ระเริงไฟ
ตอนที่ 4
ooooooo
ทัศนะไม่แน่ใจว่าชาคริตมีแผนอะไร แต่การยอมให้เขมิกาพบง่ายๆทำให้เขาไม่ไว้ใจ เป็นห่วงคุณหนูคนสวยจนต้องตามไปดักรอหน้าห้อง
“ผมบอกได้เลย...คำพูดของนายคริตเชื่อไม่ได้แม้แต่คำเดียว อย่าให้มันปั่นหัวคุณได้”
“คุณคริตช่วยเขมต่างหาก ตอนนี้เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เขมตาสว่างแล้ว เขมดูออกว่าใครหวังดีหรือหวังร้าย”
“แล้วผมล่ะ”
“คุณเป็นคนดีค่ะคุณทัศนะ แต่คุณจะดีกว่านี้ถ้าเปิดใจให้กว้าง อย่ามองเพื่อนคุณแต่ในแง่ร้าย คุณเอง...ถ้าไม่ได้คุณคริต...คุณจะมาถึงจุดนี้ได้เองหรือคะ”
ทัศนะหน้าตึง เขมิกาเพิ่งรู้ตัวว่าพูดแรงไป ตั้งท่าจะขอโทษแต่เขาชิงตัดบท
“ผมคงอยู่ใต้เงานายคริตได้อีกไม่นานหรอกครับ”
หลังปั่นหัวเขมิกา ชาคริตเดินแผนขั้นต่อไปคือป่วนญาดา หญิงสาวไม่ได้สนใจเขานัก อยากสืบและเช็กเรื่องบัญชีลับที่เขาให้มามากกว่าว่ามีมูลความจริงแค่ไหน แล้วเธอก็เจอเรื่องน่าสงสัย เมื่อเอกสารสำคัญสำหรับยื่นสรรพากรดันหายไป และสองคนที่มีกุญแจเข้าห้องเก็บเอกสารของบริษัทบีสตาร์ได้คือเขมิกากับไตรทศ
ญาดาเดาว่าชาคริตน่าจะได้กุญแจห้องเก็บเอกสารจากเขมิกา ซึ่งจริงดังคาดเพราะเจ้าตัวโผล่มาขัดจังหวะการตรวจเอกสารของเธอราวกับรู้ใจ พร้อมข้อสันนิษฐานที่ว่าบัญชีของบีสตาร์ถูกตกแต่งใหม่เพื่อหมกเม็ดรายได้
ชาคริตแสยะยิ้มร้าย ตอกย้ำให้เธอดูตัวเลขจากหลักฐานที่เขาให้ แต่ญาดายังไม่เชื่อ
“คุณพ่อไม่ใช่คนคดโกง...ท่านสร้างบริษัทด้วยเงินที่ท่านหามาได้เองทุกบาททุกสตางค์”
“บริษัทนี้สร้างมาด้วยเงินสกปรก แล้วยิ่งรวยก็ยิ่งโกง หลักฐานเพียบแบบนี้ สุดท้ายจะมัดตัวคนโกงเข้าคุก!”
ข้อกล่าวหารุนแรงถึงดิลกทำให้ญาดาโกรธจัดแต่ชาคริตไม่สะทกสะท้าน ชวนไปกินข้าวดื้อๆ ญาดาปฏิเสธเหมือนเคย ทำท่าจะผละหนีแต่เขาตามไปรั้งไว้
“ผมไม่ชอบใช้กำลังบังคับใคร แต่ถ้าจำเป็นจริงๆผมจู่โจมเลย...เหมือนเมื่อเช้า”
ชาคริตพยายามย้ำเรื่องจูบเมื่อเช้าจนญาดาต้องเม้มปาก เจ็บใจ
“เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว แค่จูบห่วยๆจูบเดียว จะกินอะไรที่ไหนก็ไป จะได้ให้จบๆ!”
ขณะที่ญาดายอมให้ชาคริตบังคับใจ ไตรทศก็เริ่มแผนเอาคืนชาคริตด้วยการเล่นงานชญานี ทายาทคนเล็กของเมธาสิทธิ์ยอมถูกเยาะเย้ยและถากถางจนเธอเริ่มวางใจ คิดว่าเขาสำนึกได้จริงๆตามที่พูด โดยไม่รู้เลยว่ามันคือแผนลวงให้เธอตายใจและยอมไปไหนมาไหนกับเขาตามลำพัง
ไตรทศเห็นชญานีอ่อนท่าทีจึงตัดสินใจรุกฆาต แกล้งชวนเธอไปเลี้ยงข้าวขอบคุณที่ช่วยสอนงาน ชญานีลังเล ยังไม่ไว้ใจแต่ท่าทีจริงใจตลอดวันที่ผ่านมาก็ทำให้เธอตอบตกลง
ชาคริตไม่ระแวงเลยว่าน้องสาวบุญธรรมจะมีอันตราย มัววุ่นวายกับญาดา เซ้าซี้ให้ส่งบันทึกส่วนตัวและฉวยโอกาสเขียนเบอร์มือถือตัวเองบนหลังมือเธอ ญาดาถึงกับผงะกับความใกล้ชิดแบบนี้ แต่ไม่ทันพูดอะไร กสิณก็โผล่มาเอาเรื่องชาคริตที่ทำท่าก้อร่อก้อติกแฟนสาว
ญาดาห้ามไม่หยุดเถียงกัน ชาคริตเห็นกสิณหัวฟัดหัวเหวี่ยงเลยยิ่งแกล้ง ใช้สิทธิ์เจ้าของคนใหม่ของบีสตาร์ขู่จะยกเลิกสัญญาใช้ห้องทดลองของอีกฝ่าย กสิณโกรธมากแต่ผลประโยชน์ก็ทำให้ยอมผละไปแบบเสียไม่ได้ ทิ้งชาคริตให้มองมาทางญาดาอย่างกวนประสาท
“รีบส่งรายงานที่สวิตฯให้ผมนะ ผมอยากรู้ว่าคุณพลาดได้แฟนแบบนี้มาได้ยังไง!”
ooooooo
ชาคริตกลับห้องพักไปรอรายงานของญาดาด้วยใจจดจ่อ ชญานีในชุดสวยเตรียมออกเดตกับไตรทศแวะมาหา แต่ชาคริตไม่สนใจนัก และหมดความสนใจอย่างสิ้นเชิงเมื่อญาดาส่งบันทึกมาให้ทางมือถือ
ชญานีช้ำใจที่ชาคริตไม่แม้แต่จะถามว่าเธอไปกับใคร ยิ่งเห็นเขาหมกมุ่นกับบันทึกของญาดา ยิ่งปวดใจ แต่ชาคริตคงไม่ทันสังเกต มัวตั้งหน้าตั้งตาโทร.หาญาดาที่จงใจแกล้งใส่รหัสเพื่อเปิดบันทึกส่วนตัว
ญาดาเอาคืนแบบเจ็บๆคันๆด้วยการตั้งรหัสเข้าบันทึกส่วนตัวของเธอเพื่อหลอกด่าเขา แถมเขียนบันทึกแบบสั้นกุดเหมือนทำแบบขอไปที แต่ชาคริตไม่ถือสา ชอบใจด้วยซ้ำที่เธอมีอารมณ์ร่วมกับเขาบ้าง
ไตรทศโทร.หาญาดาในคืนเดียวกัน ประกาศกร้าวจะเอาคืนชาคริตโทษฐานทำร้ายจิตใจเธอกับเขมิกา ญาดาร้อนใจมาก พยายามห้ามน้องชายแต่เขาตัดสายทิ้งไปแล้ว!
ชญานีมาถึงที่นัดหมายทันได้ยินไตรทศพูดโทรศัพท์กับญาดาเต็มสองหู แผนร้ายของเขาทำให้เธอต้องตั้งสติกดแชร์ที่อยู่ทางไลน์ไปให้ชาคริต พร้อมส่งข้อความเอสโอเอสเป็นรหัสลับฉุกเฉินที่รู้กันสองคน
ชาคริตได้รับข้อความไลน์จากน้องสาวบุญธรรม แต่ไม่แน่ใจว่าเธอแกล้งเรียกร้องความสนใจหรือไม่เพราะระยะหลังอีกฝ่ายทำท่าเหมือนไม่พอใจที่เขาไปวุ่นวายกับลูกสาวพวกเมธาสิทธิ์
แต่อึดใจเดียวชาคริตก็ได้รับการยืนยัน เมื่อญาดาโทร.มาขอร้องอย่างร้อนรนให้เขาหาที่อยู่ชญานี เพื่อเขาจะได้ไปช่วย แต่ห้ามทำร้ายไตรทศเด็ดขาด!
ชาคริตส่งที่อยู่ของชญานีมาให้แต่ไม่รับปากเรื่องไตรทศ ญาดาประสาทเสียมาก รีบขับรถออกจากบ้านโดยไม่สนใจกสิณที่แวะมาง้อพร้อมช่อดอกไม้ ปาริฉัตรรอจังหวะอยู่แล้ว ทันทีที่แฟนหนุ่มของญาดาเดินหัวเสียออกมา เธอก็เสนอตัวเป็นเพื่อนดื่มเพื่อนคุยของเขาแทน
ญาดาไม่ได้คิดถึงกสิณเลย รีบกดโทรศัพท์หาทัศนะให้ตามไปช่วยชญานีด้วย เพราะกลัวใจชาคริตจะทำร้ายน้องชายของเธอปางตาย!
ไตรทศไม่รู้เลยว่าใครจะบุกมาช่วยชญานีบ้างมัวย่ามใจที่จับตัวเธอได้ ชญานีกลัวมากแต่ทำใจดีสู้เสือถ่วงเวลา
“คุณจะทำให้ฉันหายตัวไปแบบคุณเขม...แล้วคิดว่าจะกักตัวฉันไว้ได้กี่วัน ไม่ได้วางแผนอะไรไว้เลยสินะ คนไม่ใช้สมองแต่ใช้อารมณ์ตัดสินไม่มีทางประสบความสำเร็จในชีวิต คงเป็นได้แค่ลูกแหง่ของพี่สาวตลอดชาติ!”
“คุณก็ไม่ต่างอะไรกับผมหรอก คุณเป็นได้แค่ทาสรับใช้นายชาคริต ผมไม่เคยเห็นเขาปฏิบัติกับคุณเป็นน้องสาวเลยในสายตาเขา...คุณเป็นแค่ลูกจ้าง เป็นลูกกำพร้าที่เขาเก็บมาเลี้ยง...เลี้ยงด้วยความเวทนา!”
ชญานีโกรธมากที่ถูกพูดแทงใจดำ ตบเขาหน้าหัน
“คุณไม่มีสิทธิ์พูดกับฉันอย่างนี้ คุณไม่รู้อะไร ไม่รู้อะไรเลย!”
“คุณก็ไม่รู้อะไรเหมือนกัน ไม่รู้ว่าผมทำอะไรได้บ้าง”
จบคำก็กระชากเธอมาหา ชญานีรู้ทันขึ้นเข่ากระแทกเป้าเขาแล้ววิ่งหนี ไตรทศหัวเสียมาก ไล่ตามจนทันและจับเธอโยนลงบนโซฟาร้านอาหารที่เขาเหมาจอง ชญานีกลัวจับจิตกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ไตรทศแอบตกใจกับท่าทางของเธอ ตั้งท่าจะถอยแต่ช้าไปแล้ว ชาคริตโผล่มาดึงตัวเขาออกจากน้องสาวและชกท้องจนตัวงอ!
ooooooo
เหตุการณ์หลังจากนั้นเต็มไปด้วยความรุนแรง ชาคริตอัดไตรทศตามลำตัวจนน่วม ญาดาเพิ่งมาถึงพร้อมทัศนะ ตะโกนลั่นขอให้ช่วย ทัศนะเลยตัดสินใจไปแยกเพื่อนออกมา
ชญานีกลัวตัวสั่น โผกอดชาคริตอย่างคนขวัญเสีย ญาดาไปพยุงน้องชาย และประกาศกร้าวให้แจ้งตำรวจ ชาคริตจะไม่ยอมความแต่ชญานียอม และขอกลับบ้านเพราะอับอายจนไม่อยากเจอใคร
ทัศนะตามมาขับรถให้ชญานี แต่ไม่วายหันมาเตือนสติชาคริตที่กำลังโกรธจัด
“ฉันรู้ว่านี่มันเรื่องใหญ่ แต่แกก็อย่าลืมว่าแกเป็นฝ่ายเริ่มทำร้ายครอบครัวเขาก่อน ครั้งนี้เขาถึงเอาคืน”
“ฉันไม่เคยรังแกผู้หญิง”
“แกทำคนให้เป็นหมามานักต่อนักแล้ว ทำให้เป็นหมาจนตรอกจนทำเรื่องชั่วๆโดยไม่รู้ตัว”
“แกหมายถึงไอ้ไตรหรือตัวแกเอง”
ชาคริตสวนอย่างมีอารมณ์ ทัศนะชินชาเสียแล้ว เอ่ยเสียงเย็น
“ถ้ายังเห็นฉันเป็นเพื่อน เรื่องที่เกิดขึ้นขอให้จบที่นี่...วันนี้”
“ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับขวัญล่ะ”
