ตอนที่ 10
จิ๊บนำข้อมูลและรูปถ่ายของทศพลมาให้ภุชงค์ที่ออฟฟิศ ภุชงค์ทึ่งคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างจิ๊บจะได้ข้อมูลละเอียดขนาดนี้ เขาเตือนให้จิ๊บระวังตัวด้วยเพราะเป็นห่วง จิ๊บยิ้มปลื้ม เพียงครู่เดียวเบญ ก็มาอาละวาด เพราะเข้าใจว่าจิ๊บเป็นเด็กใหม่ของภุชงค์
จิ๊บเห็นท่าไม่ดีรีบหนีออกมาจากห้อง แต่เบญก็ตามมาด่าอีกชุดใหญ่ ภุชงค์ร้องห้ามเพราะอายลูกน้อง แต่เบญสุดทน พลั้งปากท้าหย่ากับภุชงค์
“ได้ หย่าก็หย่า” ภุชงค์เดินกลับห้อง ทิ้งให้เบญกรี๊ดลั่น
ด้านปรุงฉัตรเห็นคงไคยยืนเหม่อก็เข้ามาอ้อนชวนอาบน้ำด้วยกัน คงไคยเห็นหน้าปรุงฉัตรก็ยิ่งรู้สึกผิดกับอรุณ–ประไพ
“ทำไมคะ อยู่กับปรุง แต่ใจคุณคิดถึงใครเหรอคะ” ปรุงฉัตรตัดพ้อ
คงไคยหลบตาปรุงฉัตรอ้างว่ามีงานด่วนต้องทำ ปรุงฉัตรนึกสงสัยในท่าทีแล้วรีบปรับเป็นปกติเดินไปอาบน้ำคนเดียวอย่างว่าง่าย คงไคยมองตามจนแน่ว่าปรุงฉัตรออกไปแล้ว จึงกดโทรศัพท์หาอรุณประไพ แต่คนที่รับสายกลับเป็นวายุที่พาอรุณประไพมาโรงพยาบาล
“ว่าไงไอ้หน้าไม่อาย ทิ้งให้เมียป่วยแล้วยังกล้าโทร.มา”
“อรุณประไพอยู่ที่ไหน” คงไคยร้อนใจ
“อยู่แถวนี้แหละ แต่ไม่ให้คุย มีอะไรไหม” วายุกดวางสายทันที
คงไคยหน้าเสียนึกโทษตัวเองเป็นต้นเหตุให้อรุณประไพไม่สบาย ปรุงฉัตรที่แอบดูอยู่ไม่พอใจ
หลังรับโทรศัพท์จากคงไคยแล้ว วายุก็ตามอรุณประไพ มาที่ห้องตรวจ หมอเข้าใจว่าเป็นสามีจึงแจ้งข่าวดี เรื่องอรุณประไพ ตั้งครรภ์ได้เดือนเศษ
“คุณไพท้อง” วายุถึงกับยืนไม่อยู่ รู้สึกเหมือนโลกจะแตกสลาย
ส่วนอรุณประไพก็ทั้งดีใจทั้งอึ้งทำตัวไม่ถูกที่ตั้งท้องตอนนี้ วายุตั้งสติได้อาสาไปหาอะไรมาให้ดื่ม แล้วคืนมือถือให้ สักพักเสียงมือถืออรุณประไพก็ดังขึ้น เธอเห็นชื่อคงไคยจึงกดรับ แต่เสียงที่ได้ยินกลับเป็นปรุงฉัตรที่โทร.มายั่ว อรุณประไพ ข่มใจบอกให้ปรุงฉัตรไปรักษาอาการทางจิตของตัวเองเสียก่อน เพราะน่าเป็นห่วงกว่า
“เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะค่ะ ค่อยมาเป็นห่วงคนอื่น อย่าเพิ่งคิดมากนะคะ สามีคุณเบื่อเมื่อไหร่ปรุงจะเอาไปคืนให้ค่ะ แต่ถ้ายังไม่เบื่อ ก็ไม่คืน”
“ฉันเข้าใจค่ะว่าคุณมันชอบแย่งของที่ตัวเองดูแลไม่ได้ไปเป็นของตัวเอง เมื่อก่อนฉันอาจจะยอม แต่วันนี้ไม่ใช่ ฉันจะทำทุกวิถีทางให้คุณคงไคยพ้นจากเงื้อมมือพวกคุณ”
“แหม ฟังดูเหมือนคุณกำลังประกาศสงครามกับปรุงเลยนะคะ ก็เอาสิคะ คุณอรุณประไพ” ปรุงฉัตรวางสายเพราะเห็นคงไคยเดินออกมาจากห้องน้ำพลางถามหามือถือ
“คุณลืมวางไว้ตรงนี้ค่ะ ปรุงกำลังจะหยิบเข้าไปให้พอดี” ปรุงฉัตรทำเนียนส่งโทรศัพท์ให้แล้วเดินเลี่ยง
คงไคยระแวงกดเช็กดูจึงรู้ว่าปรุงฉัตรโทร.ออกไปคุยกับอรุณประไพประมาณนาทีกว่า
เช่นเดียวกับวายุที่ยืนฟังอรุณประไพคุยโทรศัพท์อยู่สักพักแล้ว
“เนี่ยเหรอคนที่จะเป็นพ่อคน แต่ผมว่าอาจจะไม่เป็น แบบนั้นก็ได้ ยายนั่นอาจจะแต่งเรื่องทำให้คุณไพไม่สบายใจ”
“เขาออกไปต่างจังหวัดด้วยกันตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ คุณวายุ กลับไปก่อนนะคะ ไพจะขึ้นไปเฝ้าไข้คุณแม่” อรุณประไพจะลุกหนี แต่วายุเรียกไว้พลางหว่านล้อมขอเป็นพ่อของลูกอรุณประไพให้เอง เพราะคงไคยเป็นผู้ชายไม่เอาไหน
“แต่คนไม่เอาไหนคนนั้นคือสามีไพ ยังไงคุณคงไคยก็เป็นพ่อของลูกไพ ไพไปนะคะ” อรุณประไพจริงจังเพราะ ต้องการเตือนสติวายุที่ล้ำเส้นมากไปแล้ว
วายุยืนจ๋อย มองตามอรุณประไพด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
ooooooo
อรุณประไพเข้ามาดูแลภวันต่อจากทองถม ภวัน ถามหาลูกชาย อรุณประไพโกหกว่า ติดต้อนรับลูกค้าแต่ภวันไม่เชื่อ ส่วนทองถมเมื่อออกมาจากห้องภวัน ก็โทร.หาคงไคย ได้ยินเขาถามถึงอาการป่วยของอรุณประไพด้วยความเป็นห่วง
“คุณไพไม่สบายเหรอครับผมเพิ่งรู้ คงจะเก็บอาการตามเคย คุณไพมาเฝ้าไข้คุณหญิงครับ ก็คุณไพสัญญากับคุณแล้วนี่ครับว่าจะมาแทน ตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมครับว่าไม่ควรประชดคุณไพตั้งแต่แรกแบบนี้”
“เอาเถอะ คุณจะด่าผมยังไงก็ได้” คงไคยยอมรับผิด
“ว่าแล้วต้องไม่เข้าใจ...เราพูดกันแต่เรื่องเดิมๆทุกวันจนผมเบื่อที่จะพูดกับคุณแล้ว ถ้าคุณมองคุณไพในแง่ดีบ้างไม่ได้ ในโลกนี้ก็ไม่มีใครดีแล้วหละครับ แค่นี้นะครับพักนี้ไม่รู้เป็นไง...ไม่ค่อยอยากคุยกับคุณเลย” ทองถมวางสาย ยิ้มสะใจ
อรุณประไพนั่งใจลอยปอกผลไม้อยู่ข้างเตียง ภวันเห็นอาการก็เอามือลูบหัวพลางเอ่ยถามว่า เกิดอะไรขึ้น
ความอบอุ่นจากมือของภวันกระตุ้นให้อรุณประไพน้ำตาซึม
“คุณแม่ขา ไพขอโทษ ไพคงไม่ดีพอที่จะเป็นเมียแต่ง ไพคงปกป้องคุณคงไคยอย่างที่รับปากกับคุณทองถมไว้ไม่ได้”
“ปกป้องจากใคร”
“ก็จากคุณประกอบ คุณแม่ไม่เคยคิดเหรอคะว่าคุณ ประกอบอาจเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังการตายของคุณพ่อก็ได้”
“แล้วถ้าแม่จะบอกว่าแม่ไม่คิดแบบนั้นล่ะ” ภวันมั่นใจ
อรุณประไพอึ้ง รอจนภวันหลับจึงโทร.ตามทองถมมา ปรึกษา
เวลาเดียวกันนั้น คงไคยออกไปเดินเล่นที่ชายหาดและได้พบกับจิ๊บที่ถ่ายเอ็มวีแถวนั้น จิ๊บถามหาอรุณประไพ คงไคยทำสีหน้าไม่ดี เธอจึงเดาว่าเขาคงมากับกิ๊กแต่รู้สึกผิดกับอรุณประไพเพราะอยากเป็นสามีที่ดีขึ้นมา
“ก็ทำนองนั้น ที่จริงการมีครอบครัวมันก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด” คงไคยเสียงอ่อย
“เพราะคุณได้คนดีๆ อย่างคุณไพมาเป็นภรรยานะสิ คุณคงไม่ได้บ้องตื้นจนดูไม่ออกนะว่าใครๆเขาก็อยากได้ภรรยาอย่างคุณไพกันทั้งนั้น เสือสิ้นลายหละทีนี้ จากเพลย์บอยจะเป็นพ่อบ้านซะแล้ว ว้าว”
“มาทำงานไม่ใช่เหรอเรา จะอู้งานอีกนานไหม” คงไคย ไล่ส่งเพราะโดนจี้ใจดำ
จิ๊บนึกได้ขอตัวไปทำงานแต่ไม่วายหันมาแซว “คุณพ่อบ้านกลับตัวกลับใจก็กลับบ้านซะนะคะ”
“อืม ไปได้แล้ว” คงไคยผลักหัวจิ๊บเบาๆ
“ครับผม” จิ๊บตะเบ๊ะรับ กลับหลังหันจะวิ่ง แต่เกือบ หน้าทิ่มเพราะก้าวลงไปในหลุมทรายที่ขุดทิ้งไว้
คงไคยรีบคว้าตัวไว้แล้วประคองให้ยืนขึ้น จิ๊บยึดไหล่คงไคยเป็นหลัก ปรุงฉัตรมาเห็นก็ตรงเข้ากระชากแขนจิ๊บออก พลางร้องด่าและเงื้อมือจะตบ แต่จิ๊บไวกว่าผลักปรุงฉัตรล้มลงไป
“ดีนะ เอาสามีชาวบ้านมาแล้วยังกล้ามาตามหึงคนอื่นอีก คุณคงไคย ล่ามยายนี่ไว้หน่อยก็ดีนะคะพล่านเหลือเกิน จิ๊บไปก่อนหละเดี๋ยวพลาดมีเรื่องจะเสียงาน” จิ๊บออกไปโดยไม่ทิ้งจังหวะให้ปรุงฉัตรตอบโต้
ปรุงฉัตรหันมามองเอาเรื่องคงไคย แต่คงไคยไม่แคร์เดินหนีกลับห้องพัก ปรุงฉัตรรู้ตัวปรับเปลี่ยนท่าทีตามไปง้อ แต่
คงไคยถามเรื่องณรงค์ขึ้นมา เพราะอยากรู้ว่า เธอจะจัดการอย่างไร
“ทำไมอยู่ๆ ก็ถามเรื่องนี้ล่ะคะ หรือคุณกำลังจะทิ้งปรุงจะยัดเยียดปรุงให้คนอื่น” ปรุงฉัตรระแวง
“เปล่าครับ ผมก็แค่ถามดู ไม่ได้บอกว่าจะทิ้งนี่ครับ” คงไคยพูดไม่เต็มปากนัก
“ถ้าปรุงเข้มแข็งได้สักครึ่งของคุณไพก็ดีนะคะ ไม่ว่าใครจะทำอะไรก็ไม่รู้สึกรู้สา ขนาดปรุงพาคุณมายังไม่ว่า อะไรเลย คนแบบนี้ให้อยู่คนเดียวในโลกก็คงอยู่ได้ แต่ปรุงสิคะ
...นึกไม่ออกเลยว่าถ้าไม่มีคุณแล้วปรุงจะอยู่ยังไง” ปรุงฉัตรก้มตัวลงมากอดคงไคย ในขณะที่คงไคยมีสีหน้าสับสน เพราะเป็นห่วงอรุณประไพ
ด้านอรุณประไพ เธอลงมาคุยกับทองถมที่ร้านกาแฟ เพราะสงสัยว่า ทำไมภวันถึงมั่นใจว่า ประกอบไม่ใช่คนบงการ ทำร้ายคงไคย ทองถมตัดสินใจเล่าเรื่องในอดีตให้ฟังว่า ประกอบเป็นคู่แข่งทางธุรกิจและคู่แข่งทางความรักของคมสัน
“คุณพ่อของคุณคมสัน คุณเนื้อทิพย์และคุณภวันเป็นผู้ก่อตั้งพีวีเรียลเอทสเตทขึ้นมาด้วยกัน ที่จริงคุณคมสันกับคุณเนื้อทิพย์เคยรักกันมาก่อน แต่คุณพ่อคุณคมสันไม่เห็นด้วยเพราะพ่อคุณเนื้อทิพย์ลักลอบทำธุรกิจผิดกฎหมายหลายอย่าง ท่านก็เลยให้คุณคมสันแต่งงานกับคุณภวัน คุณเนื้อทิพย์ จึงประชดด้วยการแต่งงานกับคุณประกอบที่ตอนนั้นเป็นคนสนิทของคุณพ่อคุณเนื้อทิพย์ พอคุณพ่อคุณเนื้อทิพย์เสีย คุณเนื้อทิพย์ก็อ้างสิทธิ์ในหุ้นของคุณพ่อ เธอขอตำแหน่งกรรมการบริษัทให้กับประกอบ แล้วทั้งคู่ก็พยายามที่จะฮุบบริษัทมาตลอด แต่ผมไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นหรอกครับ”
“คุณแม่โชคดีนะคะที่มีคุณทองถม”
“คุณคงไคยเองก็โชคดีที่มีคุณครับ” ทองถมมองอรุณประไพอย่างเชื่อมั่น
ooooooo
ปรุงฉัตรเห็นคงไคยยืนเหม่ออยู่ริมระเบียง ก็เดินมาอ้อนขอยืมไอแพดอ้าง จะเช็กเมลเรื่องงาน คงไคย ให้ไปหยิบในกระเป๋าแล้วรอจนปรุงฉัตรออกไปแล้วจึงโทร.หาอรุณประไพเพื่อสอบถามอาการป่วย
อรุณประไพเผลอเอามือลูบท้องก่อนตอบกลับว่า เธอไม่ได้เป็นอะไร
“งั้นก็พักผ่อนซะนะครับ พรุ่งนี้ปรุงเขาเสร็จงานผมจะรีบกลับ” คงไคยวางสาย
อรุณประไพได้ยินก็อุ่นใจที่คงไคยพูดเหมือนจะกลับมาหา แต่ก็อดน้อยใจไม่ได้ที่ต้องรอให้ปรุงฉัตรเสร็จงานก่อน
“คุณยังไม่ห่วงตัวเองเลยแล้วฉันจะห่วงคุณทำไม” อรุณประไพแอบบ่น
“ห่วงใครเหรอลูก” ภวันหันมาถามเพราะยังไม่หลับ
คงไคยเดินกลับเข้าห้องเห็นปรุงฉัตรกำลังอ่านข้อมูลของโครงการจากไอแพดอย่างสนใจ ก็เริ่มเอะใจ
“เข้าเมลไม่ได้เหรอครับปรุง” คงไคยทัก
ปรุงฉัตรตกใจ แต่เก็บอาการบอกว่า ได้แล้วพลางปิดเครื่องส่งคืนให้ คงไคยมองหน้าปรุงฉัตรอย่างจับสังเกต ปรุงฉัตรรู้สึกถึงความผิดปกติรีบเดินหนี ทำให้คงไคยยิ่งสงสัย
ขณะที่อรุณประไพเอ่ยถามภวันด้วยความข้องใจว่า ทำไมถึงมั่นใจนักว่าประกอบไม่ใช่คนบงการ
“ที่แม่มั่นใจก็เพราะหลังจากพ่อคงไคยเสีย คุณประกอบเป็นคนไปรับแม่กับคงไคยกลับมา คุณประกอบเสนอให้แม่เป็นประธานบริษัท ทั้งที่ตอนนั้นคณะกรรมการบางส่วนสนับสนุนให้ประกอบด้วยซ้ำ ถ้าคุณประกอบคิดจะยึดบริษัทจริงๆเขาจะพาแม่กับคงไคยกลับมาเพื่อทำให้มันยุ่งยากถึงทุกวันนี้ทำไม”ภวันบอกเล่าความจริงบางส่วน แล้วตัดบทขอนอนพัก
เช้าวันใหม่ เนื้อทิพย์สอบถามประกอบเรื่องแผนการของคงไคยที่ให้ปรุงฉัตรไปสืบ เพราะกลัวณรงค์ชวดตำแหน่ง
“เมื่อคืนยายปรุงมันโทร.มาบอกแล้วว่าแผนงานที่คงไคยจะพรีเซนต์คือ การรับชาวบ้านเค้ามาอบรมแล้วให้ทำงานในพีวีอินเตอร์คอนแวนชั่น คู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งผมก็บอกลูกไปแล้ว”ประกอบตอบพลางหันมาทางณรงค์
ณรงค์ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์บอกกับพ่อแม่ว่า เขาสั่งคนไปจัดการแล้ว
ในเวลาเดียวกัน ผู้ใหญ่เท่งกับชาวบ้านก็กำลังช่วยกันเก็บเศษสิ่งก่อสร้างที่คนของณรงค์นำมาทิ้งไว้ที่ลานหินสำหรับทำพิธีลอยเรืออย่างจงใจ
“คราวที่แล้วมันก็เผาบ้านเรา คราวนี้มันก็ทำลายที่เรา สงสัยจะอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้แล้วมั้งนาย” เข้มบ่นดังๆ
“แบบนี้เราจะทำพิธีได้เหรอครับนาย อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันทำพิธีลอยเรือแล้ว”ไข่เสริม
สองเพื่อนซี้เสนอให้ขนเศษสิ่งก่อสร้างไปไว้ที่หน้าโครงการเพื่อเอาคืน แต่ผู้ใหญ่เท่งไม่เห็นด้วยสั่งให้ทุกคน ขนเศษก่อสร้างไปทิ้งในที่ที่เตรียมไว้ เพราะเริ่มไม่แน่ใจในความไม่ชอบมาพากลของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
เช้าวันเดียวกันนั้น จิ๊บได้พบกับดีใจและสิทธาที่ชวนกันมาเพิ่มความหวานให้ชีวิตคู่ จิ๊บรีบฟ้องใจดีเรื่องคงไคยพาปรุงฉัตรมาเที่ยว ใจดีไม่รอช้าไปจัดการทวงสิทธิ์ให้อรุณประไพ จนเกิดการตบตีกันขึ้น พนักงานโทร.แจ้งตำรวจมาระงับเหตุทั้งหมดถูกจับไปโรงพักเพื่อสงบสติอารมณ์
ooooooo
เบญยอมหย่าให้ภุชงค์ แล้วพาแม่มาเก็บข้าวของที่บ้านของเขา ภุชงค์จะเข้าไปช่วยแต่โดนตวาด ภุชงค์ขอร้องเบญว่า ควรจะจากกันด้วยดี แต่ก็โดนตอกกลับ เธอไม่ใช่พวกสร้างภาพอย่างอรุณประไพ
“เบญอาจจะเป็นเมียที่ไม่ดีนะ แล้วพี่ล่ะเคยส่องกระจกดูตัวเองบ้างหรือเปล่าว่าเป็นผัวที่ดีหรือยัง เบญไม่เถียงหรอกนะว่าพี่ไพเขาเป็นคนดี เป็นผู้ดีน่ายกย่องเชิดชู แต่ไอ้คนที่มีลูกเมียแล้วไม่รู้จักดูแล มันดีพอที่จะได้คนอย่างพี่ไพรึเปล่า ใช่ พี่ไพไม่เกี่ยวเพราะพี่มันเลวเองไง เบญผิดเองแหละที่ทรยศคนดีอย่างพี่ไพ เพราะหน้ามืดตามัวหลงไอ้ผู้ชายที่ดีแต่เปลือกอย่างพี่ แต่เบญขอทำนายไว้นะ ว่าถึงไม่มีเบญแล้ว พี่ไพก็ไม่มีทางจะมองพี่แน่”เบญพูดจนสะใจแล้วลากกระเป๋าออกไปขึ้นรถแท็กซี่ที่จอดรออยู่ ทิ้งให้ภุชงค์มองตามอย่างเหนื่อยใจ
เมื่อเบญออกไปจากชีวิตแล้ว ภุชงค์ก็มาหาอรุณประไพ เป็นเวลาเดียวกับที่ทองถมและอรุณประไพพาภวันกลับมาพักฟื้นที่บ้านพอดี อรุณประไพมองภุชงค์อย่างลำบากใจ แล้วพาไปคุยกันในสวน ภุชงค์บอกเรื่องเขาหย่ากับเบญ หวังจะได้เริ่มต้นใหม่กับอรุณประไพ แต่โดนปฏิเสธ
“ตอนนี้ไพไม่ได้เป็นคนตัวเปล่าแล้ว ถึงจะรักไม่รักตอนนี้เราก็เป็นสามีภรรยากัน คำว่าครอบครัวไม่ใช่เป็นหน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่งนะคะ แต่เราทั้งสองคนต้องช่วยกันดูแล คุณเองสิ่งที่ควรทำมาตั้งแต่ต้นคือดูแลเบญ”
“ตอนนี้มันไม่ทันแล้วล่ะ”ภุชงค์ใจหาย
“คุณไพครับ คุณคงไคยมีเรื่องครับ ผมไม่อยากให้คุณหญิงรู้”ทองถมเข้ามากระซิบ
“ทำไมล่ะ แสดงว่างานนี้ฉันคงต้องจัดการกับมันเอง”
ภวันตามหลังมา
ทองถมหน้าเสียจำใจรายงานว่า คงไคย ปรุงฉัตร ใจดี สิทธา และจิ๊บถูกตำรวจจับไปโรงพักในข้อหาทะเลาะวิวาท ไม่กี่ชั่วโมง ทองถมก็ประกันตัวทุกคน แล้วพามาที่บ้านพัก คงไคยดีใจมากที่เห็นอรุณประไพมารอรับ แต่ก็ต้องตะลึงเมื่อเห็นภวันเดินตามมาด้วย อรุณประไพเชิญทุกคนไปที่โต๊ะอาหารเพราะเตรียมข้าวต้มไว้ให้ คงไคยตามง้ออรุณประไพ แต่อรุณประไพเดินเลี่ยงไปทักทายสิทธากับใจดี
“สนุกพอหรือยัง” ภวันมองหน้าลูกชาย
“พอแล้วครับ วันนี้ก็กลับได้เลย” คงไคยจ๋อย
“แต่ฉันยังไม่หายสนุก เราอยู่ต่ออีกสักวันแล้วกันถือว่าเป็นการพักฟื้น” ภวันส่งสายตามาที่ปรุงฉัตรแล้วมองเลยไปที่จิ๊บพลางเอ่ยถาม “หนูนี่เป็นใคร”
จิ๊บรีบแนะนำตัวแล้วบอกเล่าที่มาที่ไปของเหตุการณ์ให้ภวันฟังอย่างสนุกสนาน อรุณประไพเดินเลี่ยงไปห้องพักคงไคยตามไปด้วย อรุณประไพถามถึงปรุงฉัตร
“คุณแม่ให้คุณทองถมจัดบ้านรับรองให้อีกหลัง ท่านคงอยากให้เราฮันนีมูนรอบสอง”
“รอบสองเหรอคะ รอบแรกยังไม่มีเลย”
คงไคยยิ้มขำที่อรุณประไพมีบ่นน้อยใจพลางขอโทษเธอเรื่องเมื่อวานแล้วระดมจูบไม่ยั้งอ้างว่าเป็นการใส่ยา
“คุณคงไคย คุณเป็นอะไรของคุณกันแน่ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายฉันตามไม่ทัน” อรุณประไพดันตัวคงไคยไว้
“ผมรู้ว่า ผมทำไม่ดีกับคุณเอาไว้มาก แต่คุณก็ยังทำเพื่อผม ขอโทษนะคุณไพ”
“ฉันเข้าใจค่ะ ถูกบังคับให้แต่งกับคนที่คุณไม่ได้รักก็แบบนี้”
“ใช่ แต่ก่อนอาจจะไม่รัก แต่ตอนนี้...” คงไคยพูดได้เท่านั้นก็รู้สึกพะอืดพะอมขึ้นมาจนต้องวิ่งไปอาเจียนในห้องน้ำ
อรุณประไพมองตามงงๆเพราะต้องเป็นเธอมากกว่าที่แพ้ท้อง
เย็นวันเดียวกันนั้น ประกอบได้รับรายงานจากลูกน้องว่า ณรงค์ให้คนเอาเศษวัสดุไปทิ้งที่ริมหาดอีก จึงเรียกลูกชายมาสอบถาม
“ก็แผนงานใหม่ของคงไคยคือ ดึงชาวบ้านมาเป็นพวกด้วยการอบรมและจ้างให้ทำงาน แต่ถ้าชาวบ้านไม่อยากเป็นพวกด้วยล่ะครับ เพราะอีกไม่กี่วัน ชาวบ้านที่นั่น เขาจะมีพิธีลอยเรือขอบคุณทะเล เป็นพิธีที่ชาวบ้าน
ให้ความสำคัญมากแล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีคนไปลบหลู่” ณรงค์ยิ้มร้าย
ประกอบเริ่มเข้าใจแผนการ แต่อดห่วงไม่ได้ เตือนณรงค์อย่าชะล่าใจนัก
ooooooo
ใจดีได้ยินคงไคยคุยกับอรุณประไพเรื่องหน้ามืดอาเจียนก็เรียกมาทานมะม่วงน้ำปลาหวานด้วยกัน จิ๊บทำท่าเข็ดฟันบอกว่ามะม่วงเปรี้ยวมาก คงไคยแค่ได้ยินว่าเปรี้ยวก็รีบหยิบมากิน แล้วก็จ้วงมะม่วงแบบเมามันส์ ทำเอาทุกคนอึ้ง
“คนหนึ่งเวียนหัว คนหนึ่งอาเจียน อย่าบอกนะคะว่าคุณคงไคยแพ้ท้องแทนเมีย” ใจดีล้อ
“คงไม่ใช่หรอกค่ะ” อรุณประไพออกตัว
ทุกคนหัวเราะมีความสุข ยกเว้นปรุงฉัตรที่แอบมองอยู่ด้วยความแค้น
หลังทานอาหารเสร็จ คงไคยก็จูงอรุณประไพออกมาเดินเล่นริมทะเล ทั้งสองพูดคุยหยอกล้อกันอย่างมีความสุข แล้วพนักงานก็วิ่งมาตามคงไคยบอกว่าปรุงฉัตรไม่สบายมาก
“คุณไปดูแลคุณปรุงฉัตรเถอะค่ะ” อรุณประไพฝืนใจ บอกกับคงไคยที่ยืนลังเลแล้วจะเดินหนี แต่ต้องชะงักเพราะภวันเข้ามาบอกว่า เธอจะเป็นธุระจัดการพาปรุงฉัตรไปหาหมอให้เอง พลางหันมาจิกลูกชาย
“ไม่ต้องห่วงแม่รู้จักหมอเก่งๆหลายคน หมอจิตเวชแม่ก็รู้จักนะ เผื่อว่าหมอทั่วไปจะรักษายายปลิงฉัตรไม่ได้ เอาเป็นว่าแกกับหนูไพพักผ่อนแล้วกัน หนูไพเหนื่อยมามากแล้ว”
“แม่ครับ ให้ปรุงไปอยู่ที่คอนโดฯของผมสักพักก่อนได้ไหมครับ อย่าเพิ่งพาไปส่งบ้านเลย คือ...” คงไคยไม่อยากบอกเรื่องปรุงฉัตรมีปัญหากับณรงค์ให้ภวันรู้
“แม่บอกแล้วไงว่าแม่จะจัดการเอง” ภวันตัดบท แล้วเดินออกไปสมทบกับทองถมเพื่อจะไปจัดการกับปรุงฉัตร
ปรุงฉัตรที่นอนสำออยเห็นว่าคนที่เข้ามาไม่ใช่คงไคยก็ โวยลั่น แต่ก็โดนทองถมกับภวันตอกกลับอย่างแสบสัน
“คุณป้าเกลียดคุณเนื้อ เอ้อ คุณแม่ ก็เลยมาเกลียดปรุงด้วย คุณป้ามันสันหลังหวะแย่งคุณลุงคมสันไปจากคุณแม่ ก็เลยกลัวว่าคุณแม่จะส่งปรุงมาแย่งคงไคยไปจากคุณป้า”
“จะมากไปแล้วนะปรุงฉัตร”
“คอยดูนะ ถ้าปรุงได้คงไคยคืนมา ปรุงจะทำให้คงไคยรักปรุงคนเดียว ปรุงจะแย่งคงไคยไปจากคุณป้า”
“หยุดเดี๋ยวนี้นะปรุงฉัตร ฉันจะพาเธอกลับบ้าน คุณทองถมพาปรุงฉัตรไปขึ้นรถ” ภวันเสียงเข้ม รู้สึกกับสิ่งที่ปรุงฉัตรพูดอยู่เหมือนกัน
ในระหว่างที่ทองถมกับภวันพาปรุงฉัตรกลับกรุงเทพฯ อรุณประไพกับคงไคยก็มีปากเสียงกันอีก เพราะอรุณประไพน้อยใจคงไคยเรื่องปรุงฉัตร ส่วนคงไคยก็ระแวงอรุณประไพเรื่องภุชงค์ที่หย่ากับเบญแล้ว สุดท้ายอรุณประไพก็เป็นลม
คงไคยตกใจรีบพาอรุณประไพกลับห้องแล้วหาผ้ามาเช็ดตัวให้ อรุณประไพลืมตาขึ้นไม่เห็นใครก็พึมพำกับลูกในท้อง
“ทำไมแม่คุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลย แต่แม่บอกพ่อของหนูไม่ได้จริงๆว่าตอนนี้แม่มีหนูแล้ว” อรุณประไพเศร้า เข้าใจว่าคงไคยไม่ใส่ใจ เธอหลับตาลงอีกครั้งแล้วหลับไป จึงไม่รู้ว่าคงไคยเดินกลับเข้ามาพร้อมกับอ่างน้ำสำหรับเช็ดหน้า
“ทำไมอรุณประไพผู้แสนเยือกเย็นถึงได้เกรี้ยวกราดนัก หรือว่าถ้ามีเจ้าตัวน้อยจะหายพยศได้น้า” คงไคยค่อยๆซับหน้าให้อรุณประไพโดยไม่รู้ว่าเธอกำลังตั้งท้อง
ดึกแล้ว แต่ประกอบยังเดินหงุดหงิดอยู่ในบ้าน เพราะเป็นห่วงปรุงฉัตรที่โทร.ติดต่อไม่ได้ เนื้อทิพย์ลงมาเห็นก็ไม่พอใจ
“รักเหลือเกินนะ นังลูกติดเมียคนใช้เนี่ย ฉันไม่อยากจะพูดกับคุณแล้ว” เนื้อทิพย์สะบัดหน้าหนี เป็นจังหวะเดียวกับที่เด็กรับใช้เข้ามารายงานว่า ปรุงฉัตรมาถึงแล้วและมีแขกมาด้วย
ประกอบกับเนื้อทิพย์มองไปที่ประตู เห็นภวันกับทองถมพาปรุงฉัตรเข้ามา ภวันต่อว่าเนื้อทิพย์ที่ไม่ยอมดูแลปรุงฉัตรปล่อยให้ไปกวนใจอรุณประไพกับคงไคย ทองถมรีบเสริมอีกชุดใหญ่ถึงความไม่รู้จักกาลเทศะของปรุงฉัตร
“พอเถอะคุณทองถม ไว้หน้าเนื้อทิพย์เพื่อนฉันบ้าง” ภวันทำเป็นปรามแล้วหันมาพูดเน้นๆกับภวัน “ลูกเรา เราต้อง สอนเองนะ อย่าปล่อยให้คนอื่นเขาต้องมาสอนแทนแบบนี้”
“เอาละ ขอบคุณมากคุณภวันที่มาส่งยายปรุง” ประกอบตัดบท
“ไม่เป็นไรค่ะ หมดธุระแล้วฉันขอตัวก่อน” ภวันออกไปกับทองถม
เนื้อทิพย์หันมาเล่นงานปรุงฉัตรทันทีเพราะโกรธที่ทำให้เธอถูกภวันต่อว่า
“ปรุงก็ทำตามที่พวกคุณสั่งไงคะ คุณไม่รู้หรอกว่าปรุงเจออะไรมาบ้าง ยายคุณหญิงภวันชี้หน้าด่าปรุงฉอดๆเพราะปรุงไปทำงานให้พวกคุณ แล้วเป็นไงคะ ปรุงก็ถูกจิกหัวแยกกับคงไคยกลับมาให้คุณด่าซ้ำนี้ไงคะ” ปรุงฉัตรเสียงแข็ง
เนื้อทิพย์โกรธจะตบปรุงฉัตร แต่ณรงค์เข้าไปขวางอาสาอบรมปรุงฉัตรให้เองแล้วลากตัวออกไป
ประกอบมองตามทั้งคู่อย่างสงสัย แล้วรีบตามไปคุยกับภวัน ทองถมไม่ใว้ใจประกอบจะอยู่ฟังด้วย แต่ภวันสั่งให้ไปรอที่รถ
“คุณมาไกลมากเลยนะคุณประกอบ จากคนติดตามคุณลุง วันนี้คุณกลายเป็นสามีของเนื้อทิพย์เป็นหนึ่งในกรรมการของพีวี”
“ผมยืนอยู่ตรงนี้ได้เพราะความสามารถของผม ไม่เกี่ยวกับภรรยาผม”
“ความสามารถในที่โล่งแจ้ง หรือว่าเงามืดล่ะคะ ฉันไม่แน่ใจว่าคุณถนัดวิธีการแบบไหน ฉันยินดีนะคะ ที่คุณคิดจะต่อสู้กันแบบซึ่งๆหน้า เพราะการลอบกัดคงไม่ใช่การกระทำของคนที่กำลังบอกฉันว่าเขาฉลาด ฉันทราบว่าคุณรักเนื้อทิพย์กับลูกของคุณมาก ฉันก็รักคงไคยมาก มากกว่าชีวิตของฉัน ถ้าใครคิดจะทำร้ายคงไคย ฉันก็จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้อง แม้จะต้องทำลายใครให้ย่อยยับก็ตาม” ภวันประกาศตัวแล้วเดินไปขึ้นรถ
ประกอบมองตามอย่างคิดหนักก่อนจะพึมพำกับตัวเอง “ผมก็ต้องปกป้องครอบครัวของผมเหมือนกัน”
ooooooo
ณรงค์ลากปรุงฉัตรเข้ามาในห้องและบอกกับเธออย่างอ่อนโยน ให้พักผ่อนเพราะเหนื่อยมามากแล้ว
“มาดีอะไรกับปรุงตอนนี้คะ มันสายเกินไปแล้วละค่ะ ตอนนี้ปรุงมีคงไคยคนเดียว เรื่องเก่าๆที่คุณพยายามจะรื้อฟื้นมันไม่มีผลกับความรู้สึกปรุงหรอกนะคะ คุณไม่มีทางชนะคงไคยหรอกปรุงจะบอกให้”
“ก็อย่าเพิ่งด่วนสรุป แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริง เราก็หัวอกเดียวกันสินะ เพราะเธอก็คงไม่มีทางเอาชนะคุณอรุณประไพได้เหมือนกัน ดูแค่วันนี้สิว่าเขาเลือกใคร” ณรงค์ทิ้งท้าย
ปรุงฉัตรเจ็บจนแทบยืนไม่อยู่ เธอมองไปรอบๆห้องรู้สึกว้าเหว่ จึงร้องไห้ไปหาซาซ่าที่คอนโดฯหวังได้ยินคำปลอบใจ แต่ซาซ่าพูดอะไรไม่ออกทำได้เพียงกอดปรุงฉัตรไว้แน่น แล้วร้องไห้ออกมาด้วยความสงสารเพื่อนรัก
บ่ายวันต่อมา อรุณประไพ วายุ และป๊อกกี้นั่งประชุมเรื่องงานชิ้นใหม่อยู่ในบริษัท วายุเห็นอรุณประไพเริ่มมีอาการแพ้ท้อง เพราะเลยเวลาอาหารกลางวันมานานแล้ว จึงชวนออกไปทานข้าวกันก่อน อรุณประไพยิ้มเจื่อนๆเดินเลี่ยงไปโทร.นัดหมอ จะเข้าไปตรวจอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ เพราะรู้สึกหน้ามืดบ่อยๆจึงกลัวว่าลูกในท้องจะไม่แข็งแรง
วายุออกไปหาน้ำส้มและแซนด์วิชมาส่งอรุณประไพพลางล้อว่า ที่อรุณประไพไม่ยอมบอกคงไคยเรื่องเจ้าตัวน้อยเพราะแอบเผื่อใจไว้ให้เขา แต่พอเห็นอรุณประไพทำท่าพะอืดพะอมก็รีบสรุป
“ซึ้งถึงขั้นอ้วกเลยเหรอครับ”
อรุณประไพหัวเราะขำวายุ พลางขอร้องว่าอย่าเพิ่งบอกใครเพราะเธอยังไม่พร้อม
“ผมล่ะเหนื่อยใจ ไอ้บ้านี่มันดูใครออกบ้าง แม่ป่วยเป็นมะเร็งก็ไม่รู้ เมียท้องยังไม่รู้อีก ไม่ได้มีความละเอียดอ่อนเอาซะเลย ผมล่ะอยากจะด่ามันว่า...” วายุพูดได้แค่นั้นเสียงใจดีก็ดังซ้อนเข้ามา
“ไอ้ผัวชั่ว”
ทั้งสองหันมามองตามเสียงเห็นใจดีลากสิทธาเข้ามาที่หน้าบริษัท ป๊อกกี้และพนักงานออกมายืนมองพลางร้องถามว่าเกิดอะไรขึ้นอีก
“ฉันจับได้คาหนังคาเขา มันหลอกฉันว่ามันมีงานด่วน ที่ไหนได้พอฉันเผลอมันก็แล่นไปหากิ๊กแถมเอารถฉันขับไปรับมันด้วย ไม่รู้หรือไง ฉันไม่ใช้ร่วมกับใคร ฉันไม่ใช้ ไม่ใช้”
ใจดีตะเบ็งเสียงพลางทุบตีสิทธา
“เขาไม่ใช่กิ๊ก เขาเป็นเพื่อนเก่าที่เพิ่งกลับมาจากต่าง– ประเทศ แค่แวะมาเจอกันเฉยๆ ผมแค่อยากปรึกษาเขาเรื่องลู่ทางทำธุรกิจ” สิทธาอธิบาย แต่ใจดีไม่รับฟัง เธอทุบสิทธา
หนักกว่าเดิมแถมด่าประจาน
สิทธาหน้าเสียอับอายพนักงานเป็นที่สุด วายุเห็นใจเข้ามาเตือนสติใจดีแล้วพลั้งปากยุให้เลิกกันไปเลย ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วมีแต่ความเลวร้าย ทำให้สถานการณ์ยิ่งตึงเครียด อรุณประไพเห็นแล้วก็รู้สึกหวิวๆ จะเป็นลม ป๊อกกี้เข้าประคองร้องเรียกวายุให้ขับรถพาอรุณประไพกลับไปพักที่บ้าน
คงไคยที่ยืนรออยู่เห็นวายุมาส่งอรุณประไพก็จะเข้าไปต่อว่า แต่วายุชิงพูดขึ้นก่อน“อย่ามาหาเรื่องวันนี้ไม่มีอารมณ์เมียคุณไม่สบายอยู่ด้วย หัดดูแลกันซะบ้าง ดูแลไม่ได้บอกนะจะดูให้”
“ไอ้วายุ”คงไคยตวาด
อรุณประไพเห็นสองคนทะเลาะกันก็ทำท่าเหนื่อยใจ วายุหันมาทิ้งท้าย“คุณไพครับ มีอะไรก็บอกๆไปเถอะ สามีคุณยิ่งบื้อๆอยู่ให้ดูเองมันไม่รู้หรอก”วายุเดินออกไป
อรุณประไพจะเดินเข้าบ้าน คงไคยตามมาคาดคั้นว่า มีอะไรจะบอกเขา แต่อรุณประไพไม่ทันตอบ ทองถมก็เข้ามาตามบอกว่า ภวันให้มาเชิญไปพบเพราะจะคุยเรื่องแผนงานที่จะเสนอกับคณะกรรมการในวันพรุ่งนี้
ทั้งสองเข้าไปพบภวันในห้องทำงาน แล้วนำเสนอแผนงานจ้างงานคนในพื้นที่มาช่วยงาน และส่งเสริมการอนุรักษ์ธรรมชาติโดยมีทานากะกรุ๊ปเป็นพี่เลี้ยง ภวันมีสีหน้าพอใจ
“แบบนี้แม่คงวางมือได้จริงๆ ลูกก็รู้ว่าโรคของแม่มันเอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้”
“มันจะต้องดีขึ้นครับแม่ แต่ถ้าแม่อยากพักผมรับรองว่าจะดูแลทุกอย่างให้ดีที่สุด”คงไคยรับปาก แล้วทำฟอร์มๆหันมาถามอรุณประไพ พรุ่งนี้จะไปด้วยกันไหม อรุณประไพปฏิเสธอ้างว่ามีธุระ แต่ไม่ยอมบอกเรื่องเธอนัดหมอไว้ ทำให้คงไคยเข้าใจผิดคิดว่า เธอมีนัดกับภุชงค์จึงพาลหาเรื่อง
ภวันเห็นใจอรุณประไพจึงรีบตัดบทสั่งให้คงไคยพาเธอขึ้นห้องไปเอนหลัง คงไคยอยากจะต่อว่าอรุณประไพต่อแต่เกรงใจแม่จึงต้องยอมหยุด เขาประคองภวันออกไป
ทองถมรอจนภวันกับคงไคยเดินลับตาไปแล้วจึงเอ่ยขึ้น“คุณไพครับ ตอนนี้ผมค่อนข้างมั่นใจว่า มีคนจงใจสวมรอยสร้างสถานการณ์ให้คุณคงไคยผิดใจกับผู้ใหญ่เท่งผู้นำของชุมชนนี้ครับ”
“ถ้าเขาเป็นคนสำคัญของชุมชน คุณคงไคยก็ควรเข้าหาผู้ใหญ่เท่งคนนี้ก่อน”
“งั้นคุณไพคงต้องไปกับคุณคงไคยแล้วละครับ ไปเป็นคู่คิดให้คุณคงไคย”ทองถมขอร้อง
อรุณประไพเริ่มถอดใจไม่มั่นใจว่าคงไคยยังต้องการให้เธอเป็นคู่คิดอยู่หรือเปล่า
ooooooo
คงไคยเข้าพรีเซนต์แผนงานให้คณะกรรมการฟัง ทุกคนพอใจกับแผนงานนี้มาก สั่งให้คงไคยดำเนินการตามที่เสนอได้เลย เนื้อทิพย์ไม่พอใจสั่งให้ณรงค์เสนอเรื่องงานเปิดตัวโครงการให้คณะกรรมการฟังบ้างเพื่อเรียกคะแนน คงไคยหันมากระซิบถามทองถมว่าอรุณประไพไปไหน ทำไมไม่มาประชุม ทองถมไม่ทันได้ตอบ ปรุงฉัตรก็เดินกรีดกรายเข้ามา
ทุกคนในที่ประชุมงง เนื้อทิพย์ส่งยิ้มอธิบายว่าจะให้ปรุงฉัตรมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของโครงการ เพื่อเป็นการเสริมภาพลักษณ์ ทำให้ทุกคนต้องอึ้ง
ภวันไม่ชอบใจต่อว่าเนื้อทิพย์ทำเกินหน้าที่ เพราะเธอเป็นประธานบริษัทไม่ใช่เนื้อทิพย์ ปรุงฉัตรเห็นเนื้อทิพย์ตกเป็นรองก็เข้าไปอ้อนคงไคยหวังให้ใช้ตำแหน่งประธานโครงการตัดสินใจให้เธอมาช่วยงานนี้ แต่ต้องหน้าแตกเพราะคงไคยเสนอให้ขอมติจากคณะกรรมการ ภวันยิ้มพอใจหันมาแขวะเนื้อทิพย์
“ก็ดีนะ ใช้ความเห็นส่วนรวม ฉันยอมรับได้ เนื้อทิพย์วิธีซื่อๆแบบนี้เธอคงไม่ค่อยชิน”
เนื้อทิพย์แทบเต้นมองภวันอย่างไม่พอใจ ณรงค์รีบจับมือแม่ให้ใจเย็นๆ แล้วตามไปกล่อมคณะกรรมการให้ลงมติยอมรับปรุงฉัตรมาช่วยงาน
ในขณะที่รอมติจากที่ประชุม ทองถมก็เข้ามาเปรยกับภวัน “พยายามกันขนาดนี้ ผมว่าอันตรายนะครับ”
“มองอีกมุม ถ้ามันมีอันตรายจริงๆ ไอ้ตัวแสบอาจจะหายโง่ก็ได้นะ เพราะอย่างน้อยการที่คงไคยให้ส่วนรวมลงมติมันก็แสดงให้เห็นว่าคงไคยเริ่มจะแยกเรื่องงานกับส่วนตัวเป็นแล้ว ใช่ไหม” ภวันยิ้มมั่นใจ
ทองถมคิดตามพลางพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
เวลาเดียวกันนั้น อรุณประไพมาพบหมอตามนัด หมอให้คำแนะนำหลังจากตรวจว่าเธอต้องหลีกเลี่ยงภาวะความเครียด ทานอาหารที่บำรุงร่างกาย และที่สำคัญคุณแม่ ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ อรุณประไพฟังแล้วก็หนักใจเพราะรู้ว่าเหตุการณ์ข้างหน้ากำลังเลวร้าย
“แม่ขอโทษที่ทำให้หนูต้องเหนื่อยไปกับแม่ด้วยนะลูก ไม่เครียด พักผ่อน ลูกจ๋า แม่จะทำเพื่อหนูนะ” อรุณประไพ
ลูบท้องตัวเองเบาๆ แล้วตัดสินใจหลบไปพักที่บ้านพ่อกับแม่ เพื่อหลบหน้าคงไคยไม่ให้เขาเห็นอาการแพ้ท้อง
ส่วนคงไคยก็กลับเข้ามาในห้องประชุมอีกครั้งเพื่อฟังมติจากคณะกรรมการ ทุกคนลงความเห็นว่าจะให้ปรุงฉัตรมาช่วยงานเพราะหลงเชื่อคารมของณรงค์ ภวันกับทองถมมองหน้ากันเพราะพลาดท่าให้กับณรงค์จนได้ แต่ก็ยังอุ่นใจว่ายังมีอรุณประไพอยู่เคียงข้างคงไคยอีกคน
เนื้อทิพย์เดาความคิดภวันได้จึงถามหาอรุณประไพ ภวันขยับจะตอบแต่ไม่ทันคงไคยที่ออกรับแทน
“คุณอรุณประไพอยู่ในช่วงสะสางงานที่เก่าครับ ถึงจะไม่ได้มาด้วยแต่แผนงานทั้งหมดที่ผมนำเสนอในวันนี้ คุณอรุณประไพก็เป็นผู้วิเคราะห์และหาข้อมูลครับ”
คณะกรรมการพอใจในคำตอบ ผิดกับปรุงฉัตรที่หน้าหงิกกระซิบบอกคงไคยว่ามีเรื่องต้องคุยกัน
เมื่อเลิกประชุมอรุณประไพก็โทร.มาบอกทองถมว่า จะไปค้างที่บ้านแม่สักสองสามวัน ทองถมเรียนให้ภวันทราบ
“ไอ้ตัวแสบก่อเรื่องแน่ๆ เฮ้อ ฉันล่ะกลัวหนูไพถอดใจจริงๆ” ภวันถอนใจหันไปมองคนของทองถมที่เข้ามารายงานว่ามีตำรวจมาขอพบคงไคย เพราะผู้ใหญ่เท่งแจ้งความจับในข้อหาเป็นผู้จ้างวางเพลิงเมื่อสองวันก่อน
ภวันกับทองถมออกไปดูเหตุการณ์ พบคงไคยยืนคุยอยู่กับตำรวจด้วยท่าทีงงๆ เพราะไม่รู้ว่าผู้ใหญ่เท่งเป็นใคร
“ผู้ใหญ่เท่งเป็นผู้นำชาวบ้านในพื้นที่ที่เราสร้างพีวีอินเตอร์คอนเวนชั่นครับ” ทองถมเข้ามาอธิบาย
คงไคยเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่างจึงยอมตามตำรวจไปให้ปากคำที่โรงพักเพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตน
ปรุงฉัตรแอบดูอยู่สงสัยว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับพวกประกอบแน่ จึงเข้าไปสอบถาม ประกอบกับเนื้อทิพย์ปฏิเสธ แต่ณรงค์กลับยืดอกรับว่า เขาเป็นคนสั่งการเอง
ส่วนผู้ใหญ่เท่งเมื่อรู้ว่าคงไคยไปให้การกับตำรวจแล้วและปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องที่เกิดขึ้น ก็ทำให้ผู้ใหญ่เท่งมั่นใจว่า อาจมีคนมาสวมรอยสร้างสถานการณ์ปั่นหัวให้เขากับคงไคยทะเลาะกัน แล้วเข้มก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามาฟ้องว่าคนของคงไคยเอาเศษวัสดุก่อสร้างมาทิ้งที่ลานหินริมหาดอีกแล้ว
“แบบนี้มันตั้งใจก่อกวนไม่ให้เราได้ทำพิธีนี่ครับนาย วันเปิดตัวโครงการของมัน ตรงกับวันที่เป็นฤกษ์ทำพิธีของเราด้วยนะ” ไข่ฮึดฮัดไม่พอใจ
“ให้คนมาช่วยกันขนออกไป ยังไงก็ให้ใครมาล้มพิธีไม่ได้” ผู้ใหญ่เข้มสั่งนิ่งๆแต่สายตาเอาจริง
ooooooo
คงไคยนั่งคิดหนักถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะหลังกลับจากให้ปากคำที่โรงพัก ทองถมก็เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มว่า วันที่จะเปิดตัวโครงการ เป็นวันที่ชาวบ้านจะทำพิธีลอยทะเล และนอกจากเรื่องลอบวางเพลิงแล้ว ยังมีคนจงใจใส่ความว่าคงไคยจะล้มพิธีของชาวบ้านอีกด้วย คงไคยนึกทบทวนเหตุการณ์ที่มีณรงค์ ปรุงฉัตร และอรุณประไพมาเกี่ยวข้อง เขาเริ่มระเแคะระคายอะไรบางอย่างจึงเอ่ยกับทองถม
“คุณทองถม ผมคิดว่าเรื่องนี้ อาจจะมีคนในสร้างสถานการณ์ ต่อไปนี้ไม่ว่าผมจะทำอะไร ก็ขอให้คุณทองถมรู้ไว้ว่า ผมทำเพื่อให้คนได้แสดงธาตุแท้ออกมา”
“ผมดีใจนะครับที่ได้ยินแบบนี้ เอ ใครน้าที่ทำให้คุณคงไคยจอมเหวี่ยงเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้” ทองถมอมยิ้ม
คงไคยรู้ว่าทองถมหมายถึงอรุณประไพจึงถามหา แต่ทองถมไม่ยอมบอกว่า คงไคยทนไม่ไหวหยิบโทรศัพท์ออกมา โทร.หาอรุณประไพ แต่โทร.ไม่ติด เพราะปรุงฉัตรรู้จากแต๋วแหววว่าอรุณประไพไม่อยู่บ้าน จึงโทร.มายั่วว่า เธอจะดูแลคงไคยให้เอง เพราะเขาอยู่กับเธอ ทำให้อรุณประไพถึงกับน้ำตาซึม
เมื่อวางสายจากปรุงฉัตรแล้วคงไคยก็โทร.เข้ามา อรุณประไพถามว่า ตอนนี้เขาอยู่ไหน แต่พอได้ยินคงไคยตอบว่าอยู่บ้านก็เข้าใจผิดคิดว่าเขาโกหก เธอกดวางสายแล้วร้องไห้ออกมา
ประไพเห็นอาการลูกก็ตกใจเข้ามาสอบถามพร้อมให้ข้อคิด “ทำไมคนอื่นพูดอะไรลูกถึงเชื่อ แต่คุณคงไคยเป็นสามีของลูกทำไมลูกถึงไม่เชื่อเขา แต่ถ้าเขาโกหกก็ยังดีกว่าให้คนอื่นมาโกหก มายุยงให้เราแตกกันนะลูก ช่องว่างระหว่างคนสองคนไม่ได้เกิดเพราะมีคนมาแทรกกลาง แต่มันเกิดเพราะเราไม่เชื่อใจกันต่างหาก ลูกเองก็เคยรู้สึกใช่ไหมว่า ทำไมลูกพูดอะไรคุณคงไคยถึงไม่เคยเชื่อ ไม่เคยไว้ใจ แล้วลูกล่ะจ๊ะ เชื่อและไว้ใจคุณคงไคยรึเปล่า”
อรุณประไพเช็ดน้ำตาคิดตามที่ประไพสอน
เป็นเวลาเดียวกับที่แฉล้มขึ้นมาตามคงไคยลงทานอาหาร คงไคยอ้อนถามแฉล้มว่า เขาร้ายกาจสารพัดทำไมถึงยังดีกับเขาอยู่
“ก็แล่มรักคุณหนูนี่คะ ไม่ใช่แค่แล่มนะคะที่รักคุณหนู คุณหญิงท่านก็รัก คุณไพเธอก็รักแล้วคุณหนูล่ะคะรู้รึเปล่าว่าตัวเองรัก ไม่ต้องตอบแล่มหรอกค่ะ แต่ตอบตัวเองให้ได้ดีกว่าว่า ใครที่หายไปจากชีวิตเราแค่สักวินาทีแล้วเราแทบจะอยู่ไม่ได้ ใครที่ทำให้เราอยากเปลี่ยนตัวเองให้ดีพอในสายตาเขา” แฉล้มเดินยิ้มออกไป
คงไคยมองรูปแต่งงานที่หัวเตียงพลางตอบตัวเอง “ทำไมผมจะไม่รู้ว่าใครที่หายไปแล้วทำให้ผมแทบอยู่ไม่ได้ ใครที่ทำให้ผมอยากเปลี่ยนตัวเองให้ดีพอ ขอเวลาผมจัดการกับคำสัญญาที่ผมสร้างขึ้นมาผูกมัดตัวเองก่อนนะอรุณประไพ”
ภวันเห็นแฉล้มเดินยิ้มลงมาก็เดาได้ว่า มีความสุขเรื่องอะไร
“มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอกแม่แล่ม ลูกชายฉันถึงมันจะเกเรยังไง แต่มันก็เป็นสุภาพบุรุษกับผู้หญิง คงไคยไปสัญญากับแม่ปรุงฉัตร ไปบอกให้เขารอ แล้วแม่แล่มคิดว่าลูกชายฉันจะสลัดคนที่ตัวเองบอกให้รอ มาหาคนที่ตัวเองรักหน้าตาเฉยได้เหรอ” ภวันจำต้องบอกออกไป
“คุณหนูไม่ทำแบบนั้นแน่” แฉล้มหน้าเสีย
“ไม่เป็นไรหรอกแม่แล่ม ฉันเชื่อว่าหนูไพเข้มแข็งและหนักแน่นพอที่จะรอคงไคยได้ ไปหยิบโทรศัพท์มาหน่อยสิ ฉันจะโทร.ไปเติมความหนักแน่นให้ลูกสะใภ้สักหน่อย” ภวันยิ้มอย่างหมายมั่น
ส่วนอรุณประไพดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่ เมื่อภวันยืนยันว่าลูกชายของเธออยู่ที่บ้านจริงๆ พลางนัดหมายให้ไปเจอกันที่งานเปิดตัวโครงการ อรุณประไพวางสายสีหน้าสดชื่น
ประไพอมยิ้มเดินเข้าถาม “รู้แล้วใช่ไหมลูก คนเป็นเมียควรจะเชื่อคำพูดของใครมากที่สุด”
อรุณประไพยิ้มรับ ประไพซักต่อว่าทำไมถึงหลบมาค้างที่บ้าน อรุณประไพอึกอักยังไม่อยากบอกแม่เรื่องตั้งท้อง ประไพเห็นอาการก็ฟันธงว่าอรุณประไพคงรักคงไคยเข้าแล้ว
“ไม่ว่าไพจะรู้สึกยังไง พอครบปี ไพกับเขาก็ต้องหย่ากันอยู่ดี เพราะคุณคงไคยสัญญากับคุณปรุงฉัตรไว้แบบนั้น ถึงตอนนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไพก็ต้องไป” อรุณประไพเผลอลูบท้องตัวเอง
“งั้นก็รอให้ถึงวันนั้นก่อนแล้วค่อยคิดนะลูก” ประไพสรุปแล้วแกล้งวางแจกันดอกมะลิไว้ตรงหน้า
อรุณประไพดมดอกมะลิที่เคยชอบ พลันรู้สึกพะอืดพะอมจนอยากจะอาเจียน
แต่คนที่อาเจียนจนหมดแรงอยู่ในห้องน้ำคือคงไคย แฉล้มเข้ามาดูและล้อว่าคงคิดถึงเมียมากไป ก่อนจะเดินไปหายาหอมมาให้ เสียงมือถือคงไคยดังขึ้น เขากดรับเข้าใจว่าอรุณประไพโทร.มา แต่กลับเป็นปรุงฉัตรที่อ้อนให้ไปหา
“คืนนี้ผมเหนื่อยอยากพักครับปรุง ขับรถไม่ไหวจริงๆ”
คงไคยปฏิเสธพลางตั้งคำถามกับตัวเอง “ปรุงครับ นอกจากคุณจะทำทุกอย่างให้ผมกลับไปแล้ว คุณยังเป็นนกต่อให้ใครด้วยรึเปล่า”
ooooooo










