สมาชิก

คุณชายไก่โต้ง

ตอนที่ 16

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ชาวตลาดเข้าใจผิดว่าโต้งคือคนร้ายโหดเหี้ยมอำมหิตคิดฆ่าปิดปากลูกชิดที่รู้เห็นการวางเพลิงเผาตลาด ซึ่งในที่เกิดเหตุมีหลักฐานคือไฟแช็กกับแกลลอนน้ำมัน ที่สำคัญแม่ค้าพ่อค้าเห็นกับตาว่ารถหรูสีเหลืองไล่ชนลูกชิดคือรถของโต้งอย่างแน่นอน

เจี๊ยบไม่เชื่อว่าโต้งจะใจร้ายได้ถึงขนาดนั้น เช่นเดียวกับอ้นที่เถียงแทนโต้งจนชาวตลาดไม่พอใจ โดยเฉพาะเฮียมืดกับเจ๊เพ็ญพ่อแม่ของลูกชิด พวกเขาจะเล่นงานโต้งถึงตายโดยไม่รอให้กฎหมายลงโทษ แต่เพราะ เสธ.เจ้ยขอร้อง ทุกคนจึงอ่อนลง

“ฉันเข้าใจและเห็นใจพวกเราทุกคน แต่ฉันก็เห็นด้วยกับหนูลูกเจี๊ยบที่เราไม่ควรจะใช้กฎหมู่ แต่ควรจะใช้กฎหมายจัดการ ใจเย็นๆ ฟังฉันก่อน โดยเฉพาะมืดกับเพ็ญ ถ้าเธอสองคนบุ่มบ่ามทำอะไรผิดพลาดไป แล้วใครจะดูแลเจ้าลูกชิดที่นอนเจ็บอยู่”

“แล้วเรื่องที่มันจะเผาตลาดเราอีกล่ะ เสธ.เจ้ย”

“นั่นก็เป็นอีกเรื่องนึงที่ถึงยังไงเราก็ไม่สามารถจะกล่าวหาใครได้โดยไม่มีหลักฐาน เอางี้ ในฐานะที่ฉันก็รักตลาดแห่งนี้ไม่น้อยไปกว่าพวกเราทุกคน แต่เพื่อความถูกต้องความยุติธรรม ฉันคิดว่าเราไม่ควรจะด่วนตัดสินและลงโทษใครเองโดยไม่ผ่านกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมาย และถ้าผลออกมาว่านายโต้งผิดจริง ฉันจะลากคอนายโต้งไปส่งให้ตำรวจเอง และจะไม่ยอมให้หนูลูกเจี๊ยบลูกสาวของฉันยุ่งเกี่ยวกับนายโต้งอีกต่อไป”

“ก็ได้ เห็นแก่ เสธ.เจ้ย วันนี้ฉันจะไม่กระทืบไอ้โต้ง แต่ฉันจะไปแจ้งความ ฉันจะให้ตำรวจลากคอมันเข้าคุก” ขาดคำของเฮียมืด คนอื่นๆขานรับด้วยความพอใจ

หลังจากทุกคนกลับไป โต้ง เจี๊ยบ อ้น ป๋อง และเบิ้มเข้ามาคุยกันในร้านกะต๊าก เจี๊ยบกับอ้นให้กำลังใจโต้งและไม่เชื่อว่าเขาคือคนร้าย ในขณะที่เบิ้มกับป๋องยังแบ่งรับแบ่งสู้ไม่มั่นใจสักเท่าไหร่

ด้านเจ้าสัวพอเห็นข่าวของลูกชายในจอทีวีพร้อมอี๊จินก็แทบช็อก เชื่อข่าวไปร้อยเปอร์เซ็นต์ถึงกับประกาศตัดขาดโต้งและตบหน้าเขาทันทีที่กลับมา ส่วนไอศูรย์รู้เห็นด้วยความสะใจเป็นที่สุด

เมื่อตำรวจเชิญตัวโต้งในฐานะผู้ต้องสงสัยไปสอบปากคำที่โรงพัก เจี๊ยบตามมาให้กำลังใจและพูดกับโต้งขณะนั่งรถกลับออกจากโรงพักว่าเธอสงสัยไอศูรย์ เพราะเขาเป็นคนเดียวที่อยากทำลายโต้ง

“เธอรู้ได้ยังไง ทำไมเธอถึงคิดว่าเป็นไอศูรย์”

“ก็ถ้านายเป็นอะไรไป บนโลกใบนี้คนที่น่าจะดีใจที่สุดก็น่าจะเป็นไอศูรย์ไม่ใช่เหรอ”

“ไม่นะเจี๊ยบ ฉันว่าเธออย่าเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลยดีกว่า มันอันตราย ฉันเป็นห่วงเธอ”

“นายเป็นคนขอร้องฉันมาตลอดว่าอย่าทิ้งนายไปไหน ถึงตอนนี้จะให้ฉันทิ้งนายไปได้ยังไง เราจะสู้ไปด้วยกันนะโต้ง”

โต้งซึ้งใจในความรักของเจี๊ยบที่มีต่อเขา...ทันทีที่กลับถึงบ้าน เจี๊ยบโดนจูเลียซักถามว่าโต้งเป็นอย่างไรบ้าง เสธ.เจ้ยกับสมจิตรก็อยากรู้เช่นเดียวกัน

“ยังมีพยานหลักฐานไม่เพียงพอที่จะแจ้งข้อหาดำเนินคดี ตอนนี้โต้งยังเป็นแค่ผู้ต้องสงสัย ไม่ใช่ผู้ต้องหา โต้งกลับบ้านแล้วค่ะ”

“หนูลูกเจี๊ยบ...พ่อไม่อยากให้หนูเข้าไปยุ่งอะไรให้มากกว่านี้”

“พ่อคะ มันใช่เหรอคะที่คนเรารักกัน แล้วจะให้ทิ้งกันในวันที่เขากำลังลำบาก พ่อเองเป็นคนพูดกับ

ชาวตลาดว่าเราไม่ควรด่วนตัดสินลงโทษใครโดยไม่ผ่านกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งตอนนี้เรายังไม่ได้ผลสรุปในเรื่องนี้นะคะพ่อ”

“ไงล่ะ อึ้งล่ะสิ” จูเลียยิ้มเย้ย เสธ.เจ้ย

“แต่พ่อว่า...”

“พ่อคะ หนูเป็นลูกสาวพ่อ แล้วหนูก็รักความยุติธรรมเหมือนพ่อ ซึ่งถ้าโต้งผิดจริง ต่อให้พ่อไม่ห้ามให้หนูยุ่งเกี่ยวกับโต้งอีก แต่หนูก็ไม่สามารถที่จะรักผู้ชายใจโหดเหี้ยมแบบนั้นได้หรอกค่ะ แต่ตอนนี้ขอให้หนูได้สู้ไปกับโต้งก่อนเถอะนะคะ”

เสธ.เจ้ยพูดอะไรไม่ออก จูเลียมองเจี๊ยบอย่างชื่นชมและซึ้งใจ

ooooooo

ไอศูรย์อารมณ์ดีกลับคอนโด แต่ไม่ทันจะเข้าห้องก็โดนแอ๊บตามมากระชากแขนและตวาดถามด้วยท่าทีฉุนเฉียว

“ทำอย่างนี้ได้ยังไง ทำไมแกถึงเลวขนาดนี้”

ชายหนุ่มเอือมระอายอกย้อนเสียงแข็ง “ฉันเองก็ชักจะทนรำคาญแกไม่ไหวแล้วเหมือนกันนะนังแอ๊บ จะตามวุ่นวายกับฉันถึงไหน”

“ฉันจะไม่วุ่นวายกับแกเลยถ้าแกไม่คิดจะทำลายบ่อเงินบ่อทองของฉัน ไอ้โต้งมันกลายเป็นฆาตกรติดคุกแล้วฉันกับลูกแกจะทำยังไง ความหวังที่ฉันจะได้เป็นเมียทายาทหมื่นล้านก็พังหมดน่ะสิ”

“ก็เรื่องของแกสิเว้ย เพราะสำหรับฉันการที่ได้ทำลายไอ้โต้งให้พินาศย่อยยับมันเป็นที่สุดในชีวิตของฉัน อ้อ แล้วก็เลิกพูดซะทีว่าไอ้เด็กในท้องแกเป็นลูกของฉัน ในเมื่อแกโยนให้ไอ้โต้งมันรับเป็นพ่อไปแล้ว”

“แล้วแกก็ยังวางแผนชั่วๆให้โต้งติดคุก ทำให้ฉันกับลูกลำบากได้ลงคอเนี่ยนะ”

“ก็บอกแล้วไงว่าเรื่องของแกกับลูกแก ไม่เกี่ยวกับฉัน”

แอ๊บเจ็บแค้นตบตีและด่าเขาระรัว ไอศูรย์รำคาญหนักผลักไสไล่เธอราวกับหมูหมาก่อนเดินหนีเข้าห้อง

ปิดประตูล็อกทันที ทิ้งแอ๊บร้องไห้โฮ คร่ำครวญอย่างไม่รู้จะทำยังไงต่อไปกับชีวิตของตน

เข้าห้องมาไม่ทันจะนั่งพัก ไอศูรย์รับสายจากหมูเด้งที่น้ำเสียงร้อนรนถามว่าเราจะทำยังไงต่อไปกันดี

“จะต้องทำอะไร ก็นั่งรอดูความพินาศของไอ้สองพ่อลูกนั่นสิวะ”

“โธ่ไอศูรย์ ความพินาศของไอ้สองพ่อลูกนั่น หรือว่าของเราสองคน”

“แกพูดอะไรของแก”

“ก็ไอ้เด็กนั่นมันบาดเจ็บสาหัส มันยังไม่ตาย นี่ถ้าเกิดมันลุกขึ้นมาเป็นพยานได้ บรรลัยนะเว้ย อย่าลืมสิ มันเห็นหน้าฉันเต็มๆด้วย”

“เห็นหน้าแกมันก็เรื่องของแกสิไอ้หมูเด้ง”

“อ้าว พูดจาเหม็นๆอย่างนี้ได้ไงวะ...เออ ถ้าไอ้เด็กนั่นมันไม่เห็นหน้าแกมั่งก็แล้วไป ไอ้ไอศูรย์”

หมูเด้งพูดด้วยความโมโห แต่เล่นเอาไอศูรย์อึ้งอย่างคิดหนัก ตัดสินใจเฉียบขาดเพื่อให้เรื่องราว

ทุกอย่างยุติเสียที ด้วยการบุกไปบ้านเจ้าสัวเจออี๊จินกำลังเฝ้ารอการกลับมาของโต้งด้วยความเป็นห่วง

อี๊จินโวยวายไม่ต้อนรับไอศูรย์ ถามดักคอว่าจะมาทำอะไรอีก

“ก็ที่นี่มันบ้านผม แล้วทำไมผมจะมาไม่ได้ล่ะครับ”

“บ้านลื้อ? ซี้ซั้วพูด บ้านลื้อที่ไหน นี่มันบ้านของอาเฮีย”

“เมื่อก่อนน่ะใช่ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว”

อี๊จินกับเจ้าสัวฟังแล้วผงะ เจ้าสัวถามไอศูรย์ว่าที่พูดมานั้นหมายความว่ายังไง

“ก็หมายความว่าตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป แล้วก็ไม่ใช่แค่บ้านหลังนี้ แต่ทรัพย์สมบัติทุกอย่างทุกชิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทกะต๊าก รวมทั้งบริษัทอื่นๆที่เคยเป็นของเจ้าสัว มันต้องเป็นของผมคนเดียว”

ผัวะ! อี๊จินตบหน้าไอศูรย์อย่างแรง แต่โดนตบกลับทันควันจนหน้าหัน

“ไอศูรย์! นี่ลื้อบ้าไปแล้วเหรอ ลื้อรู้ตัวหรือเปล่าว่าลื้อกำลังทำอะไรอยู่”

“รู้สิ พวกแกต่างหากที่ไม่เคยรู้ตัวเลยว่าเวลาแห่งการเสวยสุขของพวกแกน่ะมันหมดลงแล้ว...ในที่สุดฉันก็ได้ในสิ่งที่ฉันควรได้” ไอศูรย์โชว์เอกสารที่เคยมอมยาเจ้าสัวให้เซ็นชื่อ “เอกสารนี่แสดงว่าฉันเป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติทุกสิ่งทุกอย่างของตระกูลวงศ์ศักดินันท์...ทำเป็นจำไม่ได้ แกเป็นคนเซ็นให้ฉันเองกับมือเลยเชียวนะ”

เจ้าสัวอึ้ง ทบทวนเหตุการณ์วันนั้นก่อนจะด่าไอศูรย์และพยายามแย่งเอกสาร แต่โดนผลักจนหัวทิ่ม อี๊จินกรีดร้องตกใจ ขณะที่เจ้าสัวลุกขึ้นได้ก็ถามไอศูรย์อย่างคับแค้นว่าทำไมทำแบบนี้กับตนได้ลงคอ ทั้งที่ตนเลี้ยงดูและรักเขาเหมือนลูก

 “รักเหมือนลูกเหรอ เหมือนตรงไหน แกมันเลี้ยงฉันไว้ใช้งานเหมือนกับที่ทำกับพ่อฉันต่างหาก แต่อย่าหวังว่าฉันจะโง่ทำงานเป็นวัวเป็นควายจนตายเหมือนพ่อ ที่สำคัญแกไม่เคยรักแล้วก็ไม่มีวันที่จะรักฉันเหมือนลูก เพราะแกมีลูกคนเดียวคือไอ้โต้ง ต่อให้มันจะทำเรื่องชั่วๆแค่ไหน สุดท้ายแกก็ต้องยกทุกสิ่งทุกอย่างให้มัน แล้วฉันล่ะ แกก็จะปล่อยให้ฉันตายไปเหมือนกับพ่อฉันใช่มั้ย”

“ไม่จริง อั๊วเตรียมยกบริษัทอื่นๆไว้ให้ลื้อ อั๊วเตรียมไว้แล้ว”

“โกหก...ฉันไม่เชื่อ”

“อั๊วเตรียมไว้แล้วจริงๆ ลื้อถามอาจ๋องดูได้”

“ฉันคงไม่ตามไปถามมันหรอก และถึงแม้จะจริงแต่ฉันก็ไม่เอาหรอกนะ ไอ้แค่บริษัทกระจอกๆพวกนั้น เพราะฉันจะเอาทั้งหมด”

“ไอ้เลว!! ไอ้ทรพี!!” อี๊จินด่าลั่น

“มีแรงก็ด่าไปอีป้า แต่ถึงจะด่ายังไงฉันก็ไม่มีวันคืนสมบัติให้พวกแกหรอก แล้วนี่จะเอายังไง จะรีบเดินออกไปดีๆ หรือจะให้ฉันจับพวกแกโยนออกไป”

“ไอ้นรก! นรกจะต้องกินหัวลื้อ ฟ้าดินจะต้องลงโทษลื้อ” อี๊จินทั้งด่าทั้งสาปแช่ง

เจ้าสัวโกรธจนอาการป่วยกำเริบ เจ็บหน้าอกแทบทรุด ไอศูรย์เห็นแล้วสะใจเดินหัวเราะออกไป อี๊จินรีบพาเจ้าสัวส่งโรงพยาบาลแล้วตามโต้งมาโดยเร็ว โต้งมาพร้อมเจี๊ยบและซักถามอาการของเจ้าสัวจากหมอเป๊ะ เมื่อรู้ว่าไอศูรย์เป็นต้นเหตุโต้งจะไปฆ่าเขา แต่เจี๊ยบ อี๊จิน และหมอเป๊ะห้ามไว้

“อย่านะโต้ง อย่าลืมสิว่าตอนนี้นายเป็นแค่ผู้ต้องสงสัย แต่นายอยากจะกลายเป็นฆาตกรจริงๆรึไง”

“แล้วยังไง จะปล่อยให้ไอศูรย์มันลอยนวลอยู่อย่างนี้งั้นเหรอ”

“จำที่ฉันเคยบอกนายได้ใช่ไหม สิ่งเดียวที่ไอศูรย์เหนือนายก็คือความนิ่ง แต่สิ่งสำคัญที่ไอศูรย์ไม่มีวันที่จะชนะนายได้ก็คือความดี นายต้องรักษาความดีของนายไว้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนายให้ได้สิโต้ง”

“คุณเจี๊ยบพูดถูกนะโต้ง ยังไงความดีก็ต้องชนะความชั่ว”

“อาตี๋เป็นคนดี ฟ้าดินย่อมคุ้มครองนะ เชื่ออี๊”

โต้งสงบลงอยู่ในอ้อมกอดของอี๊จิน

ooooooo

เช้าวันถัดมา ไอศูรย์ประกาศตัวในที่ประชุมว่าเขาเป็นผู้บริหารสูงสุดของบริษัทกะต๊ากแต่เพียงผู้เดียว ทุกคนนิ่งอึ้งไม่กล้าพูด ได้แต่มองกันไปมา

เจี๊ยบรีบไปโรงพยาบาลทันทีที่รู้ว่าลูกชิดรู้สึกตัว หมอย้ายเด็กชายออกจากไอซียูมาอยู่ห้องผู้ป่วยพักฟื้น เจ๊เพ็ญกับเฮียมืดดีใจมากที่ลูกชายรอดตาย แม้จะยังพูดไม่ได้ก็ใจชื้นขึ้นเป็นกอง

หลังจากเยี่ยมลูกชิดและพูดคุยกับเจ๊เพ็ญกับเฮียมืด เจี๊ยบรู้เห็นเรื่องกล้องติดหมวกกันน็อกที่ลูกชิดใส่ในวันเกิดเหตุซึ่งพยาบาลเก็บไว้แล้วนำมาคืนพ่อแม่เด็ก เธอแกะกล้องนั้นออกมาเพื่อนำไปให้โต้งไว้เป็นหลักฐานส่งให้ตำรวจสืบตามคนร้ายตัวจริง ไอศูรย์คิดจะมาเอากล้องนี้เช่นกัน แต่ช้าเกินไป

เจี๊ยบรีบไปอีกโรงพยาบาลที่โต้งเฝ้าเจ้าสัวอยู่ ไม่ทันจะถึงห้องเธอได้ยินแอ๊บคุยกับโต้งเรื่องลูกในท้อง เจี๊ยบผิดหวังและเสียใจมากเข้าใจว่าแอ๊บท้องกับโต้งจริง เธอวิ่งหนีออกไปทั้งน้ำตาโดยมีโต้งวิ่งตามด้วยความตกใจ

ไอศูรย์ตามมาเพื่อจะเอากล้องจากเจี๊ยบหลังจากเขาทำทีไปเยี่ยมลูกชิดและได้พูดคุยกับเจ๊เพ็ญและเฮียมืด แต่เขามาไม่ทัน เห็นแอ๊บยืนหน้าตาบูดบึ้งก็ชะงักถามว่ามาทำอะไรที่นี่

“แล้วยูล่ะ รีบร้อนอะไรขนาดนี้ วิ่งหนีใครมา”

“เห็นคุณเจี๊ยบมั้ย คุณเจี๊ยบมาหาไอ้โต้งที่นี่รึเปล่า”

“มาสิ มาแล้ว...แล้วก็ร้องไห้แงๆวิ่งหนีไปแล้ว เพราะไอบอกมันแล้วว่าไอท้องกับโต้ง”

“คุณเจี๊ยบรู้แล้ว ผู้หญิงอย่างคุณเจี๊ยบไม่มีทางจะยกโทษให้ไอ้โต้งแน่นอน” ไอศูรย์ตาวาวสะใจ

จริงอย่างที่ไอศูรย์คิด...เจี๊ยบกลับบ้านร้องไห้โฮและไม่ยอมพูดคุยกับโต้งที่ตามมาเพื่ออธิบาย แถมเขายังโดนหมัดหนักๆของ เสธ.เจ้ยไปหลายทีก่อนจะยอมกลับไปด้วยความกลุ้มใจ

เย็นนั้นโต้งกลับมาเฝ้าพ่ออีกครั้ง เจ้าสัวรู้สึกตัวก็ขอโทษลูกชายที่ตนเองรักษาสมบัติของตระกูลไว้ไม่ได้ โต้งไม่ยึดติดกับสิ่งของพวกนั้น ขอแค่พ่อปลอดภัยและรักตนเท่านั้นพอ

สองพ่อลูกปรับความเข้าใจกันทั้งน้ำตาแห่งความปีติยินดี อี๊จินดีใจสุดๆ เข้ามาสวมกอดทั้งสองคนแล้วร้องไห้ไปด้วยกัน ระหว่างนี้ไอศูรย์เข้ามาเยาะเย้ยสองพ่อลูกว่ากำลังหมดตัว แถมลูกชายสุดที่รักของเจ้าสัวก็เป็นทั้งฆาตกรและทำผู้หญิงท้อง

เจ้าสัวกับอี๊จินตกใจถามไอศูรย์ว่าพูดอะไร ขณะที่โต้งยืนอึ้งพูดไม่ออก

“อ้าว! นี่ยังไม่รู้กันอีกเหรอ โธ่...น่าเวทนาไอ้เด็กที่เกิดมามันจะเอาอะไรกิน ในเมื่อปู่มัน พ่อมันไม่เหลือทรัพย์สมบัติติดตัวแล้ว ทุกบาททุกสตางค์ของพวกแกเป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น”

แอ๊บตามมาได้ยิน พุ่งเข้าทุบตีไอศูรย์ไม่ยั้ง “แกว่าอะไรนะ แกหมายความว่ายังไง”

“ก็หมายความว่าลูกแกมันซวยที่ได้ไอ้โต้งเป็นพ่อน่ะสิ เพราะไอ้เจ้าสัวมันยกสมบัติให้ฉันหมดแล้ว”

“ไอ้เลว!! ลูกในท้องฉันนี่ไม่ใช่ลูกโต้ง แต่เป็นลูกของแกนะไอ้ไอศูรย์ แกคิดจะหักหลังฉันเหรอ ฉันไม่ยอมให้แกทำกับฉันแบบนี้หรอกนะ ลูกในท้องของฉันเป็นลูกของแกร้อยเปอร์เซ็นต์พันเปอร์เซ็นต์ มันต้องได้มรดกที่แกได้มาด้วย”

“จะไม่มีใครได้มรดกทั้งนั้นครับ” ทนายจ๋องก้าวเข้ามาในช่วงเวลาที่พวกโต้งกำลังมึนตึ้บกับความจริงเรื่อง แอ๊บท้องกับไอศูรย์

ไอศูรย์ตกใจมากเพราะคิดว่าทนายจ๋องตายแล้ว

“จะไม่มีใครนอกเหนือจากทายาทคือคุณโต้งที่มีสิทธิ์ในมรดกของตระกูลวงศ์ศักดินันท์แต่เพียงผู้เดียวครับ”

“ไอ้ทนาย...แกแหกตาดูเอกสารนี่ซะก่อน เจ้าสัวเซ็นยกมรดกให้ฉันเองกับมือ”

“มันจะเป็นการเจตนาฉ้อโกงที่ฉลาดและเนียนกว่านี้ถ้าคุณไอศูรย์จะศึกษากฎหมายหรือปรึกษาทนายสักนิดนะครับ ที่สำคัญคุณคงจะไม่ทราบว่าท่านเจ้าสัวได้แต่งตั้งให้ผมเป็นผู้จัดการมรดกของท่าน อีกทั้งเอกสารสำคัญขนาดนี้ต้องมีพยานรู้เห็นเซ็นร่วมด้วย โดยเฉพาะผมซึ่งเป็นผู้จัดการมรดก แต่ว่าในกระดาษแผ่นนี้ไม่มี เพราะฉะนั้นมันก็เป็นเพียงแค่กระดาษแผ่นนึงไม่มีความหมายใดๆทั้งสิ้น ก็ต้องถือว่าเป็นโมฆะไม่มีผลใดๆทั้งสิ้น”

ไอศูรย์โกรธจนตัวสั่น โพล่งขึ้นว่าแกตายไปแล้ว ทนายจ๋องยืนยันว่าตนยังไม่ตาย นี่คือตัวจริงเสียงจริง ทันใดโดมเดินเข้ามาพูดความจริงว่าเขาแค่อุ้มทนายจ๋องไปแต่ไม่ได้ฆ่าตามคำสั่งของไอศูรย์

“ไม่จริง แกใส่ร้ายฉัน แกสร้างเรื่องมาใส่ร้ายฉัน”

“ไม่ใช่แค่นั้นนะครับ แต่นายโดมจะเป็นพยานในอีกหลายๆเรื่อง เอาเฉพาะเรื่องใหญ่ๆ ก็การหายตัวของแม่บ้านที่ชื่อมะลิ การปองร้ายอี๊จินในศาลเจ้าแต่เกิดเข้าใจผิดก็เลยฆ่าผิดตัว”

“ไอ๊หยา!! ลื้อจะฆ่าอั๊ว ทำไมลื้อมันโหดเหี้ยมอย่างนี้ไอศูรย์”

“และที่เราจะต้องหาพยานหลักฐานสำคัญอย่างเร่งด่วนที่สุดก็คือใครกันแน่ที่เป็นคนขับรถของคุณโต้งชนเด็กบาดเจ็บสาหัสแล้วหนี เพราะมีข้อมูลจากศูนย์คาร์แคร์ว่ามีบุคคลอื่นที่ไม่ใช่คุณโต้งมาแอบอ้างรับรถของคุณโต้งไป”

“ก็ช่างหัวพวกแกสิ นั่นมันเรื่องของพวกแก ไม่เกี่ยวกับฉัน พวกแกจะรุมเล่นงานฉันใช่มั้ย”

“รวมคร่าวๆก็คงจะต้องติดคุกกันหลายสิบปี แต่ที่แรงสุดก็วางเพลิงตลาดแม่ตลับนี่โทษสูงสุดประหารชีวิต”

ไอศูรย์เข่าอ่อน เจ้าสัวสงสารบอกให้เขาใจเย็น ค่อยๆช่วยกันคิด อย่าทำอะไรผิดไปมากกว่านี้ แต่ไอศูรย์ไม่ฟัง วิ่งหนีไปได้โดยที่โดมพยายามตะครุบตัวแต่ไม่ทัน

ooooooo

คุณชายไก่โต้ง

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด