ตอนที่ 4
“ถ้าเกิดเรื่องร้ายกับขวัญ ต้นเหตุต้องไม่ใช่เพราะฉันแน่นอน!”
พูดจบก็เดินนำไปที่รถ ชญานียังไม่หายกลัวตัวสั่นจนชาคริตอดสงสารปนเวทนาไม่ได้ ยอมให้เธอขี่หลังไปที่รถเหมือนตอนเด็กๆ ญาดามองตามจนพวกชาคริตขับรถออกไป จึงได้หันมาเอาเรื่องน้องชาย
“พี่ดาจะจับผมส่งตำรวจจริงๆเหรอ ผมยังไม่ทันได้...”
ไม่รอให้พูดจบ ญาดาก็ตบหน้าน้องชายฉาดใหญ่ ไตรทศถึงกับโวย
“พี่ดา! ไอ้ชาคริตมันลวนลามพี่ดา ผมก็ต้องแก้แค้นให้ ผมผิดตรงไหน...ผู้หญิงบางคนมันก็น่าโดน”
คำพูดเห็นแก่ตัวของน้องชายทำให้ญาดาตบ สั่งสอนอีกฉาด “เธอยังไม่สำนึกอีกเหรอไตร! ที่เธอทำกับคุณนี มันไม่ใช่แค่ลวนลาม มันคือการขืนใจ เธอใช้กำลังกับผู้หญิงที่สู้แรงเธอไม่ได้ ไม่ละอายใจเลยหรือไง”
“ผม...ผมทำไปเพราะความโกรธ แต่ไงผมก็ทำเขาไม่ลงหรอก ผมตั้งใจจับเขามาเก็บตัวไว้ที่นี่สักพัก”
“แน่ใจนะว่าเธอหยุดได้”
ไตรทศหลบตา รู้แก่ใจว่าอาจหยุดไม่ได้
“ผมมันเลวชาติจริงๆ”
“ถ้าผู้หญิงบอกว่าไม่ก็แปลว่าไม่...ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายก็ไม่มีสิทธิ์ล่วงละเมิดกัน”
ญาดาดุเสียงเข้ม ก่อนทิ้งท้ายเสียงอ่อนเมื่อเห็นสภาพไหล่ลู่คอตกของน้องชาย
“พี่อยากให้ไตรเป็นคนดี...เป็นคนดียากนะแต่ก็ต้องพยายาม เพราะคนเลวไม่มีทางมีความสุขได้หรอก”
ooooooo
ชาคริตตามไปดูแลชญานีถึงบ้าน สภาพขวัญเสียของอีกฝ่ายทำให้เขาใจอ่อนยอมอยู่เป็นเพื่อนจนเธอหลับ ส่วนญาดาก็เครียดจัด ทั้งเรื่องไตรทศกับ ชาคริต จนไม่มีอารมณ์จะใส่ใจกสิณที่มาส่งปาริฉัตรกลางดึก!
ญาดาเจอหน้าน้องชายอีกทีเช้าวันต่อมา ไตรทศโอดว่าระบมทั้งตัวเพราะถูกซ้อม แม้ชาคริตจะไม่อัดใบหน้า แต่ลำตัวและส่วนอื่นๆก็ยับเยินจนขยับแทบไม่ได้ ญาดาเป็นห่วงน้องชายมาก กลัวชาคริตไม่เลิกราและตามมาเอาเรื่องอีก แต่ไม่ทันคิดวิธีป้องกัน เขมิกาก็ทำให้เธอตะลึงเสียก่อน
“เขมขออนุญาตคุณพ่อแล้วว่าเขมจะกลับไปทำงานค่ะ และต้องเป็นที่บีสตาร์ที่เดียว”
ดิลกไม่ได้คัดค้านแต่ขอไปทำงานด้วย กลัวบริษัทจะถูกชาคริตทำลาย ญาดากับไตรทศไม่เห็นด้วยเพราะอาการพ่อยังไม่ค่อยดี แต่ดิลกก็ยืนกรานต่อหน้าทุกคนจะไปทำงานวันนี้ให้ได้!
บรรยากาศในบ้านเมธาสิทธิ์ไม่อบอุ่นและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเหมือนเคย ดิลกเคร่งขรึมเพราะเดาทางชาคริตไม่ได้ เช่นเดียวกับเขมิกาที่มีท่าทีเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด มึนตึงและเย็นชาจนน่าตกใจ
ญาดาพยายามไม่คิดมาก เสนอตัวช่วยเรื่องงานเหมือนเคย แต่เขมิกาปฏิเสธทุกอย่างแม้กระทั่งนั่งรถไปด้วยกัน ปาริฉัตรแอบสังเกตอาการของสองพี่น้องตลอด ก่อนจะตาโตเมื่อเห็นว่าญาดาส่งแหวนคืนให้เขมิกา
เขมิการับแหวนคืนแล้วขับรถออกไปทันที ทิ้งญาดาให้มองตามงงๆ ก่อนที่ปาริฉัตรจะโผล่มาถามเรื่องแหวนเพราะจำได้ว่าล่าสุดมันอยู่ที่ชาคริต ญาดาอึ้งที่ปาริฉัตรรู้เรื่องนี้ แต่ไม่ทันถามอีกฝ่ายก็เล่าเอง
“ฉัตรเป็นคนเอาแหวนให้คุณคริตเองค่ะ คุณดาจะบอกคุณเขมก็ได้นะคะ แต่เรื่องนี้เก็บเป็นความลับจะดีสำหรับทุกฝ่าย ทำเงียบใส่นี่แสดงว่าจ่ายคืนคุณคริตไปหนัก...น่าอิจฉาจังเลย”
พูดจบก็ผละไป ทิ้งญาดาให้มองตามเครียดๆ พูดไม่ออกเพราะบอกใครไม่ได้ว่าเจอแหวนของน้องสาวบนห้องพักส่วนตัวของชาคริต....
การปรากฏตัวของเขมิกาที่ออฟฟิศบีสตาร์ทำให้พนักงานซุบซิบกันใหญ่ ภาพลักษณ์คุณหนูบนหอคอยงาช้างทำให้หลายคนมองข้ามและไม่เชื่อมือ ไม่เว้นแม้แต่ดิลก ญาดา และไตรทศ และชาคริตก็จับจุดได้ เขาใช้ปมนี้ยุให้อดีตคู่หมั้นแตกคอกับทุกคนในครอบครัว
เขมิกาตามเกมชาคริตไม่ทัน เชื่อและมั่นใจว่าเขาจะช่วยเธอพิสูจน์ตัวเอง โดยเฉพาะกับญาดา...พี่สาวสุดที่รักที่เธอหมดศรัทธาหลังจากรู้ว่าอีกฝ่ายหายไปกับชาคริตทั้งคืน!
ชาคริตมาร่วมการประชุมบอร์ดของบีสตาร์ด้วย ดิลกไม่พอใจ หวิดจะมีเรื่องกับอดีตว่าที่ลูกเขย ญาดากับทัศนะต้องช่วยกันห้าม ชาคริตจึงหยุดและประกาศวาระแรกทันที
“ผมขอให้คุณไตรทศออกจากบอร์ดกรรมการผู้บริหาร และปลดออกจากทุกตำแหน่งของบีสตาร์ จนกว่าจะฝึกงานแผนกขนส่งเสร็จสิ้น แล้วผมจะพิจารณาอีกครั้ง”
ดิลกจะไม่ยอม เช่นเดียวกับไตรทศ แต่ชาคริตไม่สนใจและประกาศวาระต่อไปทันที
“ผมขอแต่งตั้งคุณเขมิกา เมธาสิทธิ์ เป็นซีอีโอบริษัทบีสตาร์ ต่อไปคุณเขมจะเป็นผู้บริหารบริษัทนี้”
เขมิกานั่งนิ่งเหมือนรู้เรื่องแล้ว ดิลกเสียอีกที่เต้นเป็นเจ้าเข้า
“อะไรกัน...เขมทำงานเป็นที่ไหน นี่แกตั้งใจทำบริษัทฉันเจ๊ง!”
ชาคริตยักไหล่ไม่ยี่หระ เขมิกากวาดตามองรอบๆตัวอย่างขมขื่น ทุกสายตาที่มองมา ทั้งดิลก ญาดา และไตรทศ ต่างก็ไม่ไว้ใจในความสามารถของเธอ ทัศนะกับญาดาเดาสถานการณ์ได้ มั่นใจว่าทุกอย่างต้องเป็นแผนและการยุยงของชาคริต ปั่นหัวเขมิกาเพื่อทำลายทุกคน ในครอบครัวเมธาสิทธิ์!
ooooooo
ญาดากลัวว่าเรื่องจะลุกลาม ไม่อยากให้ชาคริตทำสำเร็จ รีบไปบอกให้น้องสาวรู้ตัว แต่เขมิกาไม่สนใจ ตอกพี่สาวคนเดียวแบบไม่ไว้หน้า
“พี่ดาจะบอกว่าเขมไม่เหมาะสำหรับตำแหน่งผู้บริหารก็บอกมาตรงๆเถอะค่ะ”
“ใช่...เขมไม่เหมาะกับตำแหน่งนี้ เขมไม่รู้จักสินค้าเราด้วยซ้ำ”
“เขมไม่ฉลาดเท่าพี่ดางั้นสิ”
“คนละเรื่องกันแล้วเขม”
“เรื่องเดียวกันค่ะ ทุกอย่างมันเริ่มต้นจากที่พี่ดาคิดว่าเขมทำอะไรสู้พี่ดาไม่ได้”
“เราเป็นพี่น้องกัน...เราต้องสู้กันด้วยเหรอ”
เขมิกาเบือนหน้าหนี ญาดาพยายามหว่านล้อมให้น้องสาวเปลี่ยนใจไม่รับตำแหน่ง และหากต้องการร่วมบริหารจริงๆ เธอจะสอนให้เอง แต่เขมิกาปฏิเสธ โดยไม่รู้เลยว่าชาคริตแอบแง้มประตูฟังสองสาวเถียงกัน
“อย่างที่คุณคริตบอกไว้จริงๆ คนที่ไม่อยากให้เขมเติบโต เป็นคนที่ไม่ได้รักเขมจริง”
“พี่เนี่ยนะ...ไม่รักเขม ผู้ชายคนนั้น...อย่าว่าแต่รักเลย ความจริงใจยังไม่มีให้ใครทั้งนั้น สรุปสั้นๆได้ว่าเลว!”
“แล้วทำไมพี่ดาถึงยอมหายไปกับคนเลวแบบนั้นข้ามคืนล่ะคะ”
ญาดาพูดไม่ออก แต่เมื่อตั้งสติได้ก็ตัดสินใจจะบอกเรื่องข้อต่อรองของชาคริตแลกกับบัญชีลับของบีสตาร์ ชาคริตที่แอบฟังไม่อยากให้แผนแตกเลยโผล่ไปขัดจังหวะสองสาว และหักหน้าญาดาว่าเธอคงอิจฉาน้องสาว เพราะเธอเคยส่งประวัติการทำงานของเธอมาให้เขาพิจารณาเป็นซีอีโอของบีสตาร์
ชาคริตไม่ได้โกหกธรรมดา แต่ถือโอกาสเอาคืนบันทึกสั้นกุดของเธอด้วยการหยิบมาโชว์เขมิกา คุณหนูคนสวยเห็นแค่ชื่อเว็บไซต์และชื่อพี่สาวก็ปรี๊ดแตก คืนแหวนที่เคยเป็นของรักของหวงและกลับไปนั่งทำงานด้วยท่าทีเย็นชา
ญาดากำแหวนแน่น เสียใจและโมโหมากที่เขมิกาถูกชาคริตปั่นหัวจนสติแตก หญิงสาวที่เคยแกร่งร่ำไห้อย่างหมดอายเป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน ชาคริตที่ตามมาเยาะเย้ยถึงกับอึ้งไปอึดใจ ก่อนจะตีหน้ากวนประสาทเหมือนเดิม
“ไปให้พ้น! สักวันเขมก็จะรู้ว่าตัวตนจริงๆของคุณเป็นไง คุณปิดความชั่วร้ายของคุณได้ไม่นานหรอก”
“ผมชอบผู้หญิงเข้มแข็งแบบคุณจริงๆ เขมดูคล้ายคุณมากขึ้นทุกที ดูเก่งและมั่นใจขึ้น...ทำเอาผมเลือกไม่ถูก”
“ฉันไม่เคยคิดจะเป็นผู้หญิงของคุณ...เขมก็เหมือนกัน”
“คิดผิดแล้วล่ะ ตอนนี้เขมกลับมาอยู่ในกำมือของผมแล้ว”
ชาคริตยิ้มเย้ยเป็นต่อ ก่อนย้ำข้อเสนอเดิมคือให้เธอมาเป็นผู้หญิงของเขา แลกกับอิสระของคนทั้งบ้าน!










