ตอนที่ 13
ภวันปรึกษากับทองถมและคงไคยเรื่องปรุงฉัตร ตกลงจะรอให้เด็กคลอดแล้วค่อยตรวจดีเอ็นเอ ถ้าเป็นลูกคงไคยจริงก็จะรับเลี้ยง แต่คงไคยค้าน เพราะปรุงฉัตรเป็นแม่ของลูก
“แกคิดว่าผู้หญิงอย่างปรุงฉัตรจะเลี้ยงดูใครได้ คนที่เหมาะเป็นเมียและเป็นแม่ของลูกแกคือหนูไพเท่านั้น แกรักหนูไพใช่ไหม”
“ครับ แต่มันไม่ใจร้ายกับคุณไพไปหน่อยเหรอครับแม่ ถ้าต้องเอาลูกของปรุงมาให้คุณไพเลี้ยง...” คงไคยอ้าง เป็นจังหวะเดียวกับที่อรุณประไพเดินมาได้ยินพอดี เธอจะถอยหนี แต่แฉล้มวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามารายงาน
“คุณหญิง คุณคงไคย แย่แล้วค่ะ เมื่อกี้คนอ่านข่าวบอกว่าแม่นางแบบ...เอ่อ...คุณปรุงฉัตรน่ะค่ะ กำลังจะแถลงข่าวเรื่องท้องค่ะ” ว่าแล้วแฉล้มก็หยิบรีโมตเปิดทีวี เห็นหน้าจอเป็นปรุงฉัตรกับเนื้อทิพย์กำลังให้สัมภาษณ์กับนักข่าวทำนองว่า
ปรุงฉัตรคือผู้ถูกรังแก เพราะเธอกับคงไคยรักกันมาก่อน แต่ต้องถูกตราหน้าว่าเป็นเมียน้อย เป็นมือที่สาม เพราะภวันกีดกัน
“วงในบอกว่าภรรยาคุณคงไคยบีบให้รับลูกได้แต่ต้องเลิกกับคุณปรุงใช่ไหมคะ” นักข่าวซักต่อ
“คุณไพ เอ่อ ภรรยาคงไคยน่ะค่ะ เธอเป็นคนดี เธอเข้ามาแทรกระหว่างปรุงกับคงไคยเพราะความไม่รู้ ปรุงอยาก
ขอให้พี่ๆอย่าลงข่าวต่อว่าเธอ ปรุงไม่อยากให้เธอเสียใจที่ต้องกลายเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้”
“แล้วที่ออกมาแถลงข่าววันนี้...”
“แม่ต้องการเรียกร้องความยุติธรรมให้กับลูกแม่ ลูกผู้หญิงที่ถูกเหยียบย่ำหัวใจครั้งแล้วครั้งเล่า คนที่ทำควรต้องรับผิดชอบ” พูดจบเนื้อทิพย์ก็พาปรุงฉัตรเดินออกไป นักข่าวกรูตาม
ทองถมทนไม่ไหวลุกไปปิดทีวีพลางบ่น “ตอนนี้ทางโน้นกระพือจนเรื่องลุกลามไปกันใหญ่แล้ว”
“ถ้าคิดจะบีบฉัน คิดผิดซะแล้ว ฉันจะรับแค่ลูกของคงไคยเท่านั้น” ภวันประกาศกร้าวแล้วเดินหนีขึ้นห้อง คงไคย
จะตาม แต่อรุณประไพดึงมือไว้อาสาไปคุยให้เอง
ระหว่างที่อรุณประไพตามไปเกลี้ยกล่อมให้ภวัน
ยอมรับปรุงฉัตรกับลูกในท้องอยู่นั้น ภุชงค์ก็มารับจิ๊บที่บริษัทใจดี เพราะตั้งใจจะมาหาอรุณประไพด้วย แต่ทั้งหมดต้องตะลึงเมื่อเห็นข่าวปรุงฉัตรให้สัมภาษณ์เรียกร้องความเป็นธรรม ใจดีของขึ้นจะไปหาอรุณประไพ เช่นเดียวกับภุชงค์ แต่จิ๊บกับวายุ ดึงไว้ แล้ววายุก็หลุดปากบอกเรื่องอรุณประไพท้อง ภุชงค์ถึงกับอึ้ง
แต่คนที่อึ้งยิ่งกว่าก็คือภวัน เพราะไม่รู้จะหาเหตุผลใดมาอ้างให้อรุณประไพเลิกล้มความคิดที่จะให้คงไคยรับผิดชอบปรุงฉัตรได้ ยามนั้นเองมีเสียงรถแล่นเข้ามาในบ้าน ตามด้วยเสียงประกอบเรียกหาภวัน ภวันจึงชวนอรุณประไพลงไปข้างล่าง พบประกอบ เนื้อทิพย์ และปรุงฉัตรยืนรออยู่
ประกอบเปิดฉากเจรจาขอให้คงไคยแต่งงานกับปรุงฉัตรเพื่อแสดงความรับผิดชอบ แต่ภวันไม่ยอมตอกกลับว่า ถ้ามีสำนึกพอก็ควรคิดถึงใจอรุณประไพที่เป็นเมียคงไคยบ้าง
“คุณหญิงคงไม่ทราบว่าตอนนี้หุ้นในมือผมมีสี่สิบเปอร์เซ็นต์ และผมคงไม่หยุดแค่นี้ ผมว่ากรรมการท่านอื่นคงไม่ปลื้มกับข่าวที่เกิดขึ้นนัก ถ้าเขาต้องเลือกระหว่างคงไคยกับผม คุณหญิงว่าเขาจะเลือกใครล่ะครับ” ประกอบขู่
ภวันโกรธจัดจะตอบโต้อีก ปรุงฉัตรเห็นว่าคงไม่จบง่ายๆแน่ จึงโยนเรื่องมาให้อรุณประไพตัดสินใจ
“ปรุงเห็นด้วยกับคุณป้านะคะว่าเราต้องคิดถึงใจของคุณไพ ถ้างั้นปรุงคงต้องขอความเห็นใจจากคุณไพ คุณจะขัดข้องไหมคะถ้าปรุงกับลูกจะขอความกรุณา” ปรุงฉัตรมองอรุณประไพด้วยสายตากดดัน
อรุณประไพตั้งสติได้ตอบทันควัน “ขอบคุณนะคะที่ยังคิดจะขอความเห็นดิฉัน ที่จริงเรื่องนี้ดิฉันค่อนข้างลำบากใจ เพราะดิฉันไม่เคยคิดว่าจะมีวันต้องเจอกับเรื่องน่าสมเพชเวทนา ไม่เคยคิดว่า จะมีวันที่ตัวเองต้องเป็นเมียหลวง ต้องมีจิตเมตตากับการเรียกร้องความยุติธรรมจากคนที่ไม่มีมโนธรรม อยากให้ดิฉันใจกว้าง ดิฉันทำได้ค่ะ ถ้าพวกคุณจะกรุณาหยุดทำลายชื่อเสียงและศักดิ์ศรีของสามีดิฉัน แต่ดิฉันจะไม่ตัดสินใจในเรื่องนี้ เพราะเรื่องสำคัญของครอบครัว ดิฉันขอให้สามีดิฉันเป็นคนตัดสินใจ คุณคงไคยคะ...ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจยังไงไพก็จะยอมรับค่ะ”
คงไคยหนักใจมองทุกคนอย่างคิดหนัก
“คงไคยคะ ปรุงไม่ได้ต้องการงานแต่งงาน สำหรับปรุงขอแค่คงไคยดูแลปรุงและลูกด้วยความรัก ปรุงก็พอใจแล้วค่ะ” ปรุงฉัตรเอ่ยพลางหันมาสบตากับประกอบ
“ไม่มีการแต่งงานก็ได้ แต่คงไคยต้องรับเลี้ยงดูลูกของผมอย่างเปิดเผย หมายถึงยายปรุงจะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะเมียคนหนึ่งของคงไคย” ประกอบยื่นเงื่อนไข
“ไม่ได้ ปรุงจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ ปรุงต้องกลับบ้าน” ณรงค์ก้าวเข้ามาท่าทางหัวเสียมากๆ เพราะเพิ่งรู้ว่าปรุงฉัตรท้อง เขาตรงเข้ามาคว้าตัวเธอจะพากลับบ้าน
ปรุงฉัตรขืนเต็มที่ร้องให้คงไคยช่วย คงไคยเข้าใจว่าณรงค์จะพาปรุงฉัตรกลับไปทำร้าย จึงเข้าปกป้องและประกาศออกไป “คุณจะพาปรุงไปไม่ได้ ปรุงเป็นเมียผม ปรุงต้องอยู่ที่นี่”
ทุกคนตะลึง ณรงค์ไม่ยอมจะดึงปรุงฉัตรกลับไปให้ได้ ประกอบกลัวเนื้อทิพย์จะสงสัยจึงเข้าไปตบหน้าณรงค์ แล้วลากออกไปคุยกันข้างนอก เนื้อทิพย์จะตามไปด้วย แต่ประกอบห้ามสั่งให้อยู่จัดการเรื่องปรุงฉัตร เนื้อทิพย์ยังงุนงงแต่ก็เข้าไปยืนข้างปรุงฉัตร ในขณะที่ภวันเริ่มสงสัยท่าทีของณรงค์และปรุงฉัตร
ประกอบลากณรงค์มาที่มุมลับตาพลางเอ่ย “ถึงยายปรุงจะอยู่กับคงไคย แกจะไม่เสียยายปรุง แต่ถ้าแกบอกความจริงกับแม่แก ยายปรุงจะไม่มีชีวิตอีกต่อไป เพราะแม่แกทำแน่ ตั้งแต่เล็กจนโตแกก็เห็นว่าแม่แกเกลียดยัยปรุงมากแค่ไหน”
“ที่แม่เกลียดปรุงก็เพราะพ่อ”
“ทั้งที่พ่อไม่ใช่คนที่แม่แกรัก เขายังทำทารุณกับยัยปรุงมาตลอด แต่กับแก แกคือความหวังความภาคภูมิใจเดียวที่เขามี ถ้าแม่แกรู้ว่าแกรักยายปรุงจนยอมทำลายความหวังของเขา แกคิดเหรอว่าแม่แกจะเอายายปรุงไว้ ถ้าแกรักยายปรุงจริงก็กลับไปซะ แต่ถ้าแกอยากให้ยายปรุงตาย แกก็เข้าไปบอกทุกคนเลยว่าแกกับยายปรุงเป็นอะไรกัน” ประกอบก้าวเปิดทางให้ณรงค์ตัดสินใจ
ณรงค์ยอมถอย ประกอบจึงกลับไปหาปรุงฉัตรกับ
เนื้อทิพย์ในบ้าน เขาอ้างกับภวันว่า ที่ณรงค์เสียมารยาทก็เพราะเป็นห่วงน้อง กลัวจะถูกเลือกปฏิบัติ
“เอาล่ะครับ ตอนนี้คงไคยก็ยอมรับแล้วว่าจะให้ลูกผมอยู่ที่นี่ในฐานะเมียคนหนึ่ง ถ้าอย่างนั้น คุณหญิงคงไม่ขัดข้องที่ผมจะให้ปรุงย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ลูกผมกำลังท้องต้องการคนดูแลอย่างใกล้ชิดและคนๆนั้นก็ควรจะเป็นพ่อของเด็ก”
“ลูกชายเธอตัดสินใจแล้ว เพื่อนยังมีปัญหาอะไรอีกไหม” เนื้อทิพย์เย้ยหยัน
ภวันไม่ตอบ สะบัดหน้าเดินขึ้นข้างบนไป อรุณประไพสบตากับคงไคยแล้วเดินตามภวันไป เนื้อทิพย์จะตามแต่ประกอบจับมือไว้
“ได้คืบอย่าเอาศอก ไม่งั้นจะไม่ได้อะไรเลยนะคุณ”
เนื้อทิพย์ยอมหยุดหันมาย้ำกับปรุงฉัตรให้ดูแลสามีกับแม่สามีดีๆ อย่าทำให้เธอต้องผิดหวัง ปรุงฉัตรยิ้มรับอย่างรู้กันแล้วดึงคงไคยเดินออกไปส่งประกอบกับเนื้อทิพย์
ส่วนอรุณประไพตามภวันเข้ามาในห้องพร้อมกับคำขอโทษ ภวันน้ำตาคลอบอกว่า เธอเข้าใจ เพราะอรุณประไพทำเพื่อคงไคยมามากและมากเกินไปด้วยซ้ำ
“คุณแม่” อรุณประไพพูดไม่ออกพยายามจะเช็ดน้ำตา กลบเกลื่อน
“อย่าปิดแม่เลยลูก...” ภวันโอบศีรษะของอรุณประไพเข้ามาพิงตัวแล้วลูบด้วยความสงสาร
อรุณประไพพยายามกลั้นสะอื้น ปล่อยให้น้ำตาไหนรินอย่างเงียบๆ
คงไคยเดินกลับเข้ามาไม่เห็นอรุณประไพก็ถามหากับทองถม ทองถมไม่ตอบแต่มองไปด้านบน ปรุงฉัตรรู้ว่าคงไคยจะขึ้นไปก็จะดึงไว้ แต่คงไคยไม่ใจอ่อน สั่งให้ทองถมดูแลปรุงฉัตรแล้วเดินขึ้นชั้นบนไปทันที
ปรุงฉัตรขยับจะตาม ทองถมเข้าขวาง
“ว่าแล้วต้องไม่เข้าใจ คุณคงไคยสั่งให้ผมดูแล ผมให้คุณคลาดสายตาไม่ได้หรอกครับ”
ปรุงฉัตรขัดใจเป็นที่สุดสาบานกับตัวเองว่า ถ้าเธอไม่มีความสุข ทุกคนก็ต้องไม่มี
ภวันเห็นคงไคยเข้ามายืนมองอรุณประไพอย่างรู้สึกผิดก็พยักหน้าเรียกให้ลูกชายเข้ามาปรับความเข้าใจกับอรุณประไพ ส่วนตัวเองลงไปคุยเรื่องงานกับทองถม ปรุงฉัตรเห็นภวันเดินลงมาก็เข้าไปยั่วโมโหเรื่องคงไคยยอมรับเธอเป็นเมีย
“เธอนี่คงใช้สมองน้อยนะ ถึงแยกไม่ออกระหว่างยอมรับกับจำใจ มันต่างกันยังไง แต่เธอต้องสำนึกไว้เสมอนะว่าที่คงไคยยอมให้เธอมาอยู่ที่นี่ก็เพราะเด็ก ถ้าแค่ตัวเธอมันไม่มีความหมายสำหรับลูกชายฉันอีกแล้ว”
“อิจฉาปรุงล่ะสิที่คงไคยเห็นว่าปรุงสำคัญ”
“ถ้าเชื่อแบบนั้นแล้วมีความสุขก็เชื่อไป แต่ฉันเชื่อสายตาตัวเองมากกว่า” ภวันมองขึ้นไปข้างบนยั่วให้ปรุงฉัตรอยากรู้ แล้วเดินนำทองถมไปทางห้องทำงาน
ปรุงฉัตรอดรนทนไม่ไหวขึ้นไปแอบดูหน้าห้อง เห็นคงไคยคุกเข่าขอโทษอรุณประไพพลางเอ่ยว่า เขารักเธอแล้วทั้งสองก็เข้าสวมกอดกัน ทำให้ปรุงฉัตรยืนกำมือแน่นด้วยไฟริษยา
ooooooo
ด้านเนื้อทิพย์เข้ามาคาดคั้น ณรงค์ว่าไปอาละวาดเรื่องปรุงฉัตรทำไม ณรงค์หันมาสบตากับประกอบก่อนโกหกคำโตว่า ไม่พอใจที่จะให้ปรุงฉัตรเข้าไปอยู่บ้านคงไคยในฐานะเมียน้อย เพราะกลัวครอบครัวจะเสียชื่อเสียง
“เสียชื่อนิดหน่อย แลกกับที่นังภวันมันต้องช้ำจนกระอักเลือด แม่ยอมแลก เพราะตอนนี้คุณหญิงรักอรุณประไพ พอๆกับคงไคย ยายปรุงเข้าไปป่วนพวกมัน ทั้งคงไคยทั้งคุณหญิง จะเอาสติที่ไหนมารับมือเราได้ ไม่คิดเลยนะว่านังเด็กชั้นต่ำจะทำประโยชน์ให้ฉันได้ แต่แม่ไม่ชอบเลยนะที่ลูกทำท่าเหมือนหวงห่วงมัน” เนื้อทิพย์ระแวง
“อย่างผมเนี่ยนะจะห่วง ลูกคนรับใช้ ผมแค่รักษาหน้าเราเท่านั้นแหละครับแม่” ณรงค์จำใจเอ่ย
เนื้อทิพย์ยิ้มพอใจแล้วขอตัวไปรอรับโทรศัพท์ เพราะนักข่าวโทร.มา ประกอบเข้ามาตบบ่าณรงค์ให้ทำใจ
เวลาเดียวกันนั้นใจดีสะพายกระเป๋ารีบร้อนออกไปขึ้นรถ ป๊อกกี้กับวายุตามดึงตัวไว้คิดว่าใจดีจะไปบอกคงไคยเรื่องอรุณประไพท้อง ใจดีรีบปฏิเสธว่าจะไปบ้านเมียน้อยสิทธาเพราะระแวงว่าทั้งคู่ยังไม่เลิกกัน
วายุกับป๊อกกี้มองหน้ากันนึกสังหรณ์ใจกลัวจะเกิดเรื่องอีกจึงขอตามใจดีไปด้วย
ทั้งสามซุ่มรอสิทธาอยู่หน้าทาวน์เฮาส์ จนกระทั่งค่ำก็เห็นรถของสิทธาแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน ใจดีตาวาวรีบลงจากรถ วายุกับป๊อกกี้ตามมาดึงไว้พลางเตือนให้ใช้สติมากกว่าอารมณ์ ใจดีสูดลมหายใจแล้วก้าวเข้าไป แต่ต้องชะงัก เพราะได้ยินเสียงเก๋ร้องไห้ดังออกมาจากในบ้าน ตามด้วยเสียงของสิทธาที่ยืนยันขอเลิกกับเธอ เพราะรู้ใจตัวเองดีแล้วว่าผู้หญิงที่เขารักคือใจดี และขอยกบ้านหลังนี้ให้เป็นการไถ่โทษ
ใจดีตาโตจะเข้าไปโวย วายุกับป๊อกกี้ช่วยกันดึงไว้สุดแรง
“แล้วเมียพี่เขาจะไม่วาเหรอ” เก๋ข้องใจ
“ถึงเขาจะใจร้อน แต่เขาเป็นคนมีมนุษยธรรม ยิ่งกับลูกผู้หญิงด้วยกัน พี่ว่าเขาต้องเข้าใจ เพราะคนที่ผิดกับหนู เลวกับหนูคือพี่ ถ้าพี่อยากเริ่มต้นใหม่กับเขา พี่ก็ต้องเคลียร์ทุกเรื่องให้จบ” สิทธาเดินเครียดออกมาแล้วชะงักเพราะเห็นใจดียืนรออยู่ เขาหน้าเสียคิดว่าต้องโดนใจดีเล่นงานแน่ แต่ใจดีกลับโผเข้ากอด
“ขอบคุณนะคุณ ขอบคุณที่เลือกฉัน ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณที่รักกัน ฉันจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ฉันจะให้เกียรติคุณ คุณจะเป็นผู้นำครอบครัว”
“ขอบคุณใจดี ขอบคุณที่คุณให้ผมมาตลอด ผมคงไม่มีอะไรจะให้คุณได้นอกจากความซื่อสัตย์ ขอให้คุณไว้ใจผม ได้ไหมใจดี” สิทธากอดตอบ
“มันเป็นของขวัญที่ดีที่สุด แค่ขอให้คุณมีฉันคนเดียว เป็นกำลังใจให้ฉัน เราจะสร้างครอบครัวใหม่ ครอบครัวของเราสองคน”
“แต่ผมอยากมีกันสามคน หมายถึงลูกของเรานะคุณจ๋า”
“จัดให้ตามที่ขอเลย” ใจดียิ้มหน้าบานกอดสามีอย่างมีความสุข
ป๊อกกี้กับวายุยิ้มปลื้มพลอยมีความสุขไปด้วย
ooooooo
อรุณประไพลงมาดูแลอาหารแนวสุขภาพให้ภวัน ทองถมกับคงไคยชื่นชมในความใส่ใจของเธอ เมื่อปรุงฉัตรลงมาได้ยินก็พาลหาเรื่องบอกว่า เธอทานอาหารแบบนี้ไม่ได้ อรุณประไพขยับจะไปตักข้าวต้มปลาที่เตรียมไว้มาให้แต่ภวันร้องห้าม
“ต่อไปหนูไพไม่ต้องไปทำครัวนะ เป็นคุณผู้หญิงของบ้านนี้ไม่จำเป็นต้องดูแลคนอื่น มาอาศัยก็ให้หากินเอาเอง หนูไพดูแลแค่แม่กับคงไคยก็พอ”
ปรุงฉัตรแค้นหันมองคงไคยหวังหาตัวช่วย แต่คงไคยกลับก้มหน้าก้มตาทานเงียบ
หลังทานอาหารเสร็จปรุงฉัตรก็ขึ้นไปรอคงไคยในห้อง แต่คงไคยกลับไปอ้อนอรุณประไพที่เข้าไปดูแลความเรียบร้อยในห้องครัว เพราะไม่อยากให้เธอเข้าครัวและออกไปทำงานข้างนอกอีก แต่อรุณประไพไม่ยอม
“บางทีการที่เราเอาใจไปอยู่กับเรื่องอื่นๆบ้าง ก็จะช่วยให้เราใจสงบขึ้น ไพรักที่ได้ทำงานและมีความสุขที่ได้อยู่กับงานค่ะ”
“อยู่กับผมคงทำให้คุณมีแต่ทุกข์”
“ไพไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะคะ อยู่ด้วยกันอย่าพูดเรื่องที่ทำให้เราไม่สบายใจได้ไหมคะ”
“ได้สิครับ...งั้นไปพักเถอะครับ” คงไคยโอบพาอรุณประไพขึ้นไปข้างบน
ปรุงฉัตรยืนแอบดูจากภายในห้อง เห็นคงไคยจะพาอรุณประไพเข้าห้องก็แกล้งร้องขอความช่วยเหลือ อรุณประไพไล่ให้คงไคยเข้าไปดูปรุงฉัตร
“เดี๋ยวผมมานะ” คงไคยรีบเดินไปเปิดประตูเห็นปรุงฉัตรนั่งอยู่ที่พื้นกลางห้อง
“ปรุงหน้ามืดน่ะค่ะ คงไคยอยู่เป็นเพื่อนปรุงนะคะ” ปรุงฉัตรทำมารยา
คงไคยชะงักมองไปที่อรุณประไพที่ยืนมองอยู่ด้านนอก เห็นเธอยิ้มให้อย่างอ่อนโยนแล้วเดินไปที่ห้องตัวเองก็ขยับจะตามแต่ปรุงฉัตรเอามือคล้องคอกอดรั้งไว้ทำให้ลุกไปไม่ได้ จึงจำใจต้องอยู่ดูแลเธอ และเมื่อปรุงฉัตรหลับไปแล้ว คงไคยก็ตัดสินใจเดินออกไปจากห้อง ทิ้งปรุงฉัตรให้นอนอยู่เพียงลำพัง
เช้าวันใหม่ป๊อกกี้กับพนังงานในบริษัทนั่งเม้าท์เรื่องข่าวฉาวของครอบครัวอรุณประไพกันอย่างเมามัน และไม่ทันเห็นว่าอรุณประไพเดินเข้ามาได้ยิน วายุที่ตามหลังมาเห็นอรุณประไพเจ็บปวดสะเทือนใจ ก็เดินไปกระแทกกระเป๋าตรงหน้าป๊อกกี้ ดังปัง
ป๊อกกี้กับพนักงานสะดุ้ง หันมาเห็นอรุณประไพยืนอยู่ก็หน้าเสีย
“คนอื่นจะมองคุณไพยังไงผมไม่รู้ แต่ให้ผมมองพวกพี่ทุเรศมาก คุณไพคงจะดีใจนะที่ได้รู้ว่ามีเพื่อนร่วมงานที่มันส์ปากกับเรื่องของเขาแบบนี้” วายุตำหนิ ขณะที่อรุณประไพเดินเลี่ยงเข้าห้องทำงาน
ใจดีเดินหงุดหงิดเข้ามาสั่งป๊อกกี้ ให้ตามอรุณประไพไปพบเธอที่ห้องด่วน ป๊อกกี้อึกอักขอให้วายุไปแทน ทำให้ใจดีสงสัยคาดคั้นว่าเกิดอะไรขึ้น วายุรีบฟ้องว่าป๊อกกี้แอบนินทาอรุณประไพกับพวกพนักงาน ใจดีจึงลากป๊อกกี้เข้าไปจัดการในห้อง
ด้านคงไคย เขารีบลงมาที่โต๊ะอาหารแต่เช้าหวังจะได้พบอรุณประไพ แต่ทองถมรายงานว่า เธอออกไปทำงานแล้ว คงไคยเศร้า ผิดกับปรุงฉัตรที่ส่งยิ้มหน้าบานเข้ามาทักทาย พลางเย้ยภวันว่า เมื่อคืนนี้คงไคยนอนในห้องกับเธอ แต่ต้องหน้าแตก เพราะแฉล้มยืนยันว่า เมื่อคืนนี้คงไคยอยู่ในห้องทำงานทั้งคืน
“คือ เมื่อเช้าแล่มจะเข้าไปทำความสะอาดเจอคุณหนู นอนหลับที่โต๊ะ แล่มตกใจแทบแย่”
“คุณคงไคยคงนอนไม่ลง เอ้ย นอนไม่หลับใช่ไหมครับ ถึงต้องทำงาน” ทองถมกับภวันสบตากันแล้วหันมามองปรุงฉัตร ด้วยสายตาสมเพช
ปรุงฉัตรโกรธที่โดนแฉล้มหักหน้า หันไปอ้อนคงไคยขอตามไปบริษัทด้วย แต่คงไคยรีบลุกออกไป
“ผมเพิ่งเห็นคุณคงไคยรีบไปทำงานขนาดนี้นะครับ” ทองถมเปรย
“คงไคยคงห่วงงาน มากกว่าอะไรไร้สาระ บ้าบอ ถ่วงความเจริญ” ภวันยิ้มเยาะ
ปรุงฉัตรตาวาวรู้ว่าที่ภวันพูดถึงคืออรุณประไพไม่ใช่งานแน่ๆ
ooooooo
ใจดีหลังจากอบรมป๊อกกี้ชุดใหญ่แล้ว ก็สั่งให้ป๊อกกี้ขอโทษอรุณประไพที่เดินเข้ามา ป๊อกกี้สำนึกผิด ตบปากตัวเองเพื่อไถ่โทษ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ มันเป็นเรื่องจริง ไพคงต้องฟังให้ชิน เพราะมันคงจะฉาวโฉ่มากขึ้นเรื่อยๆ”
“แล้วน้องไพไปยอมให้นังเมียน้อยมันเข้ามาทำไม มันท้องน้องก็ท้อง” ใจดีโพล่งออกไป
อรุณประไพมองวายุ วายุจ๋อยอ้างว่า โดนบังคับ
ใจดียุให้อรุณประไพบอกคงไคยเรื่องลูก เพราะคงไคย ต้องเลือกอรุณประไพอยู่แล้ว และเธอยังเชื่อว่า ที่ปรุงฉัตรปล่อยให้ท้องเพราะมีแผนจับคงไคย
“ผมเห็นด้วยนะครับคุณไพ ถ้าคุณไพบอกไอ้ซื่อบื้อ เอ้ย สามีคุณไพว่าคุณไพก็ท้อง สามีคุณไพอาจจะต้องเลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่ใช่ควบทั้งสองคนไว้แบบนี้เขาก็มีความสุขอยู่คนเดียว คุณไพต้องมาทุกข์แบบนี้มันไม่ยุติธรรม” วายุสนับสนุน
เสียงมือถืออรุณประไพดัง เจ้าของเห็นชื่อคงไคยแล้วตัดสินใจไม่รับ แต่คงไคยยังกระหน่ำโทร.ไม่หยุด เธอกำโทรศัพท์แน่นด้วยความเครียดอย่างไม่รู้ตัว
“พี่รู้ น้องไพเป็นคนดีไม่อยากตบตีกับใคร แต่พี่ทนไม่ได้ รับไม่ไหวจริงๆพี่ขอทวงความยุติธรรมให้น้องไพเอง” ใจดีตบโต๊ะเสียงดัง
“ไม่ได้นะคะพี่ใจดี ไพไม่ต้องการทำอะไรทั้งนั้น มันเป็นเรื่องส่วนตัวของไพ ไพตัดสินใจแล้วขอให้ทุกคนเคารพการตัดสินใจของไพด้วย” อรุณประไพบอกเรียบๆ แต่หนักแน่น
ใจดียอมสงบ ป๊อกกี้รีบเปลี่ยนบรรยากาศถามใจดีเรื่องโปรเจกต์ใหม่ที่ทาง ผอ.สั่งมา
ใจดีนึกได้รีบแจ้งอรุณประไพ “ทาง ผอ.มีโปรเจกต์ให้หนังสือเราจัดประกวดเชฟเบเกอรี่ ผอ.ระบุมาว่าน้องไพต้องเป็นหนึ่งในกรรมการตัดสินงานนี้ ตอนนี้มีใบสมัครที่พรีเซนต์สูตรขนมเข้ามามากที่ต้องคัด แต่พี่ไม่แน่ใจว่าน้องไพจะมีกะจิตกะใจทำงาน”
“พี่ใจดีคะ ไพแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้ค่ะ”
“ถ้างั้น...ป๊อกกี้ไปเตรียมเอกสารให้เรียบร้อย น้องไพจะทำงาน” ใจดีสั่ง
“ค่า” ป๊อกกี้วิ่งออกไป แล้วก็วิ่งกลับเข้ามาบอกอรุณประไพว่าภุชงค์มาหาอรุณประไพออกไปคุยกับภุชงค์ ภุชงค์ขอโอกาสดูแลอรุณประไพเองเพราะเขามีอิสระแล้ว พร้อมให้สัญญาว่าจะไม่ทำให้เธอเสียใจอีก
“ไพไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัว ที่เลือกแต่จะปัดปัญหาให้พ้นตัว เพราะไพรู้ว่าตอนนี้ไพไม่ใช่อรุณประไพคนเดิมอีกแล้วค่ะ”
“เรื่องลูก ผมยอมรับได้นะไพ ไม่ว่าเด็กจะเป็นลูกของใคร ผมก็อยากดูแลคุณกับลูกนะ”
“ลูกของไพจะมีพ่อแค่คนเดียวคือคงไคย แต่ถ้าไม่ใช่เขาก็จะมีแม่ของเขาคนเดียวคือไพ ไพดูแลเขาได้ค่ะ ขอบคุณนะคะภุชงค์ที่คุณยังดีกับไพเสมอ คุณรู้ใช่ไหมคะว่าสิ่งที่ไพพูด ไพหมายความตามนั้นทุกอย่าง ไพมีงานต้องทำขอตัวนะคะ” อรุณประไพเดินออกไป
ภุชงค์ยืนอึ้งหมดหวัง ยอมตัดใจเดินกลับออกไป
วายุที่ยืนเตร่อยู่หน้าบริษัทเข้ามาเย้ย “หน้าอย่างนี้ คงโดนปฏิเสธมาแน่ จากแฟนเก่ากลายเป็นแค่มดแดง...แฝงพวงมะม่วง มันก็คงได้แค่ดมแต่ไม่ได้กินหรอก”
ภุชงค์โกรธกำมือแน่นจ้องวายุ แล้วเลือกที่จะไม่ตอบโต้ เขาเดินไปที่รถ จึงพบกับคงไคยที่มาจอดรถหน้าออฟฟิศ ภุชงค์ที่ทั้งโกรธทั้งผิดหวังเห็นคงไคยเดินลงมาจากรถก็ไม่พอใจ ตรงเข้าไปผลักอกพลางต่อว่า คงไคยของขึ้นต่อยหน้าภุชงค์เข้าให้ ทำให้ภุชงค์เอาคืน
วายุร้องลั่น เมื่อเห็นเหตุการณ์ พลางรีบถามป๊อกกี้ว่าเอาไงดี ป๊อกกี้ตั้งสติได้สั่งให้วายุเข้าไปห้ามคงไคยกับภุชงค์ ส่วนตัวเองจะเข้าไปตามอรุณประไพกับใจดี
“เฮ้ย หยุดๆๆ” วายุเข้าไปขวางแต่โดนลูกหมัดคงไคยเข้าเต็มคาง จนเซออกมานั่งมึน
อรุณประไพกับใจดีออกมาเห็นพอดี
“หยุดนะ” อรุณประไพร้องห้าม แต่ทั้งคงไคยและภุชงค์ยังฟัดกันนัวเนีย เธอเดินไปเปิดประตูรถคงไคยแล้วกดแตรดังลั่น ภุชงค์กับคงไคยหันมอง “ถ้าไม่หยุด...ไพจะไม่คุยกับพวกคุณทุกคน” อรุณประไพเดินเข้าออฟฟิศไป
สองหนุ่มแยกจากกันทันที คงไคยรีบตามอรุณประไพเข้าไป ภุชงค์จะตามไปบ้าง แต่ใจดีกับป๊อกกี้ดึงไว้
“เรื่องสามีภรรยา คนนอกอย่ายุ่งดีกว่านะคะ” ใจดีเตือนสติ
ภุชงค์จำต้องสงบ เดินขึ้นรถตัวเองขับออกไป
ooooooo
คงไคยตามมาง้ออรุณประไพในห้อง อรุณประไพตัดพ้อเรื่องเมื่อคืนเพราะเข้าใจว่าเขาอยู่กับปรุงฉัตร
“เมื่อคืนผมเครียดมาก เลยไปนั่งเงียบๆในห้องทำงาน ก็เลยหลับ ถ้าไม่เชื่อถามแม่แล่มก็ได้ รายนั้นไม่เคยโกหกอยู่แล้ว เขาข้างคุณยิ่งกว่าผมที่เขาเลี้ยงมาเป็นสิบๆปีอีก ผมขอโทษนะที่ทำให้คุณนอนไม่หลับทั้งคืน แต่ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด” คงไคยจับมืออ้อนสีหน้ารู้สึกผิดจริงๆ
อรุณประไพใจอ่อนยอมยกโทษ ก่อนไล่คงไคยให้กลับไปทำงาน
“คุณไพ...เย็นนี้ผมมารับแล้วเราไปหาร้านอร่อยๆทานกันนะครับ ผมอยากอยู่กับภรรยาแค่สองคนบ้าง” คงไคยอ้อนต่อ อรุณประไพยอมรับปาก ทำให้คงไคยดีใจ หอมแก้มอรุณประไพด้วยความตื่นเต้น
ใจดีเปิดประตูเข้ามาเห็นก็ชะงัก เช่นเดียวกับป๊อกกี้และวายุที่ตามมา
“เอ่อ...ขอโทษทีพี่...เดี๋ยวพี่มาใหม่นะ” ใจดีจะปิดประตู
“ไม่ต้องไปค่ะ คุณคงไคยกำลังจะกลับแล้ว ใช่ไหมคะ”
คงไคยยิ้มกริ่มยื่นหน้าเข้าไปแกล้งอรุณประไพก่อนจะเดินออกไป วายุมองเขม่นจะตามไปเปิดประเด็น แต่ใจดีห้ามไว้
คงไคยเดินอารมณ์ดีเข้ามาในห้องประชุม ทองถมมองยิ้มๆล้อว่าสงสัยได้กำลังใจดี คงไคยไม่ตอบอะไร แต่สั่งให้ทองถมช่วยจองร้านอาหารบรรยากาศดีๆให้เพราะจะพาอรุณประไพไปดินเนอร์ ณรงค์แอบได้ยิน ก็โทร.ไปเย้ยปรุงฉัตร ปรุงฉัตรไม่รอช้ามาดักรอคงไคยถึงห้องทำงาน เธอออเซาะขอให้พาไปทานอาหารบ้าง แต่คงไคยปฏิเสธ
“ก็ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวคงไคยไปส่งปรุงที่ร้านซาซ่านะคะ” ปรุงฉัตรแสร้งเข้าใจ
“ได้ครับเดี๋ยวผมไปเซ็นเอกสารแป็บเดียวนะครับ” คงไคยโล่งอกเดินออกไป
ปรุงฉัตรมองแค้นๆ คิดหาวิธี เธอตัดสินใจหยิบแก้วบนโต๊ะปาลงพื้น แล้วยกเท้าเหยียบลงไปบนเศษแก้วอย่างตั้งใจ
เมื่อคงไคยเดินกลับมาเห็นปรุงฉัตรนั่งที่พื้นสีหน้าเจ็บปวดก็ตกใจ รีบเข้ามาดู เห็นที่กลางฝ่าเท้าของเธอมีเศษแก้วขนาดใหญ่ฝัง เลือดไหลอาบก็รีบพาไปโรงพยาบาล ปรุงฉัตรสะใจที่แผนการดึงคงไคยสำเร็จ
ooooooo
อรุณประไพก็รอคงไคยอยู่ที่บริษัทจนค่ำ วายุออกมาจากห้องเห็นอรุณประไพยังรอคงไคยอยู่ก็เข้าไปคุยด้วย พลางแนะนำให้โทร.ตามเพราะผิดเวลามากแล้ว มือถืออรุณประไพดังเป็นเสียงข้อความเข้า อรุณประไพกดอ่านแล้ว บอกกับวายุว่า คงไคยติดธุระมาไม่ได้
“ให้รอแบบนี้มันน่า...มาครับคุณไพ เดี๋ยวผมไปส่ง” วายุโกรธแทน
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ไพกลับเองได้”
“ไม่ได้ครับ มันมืดแล้วผมไปส่งดีกว่านะครับคุณไพ แค่ไปส่ง...นะครับ” วายุขอร้อง
“ค่ะ...” อรุณประไพมองมือถือในมืออย่างเศร้าๆ
รถคงไคยแล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน ชายหนุ่มลงมาเปิดประตูฝั่งปรุงฉัตรแล้วอุ้มเธอลงมาจะพาเข้าบ้านเป็นเวลาเดียวกับที่วายุพาอรุณประไพมาส่งพอดี คงไคยเห็น อรุณประไพลงจากรถมอเตอร์ไซค์ก็ยืนอึ้ง
“คงไคยคะ พาปรุงขึ้นห้องนะคะ” ปรุงฉัตรทำมารยา
คงไคยอุ้มปรุงฉัตรเข้าไปในบ้าน อรุณประไพมองตามน้ำตาร่วงเปาะๆวายุตกใจแต่ไม่รู้จะหาคำใดมาปลอบ ครั้นอรุณ–ประไพรู้ตัว เธอรีบเช็ดน้ำตาพลางเดินเข้าบ้านไป วายุมองตามรู้สึกเจ็บปวดแทน
ภวันเดินออกมาจากห้องเห็นคงไคยอุ้มปรุงฉัตรขึ้นมาชั้นบน โดยมีอรุณประไพเดินตามมาห่างๆก็แปลกใจถามลูกชายว่าเกิดอะไรขึ้น
“ปรุงเท้าเจ็บน่ะครับ โดนแก้วตำเป็นแผลลึก เดินไม่ไหวน่ะครับ”
“คือปรุงไม่ทันระวังน่ะค่ะ คงไคยคะ ปรุงเหนียวตัวมากเลย...คงไคยช่วยเช็ดตัวให้ปรุงหน่อยนะคะ” ปรุงฉัตรจงใจยั่วโมโหภวัน
“ขาเจ็บนะจ๊ะไม่ได้เป็นง่อย” ภวันตอกกลับ
คงไคยลำบากใจไม่อยากให้มีเรื่องจึงตัดบท ขอพาปรุงฉัตรเข้าไปพักในห้องก่อน ภวันไม่พอใจนักเดินลงมาถามอรุณประไพว่า ตกลงได้ไปดินเนอร์กับคงไคยหรือเปล่า อรุณประไพอึกอัก ภวันพอเข้าใจรีบซักต่อ
“แล้วนี่หนูไพกลับมายังไง คงไคยไปรับเหรอ”
“คุณวายุมาส่งค่ะ ไพขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ” อรุณประไพเดินเลี่ยงเข้าห้อง
ภวันมองอรุณประไพแล้วมองไปทางห้องคงไคยคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่าง
คงไคยวางปรุงฉัตรลงบนเตียง ปรุงฉัตรเตรียมจะอ้อนให้คงไคยอยู่ด้วย แต่ภวันเปิดประตูเข้ามาสั่งให้คงไคย ออกไปทานอาหาร คงไคยรู้ว่าภวันมาช่วยก็รีบรับคำจะเดินออก แต่ปรุงฉัตรดึงไว้
“คงไคยคะ ปรุงเจ็บแผล คุณไม่อยู่แล้วกลางดึกปรุงมีอะไรจะทำยังไงล่ะคะ อยู่เป็นเพื่อนปรุงนะคะ”
“ถ้าเธอนอนคนเดียวไม่ได้ ฉันก็จะหาเพื่อนนอนให้เธอ แต๋วแหวว คืนนี้แกนอนเป็นเพื่อนคุณปรุง” ภวันหันไปสั่งแต๋วแหววที่ยืนรออยู่ แล้วไล่ให้คงไคยออกไป
“ไม่นะคะ คงไคย คุณจะทิ้งขว้างปรุงแบบนี้ไม่ได้ คุณทำกับคนที่รักคุณแบบนี้เหรอคะคงไคย ปรุงทำทุกอย่างเพื่อให้เราอยู่ด้วยกัน แล้วคุณตอบแทนความรักของปรุงแบบนี้ หรือคะ คุณคิดถึงใจปรุงบ้างไหม”
คงไคยอึดอัดตัดสินใจไม่ถูก ภวันจึงต้องตัดสิน “คงไคยมีงานต้องทำมีคนต้องดูแล เธอยอมรับที่จะอยู่แบบนี้เองนะปรุงฉัตร คงไคย ไปได้แล้ว”
คงไคยยอมจำนนเดินออกไป ภวันสั่งย้ำกับแต๋วแหววให้ดูแลปรุงฉัตรให้ดี ปรุงฉัตรไม่พอใจต่อว่า ภวันแถมอ้างสิทธิ์ว่าเธอก็เป็นเมียคงไคยเหมือนกัน
“คำว่าเมีย มันสูงไปสำหรับผู้หญิงที่วิ่งมาจับผู้ชายอย่างเธอ เธอเป็นได้ก็แค่นางบำเรอ แล้วไม่ต้องมาเรียกฉันว่าแม่ เพราะคนที่ฉันนับว่าเป็นลูกมีแค่คงไคยกับหนูไพเท่านั้น เธอนี่มันลงทุนจริงๆนะ แต่ก็ดีจะได้ไม่ต้องลุกมาวิ่งไล่จับลูกฉันกลางดึกกลางดื่น จำไว้นะแต๋วแหวว ไม่ว่าคุณปรุงฉัตรจะเจ็บป่วยหรือเสียสติกลางดึก แกต้องไปรายงานฉันเท่านั้น อย่าได้ไปเรียกคงไคยเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นฉันจะไล่แกออก” ภวันทิ้งท้ายแล้วเดินออกไป
ปรุงฉัตรมองตามแค้นสุดๆ
ภวันเดินออกมาจากห้องก็พบคงไคยยืนรออยู่ เขาขอโทษที่ทำให้แม่ต้องมาเดือดร้อนไปด้วย
“ปัญหามันเกิดแล้วก็ต้องช่วยกันแก้...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม่อยู่กับลูกเสมอนะ แต่คนที่แกต้องแคร์ที่สุดคือ หนูไพ เค้าอดทนและเสียสละให้แกมาก แกควรจะดูแลจิตใจเขาให้ดีกว่านี้ ไปพักเถอะ หนูไพคงรออยู่”
คงไคยเดินไปเปิดประตูห้อง เห็นอรุณประไพยืนร้องไห้อยู่ริมหน้าต่างก็รู้สึกผิดไม่กล้าเข้าไปหา จึงถอยออกไป เป็นจังหวะเดียวกับที่แต๋วแหวววิ่งหน้าตื่นมาตามให้คงไคยไปดูปรุงฉัตรที่อาละวาดไม่หยุด
คงไคยมองไปทางห้องปรุงฉัตร แล้วหันมองไปทางห้องอรุณประไพด้วยความสับสน สุดท้ายก็หันหลังเดินไปตั้งสติในห้องทำงาน
แฉล้มเป็นห่วงเข้ามาดู คงไคยน้ำตาคลอ โผเข้ากอดแฉล้มแล้วระบายความรู้สึกที่อยู่ในใจออกมา
“ผมกลายเป็นคนสองเมีย เป็นผู้ชายเลวๆที่ดูแลคนที่ ตัวเองรักก็ไม่ได้ สัญญากับใครก็ทำไม่ได้สักอย่างสร้างแต่ปัญหา ผมทำให้ทุกคนในบ้านนี้เป็นทุกข์ ถ้าผมรู้ว่าความอวดดีของผมมันจะทำร้ายคนที่ผมรัก ผมจะไม่ทำเลยนะแม่แล่ม แต่ผมแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว คนเลวอย่างผมมันได้แต่แก้ตัวไปวันๆ”
“คุณหนูไม่ได้เลวนะ เราเป็นคน มีอารมณ์ความรู้สึก เราผิดพลาดได้ แต่ต้องใช้มันเป็นบทเรียนนะคะคุณหนู เพราะคุณปรุงแท้ๆที่คิดไม่ซื่อท้องเพื่อจับคุณหนู”
“แม่แล่ม...ปรุงรักผม...ผมเป็นคนบอกให้ปรุงรอ...ผมทำให้เขาท้องแล้วผมก็เปลี่ยนใจจากเขาไปรักคนอื่น มันไม่ยุติธรรมที่จะโทษปรุงฝ่ายเดียว แม่แล่มเห็นหรือยังว่าผมเลวแค่ไหน ผู้หญิงสองคนต้องเสียใจ ร้องไห้เพราะผม ผมไม่รู้ว่าผม จะแก้เรื่องนี้ยังไง...ผมมองไม่เห็นทางจริงๆ” คงไคยน้ำตาร่วง
แฉล้มมองคงไคยด้วยความสงสารและเห็นใจ
ooooooo
เช้าวันใหม่ คงไคยหนีปัญหาด้วยการออกไปทำงานแต่เช้า ทำให้ปรุงฉัตรไม่พอใจจึงพาลมาลงที่แต๋วแหวว
“นังโง่ เรื่องแค่นี้ก็ทำไม่สำเร็จ” ปรุงฉัตรคว้าของใกล้ตัวขว้างใส่แต๋วแหววจนหัวแตก แล้วจะเข้ามาตบ
อรุณประไพออกมาเห็นก็เข้าห้าม ปรุงฉัตรหันมาท้าทายบอกว่า เธอทำโทษคนของเธอ อรุณประไพไม่เกี่ยว
“ที่นี่ไม่มีคนของคุณ มีแต่คนของภัครดีบริรักษ์ ถึงแต๋วแหววจะเป็นแค่คนรับใช้คุณ แต่เขาก็เป็นคนและมีศักดิ์ศรีเท่ากับคุณ คุณไม่มีสิทธิทำร้ายเขา ฉันต้องการให้คุณขอโทษแต๋วแหววเดี๋ยวนี้”
“ไม่...จะบ้าเหรอ ให้ฉันขอโทษนังนี่นะเหรอ ทุเรศเกินไปแล้ว”
“คุณต้องขอโทษ ถ้ายังนั้น ฉันจะแจ้งความจับคุณในข้อหาทำร้ายร่างกายคนในบ้านของฉัน”
“เอาสิ เอาเลย ถ้าหล่อนไม่อาย ว่ามันจะต้องเป็นข่าว ฉาวโฉ่กันเข้าไปอีก ก็เอาเลย หน้าบางนักไม่ใช่เหรอ”
“ไหนๆมันก็ฉาวอยู่แล้ว ถ้าจะต้องเสียชื่ออีกสักเรื่องก็คง ไม่ตายหรอก หรืออย่างน้อย คนที่จะต้องเสียชื่อเรื่องนี้ก็ไม่ควร เป็นฉัน คุณต้องขอโทษแต๋วแหววเดี๋ยวนี้” อรุณประไพเสียงเข้ม
ปรุงฉัตรอึกอักเห็นอรุณประไพเอาจริงก็จำใจขอโทษแต๋วแหวว
แต๋วแหววมองอรุณประไพอย่างตื้นตัน แล้วบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้แฉล้ม ตุ๊ดตู่ และต้อยติ่งฟัง
“เป็นไง พูดไม่ออกละซิ สมน้ำหน้า แยกออกหรือยังระหว่าง ดี ชั่ว ถูก ผิดน่ะ เห็นกงจักรเป็นดอกบัวอยู่ได้ เห็นไหมอยู่กับคนดี เวลาเดือดร้อน คนดีเขาก็มีบารมีของความดีมาคุ้มครอง แกสำนึกไหม” แฉล้มสะใจ
“อย่าซ้ำเติมฉันนักเลย ฉันซึ้งแล้ว สำหรับฉันต้องคุณไพต่างหากตัวจริง คุณผู้หญิงของแต๋วแหวว” แต๋วแหววยกมือท่วมหัว
“โอ้โห้...ฝันไปหรือเปล่าเนี่ยยาย” ตุ๊ดตู่ไม่อยากเชื่อ
“เอ็งดูไว้นะ...อย่างนี้เขาเรียกโดนตบจนตาสว่าง” แฉล้มส่งยิ้ม
ปรุงฉัตรมาที่คอนโดฯซาซ่า หวังปรับทุกข์เรื่องอรุณประไพ แต่ซาซ่าไม่อยู่เพราะไปสมัครโครงการสุดยอดเชฟเบเกอรี่ ปรุงฉัตรหงุดหงิดหยิบของในห้องมาเขวี้ยงระบายอารมณ์พลางโทร.ตามซาซ่าให้กลับมา
“นังปรุง แกทำลายล้างห้องฉัน ฉันไม่ว่า อย่ากวาดของบนโต๊ะนะยะ”
“กลับมาเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะพังทุกอย่างให้หมด”
“โอเคๆ ฉันจะรีบเหาะไปอย่างด่วนเลย แกใจเย็นๆนะ” ซาซ่ากดวางสายแล้วรีบวิ่งเข้าไปกรอกใบสมัครอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่ปรุงฉัตรกวาดอุปกรณ์บนโต๊ะตกกระจายไปเรียบร้อยแล้ว และกำลังจะคว้าจานขนมทาร์ตกับเค้กที่หน้าตาธรรมดาโยนทิ้ง พลันสายตาเหลือบไปเห็นหนังสือที่ถูกกางไว้ มีหน้าอรุณประไพเป็นสกู๊ปสั้นๆเกี่ยวกับโครงการ เพราะเธอเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตัดสิน เธอชะงักคิดหาทางเอาคืนอรุณประไพ
เมื่อซาซ่ากลับมาถึงปรุงฉัตรก็ชวนคุยเรื่องขนมสูตรใหม่บนโต๊ะ อ้างว่าชิมแล้วรสชาติดีมาก แต่คงไม่ได้รางวัล เพราะหน้าตาการตกแต่งห่วยมาก
“นี่แหละจุดด้อยของฉัน หัวฉันมันไม่บรรเจิดเรื่องนี้ซะด้วย ทำไงดีล่ะ ฉันอยากชนะการประกวด” ซาซ่าจ๋อย
ปรุงฉัตรลอบยิ้มรีบต้อนเข้าแผน แนะนำให้ซาซ่าไปขอความช่วยเหลือจากอรุณประไพ แต่ซาซ่ายังลังเลเพราะอรุณประไพเป็นคณะกรรมการด้วย
“แกก็อย่าปากมากไปบอกใครเขาสิ ก็ตามใจ ความฝันแก อนาคตแกนี่” ปรุงฉัตรทิ้งท้ายแล้วเดินออกไปเพื่อแอบดูผลงาน
ซาซ่าสองจิตสองใจ สุดท้ายก็ยอมโทร.ไปขอความช่วยเหลือจากอรุณประไพ เพื่อให้ฝันเป็นจริง
ooooooo










