มันเป็นเพราะบุญกุศลที่พวกเราทำไว้ หนุนนำให้เหล่าเทวดาอารักษ์ช่วยเปิดทางให้ รีบไปกันเถอะ”
เมื่อไปถึงอิสุโร ต้นไม้รอบๆดำไหม้หงิกงอตายหมด กล้าเห็นคราบเลือดที่ยิ่งยศกระอักที่พื้น กล้ามองหาถลาเข้าไปร้องเรียกกระเต็นและทุกคน บอกว่าตนกลับมาแล้ว
หาญรีบเรียกกล้าไว้เตือนว่าที่นี่เต็มไปด้วยพิษ ร้ายแรงอย่าเพิ่งวู่วาม กล้าร้อนใจบอกว่าเราต้องรีบไปช่วยแม่ เชื่อว่าแม่ต้องถูกเอาตัวไปแล้วแน่ๆ
“นี่แหละที่มันต้องการ มันคิดจะล่อให้ข้าไปหา เพราะฉะนั้นเราจะใจร้อนไม่ได้ ถ้าเอ็งจะช่วยกระเต็นเอ็งต้องพร้อมกว่านี้”
ooooooo
ความจริงคือ เวลานี้ ทั้งยิ่งยศ กระเต็น และศรีแพร ถูกจับมัดมือมัดเท้าขังไว้ที่ห้องขังบ้านภูมินทร์แล้ว ทุกคนบอบช้ำอิดโรย ยิ่งยศเจ็บปวดมากที่หาญฝากให้ดูแลกระเต็นกับศรีแพรแต่ตนก็ปกป้องเธอทั้งสองไม่ได้
กระเต็นบอกว่าเราถูกลอบกัดอย่าโทษตัวเองเลย ศรีแพรถามว่าเชือกแค่นี้ทำไมถึงกระชากไม่ขาดหรือว่ามันลงอาคมไว้ ยิ่งยศจึงร่ายคาถาเป่าไป ทำให้เชือกและโซ่ที่พันธนาการตนอยู่หลุดออก ยิ่งยศรีบแก้มัดให้กระเต็น
สมุนภูมินทร์มาเห็นเข้า มันสั่งให้หยุดตะโกนบอกพวกมันว่า เชลยหนี ให้ช่วยกันจับ ทั้งสามถูกสมุนภูมินทร์เข้ามารุม และเสือทับก็เข้ามาร่ายคาถาใส่จนทุกคนเจ็บปวดสาหัส พริบตานั้น สมุนเสือเมฆที่เสือทับชุบชีวิตขึ้นมาก็กรูกันเข้ามา ยิ่งยศกัดฟันสู้ถูกมันรุมอัดจนจุก
“ไม่มีประโยชน์หรอก พวกแกถูกพิษของฉันแล้ว นี่ยังปรานีนะ แค่หมดแรง ไม่ถึงตาย” ภูมินทร์เข้ามาเย้ย
กระเต็นท้าให้ฆ่าพวกตนเสียเลย อาฆาตว่าตนจะจองล้างจองผลาญพวกมันไปตลอด เลยถูกเสือทับทำร้ายจนสลบ ศรีแพรจะเข้าไปช่วยก็ถูกสมุนเสือทับจับไว้
“ไอ้พวกหัวหด พวกลื้อคงกลัวจะโดนอั๊วถล่มยับแบบคราวก่อนน่ะสิ พวกกระจอกอย่างลื้อ อั๊วจะกระทืบให้จมดินอีกกี่ครั้งก็ได้ คอยดู!” ยิ่งยศตะโกนอย่างสุดแค้น
เสือทับเจ็บใจ ทำลายอาคมในตัวยิ่งยศ จนไม่เหลือวิชาอะไรเลย ซ้ำยังเข้าไปอุ้มศรีแพรไปหมายข่มเหงเพื่อทรมานใจหาญให้เหมือนตายทั้งเป็น
ศรีแพรสู้สุดชีวิต บอกว่าตนเป็นเมียหาญและจะเป็นผู้หญิงของหาญเพียงคนเดียว ถูกเสือทับเป่ามนต์มหาละลวยใส่จนเห็นเสือทับเป็นหาญ ทอดกายระทดระทวยอย่างเต็มใจ
ooooooo
หาญถ่ายทอดส่งผ่านพลังจากตัวสู่กล้า จนยันต์เกราะเพชรเรืองรองขึ้นที่ตัวกล้า หาญทดสอบและสอนกล้าว่า
“ข้ารู้ว่าเอ็งร้อนใจ อยากจะเอาชนะพวกมันให้ได้ แต่เอ็งต้องใจเย็นกว่านี้ และเข้าใจซะใหม่ว่า การต่อสู้ที่แท้ไม่ได้มีไว้เพื่อเข่นฆ่า แต่มีไว้เพื่อหยุดคนชั่วที่หลงผิด ไม่เช่นนั้นแล้ว เอ็งก็จะไม่ต่างจากพวกมัน”
กล้าได้รับการฝึกวิชาและอบรมจากหาญ เขาฝึกและฟังอย่างตั้งใจ จดจำ
หาญฝึกอย่างจริงจังและกล้าก็เรียนรู้รับได้ทุกกระบวนท่า จนเมื่อสอนเสร็จ หาญยื่นตะกรุดสามกษัตริย์คืนให้ กล้ารับไปสวมคอ
“ที่ข้าทำทั้งหมด คือสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ เอ็งก็ต้องระวังไอ้ทับให้ดี พิษสงมันรอบตัว เพียงเสี้ยววินาทีก็อาจเพลี่ยงพล้ำ คาถาที่ข้าสอนไปทั้งหมด จำได้แม่นใช่ไหม”
“ครับปู่ ผมจำได้หมดแล้ว ทั้งนะจังงัง ย่นระยะทาง ปัดอาวุธแคล้วคลาด ผมพร้อมแล้ว เราไปช่วยแม่กันเถอะครับปู่” หาญสวนไปทันทีว่ายัง! กล้าทำหน้างงๆ หาญพูดหน้านิ่งๆ ว่า
“ข้าอยากได้น้ำดื่ม เอ็งไปหามาให้ข้าเสียก่อน แล้วเราค่อยไปกัน”
พอกล้าหันเดินไป หาญมองนิ่งๆ ก่อนขว้างดาบประจุพรายไปที่กล้าทันที กล้าหมุนตัวอย่างเร็ว ผายมือตะโกน
“ปัดอาวุธ!” คลื่นพลังปัดดาบกระเด็นไปปักต้นไม้ฉึก! กล้าถามว่า
“ทีนี้ ผมคงไม่เป็นภาระของปู่แล้วนะครับ”
หาญมองหลานชายยิ้มพอใจ...และภูมิใจ
ooooooo










