สมาชิก

สายลับจับแอ๊บ

ตอนที่ 9

ญี่ปุ่น กิ๊กกิ๊กและจิ๋วจิ๋วช่วยพรนางฟ้าครุ่นคิดว่าจะมอมเหล้าผู้ชายที่ไม่กินเหล้าอย่างไร ก็พอดีเห็นบริกรเดินถือถาดมีแก้วช็อตวางอยู่เต็มผ่านมา ก็เกิดไอเดีย

พาทีกำลังนั่งคุยหัวเราะกันอยู่กับวทันยูและแม็กซี่ พรนางฟ้าถือถาดแก้วช็อตเดินเข้ามาวางกล่าว “คุณผีทั้งหลาย ผีเดอะริงขอนั่งด้วยได้ไหมคะ”

พาทีหุบยิ้มทันที วทันยูเชื้อเชิญบอกพวกเรากำลังคุยสนุกกันเลย พรนางฟ้ารีบเสนอว่า อยากสนุกกว่านี้ไหม ตนมีไอเดียเก๋ๆมานำเสนอเป็นเกม ทั้งวทันยูและแม็กซี่สนใจ

พรนางฟ้าชูไพ่สี่ใบอธิบายกติกาว่า ใครได้ไพ่พระราชาจะสั่งใครทำอะไรก็ได้ พอเริ่ม ทุกคนแย่งไพ่ที่คว่ำไว้กันใหญ่ ยกเว้นพาทีที่ได้ใบที่เหลือ ปรากฏเป็นคิง เขาจึงมีสิทธิ์สั่งให้ใครทำอะไรก็ได้ วทันยูรีบขออย่าสั่งตนแล้วตนจะเลี้ยงค็อกเทล

“พอดีผมไม่ชอบรับสินบนด้วยสิครับ...ทุกคนอยากให้คุณวทันยูโดนอะไรดี”

วทันยูหน้าเหยที่โดนเลือก แม็กซี่รีบขอให้หอมแก้มตน วทันยูร้องลั่นไม่เอา พาทีขำยอมสั่งตามนั้น พรนางฟ้าพยายามสนุกไปด้วย วทันยูทำหน้าฝืนใจที่จะต้องหอมแก้มแม็กซี่ แล้วหันมาขู่พาทีอย่าให้ถึงคราวตนบ้าง พาทีสลับไพ่วางลง ทุกคนแย่งกันแล้วคราวนี้พรนางฟ้าเป็นคนได้ไพ่คิง วทันยูช่วยรุมยุให้สั่งเลยๆ เธอได้ทีสั่งให้พาทีดื่มเหล้าเจ็ดช็อต คนอื่นตาโตตกใจ

พาทีดื่มรวดเดียวคิดว่าไม่น่าเป็นอะไร แต่ไม่นานเขาก็เมา พอครั้งต่อไปแม็กซี่ได้ไพ่คิงจึงสั่งให้พาทีเต้น เขาลุกขึ้นเต้นรั่วมาก สักพักก็คออ่อนคอพับฟุบลงซบไหล่พรนางฟ้า ทั้งวทันยูและแม็กซี่จึงช่วยกันพยุงไปหาที่นอนพักและปล่อยให้พรนางฟ้าคอยดูแล

เมื่อทุกอย่างเป็นตามแผน พรนางฟ้านั่งมองพาทีที่นอนหลับด้วยความรู้สึกเขิน พาทีปรือตาขึ้นมาอย่างเมาๆ ดีใจที่เห็นหน้าเธอ เขาดึงตัวเธอลงมากอด “แองจี้ นี่แองจี้จริงๆเหรอ ดีจัง...รู้ไหมถ้าพี่เป็นคิงจริงๆ พี่ขอสั่งให้แองจี้เลิกกับไลออนแล้วมาคบกับพี่เดี๋ยวนี้”

หญิงสาวใจสั่นรัวดันตัวเองออกจากอ้อมแขนเขา ถามเขาพูดจริงหรือ พูดจริงใช่ไหม พาทียังสะลึมสะลือยื่นมือลูบแก้มเธอ “แองจี้...แองจี้น่ารักจัง แองจี้น่ารักที่สุดในโลกเลย”

“พี่พาทีพูดเพราะเมาใช่ไหม” พาทีปัดไม่ได้เมาแล้วทำท่าจะอ้วก พรนางฟ้าเตือนตัวเอง “โอ๊ยฟ้า...ตั้งสติแกจะหวั่นไหวไม่ได้ แกต้องสืบหาความจริงเรื่องคุณชลลัมภีร์ เร็วๆสติๆ” เธอก้มลงกระซิบข้างหูเขา “พี่พาที พี่พาทีกับคุณชลลัมภีร์มีปัญหาอะไรกันเหรอคะ”

พาทีขยับตัวมองหน้าพรนางฟ้าแล้วอ้าปากจะตอบ แต่แล้วก็เริ่มร้องไห้ออกมา “ไอ้ชลลัมภีร์ ไอ้เลว...เจเจภูมิ...ไอ้ชล กูขอโทษ กูขอโทษนะทุกคน”

พรนางฟ้าพยายามถามว่าขอโทษเรื่องอะไร เรื่องเขาเป็นเกย์กับเจเจจริงหรือ เขาปัดป่ายมือแล้วดึงเธอมากอดแนบอก หัวเราะออกมา พรนางฟ้าดันตัวออกมองหน้าพาทีที่หัวเราะและกำลังพูดว่าฉันรัก...ทันใดเสียงไลออนเรียก เขาเข้ามายืนมองสีหน้าโกรธจัด

พรนางฟ้ารีบดึงไลออนออกมาคุย เขาโวยที่เห็นพาทีดึงเธอไปกอด หญิงสาวพยายามอธิบายว่าพาทีเมา ตนจึงก้มลงไปฟังว่าเขาพูดอะไร ไลออนยิ่งโมโห

“แสดงว่าเธออยากรู้มากเลยใช่ป๊ะ ว่าพี่เขาจะพูดอะไร” ไลออนจับไหล่ผู้จัดการสาวแน่น “มองหน้าเราแล้วตอบเรา...แองจี้ชอบพี่พาทีใช่ไหม”

“ไลออน นายอย่ามางี่เง่าได้ไหม”

“ไม่ให้เรางี่เง่าได้ไง เรารักแองจี้นะ เราเป็นแฟนเธอแล้วนะ”

พรนางฟ้าสุดรำคาญตะโกนใส่ว่าไม่มีอะไรๆ

ไลออนทนไม่ไหวดึงเธอมาจูบ หญิงสาวตกใจตาโพลง ทันใดมีแสงแฟลชสว่างวาบขึ้น ทั้งสองรีบผละออกจากกันหันมองไม่รู้ว่าเป็นนาเดียร์ เห็นคนแต่งผีวิ่งหนีไป

พรนางฟ้าตกใจมากเกรงเป็นข่าวใหญ่โต ไลออนรีบวิ่งตามไป

นาเดียร์วิ่งหลบมาได้รีบโทรศัพท์รายงานชลลัมภีร์...ไลออนกับพรนางฟ้าหานาเดียร์ไม่เจอ ไลออนปลอบใจพรนางฟ้าว่าเราจะต้องผ่านเรื่องนี้ไปได้ หญิงสาวถอนใจบอกให้เขากลับไปอยู่กับกลุ่มบลูปรินซ์ก่อน ตัวเธอก็จะกลับเข้าไปในงาน

ด้านแพรพิณเซ็งที่ต้องอยู่คนเดียวในงาน ชยุตเดินเข้ามาบอกว่ามีเรื่องอยากคุยด้วยแบบดีๆไม่หงุดหงิดใส่กัน ทั้งสองเดินมานั่งที่ลานน้ำพุ ชายหนุ่มเอ่ยถามว่าเธอเคยมีแฟนไหม หญิงสาวตกใจพยายามเก็บอาการคิดว่าเขาคงขอเป็นแฟน เขาคะยั้นคะยอให้ตอบ เธอไม่อยากพูดถึงอดีตที่เคยโดนผู้ชายมาทวงสามีกลางงานแต่งงาน จึงโกหกไปว่าไม่เคยมี เขายิ้มเยาะ

“ก็ไม่แปลกหรอก มนุษย์ป้าเจ้ากี้เจ้าการ เป็นศูนย์กลางของจักรวาลแบบคุณใครจะไปทนได้” แพรพิณโวยไหนจะคุยกันดีๆ เขารีบบอกว่าล้อเล่น

“ที่ผมถามน่ะเพราะผมจะบอกว่าผมเองก็ไม่เคยมีแฟน มีแต่เกือบๆเป็น นอกนั้นก็ผ่านมาผ่านไป คุณเคยเป็นไหม คุยกับใครคนหนึ่งตั้งนานแต่ไม่ได้เป็นแฟนน่ะ”

แพรพิณหูผึ่งรีบถามว่าสวยไหม ชยุตบอกระดับหรีดมหาวิทยาลัย เธอทำหน้าแหวะ เขาขำรู้ว่าเธอหึง จึงรีบบอกว่าประเด็นไม่ได้อยู่ที่สวยหรือไม่ แต่จะบอกว่า

ที่ไม่ได้เป็นแฟนกันเพราะเพื่อนๆในห้อง แพรพิณแทรกคงโดนเพื่อนแย่ง เขาเอ็ดให้ฟังจนจบ หญิงสาวโกรธจะลุกหนี ชยุตดึงมือให้นั่งลง แล้วกุมมือเธอไว้เพื่อเล่าต่อ

“ผมจะบอกว่าพอผมกับเขาคุยไปสักพักหนึ่งใช่มะ เราเริ่มไปไหนมาไหนด้วยกัน ทีนี้เพื่อนในห้องก็เริ่มแซว ผู้หญิงคนนั้น เขาไม่ชอบให้คนอื่นมายุ่งเรื่องส่วนตัว เขาอายเขารำคาญที่มีคนแซวก็เลยเลิกคุยเลิกยุ่งกับผมไปเลย”

“อ้าว ทำไมทำงั้นอะ ผู้หญิงอ่อนแอ ชิ!ฉันไม่อ่อนแอแบบนั้นหรอก”

ชยุตทำเสียงเหรอ...แพรพิณจึงนึกได้ว่าเผลอเอาตัวเองไปเปรียบเทียบ ชยุตขำๆเล่าต่อ ว่านั่นเป็นเหตุผลที่ตนเกลียดเวลามีคนอื่นมายุ่งเรื่องความรักของคนสองคน หญิงสาวรู้สึกเหมือนโดนด่ากระทบ ชยุตคุกเข่าลง แพรพิณตื่นเต้นคิดว่าเขาจะขอแต่งงาน อึกอักๆแล้วเผลอตอบไปว่าตกลง ชยุตขำรู้ว่าเธอคิดอะไรดักคอคิดว่าตนขอแต่งงานหรือ เธอทำหน้าเหวอ อายจะเดินหนี

“โอเคๆขอโทษๆ ผมจะจริงจังละ ผมขอร้องให้คุณออกจากจีสแกนได้ไหม คุณทำมันไปโดยไม่รู้เลยว่าความลับที่พวกคุณสืบมาได้ มันจะทำร้ายใครบ้าง...คุณเชื่อผมเถอะว่าความลับมันมีเวลาสิ้นสุดของมัน วันหนึ่งมันก็ต้องถูกเปิดเผย ทุกคนก็จะรู้เองโดยที่คุณไม่ต้องสืบ คุณรู้ไหม ช่วงนั้นผมเสียใจมากที่ต้องเสียผู้หญิงคนนั้นไปเสียใจอยู่หลายปีเลยนะ จนผมมาเจอคุณนี่แหละ”

แพรพิณมองตาชยุตรู้สึกราวถูกบอกรัก เขาย้ำขอให้ออกจากจีสแกน เธออึกอักๆ พอดีภาพไลออนจูบหญิงสาวในงานแพร่ออกมา ญี่ปุ่น กุ๊กกิ๊กและจิ๋วจิ๋ววิ่งมาบอกแพรพิณ “มีปาปารัสซีถ่ายรูปพี่ฟ้าจูบกับไลออน ตอนนี้ต้องพาพี่ฟ้าหนีก่อนเถอะครูก่อนที่จะโดนบีพีแฟนถล่ม”

แพรพิณสะบัดมือออกจากชยุต สบตาเขาอย่างเสียใจก่อนจะวิ่งตามเด็กๆออกไป ชยุตผิดหวังที่เธอไม่เลือกเขา

แพรพิณกับเด็กๆหาชุดมาให้พรนางฟ้าเปลี่ยนก่อนจะหาทางหนี พรนางฟ้าเป็นห่วงพาทีจึงรีบมาปลุกเขาให้หนี แต่เขายังเมาดึงเธอไปกอด เธอพยายามดันตัวให้หลุดบ่น

“โอ๊ย มือนี่มันอะไรนักหนา ทำไมเกี่ยวไปกอดได้ทุกทีวุ้ย พี่พาทีลุกขึ้นมาช่วยกันแก้ปัญหาก่อน” แต่ดูท่าพาทียังไม่มีสติ เอาแต่เพ้อแล้วก็หลับกรนใส่

ooooooo

ต้อยกับติ่งนำทีมตามหาว่าไลออนจูบกับสาวคนไหน ใครในงานที่แต่งผีแบบนั้น ไม่อยากฟันธงว่าเป็นแองจี้ผู้จัดการวง ขณะพรนางฟ้าประคองพาทีอย่างทุลักทุเลล้มคว่ำอยู่ตามทาง ต้อยกับติ่งเดินมาเจอ แปลกใจที่เห็นเธอไม่ได้สวมชุดผีแล้วชักเอะใจ เข้าไปเลียบเคียงถาม

“หนูเห็นพี่แองจี้วันนี้ใส่ชุดผีสาวไม่ใช่เหรอคะ เปลี่ยนแล้วเหรอ กะจะมาถ่ายรูปคู่ไปอวดเพื่อนซะหน่อยว่า ได้เจอพี่แองจี้ผู้จัดการวงบลูปรินซ์”

พรนางฟ้าอ้างว่าพอประกาศรางวัลชุดยอดเยี่ยมไม่ใช่ตนก็เลยเปลี่ยน ต้อยกับติ่งหลงเชื่อแล้วรู้สึกว่าสองคนนี้ช่างเหมาะสมกัน น่ารักอยากเป็นติ่งคู่นี้ จึงช่วยพยุงพาทีให้ลุกขึ้น

พอพันธิตรู้เรื่องรีบเข้ามาในห้องแต่งตัว ไลออนวิ่งกลับมาพอดี ทุกคนรุมว่าไลออนที่ก่อเรื่องอีกจนได้ พันธิตตัดบทให้หาทางหลบนักข่าวและแฟนคลับก่อน แพรพิณวิ่งมาถึงบอกแองจี้ให้ตนพาพวกเขากลับ ชยุตตามมาดึงมือ เธอหันมากล่าวขอโทษที่ตนทิ้งเพื่อนไม่ได้จริงๆ

เฌอเบลล์เพิ่งมาถึงงานแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ได้ยินต้อยกับติ่งคุยกันว่าไลออนจูบกับสาว พวกเขากำลังตามหาว่าเป็นใคร เฌอเบลล์จึงถามหาพาที ติ่งหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ

“คุณพาทีเมาแอ๋จนคุณแองจี้ต้องลากกลับไปด้วยกัน เพิ่งออกไปเมื่อกี้เองค่ะ แต่ไม่รู้ว่าพากันไปต่อที่ไหนนะ”

เฌอเบลล์หงุดหงิดพยายามโทร.หาพาทีแต่เขาไม่รับสาย...ด้านแพรพิณขับรถพาบลูปรินซ์กลับมาเห็นแฟนคลับและนักข่าวอออยู่หน้าบ้าน จึงทำทีขับรถผ่านไปแล้วบอกทุกคนว่า คงต้องไปพักที่บ้านตนก่อน ส่วนพรนางฟ้ารู้ว่าพาพาทีกลับบ้านคงไม่ได้แน่ จึงพามาที่คอนโดของตนพยุงเข้าไปนอนในห้องนอน เขาดึงเธอล้มลงไปบนเตียงด้วย แล้วยังพล่ามอีกว่า

“อ้าวแองจี้ ยังอยู่อีกเหรอ เห้อ วันนี้ฝันดีนานจัง” พาทียังกอดเธอแนบอก หญิงสาวชักไม่แน่ใจว่าเขายังเมาหรือแกล้ง แต่พอเขาเรอออกมาเป็นกลิ่นเหล้า ก็แน่ใจว่าเมาจริงดันให้เขาปล่อย พาทียื้อไม่ปล่อยเธอ แถมพูดว่า “ไม่ปล่อย พี่ว่าคืนนี้แองจี้ต้องเป็นของพี่แล้วล่ะ”

พรนางฟ้าตาโพลงตกใจ พาทีเลื่อนหน้ามาใกล้หน้าเธอจนเธอใจสั่นรัว หลับตาลงอย่างห้ามใจตัวเองไม่ได้ พอปากเขาใกล้ประกบปากเธอ เขาก็ฟุบหลับลงข้างหน้าเธอ หญิงสาวลืมตา “อ้าว!พี่พาที ไอ้พี่บ้า...มองใกล้ๆก็หล่อเหมือนกันนะเราเนี่ย ตานี่จะดุไปไหน หัดทำตาหวานๆบ้างสิ แล้วปากเนี่ย จะแข็งไปไหน ชอบแองจี้ก็บอกมา ไหนพูดสิพี่ชอบแองจี้ พูดสิ ไม่พูดใช่ไหม แองจี้พูดก่อนก็ได้ แองจี้ชอบพี่พาที ชอบมากด้วย”

เสียงไลน์โทรศัพท์ดังรัว พรนางฟ้าตัดสินใจปิดเครื่อง ขออยู่ในอ้อมกอดของพาทีแบบนี้ก่อน พรุ่งนี้จะเกิดอะไรค่อยว่ากัน เธอหลับตาลงซบอกเขาด้วยความเต็มใจ

รุ่งเช้า พาทีลืมตาขึ้นอย่างมึนๆ พอเห็นว่าแองจี้นอนหลับอยู่ในอ้อมกอดก็ใจเต้นรัว เธอกระชับกอดเขาแน่นขึ้น ทันใดเสียงมือถือดังขึ้น เขารีบหยิบมาดูเห็นมีข้อความเข้ามาหลายร้อยก็ตกใจ รีบกดอ่าน พอรู้เรื่อง

ที่เกิดขึ้นก็ปลุกแองจี้ให้ตื่น บอกเธอว่าเกิดเรื่องใหญ่แล้ว หญิงสาวอึกๆอักๆทำให้เขารู้ว่าเธอรู้เรื่องแล้ว เธอบอกเขาว่าแพรพิณพาบลูปรินซ์ไปหลบที่บ้าน

พาทีขับรถมาถึงบ้านแพรพิณ นภิสกับแพรพิณออกมายืนรอรับ ท่าทางพาทีโกรธมากจนพรนางฟ้าต้องขอให้ทั้งสองไปหลบบนห้องก่อนและให้บอกอันนาอย่าเพิ่งลงมาด้วย

สี่หนุ่มบลูปรินซ์นั่งหน้าสลดอยู่ที่โต๊ะกินข้าว พาทียืนหน้าเครียดถามเกิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร ไลออน ก้มหน้านิ่ง เขาจึงตวาดถามไลออน

โดยตรง ไลออนโทษปาปารัสซีที่แอบแต่งผีแฝงเข้ามาในงาน โทษคนดูแลงานที่ปล่อยให้คนนอกเข้ามา พาทีเอ็ดเสียงเข้ม

“ยังกล้าไปโทษคนอื่นอีกเหรอ ก็บอกแล้วใช่ไหมว่าถึงจะเป็นปาร์ตี้ขอบคุณ พวกเราก็ต้องระวังตัวจะทำอะไรให้มันอดใจเอาไว้บ้าง อย่าให้ความอยากมันครอบงำจนทำอะไรไม่เลือกสถานที่” พรนางฟ้าสะดุ้งปราม

“ฉันพูดจริง! เธอก็น่าจะรู้นะว่าเป็นผู้จัดการบลูปรินซ์แต่ทำตัวแบบนี้มันถูกแล้วเหรอ”

พรนางฟ้าหน้าชาอายมาก “พี่พาที แองจี้ขอคุยเรื่องนี้กับพี่พาทีแค่สามคนได้ไหมคะ”

“พูดมันตรงนี้แหละ กล้าทำก็ต้องกล้ารับ ทีงี้มาอาย ทีตอนจูบกันในงานไม่อายบ้างล่ะ”

“แล้วคนที่แกล้งเมาแล้วดึงแองจี้ไปลวนลามล่ะ ไม่อายบ้างหรือไง” ไลออนโวย พาทีหันมาประจันหน้า “ไม่ต้องมาแกล้งทำไม่รู้เรื่อง ที่ตอนนั้นเราจูบแองจี้เพราะเราเห็นแองจี้อยู่กับพี่!”

พาทีอึ้งมองแองจี้อย่างหวั่นไหว คนอื่นทำหน้าลำบากใจ พาทีพยายามแก้สถานการณ์ “ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ฉันมั่นใจว่าควบคุมตัวเองได้”

“อย่ามาพูดเลย ทำเป็นมาเรียกเราออกไปเคลียร์ โธ่เอ๊ย ดีแต่ปากนี่หว่า”

พาทีโมโหเตือนไลออนว่าเรากำลังพูดเรื่องข่าวเสียหายของวง ไลออนไม่สนบอกกำลังคุยเรื่องเราสามคน ให้พาทีพูดออกมาว่าไม่ได้ชอบแองจี้ พอเห็นเขาพูด

ไม่ออกก็ยิ่งโมโหเสียงเข้ม “ตอบไม่ได้เห็นไหม พี่ตั้งใจจะแย่งแองจี้จากเราไปจริงๆ เชี่ยเอ๊ย...”

พาทีสุดทนกระชากคอเสื้อไลออนเงื้อหมัด ทุกคนตะลึงไม่เคยเห็นเขาแรงขนาดนี้มาก่อน พรนางฟ้าตะเบ็งลั่นให้พอได้แล้ว พาทีชะงักคลายมือออก ไลออนกลับสบถ “ป๊อดเอ๊ย!”

พาทีถลาจะชก พรนางฟ้าเข้าขวางเตือนสติว่าคุมตัวเองไม่ได้แบบนี้ ไม่สมกับเป็นเขาเลย พาทีจ้องหน้าหญิงสาว เธอรู้ว่าตัวเองผิดแต่ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้านี้ให้ได้ จึงกล่าวเสียงเข้ม “ช่วยพูดเรื่องงานกันซักที พี่พาทีบอกมาเลยว่าจะลงโทษยังไงแล้วก็จะแก้ข่าวยังไง...ไลออนนายเองก็ตั้งสติ หุบปาก ทำผิดก็ต้องยอมรับผิด จะมา

โทษโน่นโทษนี่ไม่ได้ เราจูบกันจริงก็คือจูบ คนอื่นเขาไม่ฟังเหตุผล แต่ภาพมันออกมาแบบนี้เราก็ต้องยอมรับ เข้าใจไหม”

ไลออนกระแทกตัวลงนั่ง พาทีมองพรนางฟ้าด้วยสายตาน้อยใจ สักครู่ก็แข็งกร้าวขึ้นบอกว่าเราจะต้องจัดแถลงข่าว จุงเบแย็บถามถึงเรื่องภาพจูบกัน...พาทีอธิบายอย่างจริงจัง

“เราจะเล่นข่าวว่า ทุกครั้งที่ไลออนเมาจะทำตัวแบบนี้ แล้วไลออนก็ต้องออกมาขอโทษว่าจะไม่ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีกับเยาวชนอีก รวมทั้งต้องออกไปบำเพ็ญสาธารณประโยชน์กับแฟนคลับ...และเธอสองคน ห้ามอยู่ใกล้กันจนกว่าฉันจะอนุญาต” ไลออนจะโวย

พาทีตัดบท “ฟัง! ยิ่งไปไหนมาไหนด้วยกันจะไม่ดี ตอนนี้ในเน็ตเขาตามหาตัวผู้หญิงปริศนากันดุเดือดไม่ใช่เหรอ แล้วถ้ามีคนเห็นว่านายไปไหนมาไหนกับแองจี้อีก คนที่จะซวยก็คือแองจี้นั่นแหละ”

แองจี้แย้งว่าตนมีหน้าที่ดูแลศิลปิน พาทีให้สลับกัน เขาจะดูแลศิลปิน ให้เธอเข้าออฟฟิศติดต่อผู้ใหญ่แทน ไลออนไม่ค่อยพอใจ

สายวันนั้น พรนางฟ้าเดินมาเจอพาทีนั่งซึม

ถอนใจเฮือกๆอยู่มุมหนึ่งของบ้าน ก็อยากเข้าไปปลอบแต่ไม่กล้า ตัดสินใจจะเดินหนี เสียงเขาเรียกให้มานั่งด้วยกัน เธอจึงหันมาเอ่ยถาม

“แองจี้เห็นพี่...คุณพาทีกลุ้มใจ ขอโทษนะคะ”

“ถ้ามันจะสับสนนักก็เรียกอย่างที่อยากจะเรียกเถอะ” พาทีพูดทั้งที่ยังไม่หันมามอง

หญิงสาวเดินมานั่งเงียบข้างๆ สักพักพาทีเอ่ย “ฉันไม่อยากขัดขวางความรักใครนะ แต่เธอเข้าใจใช่ไหม ถ้าเธอรักกับคนในแสงไฟมันอันตราย...ไม่ได้หมายความว่าไม่เชียร์นะ แต่อยากให้ระวังตัวให้มากกว่านี้ เห็นแล้วใช่ไหมว่าผลมันเป็นยังไง ฉันไม่อยากให้เธอต้องโดนทำร้ายจากพวกแฟนคลับ อยากให้เธอรักกับไลออนดีๆ อยากให้มีความสุขมากๆ”

พรนางฟ้าน้ำตาคลอด้วยความน้อยใจ อยากบอกว่าคนที่จะทำให้ตนมีความสุขได้คือเขาไม่ใช่ไลออน จึงแย็บถาม “พี่พาทีไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอคะ ที่แองจี้เป็นแฟนกับไลออนน่ะ”

พาทีย้อนถามตนต้องรู้สึกอะไร เท่านั้นน้ำตาเธอก็ไหลพรั่งพรูพร่ำพูดออกมา “รู้ไหม เมื่อคืนมีเรื่องตลกอยู่เรื่องนึง ตอนที่เรานั่งเล่นเกมกัน พี่พาทีเมามาก แล้วรู้ไหมพี่พูดอะไรออกมาถ้าพี่เป็นคิง พี่ขอสั่งให้แองจี้เลิกกับไลออนแล้วมาคบกับพี่เดี๋ยวนี้...บางทีแองจี้ก็อยากรู้ว่า พี่พาทีรู้สึกอะไรกับแองจี้บ้างรึเปล่า”

พาทีใจไหววูบสบตาเธออึ้งๆ สุดท้ายก็พูดออกมาว่าให้เธอหยุดร้องไห้เดี๋ยวใครหาว่าตนทำร้ายเธอ และบอกให้เธอมีสติ เธอแค่ตกใจที่โดนแยกกับไลออนเลยพูดอะไรไร้สาระไม่รู้ตัว

“แองจี้รู้ตัว แองจี้มีสติ ไม่ได้ขอคบใครพร่ำเพรื่อตอนเมาแบบพี่พาที”

“ก็ใช่ไง ตอนนั้นฉันเมา เรื่องที่เธอพูดมาเมื่อกี้ ฉันจำอะไรไม่ได้เลย” หญิงสาวปวดร้าวหลุดปากออกมาว่า ตนเกลียดเขา พาทีสวน “จะเกลียดก็เกลียดแต่อย่าเกลียดจนงานเสียก็แล้วกัน”พาทีลุกขึ้นเดินออกไปปล่อยให้

พรนางฟ้านั่งร้องไห้อยู่อย่างนั้น แต่พอพ้นออกมาเขาก็เหลียวมองเธอด้วยความปวดใจ “พี่รักแองจี้นะ แต่พี่ก็มีหน้าที่ต้องรักษาบลูปรินซ์ไว้เหมือนกัน”

สักพักไลออนเดินมาเจอพรนางฟ้าร้องไห้อยู่ก็ตกใจเข้าซักถาม แต่กลับทำให้เธอร้องไห้หนักขึ้น ไลออนเข้าใจว่าเธอโดนพาทีดุด่า จึงสัญญาว่าจะทำตัวดี จะไม่ทำให้เธอเดือดร้อนอีก จะดูแลทุกคนในวงเพื่อช่วยไม่ให้เธอเหนื่อยอีก หญิงสาวสะอื้นกล่าวขอบคุณ ไลออนโอบกอด

ooooooo

แพรพิณกับนภิสยืนส่งกลุ่มบลูปรินซ์ขึ้นรถกลับที่หน้าบ้าน นภิสยังตื่นเต้นที่มีดารานักร้องมาพักที่บ้าน แพรพิณกระตุกพี่สาวบอกตอนนี้ไม่ใช่เวลาตื่นเต้น ไม่ทันไรรถเฌอเบลล์แล่นมาจอด พาทีแปลกใจรู้ได้อย่างไรว่าตนอยู่ที่นี่ เฌอเบลล์บอกว่ามาตามโลเกชั่นในมือถือเขา

พรนางฟ้ามองอย่างปวดใจ ไลออนเหล่มองท่าทีเธอ พาทีรู้ว่าทุกคนมองจึงบอกทุกคนว่า ตนจะกลับกับเฌอเบลล์แล้วไปเจอกันที่บ้าน พรนางฟ้าจึงโพล่งขึ้นบ้างว่า ตนขอไปทานข้าวกับเพื่อนๆแล้วจะตามไป...พอรถ

ทั้งสองคันแล่นออกพ้นบ้าน พรนางฟ้าก็ร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น แพรพิณตกใจเข้าปลอบ เธอขอให้โทร.ตามบัวบุหงามาทีอยากเจอเพื่อน

พาทีกับเฌอเบลล์แวะทานอาหารที่ร้านร้านหนึ่ง พาทีเอ่ยปากขอโทษที่เมื่อวานไม่ได้รับสายเธอ เพราะพอเกิดเรื่องมีคนโทร.มามากมายจึงปิดเสียง เฌอเบลล์ถามว่าไปกับแองจี้หรือเปล่า เขาปฏิเสธบอกแองจี้แยกไปกับเพื่อนๆ หญิงสาวหน้าตึงรู้ว่าเขาโกหก

ด้านพรนางฟ้ามานั่งร้านอาหารประจำกับเพื่อนๆ เธอยังร้องไห้ไม่หยุด แพรพิณกับบัวบุหงาช่วยกันปลอบแต่ยิ่งไปกันใหญ่ บัวบุหงาพยายามพูดให้รู้สึกดีขึ้น

“ฉันเข้าใจแกนะถ้ามีผู้ชายยอมเสี่ยงตัวเองเพื่อไปช่วยฉันตอนจมน้ำ ฉันคงชอบเขาเหมือนกัน” พรนางฟ้างงถามใครช่วยตน “เอ้า! ก็คุณพาทีไง นี่แกไม่รู้เรื่องนี้เหรอ ฉันนึกว่าแกรู้”

“ตกลงเขาเป็นคนช่วยฉันเหรอ ฉันว่าแล้ว ฉันจำสัมผัสเขาได้ แต่เขาไม่รักฉันว่ะบัว...เขาไม่รักฉัน” พรนางฟ้าสะอื้นฮัก

บัวบุหงากับแพรพิณเข้ากอดพรนางฟ้า พึมพำกันว่านี่เราสามคนหลงรักเหยื่อตัวเองกันหมดเลยเหรอ แย่แล้วจีสแกน พวกเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร พรนางฟ้าฮึดขึ้น

“ฉันขอโทษนะที่หลงรักเหยื่อตัวเอง แต่ฉันจะเลิกรักเขาแล้ว วันนี้ฉันจะร้องไห้ให้เขาเป็นวันสุดท้าย สุดท้ายจริงๆ!”

แพรพิณรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องยาก เพราะตัวเองก็ไม่อาจหักใจจากชยุตได้ มีเพียงบัวบุหงาที่เศร้าเรื่องทะเลาะกับพ่อไม่ใช่แฟน แพรพิณชวนเพื่อนๆไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ แต่พรนางฟ้ากลับปล่อยโฮออกมาแทนคำตอบ สักพักก็หยุดแล้วสัญญากับเพื่อนๆว่า ต่อไปตนจะมีแต่เรื่องงานเท่านั้น แพรพิณเริ่มลังเลนึกถึงคำพูดของชยุตที่ว่าไม่จำเป็นต้องสืบ ความจริงก็จะเปิดเผยเอง

ooooooo

พาที พรนางฟ้า และกลุ่มบลูปรินซ์นั่งประชุมกันที่บ้าน ร่างแผนการแถลงข่าวที่ไลออนต้องพูด ไลออนต้องยอมให้เพื่อนๆเอาคลิปรั่วๆที่ถ่ายเล่นกันเวลาเขาเมาออกมาประกอบ เพราะทุกครั้งที่ไลออนเมามักจะชอบไล่จูบเพื่อนๆในวง พรนางฟ้าให้กำลังใจไม่ต้องอาย

เควินเห็นสายตาพาทีที่มองพรนางฟ้าเศร้าๆก่อนจะเดินเลี่ยงไป จึงตามไปปลอบพี่ชายพยายามทำให้สนุกสนานโดยแร็พถาม “ผมไม่ซ้ำเติมหรอกฮะ ไม่ทำอย่างนั้นหรอกฮะ แค่อยากถามแค่อยากจะถามว่าพี่โอเคไหม ฮะ พี่โอเคไหมฮะที่มันกลายเป็นแบบนี้ มันเป็นแบบนี้ทั้งที่พี่ก็มีโอกาส แต่พี่ก็ปล่อยโอกาส เพราะพี่นั้นไม่อยากพลาด ถ้ารักกันมันก็อาจ โย่ว!วงแตก ผมก็เข้าใจ สุดท้ายที่อยากจะถาม อาร์ยูโอเค...กายโย่ว!”

พาทีหัวเราะออกมาได้ยีหัวน้องชายอย่างเอ็นดู เควินเปลี่ยนเรื่องถาม “ผมถามอะไรพี่หน่อยได้ไหม แต่พี่อย่าโกรธผมนะ พี่ว่าถ้าตอนนี้แม่ผมยังอยู่ เขาจะคิดถึงผมบ้างไหม”

พาทีชะงักพูดไม่ออก ได้แต่ดึงน้องชายมากอดด้วยความสงสาร...

ด้านแพรพิณยังรู้สึกผิดไม่กล้าสู้หน้าหมอไทยกับอันนา แต่ทั้งสองพยายามเข้ามาขอโทษปรับความเข้าใจกัน สองน้าหลานกอดกันร้องไห้ หมอไทยถ่ายรูปทั้งสองส่งไปให้ชยุตดู อันนาถามถ่ายทำไม เขาบอกขำๆว่าชยุตไลน์ถามยิกๆว่าแพรพิณเป็นอย่างไรบ้าง ตนจึงส่งให้ดูเสียเลย

“คุณแพรรู้ไหมครับว่าไอ้ชยุตมันคิดถึงคุณแพรมาก มันเก๊กโกรธคุณแพรไปงั้นแหละครับ ผมว่ารออีกนิดเดี๋ยวมันก็ใจอ่อน ว่าแต่คุณแพรหายโกรธมันได้หรือเปล่าครับ”

แพรพิณสับสน ตัดบทเปลี่ยนเรื่องชวนทั้งสองไปกินข้าวแล้วกอดอันนาเดินนำไป...ด้านชยุตกำลังชกมวยในยิมเพื่อไม่ให้คิดฟุ้งซ่าน พอหมอไทยส่งรูปแพรพิณมา ยิ่งทำให้เขาชกกระสอบทรายอย่างบ้าคลั่ง เพราะยังจัดการกับความรู้สึกตัวเองไม่ได้

ถึงวันแถลงข่าว สี่หนุ่มบลูปรินซ์ต่างตื่นเต้นกลัวทำไม่สำเร็จ แต่ทั้งสี่ก็ปลอบใจกันเองและจับมือกันบูมให้กัน พาทียืนมองอย่างพอใจ พรนางฟ้าเข้ามาตามว่าได้เวลาแล้ว

บรรยากาศในห้องแถลงข่าว มีนักข่าวมากมาย รวมทั้งกลุ่มแฟนคลับที่มีติ่งกับต้อยสอดส่องจะรู้ให้ได้ว่าใครเป็นคนที่ไลออนจูบ ส่วนนาเดียกับพวกเตรียมกล้องบันทึกภาพความล่มจมของบลูปรินซ์...พาทีเดินนำบลูปรินซ์ออกมาเห็นเฌอเบลล์นั่งอยู่หน้าเวทีก็ส่งยิ้มให้ตามมารยาท

เมื่อไลออนโดนนักข่าวซักถาม พาทีคอยเตือนให้ใจเย็น ไลออนกล่าว “ผมต้องขอโทษพี่ๆนักข่าว แฟนคลับและประชาชนคนไทยที่สนับสนุนผมด้วยนะครับ ถ้าถามว่าสาวปริศนาเมื่อคืนเป็นใคร ผมเองก็ไม่รู้จริงๆ...”

เสียงผู้คนฮือฮา นักข่าวถามว่าจะไม่รับผิดชอบผู้หญิงคนนั้นหรือ นาเดียร์ยิ้มสะใจสั่งพวกซูมสีหน้าแฟนคลับที่ผิดหวังด้วย คฑา เควิน และจุงเบช่วยกันเล่าว่า ไลออนเป็นคนที่เมาแล้วมักจะร้องไห้หรือไม่ก็ไล่จูบคนอื่นไปทั่ว ทั้งสามเปิดคลิปเหตุการณ์แต่ละครั้งให้ดู พวกเขาบอกว่าคลิปเหล่านี้เป็นชีวิตส่วนตัวพวกเขา แต่ที่เอามาเผยแพร่เพื่อให้ทุกคนเห็นความจริงของไลออน

“สุดท้ายผมขอยอมรับว่า เมื่อคืนผมปาร์ตี้หนักเกินไปและไม่ทันระวังตัวจนทำให้เกิดเรื่องขึ้น ผมเองก็เพิ่งตื่นมารู้เรื่องพร้อมพี่ๆทุกคนนี่แหละครับ ว่าผมจูบใครสักคน ผมรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ถือเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีแก่เด็กและเยาวชน ผมขอโทษและขอยอมรับผิดทุกอย่าง ผมขอสัญญากับพี่ๆสื่อมวลชนและแฟนคลับทุกคนว่าผมจะไม่ทำตัวแบบนี้อีก ผมขอโทษครับ”

แฟนคลับลุกขึ้นกรี๊ดให้กำลังใจ นาเดียร์โกรธที่เกมพลิก พยายามตะโกนแย้งอย่าไปเชื่อ แต่เสียงกรี๊ดกลบ เสียงเธอ...อรนาฏถือช่อดอกไม้เข้ามาในงาน เฌอเบลล์เห็นคิดแผนการบางอย่างได้ พออรนาฏเข้ามามอบช่อดอกไม้ให้เควินที่หลังเวที แต่บอกว่าสำหรับทุกคน ไลออน คฑา และจุงเบตื่นเต้นที่ดาราค้างฟ้ามาให้กำลังใจ

พาทีเดินมากับพรนางฟ้า อรนาฏเห็นหน้าเสีย เฌอเบลล์ยิ้มที่เป็นตามแผน รีบบิ๊วต์กับพาทีว่าอรนาฏช่างน่ารักที่อุตส่าห์มาให้กำลังใจ แต่ตนเพิ่งสังเกตว่าอรนาฏกับเควินหน้าตาเหมือนกัน ถ้าเล่นละครเป็นแม่ลูกกัน

ท่าจะดี พาทีไม่พอใจรู้ว่าเฌอเบลล์ถือไพ่เหนือกว่า อรนาฏรีบขอตัวอ้างมีงานต่อ พาทีสั่งพรนางฟ้าให้พาบลูปรินซ์ไปขึ้นรถก่อนที่แฟนคลับจะมารุมล้อม

พอทุกคนไปแล้ว พาทีก็หันมาเอาเรื่องเฌอเบลล์คิดจะทำอะไร เธอยิ้มอย่างท้าทาย “เบลล์ก็แค่อยากจะเตือนให้คุณรู้ ความลับไม่มีในโลก เบลล์รู้นะคะวันที่มีเรื่องคุณเมามาก แล้วคุณก็ไปกับคุณแองจี้กันสองคน... วันหลังอย่าโกหกเบลล์อีกนะคะ เพราะคราวหน้าเบลล์อาจจะเก็บความลับไม่อยู่เหมือนกัน”

พาทีเครียดกับการกระทำของเฌอเบลล์...ไม่เพียงแค่เรื่องเฌอเบลล์ วันต่อมายังมีเรื่องนาเดียร์ที่เฝ้าโจมตีบลูปรินซ์ อัพสเตตัสว่า “เราจะล้วงไส้บลูปรินซ์ออกมาแฉให้หมด”

พรนางฟ้าเห็นว่า ถ้าเรารอแก้เกมนาเดียร์อย่างเดียว เราต้องเป็นฝ่ายวิ่งตามตลอด เราต้องทำอะไรสักอย่าง พาทีมองอย่างสงสัยว่าเธอจะทำอะไร ไม่นานนาเดียร์เห็นท็อปคอมเมนต์เขียนว่า

“พวกชอบใส่ร้ายคนอื่น ระวังโดนฟ้องหมิ่นประมาทนะ” นาเดียร์ร้องกรี๊ดอย่างไม่พอใจ โทรศัพท์หาชลลัมภีร์ทันที ขออนุญาตปล่อยคลิปคฑากับลิซ่า แต่เขากลับไม่อนุญาตและสั่งห้ามทำนอกคำสั่ง ไม่อย่างนั้นเขาจะทำลายเพจของเธอ นาเดียร์ได้แต่เจ็บใจ

ooooooo

ไลออนต้องบำเพ็ญประโยชน์ ออกงานอีเวนต์ชวนคนเลิกเหล้า เขาประกาศตัวเขาจะเลิกดื่มตั้งแต่เข้าพรรษาให้ทุกคนมาทำด้วยกัน จากนั้นก็มาเชิญชวนให้แฟนคลับออกกำลังเพื่อสุขภาพที่ดี แฟนคลับต่างพากันแชร์ภาพไลออนทำความดีออกไป

พอมีนักข่าวเข้ามาสัมภาษณ์ คิดอย่างไรกับการสร้างภาพทำความดี ไลออนตอบอย่างยิ้มแย้มว่า ตนไม่โทษคนที่จะคิดแบบนั้น เพราะตนทำผิดจริง ตนขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ แฟนคลับกรี๊ดให้กำลังใจ นักข่าวพอใจกับท่าทีไม่ใช้อารมณ์ของไลออน

ด้านพรนางฟ้าเช็กว่ากระแสข่าวบลูปรินซ์ดีขึ้นเรื่อยๆ และสเตตัสที่จะล้วงไส้บลูปรินซ์ออกมาแฉถูกลบหายไป จึงโทร.รายงานพาที เพราะคิดว่ามันน่าแปลก พาทีก็เห็นด้วยแต่ไม่อยากให้เรื่องถึงโรงถึงศาล แต่ถ้านาเดียร์ยังไม่หยุดคงต้องส่งทนายไปจัดการ พรนางฟ้ารับคำจะวางสาย พาทียื้อหาเรื่องคุย จึงบอกเธอว่าเย็นนี้ประชุมเสร็จจะไปรับแล้ววางสาย หญิงสาวรับคำงงๆ

ในขณะที่บัวบุหงานั่งดูข่าวบลูปรินซ์ที่มีกระแสตอบรับดีมาก พลันนึกแปลกใจว่าทำไมพ่อเต่าไม่ลงมากินข้าว จึงขึ้นไปตาม เท้าเตะโดนขวดยานอนหลับที่ไม่มียาเหลือซักเม็ด ก็เริ่มใจหาย รีบขึ้นมาในห้องไม่เห็นพ่อเต่า ในห้องน้ำก็ไม่มี ชักเอะใจเปิดตู้เสื้อผ้าดู ไม่เหลือเสื้อผ้าของพ่อเลย หันมาดูบนโต๊ะเครื่องแป้งก็ไม่เหลือเครื่องสำอางซักชิ้น มีเพียงจดหมายที่วางใต้ลิปสติก

ในขณะที่พ่อเต่าแต่งตัวเป็นหญิงหอบกระเป๋าขึ้นรถสองแถว สีหน้าเศร้าหมองนึกถึงข้อความในจดหมายลาที่เขียนทิ้งไว้ให้ลูก...บอกไม่ต้องคิดตามหา พ่อขอไปตามทางของพ่อ ขอทำในสิ่งที่พ่อรักและใฝ่ฝันมานาน ลิปสติกสีแดงที่ทิ้งไว้ให้ เพื่อเป็นตัวแทนพ่อ เพราะนั่นคือสิ่งที่พ่อเป็นมาตลอด ขอให้เข้าใจในตัวพ่อ พ่อสัญญาจะดูแลตัวเอง แล้ววันหนึ่งที่โชคชะตาเห็นว่าเราพร้อมจะเจอกัน เราจะได้เจอกัน พ่อรักลูกที่สุดในชีวิต...พ่อเต่า/แม่เต่า

เย็นวันนั้นพาทีขับรถมารับพรนางฟ้าที่บริษัท ระหว่างนั่งมาในรถ ทั้งสองไม่รู้จะคุยอะไรกัน พอดีเฌอเบลล์โทร.มาตามพาทีไปหา เขารับคำแต่ก็เหล่มองพรนางฟ้าอย่างรู้สึกผิด หญิงสาวเปิดไลน์อ่านไปเรื่อย

พลันต้องตกใจเมื่อเห็นข้อความว่าพ่อเต่าหนีออกจากบ้าน พาทีพลอยตกใจไปด้วย พอรู้เรื่องก็อาสาไปส่งที่บ้านบัวบุหงา...ด้านแพรพิณพอรู้ข่าวก็ทิ้งการสอนรีบมาหาเพื่อนเช่นกัน เด็กนักเรียนทั้งสามจึงตามมาด้วย

สองสาวมาถึงพร้อมกัน ต่างวิ่งไปกอดปลอบบัว–บุหงาที่กำลังร้องไห้ เจ๊โดมยืนมองสามสาวอย่างสงสารไม่รู้ว่าพ่อเต่าหนีไปไหน แต่คิดว่าเขาต้องไปในที่ที่เขารักมาก บัวบุหงาฉุกคิด...เจ๊โดมช่วยโพสต์รูปพ่อเต่าส่งให้เพื่อนๆกะเทยทุกแห่งดู ถ้าใครเจอให้ติดต่อกลับมาบอก

แพรพิณกับเด็กทั้งสามลงทุนปลอมตัวแต่งเป็นกะเทยเข้าไปตามสถานที่เที่ยวชาวสีม่วง แต่แล้วก็เฟอะฟะให้ถูกไล่ตะเพิดออกมา ส่วนบัวบุหงาก็ไปตามหาตามที่ต่างๆกับพันธิต...พาทีลืมนัดเฌอเบลล์ มัวช่วยพรนางฟ้าตามหาพ่อเต่า พาทีโทร.ให้เพื่อนที่เป็นตำรวจช่วยหาเบาะแส

พาทีเริ่มหิวพาพรนางฟ้ามากินจิ้มจุ่มเจ้าประจำของเขา เฮียเจ้าของร้านเป็นคนสนุกสนาน คิดว่าเธอเป็นแฟนพาที จึงคุยถึงน้องชายพาทีว่าหล่ออย่างกับดารา พาทีรีบเปลี่ยนเรื่อง แต่พรนางฟ้าหูผึ่งกับเรื่องที่เขามีน้องชาย

ค่ำนั้นพอพาทีกับพรนางฟ้ากลับถึงบ้าน เจอเฌอเบลล์ยืนรอหน้าตึง พรนางฟ้าช่วยแก้ตัวให้แต่เธอกลับสวนว่าไม่ได้ถาม พาทีจึงให้พรนางฟ้าเข้าบ้านไปก่อน แล้วหันมาคุยกับเฌอเบลล์โดยไม่รู้ว่าเควินแอบฟังอยู่แถวนั้น พาทีกล่าวขอโทษแต่เฌอเบลล์ไม่รับ ยิ่งได้ยินว่าไปช่วยตามหาพ่อเพื่อนแองจี้ก็ยิ่งโกรธ หัวเราะเยาะหยัน

“แปลว่าเพื่อนคุณแองจี้สำคัญกว่าเบลล์ใช่ไหม คุณถึงลืมเบลล์ไปเลย คุณลืมไปแล้วมั้งว่าเบลล์รู้ความลับอะไรของคุณอยู่ จริงๆเบลล์ก็ไม่อยากใช้เรื่องนี้มาขู่คุณบ่อยๆหรอกนะคะ”

เควินฟังอย่างสงสัย พาทีขอโทษอีกครั้ง ถามต้องการให้ตนทำอย่างไร เธอต้องการให้เขาพิสูจน์ว่าเห็นเธอสำคัญสำหรับเขา พาทีไม่พูดอะไร ดึงเธอเข้ามาจูบแล้วบอกเธอว่าพรุ่งนี้จะไปรับที่บ้าน จะพาไปเที่ยวพอใจไหม หญิงสาวเคลิ้มยิ้มรับ เควินสงสัยความสัมพันธ์ของทั้งสอง

ooooooo

หมอไทยหลอกชวนชยุตออกมาทานข้าว แต่แล้วพามาทานข้าวที่บ้านอันนา ชยุตจึงเจอกับแพรพิณ ต่างคนต่างปั้นปึ่ง แพรพิณแซวหมอไทยมาหาอันนาเช้าเย็นแบบนี้น่าพาไปดูแลที่บ้านเสียเลย หมอไทยเห็นดีแม้จะติดเรื่องย่าแต่คิดว่าถ้าตื๊อท่านสักหน่อยก็คงหายโกรธเร็วขึ้น

อันนาเกรงคนอื่นจะมองตนไม่ดีรวมทั้งแม่ด้วย แพรพิณจะคุยกับนภิสให้ ชยุตยังปั้นปึ่งขอตัวกลับ แพรพิณน้อยใจที่อุตส่าห์ยกหลานให้เพื่อนเขาแล้วยังไม่หายโกรธอีก

บ่ายวันนั้นแพรพิณกับอันนามาที่วังมัจฉากับหมอไทย สองสาวก้มกราบคุณหญิงย่า แต่เธอกลับบอกให้กองไว้ตรงนั้น แพรพิณอดทำท่ากองไว้ประชดไม่ได้ อันนาขอโทษสำหรับเรื่องวันงานและยืนยันว่าตนไม่มีเจตนาไม่ดีเลยจริงๆ คุณหญิงย่าทำท่าไม่สนใจ

แพรพิณจึงโพล่งขึ้น

“คุณย่า แพรไม่ได้ตั้งใจจะทำตัวไม่มีมารยาทกับคุณย่านะคะ แต่แพรแค่อยากให้คุณย่าช่วยลดความโกรธลงมานิดนึง แล้วลองมองเรื่องนี้ดีๆ คุณย่าจะรู้ว่าอันนาเป็นคนยังไงกันแน่”

หมอไทยช่วยพูดแต่คุณหญิงย่ายังทิฐิ เขาจึงสรุปว่า อันนาประสบอุบัติเหตุ ขายังเข้าเฝือกร่างกายยังไม่แข็งแรง ตนพาเธอมาที่นี่เพื่อจะได้ดูแลเธอจนกว่าจะหาย แล้วสั่งคนไปจัดห้อง คุณหญิงย่าจะแย้งแต่เขาตัดบทว่าอย่าใจร้ายกับคนป่วยเลย ทำให้ย่ามองอย่างโกรธๆ

จากข้อมูลที่ญี่ปุ่น กุ๊กกิ๊กและจิ๋วจิ๋วหามาให้ พรนางฟ้านั่งอ่านเห็นว่าภาคภูมิ ปทุมธนิตย์ เป็นครีเอทีฟของมิลเลนเนียมบอย และนึกถึงคืนที่พาทีเพ้อเรียกชื่อนี้ออกมา จึงเสิร์จหาประวัติเขา ก็พอดีชลลัมภีร์โทร.เข้ามาเตือนว่าเหลือเวลาแค่สองอาทิตย์ ถ้ายังไม่มีหลักฐานว่าใครแอ๊บในวงบลูปรินซ์ เธอจะต้องชดใช้เงินยี่สิบล้าน ทำเอาเธอเครียดและข้องใจว่าทำไมถึงอยากรู้

ผลการค้นหาออกมาว่าภาคภูมิเป็นครีเอทีฟไดเร็กเตอร์เอ็มไพร์เรคคอร์ด พรนางฟ้าจึงพิมพ์หา คดีพิเศษ-สายสัมพันธ์พาที/ชลลัมภีร์ แล้วฉุกคิดว่าตอนนี้เพื่อนๆกำลังยุ่งเรื่องตามหาพ่อเต่า ตนคงต้องสืบเรื่องนี้คนเดียว

ระหว่างนั้นเฌอเบลล์พาพาทีมาที่บ้าน เขาต้องโดน ราณีถากถางสารพัดจนเฌอเบลล์รู้สึกสงสารไม่น่าพาเขามาพบแม่...ด้านอันนาพยายามปรนนิบัติเอาใจคุณหญิงย่าทั้งที่ตัวเองยังใส่เฝือกที่ขา ชะเอมคอยเอาใจช่วย

วันต่อมาพรนางฟ้าปลอมตัวเป็นพนักงานทำความสะอาดมาที่ตึกเอ็มไพร์เรคคอร์ด เพื่อหาทางเข้าถึงตัวภาคภูมิ เจอกับป้าต้อมยามหญิงซักถามเพราะไม่เคยเห็นหน้า พรนางฟ้ามโนไปว่าต้องต่อสู้กับป้าต้อมและสามารถล้มเธอลงได้ แต่ความเป็นจริง โดนป้าต้อมสอบสวนว่าเป็นพนักงานใหม่ทำไมเธอไม่ได้รับแจ้ง จึงบอกว่าให้เริ่มงานด้วยการเก็บแก้วกาแฟไปล้างก่อน พรนางฟ้าโล่งอกเพราะนั่นเป็นการที่ตนจะเข้าไปในห้องต่างๆได้ง่ายขึ้น

พรนางฟ้าถือถาดจะเข้าห้องภาคภูมิ ก็เจอแอนเลขาซักถามให้หัวใจแทบวาย ไม่ทันไรภาคภูมิเดินออกมามองสำรวจแล้วแกล้งเรียกชื่อมั่วๆออกไป เธอเผลอรับคำ เขาเลยจับได้...

ooooooo

สายลับจับแอ๊บ

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด