ตอนที่ 16
จุมพลรอการกลับมาของเขมิกาอย่างร้อนใจ
อยู่กับสมคิด ทันทีที่เห็นเธอกับโยธินและปิ้งเดินมาที่ประตูเข้าบ้าน เขาปราดไปขวางทางไว้ เขมิกาพยายามจะอธิบายว่าทำไมถึงหนีงานแต่งงาน แต่เขาไม่ฟัง
“ข้ารอเอ็ง มาหลายวันพอแล้ว ไม่อยากกลับก็ไม่ต้องกลับมา” จุมพลพูดจบปิดประตูบ้าน ปิ้งพุ่งเอาท่อนแขนขวางไว้ เขาสั่งให้เอาแขนออกไป ปิ้งไม่ยอมเอาออก ตัดพ้อว่าเถ้าแก่จะใจดำไล่หลานตัวเองเลยหรือ จุมพลไม่ได้จะไล่แค่เขมิกาแต่จะไล่เขาด้วย แล้วดึงดันจะปิดประตูให้ได้ ไม่สนใจปิ้งที่ร้องโอดโอยเพราะถูกหนีบแขน
“ถ้าปู่ไล่เมียในอนาคตผมไป แล้วผมจะหาเจ้าสาวที่ไหนมาแต่งงานใหม่อีกรอบล่ะครับ”
สมคิด เห็นด้วยกับลูกชายตัวเอง ช่วยขอร้องจุมพลอีกแรงหนึ่ง ผู้เฒ่าน้ำเค็มหันไปถามหลานสาวเสียงเครียดว่าตกลงจะเอาอย่างไร จะยอมแต่งงานอีกรอบไหม หญิงสาวได้แต่ยืนนิ่ง ตัดสินใจไม่ถูก...
ครู่ต่อมา เขมิกาไปเยี่ยมบัณฑิตที่ยังคงนอนไม่ได้สติที่โรงพยาบาล เอามือพ่อมากุมไว้
“ถ้า เข็มไม่ยอมแต่ง ปู่คงตัดขาดเข็มแหงๆ ตอนที่พ่อเอาแต่เมาเหล้าไม่กล้าไปตามหาแม่ พ่อก็คงกลัวปู่ตัดพ่อตัดลูกเหมือนกันใช่หรือเปล่า...เมื่อไหร่พ่อจะตื่น เข็มกลุ้มมากเลย” เขมิกาฟุบหน้ากับขอบเตียง ยกมือพ่อลูบหัวตัวเองราวกับจะให้ปลอบใจ โดยไม่รู้ว่านิ้วโป้งของบัณฑิตกระดิกเล็กน้อยเหมือนจะรับรู้...
ในขณะเดียวกัน ที่จวงจันทร์สปา ชานนท์เห็นนายชิ้นยืนฉาบปูนอยู่กับพวกคนงานอย่างแข็งขันก็ร้องทัก
“ผมว่าลุงไม่ต้องลงมือทำเองหรอก กำลังอยู่ในช่วงอดเหล้าไม่ใช่หรือครับ เรี่ยวแรงมันจะไม่ไหวเอา”
“โอ๊ย ร่างกายผมยังปึ้ก งานพวกนี้กระจอก ผมลุยได้หมดไม่แพ้คุณขวัญ เอ๊ยคุณเข็มหรอกนะครับ”
ชานนท์ได้ยินชื่อเขมิกาแล้วอดคิดถึงไม่ได้ ขณะกำลังใจลอยอยู่นั้น ปิ้งโทร.เข้ามือถือของเขา บอกว่าพรุ่งนี้เขมิกาจะแต่งงานรอบสอง แล้วแกล้งพูดลอยๆว่าถ้าเป็นตัวเองเห็นคนที่รักสุดหัวใจกำลังจะแต่งงานกับคน อื่น เขาสู้ตายฉุดเป็นฉุด กำลังโม้เมามัน เขมิกาย่องมาดีดหน้าผากปิ้งถึงกับร้องลั่น รีบลดมือถือลงตั้งใจไม่ตัดสาย
“ตาม มานี่เลยไอ้ปิ้ง หาเรื่องใส่ตัวอีกแล้วนะ” เขมิกาลากปิ้งไปที่มุมปลอดคน ชานนท์ได้ยินเสียงเธอในมือถือตั้งใจฟัง “ปู่สั่งไว้ไม่ให้ติดต่อกับนายชาเย็นนายอยากโดนปู่ตะเพิดออกจากงานหรือไง”
“ก็ฉันห่วงลูกพี่ ไม่อยากให้ลูกพี่ตามใจเถ้าแก่จนไม่นึกถึงความสุขตัวเอง”
เขมิกาโวยวายว่าอย่ามาพูดมั่วซั่ว ตนเองมีความสุขดี ปิ้งไม่เชื่อ จะมีความสุขได้อย่างไรในเมื่อกำลังจะแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก เธอควรจะบอกโยธินไปตรงๆแทน
ที่จะดันทุรังแต่งงาน ว่าที่เจ้าบ่าวเดินมาจากอีกมุมหนึ่งได้ยินเต็มสองหู ถึงกับมือไม้อ่อน ทำกรอบใส่รูปถ่ายของตัวเองกับเขมิกาในชุดแต่งงานหล่นพื้นกระจกแตก เขมิกา กับปิ้งตกใจ รีบวิ่งไปดู ไม่เห็นใครอยู่ตรงนั้น มีเพียงเศษกระจกกระจายเกลื่อนพื้น...
ฝ่ายชานนท์ได้ยินคำพูดของปิ้งชัดเจนเช่นกัน ตัดสินใจจะไปห้ามเขมิกาไม่ให้แต่งงานกับโยธิน
ooooooo
เม่นเพิ่งออกจากโรงพยาบาล แผลที่ไหล่ยังไม่หายดีนัก ชานนท์สั่งให้โย่งเตรียมห้องไว้ให้เขามาอยู่บนตึกใหญ่เพื่อจะได้มีคนดูแล เม่นตื่นเต้นดีใจ
ที่ได้ห้องนอนใหม่พร้อมเตียงหลังใหญ่ จัดแจงชวน
โย่งขึ้นไปกระโดดเล่นบนเตียงกันอย่างสนุกสนาน มณฑาเข้ามาเอ็ดตะโรลั่นว่าทำอะไรกัน เม่นกลัวหัวหดรีบลงจากเตียง
“เม่น...ไม่ได้เข้ามาเองนะแม่ คุณผู้ชายยกห้องนี้ให้เม่น ถ้าแม่ไม่พอใจ เม่นกลับไปนอนบ้านในสวนก็ได้จ้ะ” เม่นก้มหน้างุดๆจะออกไป มณฑาเรียกให้กลับมาก่อน เขาสะดุ้งโหยงไม่กล้าขยับ เธอเดินมาดึงแขนข้างที่ไม่บาดเจ็บไปที่ตู้เสื้อผ้า จนกล่องขนมในมือของเขาหล่นพื้น มณฑาไม่คิดจะทำอะไรเขา แค่จะเปิดตู้ให้ดู
“ฉันเอาเสื้อผ้าแกมาใส่ตู้ให้หมดแล้ว อยู่บนตึกทำตัวให้ดีๆ อย่าก่อเรื่องวุ่นวายให้ใครปวดหัว ไม่งั้นโดนฟาดแน่” พูดจบเธอออกจากห้อง โย่งถึงกับตะลึง ไม่คาดคิดมาก่อนว่ามณฑาจะใจดีกับลูกตัวเองเป็น เม่นมองตามแม่ยิ้มๆ แล้วหยิบกล่องขนมที่พื้นขึ้นมา ลืมไปสนิทว่าจะเอาไปให้แววนิล รีบเดินไปหา...
ขณะเม่นยืนลังเลอยู่หน้าห้องแววนิล เจ้าของห้องเปิดประตูออกมากับปรียา เขาตกใจผงะถอยหลัง ก้มหน้าไม่กล้ามอง แววนิลแหวใส่ มายืนทำอะไรตรงนี้ เม่นค่อยๆ ยื่นกล่องขนมให้
“พี่ๆพยาบาลใจดีให้ขนมเม่นกลับมากินที่บ้าน เม่นเลยเอามาฝากคุณหนูนิลด้วย”
แววนิลอึ้งที่เขามีน้ำใจ จะเอื้อมมือไปรับ มณฑาเดินผ่านมาพอดี เธอเปลี่ยนใจปัดขนมในมือเม่นทิ้ง แล้วดึงปรียาเดินหนี ไม่แม้แต่จะปรายตามองมณฑาซึ่งมองตามด้วยความเสียใจน้อยใจ...
ทางด้านปรียาขืนตัวไว้ เตือนแววนิลว่าออกเที่ยวทุกคืนแบบนี้ไม่ดีต่อสุขภาพ แต่เธอไม่สนใจ ไม่อยากอยู่บ้านแล้วต้องเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้น ปรียาติงว่ามณฑาเป็นแม่ของแววนิล จะไม่ยอมรับท่านจริงๆหรือ
“ไม่รับ ยังไงก็ไม่รับ แล้วถ้าเธอยังเห็นฉันเป็นเพื่อนอยู่ อย่าพูดถึงคนคนนี้ให้ฉันได้ยินอีก” แววนิลว่าแล้วเดินสะบัดออกจากบ้าน ปรียาส่ายหน้าระอา แต่ก็รีบเดินตาม...
ความหวังของชานนท์ที่จะไปตามตัวเขมิกาให้ทัน ก่อนเธอจะเข้าพิธีแต่งงานต้องเป็นหมัน เพราะปรียาโทร.มาบอกว่าแววนิลดื่มเหล้าเมามายครองสติไม่อยู่ อาละวาดจนผับแทบแตก เขาต้องรีบไปรับกลับบ้านไม่กล้าทิ้งเธอไปไหน ปรียาโทษตัวเองที่ปล่อยให้แววนิลไปเที่ยวเตร่ดึกๆดื่นๆแทบทุกคืนโดยไม่ยอมบอกให้ชานนท์รู้
“พี่ต่างหากที่มัวแต่ทำงาน ทิ้งนิลให้เป็นภาระของเธออยู่คนเดียว”
ปรียาเต็มใจทำให้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม เธอจะขออยู่เคียงข้างชานนท์ตลอดไป ชายหนุ่มถึงกับเซ็งที่เธอมุ่งมั่นในความรักที่มีต่อเขาซึ่งเขาไม่มีวันรักตอบ...
ด้านจุมพลไม่ไว้ใจหลานสาวตัวเอง เกรงจะหนีงานแต่งงานเป็นรอบที่สอง สั่งให้ปิ้ง เผือกและคนงานอีกคนหนึ่งนั่งเฝ้าหน้าห้องเธอเอาไว้ ปิ้งเห็นใจลูกพี่และชานนท์มาก อยากให้ทั้งคู่ลงเอยกัน จึงหลอกล่อเผือกกับคนงานไปให้พ้นจากหน้าห้อง เปิดทางให้เขมิกาหนี แต่เธอกลับไม่ยอมไปไหนเพราะไม่ต้องการทำให้ปู่กับโยธินเสียใจเป็นครั้งที่สอง แผนเปิดทางหนีของปิ้งจึงล้มไม่เป็นท่า
ooooooo
เช้าวันงานแต่งงาน สนามหน้าบ้านจุมพลคลาคล่ำไปด้วยแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน เสียงโห่ร้องของขบวนขันหมากดังแว่วมาแต่ไกล เขมิกาอยู่ในชุดแต่งงานสำหรับพิธีรดน้ำตอนเช้ากำลังสำรวจความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผม ได้ยินเสียงแห่ขันหมากใกล้เข้ามา จิตใจเริ่มหดหู่ คิดถึงชานนท์น้ำตาคลอเบ้า
สักพัก ปิ้งวิ่งหน้าตื่นเข้ามารายงาน “ลูกพี่ ขบวนแห่ขันหมากมาแล้ว”
“ฉันพร้อมแล้ว” เขมิกาว่าแล้วสูดลมหายใจเข้า เพื่อเรียกกำลังใจ แต่ต้องชะงักเมื่อปิ้งรายงานเพิ่มเติมว่า ขบวนขันหมากมาก็จริง แต่เจ้าบ่าวหายตัวไปไหนไม่รู้...
ทางด้านจุมพลโกรธควันแทบออกหูเรียกสมคิดเข้าไปพบที่ห้องทำงาน กระชากคอเสื้อเข้ามาถามอย่างเอาเรื่องว่าโยธินหายตัวไปได้อย่างไร ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ไปได้ สมคิดเองก็ไม่รู้เหมือนกัน คราวที่แล้วเจ้าสาวหายไป คราวนี้เจ้าบ่าวหายไปอีก ต่อไปนี้เขาคงต้องเดินเอาปี๊บคลุมหัวแน่ๆ จุมพลปล่อยมือจากคอเสื้อเขา เป็นจังหวะเดียวกับเขมิกาวิ่งกระหืดกระหอบนำปิ้งเข้ามาถามสมคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับโยธิน
“อาก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันเป็นบ้าอะไร เดินๆแห่ขันหมากมาด้วยกันแท้ๆ อาเผลอแวบเดียว มันล่องหนหายวับไปเลย” สมคิดพูดจบ ถอนใจเหนื่อยใจ ปิ้งกำลังจะ หลุดปากว่าที่โยธินหายไปอาจรู้ว่าเขมิกาไม่ได้รัก แต่หันไปเห็นจุมพลจ้องหน้าเครียดเสียก่อน รีบสงบปากสงบคำ...
หลังจากช่วยกันขอโทษแขกที่มาร่วมงานและส่ง ทุกคนกลับกันหมดแล้ว เขมิกาเห็นปู่เหนื่อยมาทั้งวัน บอก ให้ไปพักผ่อน จุมพลไม่เข้าใจทำไมโยธินถึงหนีงานแต่งงานทั้งๆที่รักเขมิกาแทบจะกลืนกิน
“เอ็งพูดอะไรที่ไม่ควรพูดกับเจ้าโยมันหรือเปล่า”
“โอ๊ยปู่ เข็มตั้งใจจะแต่งงานกับเฮียจริงๆ แต่เรา อาจจะไม่ใช่เนื้อคู่กันก็ได้ถึงต้องมีเหตุไม่ได้แต่งสักที”
จุมพลเตือนแกมขู่ ถึงเธอจะไม่ได้แต่งงานกับโยธิน ก็อย่าลืมว่าชานนท์เคยเป็นสามีของพี่สาวตัวเอง ตนรับไม่ได้ถ้าพี่น้องจะมีสามีคนเดียวกัน เขมิกาโวยวายกลบเกลื่อนว่าไม่ได้คิดอะไรกับเขาแม้แต่น้อย
“ข้าพูดเผื่อไว้ก่อน ถ้าไม่ได้คิดข้าก็สบายใจ อย่าทำให้ข้าต้องเสียใจเหมือนที่พ่อเอ็งเคยทำก็แล้วกัน”...
ขณะเกิดเรื่องวุ่นๆที่บ้านของจุมพล ชานนท์หยิบมือถือขึ้นมาจะโทร.หาเขมิกา แต่นึกขึ้นได้ว่าป่านนี้เธอคงเข้าพิธีแต่งงานกับโยธินเรียบร้อยแล้ว จึงเปลี่ยนใจไม่โทร.หา พยายามสลัดภาพของเธอให้หมดไปจากใจ แต่ยิ่งพยายามลืมกลับยิ่งคิดถึงวันดีๆที่เคยมีด้วยกัน เขาตกอยู่ในภวังค์ทำให้ไม่ได้ยินเสียงสายเรียกเข้ามือถือตัวเอง
โย่งทำงานอยู่ใกล้ๆต้องร้องเตือนว่ามีโทรศัพท์เข้ามา อาจจะเป็นคุณผู้หญิงโทร.มาก็ได้ ชานนท์ตื่นจากภวังค์เห็นชื่อปิ้งโชว์บนหน้าจอมือถือ รีบตัดสายทิ้ง หันไปกำชับโย่งเสียงเครียด
“ต่อไปนี้เราจะไม่พูดถึงคุณผู้หญิงของนายอีก”...
ฝ่ายปิ้งพยายามโทร.หาชานนท์อีกครั้ง จุมพลเดินมาจากด้านหลังเอาปลายกระบอกปืนสะกิด เขาไม่สนใจยังคงกดเบอร์ต่อไป ผู้เฒ่าน้ำเค็มฉุนขาดยิงปืนใส่พื้นเปรี้ยงๆ ปิ้งตกใจกระโดดโหยงร้องลั่น
“ฟังให้ดี ไปบอกทุกคนให้รู้ไว้ ถ้าใครหน้าไหน ปากสว่างบอกให้นายชานนท์รู้ว่าหลานข้าไม่ได้แต่งงาน ข้าจะยิงไม่เลี้ยง” ไม่ขู่เปล่า ยิงปืนใส่พื้นอีกชุดใหญ่ ปิ้งกลัวหัวหด รับปากจะไม่โทร.หาชานนท์อีกต่อไป...
เขมิกาเองก็พยายามตัดใจให้ลืมชานนท์เช่นกัน เพราะรู้ดีว่าปู่ไม่ปลื้ม
ooooooo
เขมิกาแวะไปเยี่ยมบัณฑิตที่โรงพยาบาลแต่เช้าเหมือนเช่นเคย แต่ต้องชะงักเมื่อเจอผู้หญิงคนหนึ่ง ถือช่อดอกไม้อยู่ข้างเตียงพักฟื้นของพ่อก่อนแล้ว อิงอรเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นขวัญตา โผกอดด้วยความดีใจ ขอร้องให้ยกโทษให้ เขมิการีบบอกว่าตัวเองไม่ใช่ขวัญตา แต่เป็นเขมิกา อิงอรเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองมีลูกฝาแฝด
“เข็ม...เข็มหรือลูก แม่เป็นแม่ของหนู แม่จากหนูไป ตั้งแต่เล็ก หนูคงจำแม่ไม่ได้ ขนาดแม่เองยังคิดว่าหนูคือขวัญตาเลย” อิงอรอยากจะกอดลูกอีกครั้ง แต่ไม่กล้า จังหวะนั้นจุมพลเดินเข้ามากับปิ้ง
“ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่แม่เอ็ง คนที่มันกล้าทิ้งลูกตัวเองไม่มีทางเป็นแม่ใครได้...ออกไป” จุมพลตวาดลั่น
“ที่นี่เป็นโรงพยาบาล ไม่ใช่บ้านของคุณพ่อนะคะ คุณพ่อไม่มีสิทธิ์จะไล่ใคร หนูมาเยี่ยมพี่ฑิต เยี่ยมเสร็จหนูก็จะไป” อิงอรเดินเชิดหน้ากลับไปที่เตียง เอาช่อดอกไม้วางไว้ข้างตัวบัณฑิต
จุมพลไม่พอใจคว้าดอกไม้ช่อนั้นปาลงพื้นแล้วเหยียบซ้ำ อิงอรต่อปากต่อคำกับเขาอย่างไม่เกรงกลัว ผู้เฒ่าน้ำเค็มโกรธจัดที่เธอกล้าตีฝีปาก คว้าแขนจะลากออกจากห้อง เธอโวยวายร้องเรียกบัณฑิตให้ตื่นมาดูสัญญาณชีพจรของเขาเต้น แรงขึ้น เครื่องวัดการเต้นของหัวใจส่งเสียงร้องลั่นไปหมด
อึดใจเดียว ทั้งหมอและพยาบาลกรูกันเข้ามาในห้อง ทุกคนจึงต้องถอยออกมารอหน้าห้อง จุมพลสั่งให้ปิ้งคอยเฝ้าหน้าประตูเอาไว้ ห้ามใครเข้าไปรบกวนลูกชายของตนเด็ดขาด แล้วปรายตามองอิงอรซึ่งเข้ามาต่อว่าเขาว่าป่านนี้แล้ว เขายังไม่ลืมเรื่องเก่าๆอีกหรือ
“มีแต่เธอที่ลืม แต่ข้าไม่ลืม เจ้าเข็มมันก็ไม่ลืมว่า แม่มันทิ้งมันไป ถามมันดูว่ามันลืมหรือเปล่า อยากรับเธอเป็นแม่หรือเปล่า ถามมันสิ”
เขมิกายังโกรธที่แม่ทิ้งไปและไม่อยากขัดใจปู่ จึงบอกอิงอรไปว่าเธอกับปู่อยู่กันได้อย่างมีความสุขโดยไม่ต้องมีแม่ แล้วขอร้องให้แม่กลับไป อิงอรปวดร้าวใจกับคำพูดของลูก แต่ก็ยอมรับ ตัดใจเดินจากไป ครู่เดียว หมอออกมาจากห้อง เขมิกาปราดเข้าไปถามว่าพ่อเป็นอย่างไรบ้าง จะฟื้นหรือเปล่า เขาส่ายหน้าแตะบ่าเธออย่างปลอบใจแล้วผละจากไปพร้อมกับพยาบาล
ooooooo
แม้เขมิกาจะยังไม่ยอมรับอิงอรเป็นแม่ แต่เมื่อเธอแอบมาหาที่แพปลาในเช้าวันรุ่งขึ้น เพื่อสอบถามถึง ขวัญตา เขมิกาอดสงสารไม่ได้ ยอมเสี่ยงโดนปู่เล่นงาน พาอิงอรเข้ากรุงเทพฯ ไปพบชานนท์ที่จวงจันทร์สปา...
ทางด้านประชายังไม่ยอมรามือง่ายๆ หลอกให้อึ่งไปหาซื้อปืนมาให้ โดยสัญญาว่าถ้าเขาสามารถฆ่าชานนท์ตามแผนได้ จะให้ส่วนแบ่งเธอหนึ่งล้านบาท อึ่งหลงเชื่อจัดหาซื้อปืนมาให้ตามที่เขาต้องการ...
ไม่ได้มีแต่ประชาเท่านั้นที่ต้องการจะแก้แค้นชานนท์ เฮียเม้งก็อยากแก้แค้นเขาเช่นกัน จึงส่งสอนกับสมุนปลอมตัวมาเป็นคนงานตกแต่งสวนหย่อมที่จวงจันทร์สปา โดยใช้ผ้าขาวม้าคาดหน้าสวมหมวกสานอำพรางใบหน้าที่แท้จริง ขณะที่ชานนท์กำลังสั่งให้นายชิ้นนำ
คนงานมารื้อกอต้นเข็มออกจากสวนหย่อม สอนทำทีเดิน เข้าไปใกล้ๆ พอได้ระยะชักมีดขึ้นมาแทง นายชิ้นพุ่ง
เอาตัวรับคมมีดแทนเจ้านายถึงกับทรุดฮวบ
ชานนท์ไม่ปล่อยให้ถูกทำร้ายข้างเดียวฮึดสู้ และสามารถกระชากผ้าขาวม้าคาดหน้าสอนออกมาได้ เผยให้ เห็นใบหน้าศัตรูเก่าถึงกับชะงัก สมุนของสอนได้ทีปรี่เข้าไปล็อกตัวชานนท์ไว้ให้สอนที่ย่างสามขุมเข้าหาพร้อมมีดในมือ ขณะที่ชานนท์กำลังจะถูกแทง เขมิกาเดินนำอิงอรและเยาว์เข้ามาเห็น คว้าที่ฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดใส่สอนหน้าหงาย เยาว์เห็นชิ้นนอนจมกองเลือดรีบวิ่งเข้าไปดู ชานนท์ดิ้นรนจนเป็นอิสระ อัดสมุนทั้งสองคนล้มคว่ำ
เขมิกาพุ่งเข้าไปเก็บมีดที่ตกพื้น ชี้ไปทางสอน “แกไอ้สอน เล่นตามมาถึงนี่เลยหรือ”
สมุนเฮียเม้งทั้งสามคนเห็นท่าไม่ดีพากันวิ่งหนี เขมิกาบอกให้ชานนท์พานายชิ้นไปส่งโรงพยาบาลก่อน
ตนจะตามไปเล่นงานพวกนั้นเองแล้ววิ่งปรู๊ดไป อิงอรอาสาจะดูแลนายชิ้นให้ ขอให้ชานนท์ตามไปช่วยลูกสาวเธอก็แล้วกัน ชายหนุ่มมองเธออย่างงงๆว่าเป็นใคร แต่ไม่มีเวลาจะถามไถ่ รีบตามไปช่วยเขมิกา...
สอนกับพวกวิ่งหนีมาด้านหลังสปา เห็นไม่มีใครตามมาก็หยุดพักเหนื่อย เขมิกาเลี้ยวหัวมุมมาเห็น สะบัดมีดปักกลางหลังหนึ่งในสมุนอย่างแม่นยำ สอนกับสมุนอีกคนหนึ่งรีบประคองปีกเขาหนี ประชาขับรถกระบะติดฟิล์มดำวิ่งผ่านมาพอดี สอนกับพวกขวางทางไว้ใช้มีดจี้สั่งให้พาหนี ประชาเห็นเขมิกาไล่ตามมาด้านหลัง ไม่อยากให้เธอเห็นหน้า รีบบึ่งรถออกไปอย่างรวดเร็ว
ooooooo
ทันทีที่ชานนท์กับเขมิกากลับเข้ามาที่สปาอิงอรแจ้งว่าเยาว์พานายชิ้นไปส่งโรงพยาบาลแล้ว ชายหนุ่มมองเขมิกาเป็นทำเชิงถามว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร เธอแนะนำให้แม่ยายกับลูกเขยได้รู้จักกันแล้ว บอกอิงอรว่า ถ้าอยากรู้อะไรเกี่ยวกับขวัญตาก็ให้ถามกันเอาเอง แล้วเดินเลี่ยงออกมา อิงอรไม่รอช้าซักชานนท์ว่า
“ขวัญลูกสาวฉันเขาเคยทำงานอยู่ที่นี่หรือคะ”
“ครับ ผมเจอเธอครั้งแรกที่นี่ แต่เธอโกหกผมว่าเป็นเด็กกำพร้า เติบโตมาจากบ้านสงเคราะห์เด็ก ผมไม่เคยรู้เลยว่าความจริงแล้วขวัญยังมีแม่ที่แท้จริง”
“มันเป็นความโง่ของฉันเอง ฉันมีปัญหากับคุณบัณฑิต เลยหอบลูกหนีไปอยู่ต่างประเทศ คิดว่าจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อย่างที่หวัง แต่มันก็ไม่เป็นอย่างนั้น ฉันเป็นคนทำลายอนาคตลูกด้วยมือฉันเอง”
จากนั้น เรื่องราวในอดีตเมื่อคราวที่พาขวัญตาไปอยู่ต่างประเทศก็พรั่งพรูออกจากปากอิงอร เริ่มตั้งแต่สามีใหม่ของเธอทำธุรกิจล้มเหลว จึงใช้เหล้าดับความกลัดกลุ้ม พอเมาได้ที่ก็จะทุบตีเธอกับลูก เธอทนไม่ได้ก็เลยขอหย่า หลังจากได้เงินก้อนโตจากการหย่า ขวัญตาพยายามขอร้องให้เธอพากลับมาหาพ่อที่เมืองไทย แต่อิงอรไม่ยอม การปฏิเสธคำขอของลูกครั้งนี้สร้างความเก็บกดให้แกมาก เธอกับลูกจึงมักจะมีปากเสียงกันเป็นประจำ
อิงอรใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย หมดเงินไปกับงานปาร์ตี้มากมายโดยไม่คิดเลยว่าขวัญตาจะโตเป็นสาวใจแตก ทำตัวเลียนแบบเธอทุกอย่าง เหตุการณ์เลวร้ายลงอีกเมื่อเธอตัดสินใจมีแฟนใหม่เป็นเด็กหนุ่มคราวลูก
“ฉันหลงรักผู้ชายคนนี้มาก ปรนเปรอให้เขาทุกอย่าง แม้กระทั่งยอมให้เขามาอยู่ในบ้าน” อิงอรเล่ามาถึงตรงนี้ พลันภาพในอดีตผุดขึ้นมาในความทรงจำของเธอ ตอนนั้นขวัญตาเป็นสาวเต็มตัว ไมค์แฟนใหม่ของอิงอรบุกเข้าหาเธอคิดจะปลุกปล้ำทำเมีย เธอคว้าที่เขี่ยบุหรี่ตบหน้าเขาเลือดอาบ อิงอรได้ยินเสียงร้องวิ่งเข้ามาดู ไมค์รีบฟ้องว่าถูกขวัญตาทำร้าย อิงอรโกรธจัดตบหน้าลูกโดยไม่ฟังคำอธิบายใดๆ ทำให้เธอน้อยใจแม่มาก
“โอ๊ย...ไม่อยากจะอยู่แล้ว เชิญแม่กกไอ้เลวนี่ไปให้พอใจ โดนมันปอกลอกหมดตัวเมื่อไหร่จะรู้สึก”
“ถ้าแกกล้าไป ก็ไม่ต้องกลับมาอีก อย่าคิดว่าฉันจะง้อแก”
ขวัญตาไม่สนใจคำขู่ของแม่ จัดแจงเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าแล้วเดินจากไป อิงอรเล่าเหตุการณ์ในอดีตให้ชานนท์ฟังอย่างขมข่ืนใจอีกว่า หลังจากนั้นไม่นาน ไมค์ก็เป็นอย่างที่ขวัญตาว่าไว้ เขาขโมยเงินของอิงอรจากตู้เซฟหนีไปเสวยสุขกับเพื่อนสนิทของเธอเอง จนถึงวันนี้ตำรวจยังตามหาตัวทั้งคู่ไม่เจอ
“งั้นก็แสดงว่าขวัญตาหนีมาอยู่เมืองไทย จนได้มาเจอกับผม”
“แล้วลูกฉันหายตัวไปได้อย่างไรคะ”
“ขวัญถูกประชาลูกน้องเก่าของผมลักพาตัวไปในวันแต่งงานครับ แต่ขวัญคงหนีประชาไปได้” ชานนท์เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้อิงอรฟัง...
ในเวลาต่อมา ชานนท์และเขมิกาพาอิงอรมาปรึกษาหารือเรื่องขวัญตากันต่อที่บ้านเลิศวิริยะ เขมิกาเชื่อว่าพี่ขวัญยังไม่ตาย เพราะพวกโจรสามพี่น้องยืนยันว่าตอนที่ตามล่าตัวเธอมาถึงฝั่ง เธอหนีรอดไปได้ ชานนท์แนะว่าถ้าคิดจะสืบหาขวัญตา คงต้องเริ่มต้นจากจุดนี้ เขมิกาตั้งข้อสังเกต หรือว่าพี่ขวัญอาจไปหาผู้ชายในคลิป
“ใครหรือ...พูดมาเถอะค่ะ ฉันรับได้”
ชานนท์เดาว่าน่าจะเป็นชู้ของขวัญตา แต่ดูจากรูปร่างในคลิปแล้ว ไม่น่าใช่ประชา น่าจะมีใครอีกคนหนึ่งที่เขาไม่รู้จัก อิงอรโทษตัวเองที่เป็นต้นเหตุทำให้ขวัญตาทำตัวเหลวแหลก
“น่าจะรู้ตัวได้ตั้งนานแล้ว” เขมิกาโพล่งขึ้นทันที ชานนท์คาดไม่ถึงว่าเธอจะกล้าว่าแม่ตัวเอง ไม่อยากให้อิงอรเสียใจไปมากกว่านี้ รีบตัดบท ชวนอิงอรค้างที่นี่คืนนี้ แล้วพรุ่งนี้ค่อยออกสืบหาขวัญตาด้วยกัน
เขมิกาไม่อยากมีส่วนด้วย ขอตัวกลับก่อนแล้วเดินออกมาหน้าตาเฉย ชานนท์ตามมาตำหนิที่เธอพูดจาไม่ดีกับแม่ตัวเอง แถมจะทิ้งให้ท่านอยู่ที่นี่คนเดียว เธออ้างว่าต้องรีบกลับก่อนเพราะหนีปู่มา แล้วเดินลิ่วไปที่รถตัวเอง แต่ต้องตกใจเมื่อเห็นล้อรถหายไปหมด โย่งกับเม่นไม่อยากให้เขมิกากลับเลยแอบมาถอดล้อรถเอาไปขายซาเล้งรับซื้อของเก่า เธอเคืองจัดวิ่งไล่เตะทั้งคู่ไปรอบบ้าน
ooooooo
เช้าวันรุ่งขึ้น เขมิกากับชานนท์ลงมารออิงอรอยู่ที่โถงของบ้านเพื่อเดินทางไปสืบหาข่าวคราวของ ขวัญตา มณฑาเข้ามารายงานว่าแต่อิงอรไม่สบายปวดหัวมากลุกไม่ไหว
“งั้นก็คงต้องเลื่อนออกไปก่อน” ชานนท์แนะ
จังหวะนั้นมีเสียงข้าวของตกแตกดังมาจากห้องนั่งเล่น เขมิกา ชานนท์และมณฑารีบตามไปดู เห็นแววนิลอาละวาดขว้างปาข้าวของกระจัดกระจาย เนื่องจากไม่พอใจที่ไม่ได้ดื่มเหล้า พอเห็นหน้าพี่ชายเท่านั้น อ้อนวอนขอเหล้าดื่ม เวลาเมาจะได้ลืมสิ่งที่ประชาทำกับเธอไว้ เขมิกาคิดหาทางช่วย โดยขอยืมปืนจากชานนท์
ครู่ต่อมา เขมิกาสั่งให้โย่งเอารูปถ่ายของประชาติดไว้บนเสาไม้ปักไว้ที่ลานกว้างหลังบ้าน ส่งปืนให้แววนิลบอกให้เล็งไปที่หน้าไอ้คนชั่วนั่น นึกถึงสิ่งที่เขาทำกับเธอ เอาพลังแค้นทั้งหมดใส่ไปในปืน แล้วลั่นกระสุนให้สมกับความแค้น ทีแรกแววนิลไม่กล้ายิง แต่พอเจอลูกยุของเขมิกาเข้าไป สาดกระสุนใส่รูปถ่ายของประชาจนหมดแม็กกาซีน ปรียาต่อว่าเขมิกาที่ใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา
“ไม่เห็นเป็นไรนี่ ไม่ได้ให้ทำจริงๆสักหน่อย คนเรามันต้องระบายออกกันบ้าง ไม่ใช่เก็บกดไว้รอวันเป็นบ้า”
แววนิลที่หอบเหนื่อย ขอให้ชานนท์ช่วยพากลับห้อง เขามองเขมิกาสีหน้าเครียดๆก่อนจะพาน้องออกไป...
ปรากฏว่าวิธีการของเขมิกาได้ผลเกินคาด แววนิลรู้สึกโล่งใจ โล่งหัวอย่างบอกไม่ถูก เหมือนความคับแค้นใจที่มีได้ระบายออกไปจนหมด ชานนท์รู้สึกประทับใจในตัวเขมิกาอีกครั้ง
ooooooo
แววนิลลงมาที่โต๊ะอาหารด้วยสีหน้าสดชื่น เนื่องจากเมื่อคืนหลับสบายไม่ฝันร้ายเห็นหน้าประชาอีกแล้ว แต่ต้องอารมณ์บูดเมื่อเขมิกาชวนเม่นมากินมื้อเช้าด้วย เธอค้านเสียงแข็งไม่ยอมร่วมโต๊ะกับเขาเด็ดขาด
“ผม...ไม่กินหรอกครับ ผมอิ่มแล้ว” เม่นว่าแล้วลนลานออกไป
เขมิกาสงสารเขาจับใจ คว้าถุงขนมวิ่งตามเอามาให้ เม่นกินขนมอย่างหิวโหย พลางขอร้องพี่นางฟ้าอย่าจากไปไหนอีก พอเธอมาอยู่ที่นี่ทั้งพี่โย่งกับพี่แป้นซื้อของกินมาเต็มบ้านเลย คุณผู้ชายก็อารมณ์ดียิ้มทั้งวัน
“ฉันไม่ใช่คุณผู้หญิงแล้ว อยู่บ้านนี้ไม่ได้หรอก”
“พี่นางฟ้าก็แต่งงานกับคุณผู้ชายสิ จะได้เป็นคุณผู้หญิงจริงๆไง”
“เฮ้อ...ก็อยากแต่งเหมือนกันแหละ แต่มันไม่ได้...
ชีวิตมันเศร้าจริงๆวุ้ย” เขมิกาเผลอบ่นเสียงดัง เม่นได้ยินก็ดีใจ ถ้าเธออยากแต่งงานกับคุณผู้ชายจริงๆ เขาจะไปบอกให้ แล้ววิ่งปรู๊ดเข้าตึกใหญ่ หญิงสาวตกใจรีบวิ่งตามไปห้าม แต่ไม่ทัน เม่นพรวดพราดเข้าไปรายงานคุณผู้ชายที่ห้องทำงานเสร็จสรรพว่าพี่นางฟ้าอยากแต่งงานกับเขา เขมิกาละล่ำละลักอธิบายว่าไม่ใช่อย่างที่เม่นพูด
“เขาอยากให้ฉันแต่งงานกับคุณ แต่ฉันพยายามอธิบายว่าแต่งไม่ได้ เพราะฉันแต่งงานแล้ว”
ชานนท์เจ็บจี๊ดไปถึงขั้วหัวใจ เหมือนโดนตอกย้ำแผลเก่า อารมณ์เสียทันที เอ็ดเม่นว่าทีหน้าทีหลังอย่าพูดจาเหลวไหลแบบนี้อีก เขากับเขมิกาเป็นแค่เพื่อนกัน แล้วไล่ทั้งคู่ออกจากห้อง อ้างมีงานต้องทำ...
ฝ่ายอิงอรสบช่องตอนที่แป้นยกโจ๊กมาให้ที่ห้องพัก ซักเป็นการใหญ่ว่าขวัญตาอยู่ที่นี่มีความสุขดีไหม
“โอ๊ยทำไมจะไม่มีล่ะคะ คุณผู้ชายหลงรักอย่างกับอะไรดี เอาอกเอาใจสารพัด ทุ่มเทให้ทุกอย่าง ยอมขัดใจน้องสาวจะแต่งกับคุณขวัญตาให้ได้ แต่คุณขวัญตาน่ะสิกลับหนีไปกับผู้ชายอื่น คุณผู้ชายงี้เสียใจจนแทบบ้า น่าสงสารสุดๆ ผู้หญิงอะไรไม่รู้ทั้งเลวทั้งเจ้าเล่ห์...อุ๊บ” แป้นรู้ตัวว่าพูดมากไปรีบปิดปากตัวเอง
ชานนท์มาทันได้ยิน ส่งสายตาเป็นทำนองตำหนิ แป้นรู้งานรีบเดินตัวลีบออกมา อิงอรรู้สึกผิดต่อชานนท์ ขอโทษแทนลูกสาวที่ทำไม่ดีกับเขา ชายหนุ่มให้อภัยขวัญตานานแล้ว เพราะถ้าเธอไม่หนีเขาไป ป่านนี้เขาคงไม่ได้เจอกับคนที่ทำให้เขารู้หัวใจตัวเอง เขาแค่อยากตามหาขวัญตาให้เจอ เพื่อจะได้หย่ากันให้เรียบร้อย...
ขณะเขมิกากำลังแง้มประตูห้องพักของอิงอรเข้าไปดูว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง ชานนท์เปิดประตูผลัวะออกมาเสียก่อน หญิงสาวตกใจผงะถอยหลัง เขาดึงเธอมาพ้นหน้าห้อง ต่อว่าว่าถ้าอยากเข้าไปเยี่ยมอิงอรก็เข้าไปได้เลย ไม่ต้องมาทำลับๆล่อๆแบบนี้ ผู้หญิงคนนั้นเป็นแม่ของเธอเอง เลิกทิฐิเป็นเด็กๆได้แล้ว
ทั้งสองคนมีปากเสียงกัน เขมิกาน้อยใจเรื่องแม่และเรื่องที่ถูกชานนท์ต่อว่า หลบไปนั่งร้องไห้ที่สวนหย่อมข้างบ้าน ชานนท์ได้ยินเสียงสะอื้นของเธอ รู้สึกผิดที่ต่อว่าเธอแรงๆ จะเข้าไปปลอบ เธอรีบเมินหน้าหนี
“มาทำไม จะตามมาด่าอีกหรือ”
ชายหนุ่มไม่ต่อปากต่อคำด้วย นั่งลงข้างๆ ดึงหัวเขมิกามาซบไหล่ เธอขืนตัวไว้ แต่เขาออกแรงดึงจนเธอยอมซบไหล่ในที่สุด จากนั้นเธอก็ปล่อยโฮอย่างอัดอั้น หลังจากร้องไห้จนสาแก่ใจ เขมิกาขอโทษชานนท์ที่พูดแรงไป ทั้งคู่พูดดีๆกันได้ไม่กี่คำก็เถียงกันอีก เขมิกางอนที่เขายังไม่หยุดต่อว่าเรื่องอิงอร เดินสะบัดจากไป
ooooooo










