ตอนที่ 4
บรรดลตัดสินใจไปเจอปรีชาแทนนพวรรณที่ถูกเรียกตัวไปคุยหลังออกเวร หมอหนุ่มแปลกใจมากที่เจอหลานชายอาเจ็กแทนพยาบาลสาว แต่สังหรณ์ลึกๆก็บอกว่าวันนี้เขาอาจได้รู้ความลับบางอย่าง แล้วก็จริงดังคาด บรรดลเปิดฉากแนะนำตัวทันทีว่าไม่ได้ชื่อจง แต่ชื่อบรรดล
“ตกลงคุณเป็นใครกันแน่”
“ผมชื่อบรรดล เป็นหนึ่งในทีมตำรวจที่กำลังพยายามตามล่าตัวตี๋ใหญ่ ทุกอย่างที่ผมทำก็เพื่อภารกิจนี้ทั้งนั้น แม้แต่การที่มีตำรวจบุกไปที่คลินิกของคุณหมอก็ไม่ใช่ด้วยเหตุผลอื่น”
“ที่แท้ก็แบบนี้เอง แล้วทำไมถึงกล้าบอกความลับของคุณล่ะ”
“ก็เพราะเราต่างมีความลับน่ะสิครับ ตราบใดที่คุณหมอยังเก็บความลับของผมไว้ เรื่องที่คุณหมอคอยช่วยเหลือตี๋ใหญ่กับพวกก็จะยังคงเป็นความลับ”
“ที่จริงเรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นความลับอะไร ใครๆก็รู้ว่าผมกับตี๋ใหญ่เป็นเพื่อนกัน”
“แต่ตำรวจที่จะเป็นพยานยืนยันได้คงมีไม่กี่คนหรอก”
“คุณขู่ผมเหรอ”
“เปล่า...แค่เสนอข้อแลกเปลี่ยน เราต่างทำหน้าที่ หมอเป็นหมอที่ดี ผมก็ตั้งใจที่จะเป็นตำรวจที่ดีเหมือนกัน”
บรรดลยอมเผยความลับเรื่องตัวจริงของตนเพื่อปกป้องนพวรรณและเพื่อซื้อใจปรีชา ไม่ให้เปิดเผยความลับของเขา ตราบเท่าที่เขาไม่เปิดเผยความลับของอีกฝ่ายที่แอบให้ความช่วยเหลือตี๋ใหญ่กับพวกมาตลอด
เมื่อนพวรรณรู้เรื่องเวลาต่อมาก็อดกังวลไม่ได้
“เท่ากับตอนนี้ก็มีคนรู้ความลับเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน”
“ใช่...แต่ผมว่าวิธีนี้ยังดีกว่าให้เขารู้ด้วยตัวเอง อย่างน้อยเราก็มีโอกาสห้ามไม่ให้เขาขยายเรื่องออกไปอีก แล้วจะได้กันคุณออกไปจากเรื่องนี้ด้วย”
“แต่แบบนี้มันไม่เสี่ยงเกินไปหน่อยเหรอคะ”
“ผมยอมเสี่ยงเอง ดีกว่าให้คุณต้องเสี่ยงด้วยอีกคน”
พูดพลางเอื้อมไปกุมมือ นพวรรณปลื้มมาก เขินจนต้องหลบตา พึมพำตอบ
“ขอบคุณนะคะ”
ooooooo
ปรารถนาหิ้วข้าวของและถุงกาแฟกลับบ้านไปฝากผัวรัก โดยไม่รู้เลยว่าอุดมกับเนตรดาวจะตามไปถึงบ้าน เพราะได้ยินจากเจ้าของร้านกาแฟว่าเธออาจพอช่วยได้ในฐานะอดีตนางงาม
ตี๋ใหญ่ก็ไม่ทันระวังตัว ช่วยเมียรักเตรียมของและอาหารให้ลูกชายอย่างดี จนกระทั่งกริ่งหน้าประตูดัง พร้อมการปรากฏตัวของหนุ่มสาวต่างถิ่น!
ปรารถนาออกไปรับหน้า แล้วก็ถึงกับหน้าถอดสีเมื่อเนตรดาวแนะนำตัวว่าเป็นนักข่าว
“คือดิฉันกำลังทำสกู๊ปเรื่องเส้นทางนางงาม จะสะดวกไหมคะถ้าจะขอเข้าไปสัมภาษณ์”
“ไม่ได้หรอกค่ะ พวกคุณกลับไปก่อนเถอะ ตอนนี้ไม่สะดวกจริงๆ”
“ถ้างั้นขอนัดสัมภาษณ์ได้ไหมคะ”
“ไม่ค่ะ...แค่นี้ก่อนนะ”
พูดจบก็หมุนตัวเข้าบ้าน ทิ้งเนตรดาวกับอุดมให้มองตามนิ่งๆ ก่อนจะหันมาพูดกัน
“ผมว่าเรามาถูกที่แล้วล่ะ”
“เนตรก็ว่าอย่างนั้นเหมือนกัน”
อุดมกับเนตรดาวยังไม่ยอมกลับ ยืนคุมเชิงหน้าบ้าน ทำทีจะรอให้ปรารถนายอมให้สัมภาษณ์ ตี๋ใหญ่เห็นทุกอย่างจากด้านใน คว้าปืนพกคู่ใจมาถือไว้แล้วเอ่ยกับเมียรักเสียงเบาแต่เคร่งเครียด
“นั่นแหละตำรวจที่ยิงเฮีย”
“แล้วเฮียจะทำยังไงล่ะ ท่าทางเขาคงไม่เลิกราง่ายๆ”
“มีวิธีเดียว...ฆ่ามันก่อนที่มันฆ่าเรา”
“ไม่นะเฮีย...อย่านะ!”
ปรารถนาคิดแผนหลอกล่อหนุ่มสาวต่างถิ่นให้ผัวรักหนี โดยไม่รู้เลยว่าอุดมเรียกตำรวจเรียบร้อยแล้วและจะไม่จู่โจมจนกว่ากำลังเสริมจะมาถึง
แต่ไม่กี่อึดใจต่อมา อุดมกับเนตรดาวก็ต้องเบิกตาโพลง เมื่อมีมอเตอร์ไซค์วิ่งออกจากซอยข้างบ้าน ตำรวจหนุ่มมั่นใจว่าเป็นตี๋ใหญ่เลยพาเนตรดาวตามจับ
“ระวังนะคะ เขาอาจเปิดฉากยิงเราก่อนก็ได้”
“ไม่หรอก...ถ้ามันจะยิง มันยิงมานานแล้ว”
อุดมรีบขับรถตามมอเตอร์ไซค์คันนั้น ก่อนหยุดเมื่ออีกฝ่ายจอดรถในลานโล่งไม่ไกลจากบ้าน
“ตี๋ใหญ่มอบตัวซะ! คราวนี้ฉันจะไม่ปล่อยแกไปอีกแล้ว”
เนตรดาวนั่งรอในรถ กลัวจนเหงื่อออกทั่วมือ แล้วต้องอ้าปากค้างเมื่อเห็นหน้าคนขับมอเตอร์ไซค์
“คุณปรารถนา!”
ooooooo
อุดมกับเนตรดาวหน้าแตกยับ เพราะแผนของปรารถนาแท้ๆลวงให้ทั้งสองห่างจากบ้าน ให้ตี๋ใหญ่หนี แต่ก่อนไปก็ไม่วายเขียนจดหมายลาทิ้งไว้พร้อมเงินปึกใหญ่
“หนา...เฮียไปก่อนนะ ฝากบอกลูกด้วยว่าเฮียรักลูกมาก เฮียเอาเงินใส่ให้ไว้ในลิ้นชัก หวังว่าคงพอใช้ไปได้อีกหลายเดือน รักนะ...เฮียเอง”
ปรารถนาเปิดลิ้นชักเห็นเงินปึกใหญ่ก็ถึงกับน้ำตาไหล ไม่อยากได้เงินแต่อยากได้ผัวคืนมากกว่า...
อุดมนั่งเงียบตลอดทางกลับกรุงเทพฯ เนตรดาวอึดอัดมากจนต้องโพล่งออกไป
“สรุปนี่จะนั่งเป็นใบ้กันไปตลอดทางเลยใช่ไหม”
“ก็ไม่รู้จะพูดอะไรนี่นา เราน่ะเกือบได้ตัวมันไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแล้ว แต่สุดท้ายมันก็หลุดมือเราไปได้ทุกที”
“แต่ยังไงเราก็ได้รู้อะไรเกี่ยวกับตี๋ใหญ่เพิ่มขึ้นนะ”
“ก็จริง...แต่ที่มากกว่านั้น...ยังได้มากับคุณด้วย”
เนตรดาวเขินมาก แกล้งเฉไฉเปลี่ยนเรื่องแต่เขาก็วกมาจนได้เมื่อถึงบ้านเธอ
“วันหลังไปด้วยกันอีกนะ”
“ยังจะมีอีกเหรอ”
“มีสิ...รับรองคราวหน้าสนุกกว่านี้อีก”
“เอาไว้ค่อยคิดดูอีกทีนะ”
ความสัมพันธ์ของอุดมกับเนตรดาวพัฒนาอีกขั้น เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ของบรรดลในคราบจง หลานชายอาเจ็กที่เข้าถึงตัวสมาชิกแก๊งตี๋ใหญ่ได้สนิทใจขึ้น...โดยเฉพาะหนู อย่างเช่นวันนี้ที่เขาตามไปฉลองวันเกิดเสี่ยปิ่นด้วย
บรรยากาศในบาร์ของเสี่ยปิ่นเต็มไปด้วยความสนุกสนาน บรรดลถือโอกาสนี้หลอกถามข้อมูลของตี๋ใหญ่จากหนูซึ่งให้ความร่วมมืออย่างดีเพราะเริ่มเมา โดยไม่รู้ตัวว่าโชติกับเสี่ยปิ่นจับตามองทุกการกระทำของเขาอยู่ห่างๆ
จ่ายะ สายข่าวประจำพื้นที่ดำเนินสะดวกก็มาสังเกตการณ์ที่บาร์นี้ แล้วถึงกับตาโตเมื่อเสี่ยโจปรากฏตัวพร้อมชาญ ลูกน้องคนสนิท และทำทีเหมือนจะหาเรื่องป่วนเจ้าของวันเกิด
เนตรดาวเพิ่งกลับถึงบ้านไม่นานก็ได้รับสายจากจ่ายะให้มาทำข่าวที่บาร์ เพราะเสี่ยโจ เจ้าของบ่อนแห่งดำเนินสะดวกตั้งท่าจะมีเรื่องกับเสี่ยปิ่น เจ้าของบาร์ชื่อดัง
หนูเดือดร้อนแทนเสี่ยปิ่น บวกกับความแค้นตอนถูกซ้อมครั้งก่อน เลยพร้อมมีเรื่องเต็มที่ โดยมีบรรดลในคราบจงหลานชายอาเจ็กเป็นลูกคู่ ลงไปสู้ด้วยเพราะหวังจะตบตาและซื้อใจ โชติมองเหตุการณ์การต่อสู้ยิบตาของหนูกับจงด้วยแววตาอึ้งไม่น้อย และเริ่มคลายความสงสัยในตัวหลานชายอาเจ็ก
เสี่ยโจย่ามใจมากเมื่อเห็นว่าหนูกับจงโดนรุมจนน่วม แต่พลันต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงปืนของตี๋ใหญ่
“ใครทำเพื่อนกูอีก กูสาบานว่ากูจะฆ่ามันทุกคน!”
รังสีอำมหิตจากตี๋ใหญ่ทำให้เสี่ยโจไม่กล้าเสี่ยง รีบพาพรรคพวกออกจากบาร์ ทิ้งตี๋ใหญ่ให้มองตามนิ่งๆ ก่อนจะเดินไปหาจงที่สะบักสะบอมแทบยืนไม่อยู่
“ขอบใจนะอาจง ในที่สุดก็ได้เจอกันซะที ได้ยินชื่อมาตั้งนานแล้ว”
ooooooo










