ตอนที่ 18
ชานนท์มาถึงตึกร้างตามนัด แต่ประชากลับไม่ยอมปล่อยแววนิลเป็นอิสระ ใช้ปืนขู่แถมเตะขาพับจนทรุดและเตะซ้ำอีกหลายครั้ง ชานนท์พยายามเกลี้ยกล่อมให้เขาปล่อยพวกตนไป แลกเปลี่ยนกับหุ้นทั้งหมดของสปา
“ฉันโดนตำรวจตามล่าขนาดนี้ แกคิดว่าฉันจะกลับไปทำอะไรได้ ฉันหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างก็เพราะแกนั่นแหละ วันนี้จะเป็นวันที่แกต้องชดใช้ อย่าอยู่เลย” ประชาจะเหนี่ยวไก ชานนท์คว้าท่อน้ำใกล้มือฟาดปืนกระเด็นแล้วตีซ้ำจนล้มกลิ้ง เขารู้ตัวว่าสู้ไม่ได้วิ่งหนี ชานนท์ไล่ตามมาทันกันแถวรางรถไฟ กระชากไหล่เขาหงายหลังเอาท่อน้ำกดคอไว้ สั่งให้บอกที่ซ่อนของแววนิล
“ผมยอมแพ้แล้ว ผมจะบอกก็ได้ แต่คุณรัดลูกกระเดือกผมอย่างนี้ ผมพูดไม่ถนัด”
ชานนท์หลงกลคลายแรงกด ประชาดิ้นรนจนเป็นอิสระ อัดเขาหงายท้องแล้วตามขึ้นคร่อม คว้าเศษเหล็กเส้นแถวนั้นจะแทง พลันมีแสงไฟจากรถสว่างวาบใส่ดวงตา ประชาต้องยกมือขึ้นบัง ชานนท์ได้ทีต่อยเขาล้มกลิ้งแล้วหันมองตามแสงไฟ เห็นเขมิกาก้าวลงจากรถคันนั้น ประชาเห็นท่าไม่ดีวิ่งหนีไปตามรางรถไฟ
หญิงสาวไล่ตามไปติดๆ กระโจนคว้าคอเสื้อเขาไว้ ทั้งคู่ต่อสู้กัน ประชาสู้ไม่ได้ถูกอัดล้มคว่ำ เขมิกานั่งคร่อมหลังจับหัวเขาโขกกับไม้หมอนรถไฟสองทีซ้อนถึงกับแน่นิ่ง เธอคิดว่าเขาสิ้นฤทธิ์ ลุกไปหาชานนท์ที่ตามมาสมทบ จอมโฉดชั่วแกล้งสลบ พอเห็นเธอเผลอโดดถีบกระเด็น ชานนท์โกรธจัดพุ่งเข้าไปประเคนทั้งเข่าเขย่าทั้งศอกใส่ประชาล้มกลิ้งล้มหงาย ตกไปข้างทาง แล้วตามไปซ้ำ
ทันใดนั้น มีเสียงหวูดรถไฟดังมาแต่ไกล ชานนท์เห็นขบวนรถไฟแล่นตรงเข้ามารีบหันไปเตือนเขมิกา
“เข็ม รีบออกจากตรงนั้น”
เขมิกาลุกไม่ขึ้น เท้าติดอยู่ในซอกไม้หมอนรางรถไฟ ชานนท์เป็นห่วงเธอมากจะวิ่งไปช่วย แต่ถูกประชารวบขาไว้ล้มทั้งยืน จอมโฉดชั่วประกาศก้องต้องการให้เขาเสียคนรักเหมือนที่ตัวเองเสีย ชานนท์ทุบตีประชาให้ปล่อยแต่ไม่สำเร็จ ขบวนรถไฟแล่นเข้าใกล้ทุกขณะ เขาตัดสินใจใช้ท่อนขาทั้งสองขารัดคอประชาจนหายใจไม่ออก แน่นิ่งไป แล้วรีบวิ่งไปช่วยดึงขาเขมิกาออกจากรางรถไฟ แต่มันติดแน่น เธอรีบผลักเขาออกห่าง
“พอแล้ว คุณถอยออกไป...ไปเร็วสิ อยากจะตายไปด้วยกันหรือไง”
“ใช่...ถ้า ตาย เราก็ตายพร้อมกัน” ชานนท์รวบรวมกำลังทั้งหมดที่มีดึงไม้หมอนให้ขยับ ช่วยเขมิการอดมาได้หวุดหวิด ไม่วายเอ็ดเธอเสียงลั่น สั่งไม่ให้ตามทำไมยังดื้อรั้นจะตามมาอีก
“แส่เรื่องชาวบ้าน มันงานหลักของฉัน คุณไม่รู้หรือ แล้วคุณนิลล่ะอยู่ไหน”
ชานนท์มองไปที่ตึกร้างซึ่งเป็นสถานที่นัดพบกับประชา มั่นใจว่าน้องสาวอยู่ในนั้น แล้วดึงเขมิกาให้ลุกขึ้น แต่นึกอะไรได้รีบหันไปมองตรงจุดที่ประชาอยู่ กลับไม่พบใคร ทั้งคู่ใจคอไม่ดีรีบวิ่งไปยังตึกร้างทันที
ooooooo
ประชากลับไปที่ตึก ร้างอีกครั้งเหมือนที่ชานนท์คาดไว้ ค้นหาปืนที่กระเด็นหายจนเจอ แล้วเดินเข้าไปด้านในสุดของตัวตึก มีลังไม้ใบใหญ่ตั้งอยู่ เขาดึงผ้าใบเก่าๆที่คลุมลังออก ดึงตัวแววนิลที่ถูกมัดมือ มัดปากขึ้นมา
“เธอต้องมากับฉัน...ฉันจะยิงทะลุหัวใจเธอให้ไอ้ชานนท์มันได้รู้ซึ้งถึงความเจ็บ ปวด” ขาดคำ ประชา ตาเหลือกสีหน้าเจ็บปวดสุดๆ เพราะถูกแทงจากด้านหลังค่อยๆหันไปมองมือมีด มณฑาแทงท้องเขาซ้ำอีกครั้ง
“นมแก้แค้นให้คุณหนูแล้วนะคะ”
ประชา ยิ้มร้าย ชักปืนยิงมณฑาหนึ่งนัด ก่อนจะเดินโซเซเลือดหยดเป็นทางออกไป เขมิกากับชานนท์ที่เพิ่งมาถึงหน้าตึกได้ยินเสียงปืน ตกใจสุดขีดรีบวิ่งไปยังทิศทางของเสียง...
ด้านมณฑาทรุดฮวบลงไปนั่งกับ พื้น แววนิลปรี่เข้าไปคุกเข่าข้างๆ ได้แต่มองเลือดที่ทะลักออกจากท้องแม่น้ำตาไหลพราก ไม่สามารถช่วยอะไรได้เพราะมือกับปากถูกมัด มณฑาเช็ดน้ำตาให้
“อย่าร้อง นมไม่เจ็บเลยสักนิด มีแต่ความดีใจที่เห็นคุณหนูของนมไม่เป็นอะไรแล้ว”
แววนิลยิ่งร้องไห้สะอึกสะอื้น จะพูดก็พูดไม่ได้ เขมิกากับชานนท์ตามเข้ามา เธอรีบแก้มัดให้แววนิล ส่วนเขาประคองมณฑาไว้ พร้อมกับสั่งให้เขมิกาไปเอารถมารอหน้าตึกจะพาเธอไปหาหมอ มณฑาร้องห้ามไว้ แม้เจ็บปวดใกล้ตาย เธอไม่วายห่วงแววนิล กำชับว่าอย่าลืมกินยาให้ตรงเวลา ตอนนอนอย่าลืมสวมถุงเท้า
“แม่” แววนิลปล่อยโฮ มณฑายิ้มมีความสุข
“ขอบคุณ ค่ะ แค่นี้ก็พอสำหรับนมแล้ว...คุณผู้ชายคะ ฝาก...คุณ...หนู...ด้วย” พูดได้แค่นั้น มณฑากระตุกสองทีก่อนจะแน่นิ่งไป แววนิลกอดแม่ร้องไห้ใจแทบขาด เขมิกาพยักพเยิดให้ชานนท์ดูรอยเลือดที่หยดเป็นทาง ตั้งข้อสังเกตว่าประชาน่าจะได้รับบาดเจ็บ
“แม่แทงมันค่ะ มันก็เลยยิงแม่ อย่าให้มันหนีไปได้นะคะ” แววนิลเสียงกร้าว...
ชานนท์ตามรอยเลือดไปถึงห้องๆหนึ่ง เปิดประตูเข้าไปอย่างระมัดระวัง แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นประชานั่งหายใจรวยรินถือปืนจ้องอยู่ ขณะจะเหนี่ยวไก ร่างกายของเขากระตุกอย่างแรงเลือดทะลักออกจากปาก ปืนหลุดมือ ลำตัวค่อยๆเอียงพับไปกับพื้น ชานนท์รีบเข้าไปประคอง
“ฉันไม่ให้แกตาย ง่ายๆหรอก แกต้องอยู่เพื่อชดใช้กรรมที่ทำไว้ ไปหาหมอกับฉัน” แต่ไม่ทันกาล ประชาสิ้นใจเสียก่อน จากนั้นไม่นานโยธินกับปรียาพาตำรวจหลายนายมาถึงที่เกิดเหตุ เขมิกาดีใจที่เจอโยธินรีบวิ่งไปหา เขาโอบกอดเธอไว้ด้วยความเป็นห่วง ชานนท์ทนเห็นภาพบาดตาไม่ไหวต้องเมินหน้าหนี...
ทางด้านอึ่งกลัวตำรวจจะตามมาจับตัวฐานสมรู้ร่วมคิดกับประชาลักพาตัวและพยายามฆ่า รีบเก็บข้าวของจะหนี นายชิ้นหลอกว่าจะพาไปส่งที่หมอชิต แต่กลับพาเธอไปส่งตำรวจแทน
เก่งกาจเองก็ถูกตำรวจเชิญตัวมาสอบปากคำที่โรงพักแห่งเดียวกัน อึ่งไม่ยอมติดคุกคนเดียวให้การซัดทอดว่าเขารับเงินจากประชาเพื่อเขียนข่าวล่อชานนท์มาฆ่าในวันแต่งงานของแววนิล
ooooooo
เขมิกากับโยธินได้คุยเปิดอกกันครั้งแรกนับตั้งแต่เขาหนีหน้าไปจากงานแต่งงานครั้งที่สอง ชายหนุ่มออกตัวว่าไม่ได้อยากทำแบบนี้ แต่บังเอิญได้ยินเธอคุยกับปิ้ง ก็เลยรู้ว่าเธอมีชานนท์อยู่ในใจ เขมิกาแก้ตัวว่าปิ้งพูดเองเออเอง เธอไม่ได้รู้เรื่องด้วย โยธินขอร้องให้เธอเลิกหลอกตัวเองได้แล้วเพราะการกระทำของเธอมันฟ้อง
“เฮียจะกลับไปบอกปู่แบบแมนๆ ว่าเฮียไม่คิดจะแต่งงานกับเข็มอีก”
“เฮียยังไปตอนนี้ไม่ได้นะ เฮียต้องอยู่เล่นละครกับเข็มก่อน” เขมิกาดึงมือโยธินไว้ เขาอ่อนอกอ่อนใจที่เธอไม่ยอมบอกความจริงกับชานนท์เรื่องนี้สักที...
อีกมุมหนึ่งไม่ห่างกันนัก ชานนท์กำลังจะพาแววนิล เม่นกับปรียาไปงานศพมณฑา แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นเขมิกากับโยธินจับมือกัน รีบเบือนหน้าหนีไปสั่งให้โย่งกับแป้นอยู่เฝ้าบ้าน วันนี้เขาจะอยู่ที่วัดจนถึงค่ำๆ แล้วประคองแววนิลไปที่รถ เขมิกาเข้ามาบอกว่าอยู่ช่วยงานมณฑาจนกว่าจะเผาศพมณฑาเรียบร้อย ปรียาร้องทัก
“แล้วคุณโยล่ะคะ”
“อ๋อ เฮียไม่สบายเป็นไข้หวัด เฮียกลัวฉันจะติดหวัด ก็เลยให้ฉันมาอยู่ที่นี่ ส่วนเฮียไปนอนคอนโดฯ”
เขมิกาโกหกหน้าตาเฉย ปรียาเลยรู้ว่าเธอไม่ได้บอก
ชานนท์เรื่องไม่ได้แต่งงานกับโยธิน ครุ่นคิดหนักว่าจะบอกเขาดีหรือไม่ แต่ในที่สุดปรียาตัดสินใจเก็บเรื่องนี้เป็นความลับต่อไป...
ค่ำแล้ว ขณะที่โย่งกำลังลากเครื่องตัดหญ้าจะเอาไปเก็บ มีเสียงหมาหอนดังโหยหวนเข้ามา ถึงกับสะดุ้งโหยง พลันมีเงาดำๆแวบผ่านไปทางหางตา เขาตะโกนเสียงดังกลบความกลัว
“นั่นใคร ไอ้หัวขโมย...หยุดอยู่ตรงนั้นนะโว้ย” พูดจบ โย่งวิ่งไปดูแต่ไม่พบใคร หมาหอนดังขึ้นอีกครั้ง เขาพาลคิดไปเองว่าอาจจะเป็นผีคุณนมกลับมาเยี่ยมบ้าน จัดแจงหันหลังจะวิ่งหนี หัวหุ่นผู้หญิงหน้าขาวตาโบ๋ผมยาวถูกเชือกผูกไว้กับต้นไม้หล่นลงมาห้อยโตงเตงตรงหน้า เขาร้องลั่นด้วยความตกใจ
“จ๊าก ผีหลอก” แล้วเผ่นแน่บอย่างไม่คิดชีวิต โย่ง วิ่งหลับหูหลับตามาถึงหน้าตึก ชนปิ้งที่ยืนเก้ๆกังๆอย่างจัง สองหนุ่มไม่ค่อยจะชอบขี้หน้ากันนัก ผลักอกกันไปมาอย่างเอาเรื่อง แป้นต้องเข้ามาแยกทั้งคู่ออก โย่งกระซิบกับเธอว่าบ้านเรามีผี เขาเพิ่งเจอเมื่อครู่นี้เอง ปิ้งอยากอวดหญิง คุยโม้ว่าเรื่องผีๆตนถนัดนัก สั่งให้โย่งพาไปดู จะได้จับยัดหม้อถ่วงโถส้วมให้เข็ดหลาบ เขาหมั่นไส้แขวะใส่
หน้าปิ้ง เจอแล้วอย่าวิ่งหนีป่าราบก็แล้วกัน
“ไม่วิ่ง ระดับนี้ไล่ตะเพิดผีมานักต่อนักแล้วโว้ย ไหนไปทางไหน” ปิ้งวางก้ามอวดเก่ง เดินอาดๆตามโย่งกับแป้นเข้าไปในสวน พอเจอหัวหุ่นผีเข้าจริง เขากลับวิ่งหนีก่อนใครเพื่อน ทิ้งโย่งกับแป้นไม่เห็นฝุ่น...
ทางฝ่ายชานนท์พาเม่น แววนิล ปรียา และเขมิกา กลับมาจากงานศพ สั่งให้ทุกคนไปพักผ่อนกันได้
แล้ว พรุ่งนี้ยังต้องเหนื่อยกันอีก ปรียาประคองแววนิลเข้าตัวตึก โดยมีเม่นเดินตาม ทันทีที่ทั้งสามคน
คล้อยหลัง ปิ้งวิ่งนำโย่งกับแป้นแหกปากร้องลั่นเข้ามา
เขมิกาแปลกใจทำไมลูกน้องคนสนิทของปู่มาอยู่ที่นี่ได้
“ก็ปู่น่ะสิ สั่งให้ฉันมารับพี่กลับ พี่จบเรื่องแล้วใช่ไหม เรารีบกลับกันเหอะ บ้านนี้มีผีสิง”
ชานนท์ไม่ยอมให้ไป อ้างว่าเขมิกาต้องอยู่ช่วยงาน ศพจนกว่าจะเผาคุณนมเสร็จ แล้วบอกให้ปิ้งพักอยู่ที่นี่ไปพลางก่อน เขาถึงบางอ้อทันที ที่นี่มีคนตายนี่เอง พวกตนถึง ได้เจอผี ชานนท์หาว่าไร้สาระ คนตายไปแล้วไม่ควรเอามา พูดเล่น หันไปสั่งให้แป้นจัดห้องให้ปิ้งพักด้วย แล้วเดินเข้าตึกใหญ่
เขมิกาลากปิ้งไปคุยกันเป็นการส่วนตัว สั่งให้เขาโทร. ไปโกหกปู่ให้ทีว่าเธออยู่คอนโดฯที่พักของโยธิน เสร็จงานศพ คุณนมแล้วถึงจะกลับ ห้ามบอกเด็ดขาดว่าอยู่ที่นี่ แล้วบอกให้เขาไปนอน ปิ้งกลัวจะเจอผีอีก ขอนอนห้องเดียวกับลูกพี่
“ไม่ได้โว้ย เดี๋ยวดีดกระเด็นไปโน่นเลย” เขมิกาไม่พูดเปล่า ยกขาจะเตะ ปิ้งรีบเดินหนีไปอย่างเซ็งๆ
ooooooo
เมื่อคืนนี้แป้นถูกผีหลอกในห้องตัวเอง เช้าขึ้นมานอนจับไข้ตัวสั่นงันงก โย่งตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นผีคุณนมที่เพิ่งตายไป เพราะแต่ไหนแต่ไรมา ที่นี่ไม่เคยมีเรื่องผีๆสางๆ เขมิกาหาว่ากลัวกันไปเองมากกว่า
“คุณผู้หญิงไม่เชื่อเรื่องผีหรือครับ”
“ตั้งแต่เกิดมา ผีสักตัวฉันยังไม่เคยเห็น แค่ฟังพวกนายพูดแล้ว ฉันก็เชื่อง่ายๆ มันหูเบาไปหน่อยไหม” เขมิกาโม้จบ ประคองแป้นให้ลุกขึ้นกินยา...
ตั้งแต่มณฑาตายไป แววนิลเริ่มหันมาสนใจเม่นมากขึ้น หาขนมมาให้กิน ไม่รังเกียจเหมือนที่เคยทำอีกต่อไป และยังให้เขาเรียกเธอว่าพี่สาวคนสวยอีกด้วยเช้านี้เธอได้กลิ่นเหม็นๆ จากหัวของเขา จัดแจงดึงไปที่่ก๊อกน้ำจะจับสระผม เม่นไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับผมกลัวเสียทรงไม่หล่อ ขืนตัวไว้ แววนิลลากเขาไปจนได้...
ที่ก๊อกน้ำในสวนข้างบ้าน หลังจากเอาแชมพูใส่อ่างน้ำตีฟองจนเต็ม แววนิลจับเม่นสระผม ระหว่างขยี้หัวให้ แชมพูเข้าตา เขาแสบตาร้องลั่น วิ่งหนี เธอเห็นเขมิกาผ่านมาแถวนั้นพอดีร้องบอกให้ช่วยจับเม่นไว้ ฟ้องว่าเธอจะสระผมให้ เขากลับจะเอาแต่วิ่งหนี เขมิกาลากเม่นกลับไปหาแววนิล แล้วช่วยกันจับเขาสระผม
เม่นแกล้งเอาฟองแชมพูในอ่างน้ำป้ายหน้าเขมิกาซึ่งไม่ยอมแพ้ ป้ายเขาคืนบ้าง จากนั้นสงครามฟองแชมพูย่อยๆ ก็เกิดขึ้น สามคนเอาฟองป้ายกันไปมาอย่างสนุกสนาน แววนิลคว้าสายยางจะฉีดน้ำใส่เม่น ชานนท์มาตามหาเขมิกาพอดี พลอยโดนน้ำฉีดใส่ไปด้วย เขานึกสนุกขึ้นมาช่วยเม่นเล่นงานสองสาว เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขดังลั่นไปทั่วบริเวณ ทั้งสี่คนมัวแต่เล่นสนุกกัน ไม่ทันสังเกตว่าใครบางคนแอบมองอยู่...
ทางด้านปรียาคิดว่าโยธินป่วยจริงตามที่เขมิกาบอก นึกเป็นห่วง จึงเอายาสมุนไพรจีนตำรับโบราณแก้หวัดได้ชะงัดไปที่ห้องพัก โยธินไม่ได้เตี๊ยมกับเขมิกามาก่อน รีบเออออรับสมอ้างแทบไม่ทัน ปรียาคุยอวดสรรพคุณของยาชนิดนี้ให้ฟัง แล้วรินยาใส่แก้วให้ เขาจิบเข้าไปถึงกับหน้าเหยเก แต่ก็ฝืนดื่มจนหมด รู้สึกว่ามีอะไรติดปากดึงออกมาเป็นหางอะไรสักอย่าง ร้องถามว่านี่รากไม้หรือ
“อ๋อ หางตุ๊กแกค่ะ เป็นสูตรของเขา” สิ้นเสียงปรียา โยธินวิ่งเข้าห้อง อาเจียนจนหมดไส้หมดพุง...
ฝ่ายเม่นที่ตัวสะอาดสะอ้านนั่งให้เขมิกาเช็ดผมที่เปียกให้ พลางบ่นว่าอยากเตะฟุตบอล แต่ลูกบอลอยู่ในบ้านท้ายสวน กลัวผีเลยไม่กล้าไปเอา วานพี่นางฟ้าช่วยไปเอาให้ที เธอเองก็กลัวผีเช่นกันแต่ทำวางฟอร์ม
“อย่าดีกว่า ไว้ให้ไอ้โย่งไปเองละกัน”
เม่นทักว่าไม่กล้าไปเองเพราะกลัวผีใช่ไหม เขมิกาเหลือบเห็นปิ้งเดินตรงมาหา คุยอวดทันที
“เฮ้ยใครกลัว พี่ไม่เคยกลัวใครไม่ว่าจะผีหรือคน เออ พี่ไปเอาให้ก็ได้ ไอ้ปิ้งไปด้วยกันหน่อย” เขมิกาพูดจบลากปิ้งเข้าไปในสวน ครู่ต่อมา ทั้งคู่มาถึงบ้านท้ายสวน เขมิกาหลอกให้ปิ้งเข้าไปหาลูกบอลในบ้านเพียงลำพัง ขณะเขากำลังก้มเก็บลูกบอล ผีหน้าขาวผมยาวน่ากลัวยื่นหน้าเข้ามาหา ปิ้งเหลียวไปเห็นก็ตกใจ
“ออกกกกก...ไปปปปป” ผีลากเสียงยาวชวนสยองขวัญ
ปิ้งตาเหลือกเผ่นแน่บออกจากบ้านไม่คิดชีวิต
เขมิกาคว้าตัวไว้ถามว่าเป็นอะไร ได้ความว่ามีผีอยู่ในห้องนอนเม่น เธอหาว่าเขาแกล้ง ทำอวดเก่งจะจัดการผีให้ดู แล้วเดินอาดๆ เข้าไปข้างใน ปิ้งกลัวจัดไม่ยอมเดินตาม ได้แต่ตะโกนไล่หลังจะเข้าไปทำไม
ooooooo
เขมิกาเข้ามามองหาผีในห้องเม่น แต่ไม่เจออะไร ตะโกนเย้ยปิ้งว่าไหนผีไม่เห็นมีสักตัวหนึ่ง พลันตู้ใส่เสื้อผ้าขยับไปมา เธอแปลกใจเข้าไปดูใกล้ๆพร้อมกับตะโกนขู่ใครอยู่ในนั้นให้ออกมา ไม่อย่างนั้นจะถูกกระทืบ เงียบไม่มีเสียงตอบ เขมิกากลั้นใจเปิดประตูตู้ดู เห็นหน้าผีผมยาวแทรกอยู่กับเสื้อผ้าที่แขวนไว้
“อ๊าย...ผีจริงๆ...ไม่ต้องออกมาก็ได้จ้ะ เค้าไปเอง” เขมิกาปิดตู้โครม ก่อนจะโกยอ้าว ร้องบอกปิ้งเสียงลั่นว่าผีหลอก ตัวใครตัวมัน ขาใครยาวกว่าวิ่งหนีเอาเอง
“ไหนบอกจะอัดผีให้ดูไง นำเริดไปก่อนเลยนะ รอด้วย” ปิ้งวิ่งตามอย่างรวดเร็วปานพายุพัด...
ชมรมคนกลัวผีแห่งบ้านเลิศวิริยะเปิดขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยมีเขมิกาเป็นประธานชมรมเพราะกลัวผีขึ้นสมองมากกว่าคนอื่นๆ แป้นที่เพิ่งค่อยยังชั่วจากจับไข้เมื่อคืน ขอไปนอนห้องเดียวกับเม่นเนื่องจากไม่กล้านอนคนเดียว ปิ้งและโย่งขอตามไปนอนด้วย แล้วรีบยกโขยงออกไป ทิ้งให้เขมิกานั่งหัวเดียวกระเทียมลีบอยู่ตรงนั้น
“เออดีนะ เอาตัวรอดกันหมด แล้วฉันล่ะ” หญิงสาวมองไปรอบตัวสีหน้าหวาดๆ...
ในเวลาต่อมา ชานนท์ออกจากห้องน้ำเตรียมขึ้นเตียงจะนอน เจอเขมิกานอนคลุมโปงอยู่ข้างๆ เอะอะลั่นว่าเข้ามาในนี้ทำไม เธอตอบหน้าตาเฉยว่าจะขอมานอนด้วย อ้างว่าที่ห้องตัวเองมีตุ๊กแกตัวผู้กับตัวเมียจู๋จี๋กันเสียงดังหนวกหูทำให้นอนไม่หลับ
“น่าเกลียด คุณโยธินรู้เข้าจะเกิดเรื่อง”
“ไม่เป็นไรน่า เขารู้ว่าเราเป็นเพื่อนเลิฟกัน เพื่อนนนท์ก็อย่าคิดเล็กคิดน้อยไปเลย เฮียโยเขาใจกว้าง เอ๊ะหรือในใจคุณคิดไม่ซื่อกับฉัน”
“บ้าหรือ ฉันบริสุทธิ์ใจกับเธอ ฉันคิดได้แค่เพื่อน” ชานนท์เห็นสีหน้าเขมิกาอึ้งๆร้องทักว่าเป็นอะไรไป เขาพูดผิดตรงไหน เธอรีบปฏิเสธว่าเปล่า แค่กำลังคิดว่าเราสองคนจะนอนกันอย่างไร ครั้นจะไล่ให้เขาไปนอนที่โซฟาตัวเองก็ไม่กล้านอนเตียงคนเดียว สุดท้ายตกลงใจจะแบ่งที่นอนกันคนละครึ่ง แล้วเอาหมอนข้างกันตรงกลาง
“ง่วงแล้ว ฝันดีนะจ๊ะเพื่อนนนท์” เขมิกาล้มตัวลงนอน ชานนท์นอนลงข้างๆ แอบมองเธอด้วยความรัก...
ตกดึกคืนนั้น นาฬิกาปลุกบนหัวเตียงใกล้จุดที่เขมิกานอนหลับดังลั่น เธอสะดุ้งโหยง ลุกพรวดขึ้นนั่งพลอยทำให้ชานนท์ตกใจตื่นไปด้วย ถามว่าเป็นอะไรไป เขมิกานึกถึงผีขึ้นมาได้ร้องลั่น
“ผี...ผีหลอกฉัน มันอยู่ที่ข้างหมอนใกล้ๆหูฉันเลย”
พูดจบ เธอโดดกอดคอชานนท์
“ผีที่ไหน นั่นมันเสียงนาฬิกาปลุก หันไปมองสิมีแต่นาฬิกา ฉันคงตั้งเวลาไว้ผิด”
เขมิกาเหลียวมองนาฬิกาซึ่งยังร้องอยู่ อีกอึดใจก็เงียบไป เธอตั้งสติได้รีบเอามือออกจากคอเขา โล่งอกที่ไม่ใช่ผี ชานนท์ถึงบางอ้อทันที ที่เธอขอมานอนกับเขาเพราะกลัวผีนี่เอง เขมิกาปฏิเสธลั่นว่าไม่ได้กลัว แต่พอมีเสียงหมาหอนดังขึ้นเท่านั้น เธอโผกอดเขาอีกครั้ง ชานนท์อดหวั่นไหวไม่ได้เมื่อเธออยู่ใกล้ พอนึกได้ว่าเขมิกาแต่งงานแล้ว รีบแกะมือเธอออก ขอร้องให้กลับห้องตัวเอง แล้วจะให้แป้นไปนอนเป็นเพื่อน เขมิกาไม่ยอมไปไหนทั้งนั้น ดึงแขนเขามากอดไว้แน่น ชานนท์เห็นเธอกลัวมากจำต้องปล่อยเลยตามเลย...
ชานนท์นอนไม่หลับ เหลือบมองเขมิกาซึ่งนอนกอดแขนเขาไว้หลับปุ๋ยไปแล้ว จู่ๆเธอยกแขนมาโอบ ชายหนุ่มใจหวิว ค่อยๆก้มจูบหน้าผากเธอด้วยความรักเต็มหัวใจ แล้วกอดเธอตอบ จากนั้นก็หลับไปด้วยกัน
ooooooo
ชานนท์ปลุกเขมิกาลุกขึ้นตักบาตรแต่เช้า โดยมี แป้นมาช่วยจัดเตรียมของให้ เขมิกาจับทัพพีตักข้าว
ชานนท์วางมือบนมือเธออีกที ช่วยกันตักข้าวใส่บาตรและถวายอาหารคาวหวานจนเสร็จ แป้นเข้ามากระซิบถามเขมิกาว่าเมื่อคืนเจอผีอีกหรือเปล่า
“ผีหรือ...มาแต่เสียงหมาหอนทั้งคืน เฮ้ย...
นึกออกแล้ว” เขมิการีบตามไปนิมนต์หลวงพ่อให้ช่วยไปสวดมนต์แผ่เมตตาที่ห้องพักของมณฑาให้...
ในเวลาเดียวกัน ปรียาเห็นยาของแววนิลหมด จึงเข้าไปดูในห้องมณฑาว่ายังมีเหลืออยู่บ้างหรือเปล่าขณะกำลังค้นดูในลิ้นชัก ได้ยินเสียงชักโครกในห้องน้ำดังขึ้น เธอเดินเข้าไปดู เห็นมีใครบางคนอยู่หลังม่านอาบน้ำ ร้องถามว่าใช่แป้นหรือเปล่า ไม่มีเสียงขานตอบ ตัดสินใจเปิดม่านดู ต้องตกใจแทบช็อกเมื่อเห็นผีหน้าขาวผมยาวเอื้อมมือมาบีบคอ เธอจะร้องก็ร้องไม่ออกผีออกแรงบีบคอแน่นขึ้นอีกหวังจะฆ่าให้ตาย
ปรียาฮึดสู้ คว้าฝักบัวอาบน้ำฟาดผีอย่างแรงหัวแตกเลือดอาบ ผีบาดเจ็บ ผลักเธอพ้นทาง แล้วปีนหน้าต่างหนี ชานนท์เดินนำหลวงพ่อเข้ามาในห้องพร้อมกับเขมิกาและแป้น เห็นปรียาเดินกุมคอออกมาจากห้องน้ำก่อนจะทรุดลงไปกองกับพื้น เขาปรี่เข้าประคองเธอไว้ถามว่าเกิดอะไรขึ้น หญิงสาวแทบจะพูดไม่ไหว
“ผี! ปรียาเจอผี หน้าตามันน่ากลัวมาก มันบีบคอจะฆ่าปรียา”
ชานนท์หันไปสั่งแป้นนิมนต์หลวงพ่อออกไปก่อน แล้วกราบขอประทานโทษท่าน ส่วนเขมิกาเดินตามรอยเลือดในห้องน้ำไปที่หน้าต่าง สงสัยตงิดๆว่าทำไมผีถึงมีเลือด แต่พอชานนท์ตามเข้ามาถามว่าเจออะไรไหม เธอกลับโกหกว่าไม่เจอ บอกให้เขารีบพาปรียาไปทายา
ก่อน ทันทีที่เขาคล้อยหลัง เขมิกาแตะเลือดขึ้นมาดม ยิ่งมั่นใจว่าเป็นเลือดคน จากนั้นเธอรีบวิ่งลงไปชั้นล่าง ยังไม่ทันจะออกไปที่สวน เจอโยธินเข้ามาต่อว่าเสียก่อนเรื่องที่ไปโกหกปรียาว่าเขาไม่สบาย เธอเลยเอายาจีนตุ๋นหางตุ๊กแกไปให้เขาถึงห้องพัก
“เฮียน่ะอ้วกแตกทั้งคืน ต่อไปไม่เอาอีกแล้วนะ อย่าไปหลอกเธออีก เฮียซวยทุกที”
“ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าเธอจะห่วงเฮียขนาดนี้ เออ เฮียมาก็ดีเหมือนกัน ไปเป็นเพื่อนจับผีกับเข็มหน่อย”
ชายหนุ่มส่ายหัว ไม่ยอมไปด้วย เขมิกาไม่สน กระชากเขาไปทันที ครู่ต่อมาทั้งคู่มาถึงสวนท้ายบ้าน เขมิกาก้มๆเงยๆมองหารอยเลือดไปตามพื้น โยธินกลัวจัด ขอไปรอในตึก อ้างไม่ค่อยถูกกับผี เธอพยายามรั้งไว้ แต่ไม่สำเร็จ เขาชิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว เธอจึงต้องตามหาเบาะแสเพียงลำพัง เจอรอยเลือดเปื้อนที่ต้นไม้ต้นใหญ่ ที่พุ่มไม้ใกล้ๆมีกระถางพลาสติกสีดำคว่ำอยู่ เธอลองหงายดู เจอหัวหุ่นหน้าตาน่ากลัวอยู่ข้างในถึงกับผงะ...
ด้านโยธินหนีเสือปะจระเข้ อุตส่าห์หนีเขมิกาที่ชวนไปจับผี แต่กลับมาเจอปิ้ง เม่น โย่งและแป้นชวนเอาน้ำมนต์ไปไล่ผี เขากลัวจัดจะเดินหนี โย่งกับเม่นไม่ยอมให้ไปลากตัวกลับเข้าสวนอีกครั้ง...
ขณะเขมิกากำลังตรวจดูหัวหุ่นผีอยู่แถวพุ่มไม้ ปิ้ง โยธินกับพวกเข้ามาถามว่าเจอตัวผีหรือยัง เธอยื่นหัวหุ่นให้ดู บอกว่าไม่เจอตัวเจอแต่หัว ทั้งปิ้งกับพวกตกใจร้องลั่น พากันวิ่งหนีป่าราบ...
เขมิกาไม่ยอมเปิดเผยเรื่องที่ตัวเองค้นพบว่าสิ่งที่ทำร้ายปรียาน่าจะเป็นฝีมือของคนมีเลือดมีเนื้อไม่ใช่ผีให้ใครรู้ แม้แต่ชานนท์










