ตอนที่ 14
“ใช่ เจ้ากุมปายบอกว่าตอนนี้หลบเข้ามาอยู่เมืองไทยได้แล้วพร้อมทหารองครักษ์จำนวนหนึ่ง อยากเข้าร่วมกองกำลังกู้ชาติกลับไปกอบกู้แผ่นดินคีรีหลวงด้วยกัน”
เจ้าจ้อยกับมหาเทวีจับมือกันด้วยความดีใจ
เจ้าหลวงเงยหน้าจากจดหมายมองชายจากเมืองเปย
“ที่แท้...เจ้าคือทหารองครักษ์ของเจ้ากุมปาย”
“เจ้าค่า” ชายแปลกหน้าก้มหัวทำความเคารพ สายตานิ่ง...ยากจะเดาใจ
“ตอนนี้เจ้ากุมปายพำนักอยู่ที่ไหน” เจ้าหลวงถาม
“เพื่อความปลอดภัยของเจ้ากุมปาย เฮาไม่สามารถบอกได้เจ้าค่า”
“ถ้าอย่างนั้นเจ้านำคำของเฮาไปบอกว่าเฮาและคนเมืองจายยินดีที่เจ้ากุมปายจะเข้ามาร่วมต่อสู้ในกองกำลังกู้ชาติด้วยกัน และในวันพรุ่งนี้เฮาจะจัดเตรียมคุ้มไว้ต้อนรับเจ้ากุมปายเพื่อปรึกษาหารือกัน”
“เจ้าค่า เฮาจะรีบไปทูลเจ้ากุมปายให้ทรงทราบ เฮาขอลา” ชายแปลกหน้าทำความเคารพแล้วกลับออกไปพร้อมทหารสองคน
มหาเทวียิ้มแย้มแสดงความยินดีกับเจ้าหลวง
“นี่แสดงว่าการต่อสู้ของเราไม่ไร้ค่า แต่สร้างความหวังให้กับเจ้าหลวงเมืองอื่น คนหนุ่มอย่างเจ้ากุมปายถึงได้ติดต่อมาขอร่วมด้วย”
“นั่นสิ นับเป็นนิมิตหมายที่ดี”
“ลูกดีใจกับเจ้าพ่อด้วยนะเจ้าค่า ความมุ่งมั่นตั้งใจกอบกู้บ้านเมืองของเจ้าพ่อได้เป็นแรงบันดาลใจให้เจ้าหลวงเมืองอื่นลุกขึ้นมาสู้เพื่อบ้านเมืองอีกครั้ง”
สามคนพ่อแม่ลูกรู้สึกมีกำลังใจ แต่พสุกลับคิดหนัก
“เดี๋ยวนะครับ ผมมีข้อสงสัยครับ เจ้าหลวงจะมั่นใจได้อย่างไรครับว่าคนที่ส่งชายคนนั้นมาติดต่อเจ้าหลวงเป็นเจ้าหลวงเมืองเปยจริงๆ”
“เฮารู้จักเจ้าหลวงเมืองเปย เคยเจอพบปะพูดคุยกับเจ้ากุมปายมาแล้วหลายครั้ง แม้ไม่สนิทเท่าเจ้ากุมปาบิดาเจ้ากุมปายที่ล้มป่วยจนเสียไป”
“เราทั้งคู่เคยไปร่วมยินดีในงานสถาปนาขึ้นครองเมืองเปยของเจ้ากุมปายด้วย”
“วันนั้นเฮาไม่ได้ไป ไม่มักคุ้นกับเจ้ากุมปายจนรู้จักนิสัยใจคอนัก แต่ก็รู้จัก”
สามคนพ่อแม่ลูกยืนยันไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้พสุต้องบอกว่าตนหมดข้อสงสัย
“เอาล่ะ พรุ่งนี้เราจะมีงานต้อนรับอาคันตุกะกัน ต้องขอแรงมหาเทวีกับเจ้าจ้อยช่วยเป็นธุระเรื่องจัดเตรียมสถานที่และอาหารด้วยนะ”
สองแม่ลูกรับคำด้วยความเต็มใจ หลังจากนั้นเจ้าจ้อยกับพสุเดินคุยกันออกไปมุมหนึ่ง
“อยู่ๆก็มีเจ้าหลวงเมืองนึงมาขอเข้าร่วมกองกำลังกู้ชาติด้วย ดูคุณตื่นเต้นดีใจมาก”
“ดีใจสิหมวด การได้เจ้าหลวงหลายๆเมืองมาร่วมต่อสู้ด้วยจะทำให้กองกำลังกู้ชาติของเราเข้มแข็งขึ้นและเป็นที่ยอมรับในสายตาของสหประชาชาติและนานาประเทศ โอกาสที่จะได้ทุกเมืองในรัฐคีรีหลวงกลับคืนมาจากนายพลอังกูเห็นอยู่ข้างหน้าแล้ว”










