ตอนที่ 6
ความใกล้ชิดระหว่างเจี๊ยบกับโต้งเป็นไปด้วยดี บางทีกระเซ้าเย้าแหย่ บางทีก็ต่อปากต่อคำ แต่สองคนไม่เคยโกรธกันจริง เจี๊ยบเผลอเล่าว่าท่านประธานเลื่อนตำแหน่งให้ตน โต้งตกใจร้องลั่น
“ป่าปี๊...เอ๊ย...ตะกี้เธอว่าไงนะ”
“นี่ๆๆ ไม่ต้องเลย ไม่ต้องคิดอะไรทุเรศๆเลยนะ นายกำลังจะว่าท่านประธานปิ๊งฉันแล้วเอาตำแหน่งมาล่อฉันใช่มั้ย โห...แก่คราวพ่อ แถมอ้วนอีก ไม่ไหวหรอก รู้ไว้ด้วยย่ะ ท่านประธานเลื่อนตำแหน่งให้เป็นรางวัลที่ฉันช่วยคิดสูตรใหม่ ไก่กะต๊าก...อุ๊บส์!!”
“สูตรใหม่อะไรนะ”
เจี๊ยบปิดปากแน่น ส่ายหน้าดิก “ไม่ได้ๆ บอกไม่ได้จริงๆ ฉันสัญญากับท่านประธานแล้วว่าจะไม่บอกใคร ฉันกลับบ้านดีกว่า เรื่องที่ฉันบอกนายตะกี้ นายลืมๆไปเลยนะ ห้ามจำนะ ห้ามพูดต่อกับใครเด็ดขาด นายเป็นพนักงานกะต๊ากใช่มั้ย พนักงานที่ดีต้องรักษาความลับของบริษัท นายกับฉันต้องช่วยกันรักษาความลับของ
กะต๊าก...โอเค้”
“โอเค”
“ดีมากๆ นายเป็นพนักงานที่ดีมาก...ห้ามบอกใครจริงๆนะ”
โต้งยิ้มรับ เอามือรูดซิปปากและทำมือโอเค เจี๊ยบทำแบบเดียวกันแล้วเดินจากไปอย่างมีความสุข
ooooooo
ค่ำนั้นเจ้าสัวเดินหน้าตาแฮปปี้ฮัมเพลงอย่างครึ้มใจเข้าบ้าน ทนายจ๋องเดินตามหลังเห็นอาการเจ้านาย อดทักทายไม่ได้ว่าไม่เคยเห็นเจ้าสัวกลับจากที่ทำงานด้วยอารมณ์แจ่มใสเบิกบานแบบนี้
มานานมากแล้ว
“จริงของลื้อนะอาจ๋อง ก็มันนานมากแล้วนี่ ที่บริษัทเราไม่มีใครช่วยคิดสูตรไก่กะต๊ากใหม่ๆขึ้นมาได้ หนูคนนั้นชื่ออะไรนะที่ช่วยคิดสูตรไก่”
“หนูเจี๊ยบ จิรภา อริศัตรูพินาศ ครับท่าน”
“ไอ๊หยา...แซ่อีน่ากลัวชิบเป๋ง ฮ่าๆๆ หนูเจี๊ยบนี่อีเก่งจริงๆนะ หัวสมองดี หน้าตาอีก็ดีนะ โหงวเฮ้งอีก็ใช้ได้ มันน่าเอามาเป็นลูกสะใภ้”
“ยังมีน้ำหน้าจะหาลูกสะใภ้อีกเรอะ” อี๊จินเสียงแหลมเข้ามายืนแยกเขี้ยวใส่เจ้าสัว
“อ้าวๆๆ วันนี้อารมณ์ดีๆกลับบ้าน ลื้ออย่ามาทำให้อั๊วเสียฟิลลิ่งสิอาจิน”
“ฟิลลิ่ง? ลื้อยังจะมีฟิลลิ่งหาลูกสะใภ้ได้ยังไง
ลื้อมีลูกชายเหรอ ลูกชายลื้ออยู่ไหน อยู่ไหนๆ ไม่เห็นจะมี”
เจ้าสัวรู้ตัวว่าโดนแดกดัน ลุกขึ้นยืนเถียงทันที “มีสิ ทำไมจะไม่มี”
“มีสิ...เคยมี แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ลื้อไล่อาโต้งลูกชายลื้อออกไปแล้ว”
“ใครบอก...ตอนนี้ไม่มีเพราะอาโต้งมันไม่รักดี แต่อั๊วก็ยังมีลูกเหลืออีกคนโว้ย”
“นี่ลื้อมีเมียน้อยเหรอ”
“ด้วยความเคารพครับท่าน ได้ไปแอบจดทะเบียนสมรสหรือจดทะเบียนรับรองบุตรด้วยแล้วหรือไม่ ตอนไหน อย่างไรครับท่าน”
เจ้าสัวต่อว่าทั้งอี๊จินและทนายจ๋องที่เข้ากัน
เป็นปี่เป็นขลุ่ย แล้วเฉลยว่าลูกอีกคนของตนคือไอศูรย์ ถึงเขาจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่พ่อกับแม่เขาดีกับตน ตัวไอศูรย์เองก็ดี ขยันทำงาน ไม่เหมือนกับโต้ง
“จำไว้เลยนะ ถ้าอาโต้งมันยังโหลยโท่ยไม่เอาไหน ไม่ทำตัวให้เป็นผู้เป็นคนขึ้นมาได้ อั๊วจะยกตำแหน่งท่านประธาน จะยกมรดกให้ไอศูรย์ให้หมดเลย จำไว้”
อี๊จินตกใจอ้าปากค้าง เจ้าสัวไม่สนใจ ชวนทนายจ๋องไปกินข้าวข้างนอก พูดแล้วเดินนำไปเลย ส่วนทนายจ๋องโดนอี๊จินดึงไว้ซักถาม
“ไม่จริงใช่มั้ยอาจ๋อง ที่อีพูดตะกี้ไม่จริงใช่มั้ย”
“ด้วยความเคารพครับ ถ้าเป็นข้อกฎหมายล่ะผมตอบได้ แต่ถ้าเป็นเจ้าสัว ผมตอบแทนไม่ได้จริงๆ”
“ไอ๊หยา...”
“แต่ถ้าให้ผมเดาใจ ผมว่าท่านพูดด้วยความโมโหครับ”
“จริงเหรออาจ๋อง”
“แต่ทางที่ดีเร่งสปีดทางคุณโต้งให้ไวจะปลอดภัยสุดนะครับอี๊ เรื่องอย่างนี้ไม่ควรประมาท”
ทนายจ๋องทิ้งท้ายไว้จนอี๊จินไม่สบายใจ รีบโทร.หาจูเลีย พอได้ยินทางนั้นบอกว่าเจอโต้งแล้ว อี๊จินดีใจมากถามระรัว
“ได้เจอกันแล้วเป็นไงบ้าง อาโต้งอีเป็นยังไงบ้าง”
“เริ่ด หล่อสุดๆ นี่ถ้าไม่นับเป็นน้องเป็นนุ่งนะ อั๊วจะจับปล้ำซะ”
“ไอ๊หยา!! อาจูตบปาก ซี้ซั้วพูด”
“แหม...นี่ก็หวงหลานเว่อร์ ระวังเถอะ ทำเป็นหวงอั๊ว ถ้าอาโต้งอีโดนผู้หญิงเฮงซวยที่ไหนหลอกไปล่ะก็ อย่ามาร้องไห้กับอั๊วเชียวนะอี๊จิน”
“ไอ๊หยา!! อาจู ลื้อตบปากรัวๆ ไหว้ฟ้าดินเดี๋ยวนี้เลยนะ บอกฟ้าดินตะกี้ลื้อพูดเล่น เร็วๆ”
จูเลียขำก๊ากก่อนบ่น “อี๊จินนี่อาการหนักนะ ทั้งหวงทั้งห่วงหลานรักซะจริง”
“โธ่อาจู อาโต้งอีเป็นหลานชายคนเดียวของอั๊ว ลื้อก็รู้ อีต้องไปตกระกำลำบากขนาดนั้นจะไม่ให้อั๊วห่วงอีได้ยังไง เตี่ยอีก็ใจร้ายใจดำยังกะอีกา นึกว่าสงสารอีเถอะนะ ลื้ออยู่ใกล้ๆอีแบบนั้น ถ้าช่วยอะไรอีได้ก็ช่วยอีด้วยนะ อั๊วจะไม่ลืมบุญคุณลื้อเลย”
“ว้าย...อี๊พูดอะไรน่ะ เรามันคนรู้จักกันนะ อี๊นะ...เฮ้ยนั่นอาโต้ง”
จูเลียตะโกนลั่นเพราะเหลือบไปเห็นโต้ง
เดินอยู่กับเจี๊ยบตรงทางเดินหน้าบ้าน อี๊จินตื่นเต้นดีใจถามกลับมา
“จริงเหรอๆ อาโต้งอีเป็นยังไงมั่ง อีผอมลงมั้ย”
จูเลียชะเง้อมองคอยืดคอยาว กลัวจะไม่ทันสองคนนั้นจึงบอกอี๊จินว่า
“แค่นี้ก่อนนะอี๊”
ooooooo
ไอศูรย์จอดรถซุ่มดูโต้งกับเจี๊ยบอยู่ไกลๆ ไม่พอใจที่ทั้งคู่สนิทสนม เขาทำท่าจะลงจากรถไปหาแต่ต้องชะงักนั่งอยู่อย่างเดิม เมื่อเห็น เสธ.เจ้ยเดินหน้ายักษ์ออกมาต่อว่าโต้ง จูเลียเดินหน้าตั้งมาได้ยินก็ปกป้องโต้งอย่างเต็มที่
เจี๊ยบเบื่อหน่ายในความเยอะของพ่อที่หวงลูกไม่ลืมหูลืมตา อธิบายว่าโต้งช่วยตนไม่ให้ถูกรถชน จึงพาเขาไปเลี้ยงขนมตอบแทน จูเลียได้ทีแกล้งด่ากระทบ เสธ.เจ้ยไปหลายคำ ก่อนที่อีกฝ่ายจะยอกย้อนว่าจูเลียมั่วผู้ชายไม่เลือกหน้า มั่วไปทั่วแม้แต่เด็กขายไก่ ทำเป็นสั่งไก่แต่จริงๆคือซื้อเด็กส่งไก่ไปกินตับในบ้านกลางวันแสกๆ
โต้งกับจูเลียนึกถึงวันก่อนที่เขาและเธอกอดกันในบ้าน เชื่อว่า เสธ.เจ้ยเห็นจึงเข้าใจผิด แต่โต้งหมดโอกาสอธิบายเพราะเจี๊ยบดูจะงอนนิดๆ ชวนพ่อเข้าบ้านไปเสียก่อน จูเลียมองออกว่าหนุ่มสาวน่าจะมีใจกันให้บ้าง แต่พอลองถามโต้งกลับเฉไฉไม่ตอบ ส่วนไอศูรย์ที่ซุ่มดูอยู่นั้น เขาหลงรักเจี๊ยบอย่างแน่นอน ที่สำคัญเขาต้องการรู้สูตรไก่ทอดสูตรใหม่ที่เจ้าสัวปิดเป็นความลับจากเธอด้วย
เสธ.เจ้ยจะหนีลูกเที่ยวผับอีกในคืนนี้ เขาทำทีเข้ามาคุยกับเจี๊ยบอยู่นานสมพอควร ลูกสาวเล่าให้พ่อฟังว่าวันนี้ตนได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ แต่ไม่ได้บอกเรื่องที่ตัวเองคิดสูตรไก่ทอดสมุนไพร พ่อชื่นชมความสามารถของลูกและแสดงออกว่าหวงห่วง กลัวไอศูรย์จะคิดไม่ซื่อกับลูกของตน
ฝ่ายโต้งที่โดนพักงานห้าวัน ค่ำนั้นเขากลับไปที่ห้องเช่าแต่โดนป๋องไล่ตะเพิด รวมทั้งชาวตลาดที่ต่างกล่าวโทษโต้งทำให้งานเลี้ยงวันเกิดโดมพังพินาศ หาว่าเป็นตัวซวยไปเสียทุกที่ โต้งทนไม่ไหวกับความอคติของทุกคน สะพายกระเป๋าออกจากห้องพักมาอย่างไร้จุดหมาย เบิ้มเห็นแล้วรู้สึกผิด เพราะความจริงเขาคือต้นเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้น
โต้งไม่มีที่ไป ทั้งเหนื่อยและหิว ในที่สุดเขานึกถึงจูเลียจึงมาขอพึ่งพิง จูเลียยินดีต้อนรับเพราะรับปากอี๊จินไว้อยู่แล้ว
ทางด้าน เสธ.เจ้ยที่ไปเที่ยวผับกับหมูเด้ง เขาเจอเจ้าสัวกับทนายจ๋องอีกครั้ง แน่นอนเจ้าสัวถูกสาวๆรุมล้อมเพราะกระเป๋าหนัก ทำให้ เสธ.เจ้ยไม่พอใจ หมูเด้งจึงหาทางเล่นงานโดยเรียกวิธีนี้ว่า “แผนตีแตก” นั่นก็คือนำสลอดแอบใส่ในเครื่องดื่มให้เจ้าสัวกับทนายจ๋องกิน
ไม่นานนักสลอดก็ออกฤทธิ์ทำเอาวงแตก สาวๆ วิ่งหนีกระจาย ส่วนเจ้าสัวกับทนายจ๋องวิ่งเข้าห้องน้ำเป็นว่าเล่น ไม่ต่างจาก เสธ.เจ้ยกับหมูเด้งที่เผลอกินไปด้วยเหมือนกัน ต่างพากันถ่ายไม่หยุดแทบล้มลุกคลุกคลานกลับบ้านไม่ได้
ooooooo










