สมาชิก

คิวบิก

ตอนที่ 15

หลินหลานเซ่อวิ่งลงมาเจอจงซินที่ชั้นล่างเขาถามทันทีว่าฤทัยนาคอยู่ไหน พอจงซินบอกว่าเธอขึ้นไปหาเขาข้างบนเท่านั้น หลินขยับจะวิ่งขึ้นไปทันที

“อย่าไปครับคุณหลิน” จงซินคว้ามือไว้ หลินกระชากมือบอกให้ปล่อย ตนจะขึ้นไปหาฤทัยนาค “ไม่มีประโยชน์แล้วครับคุณหลิน” แล้วจงซินก็หันไปสั่งลูกน้อง “เอาตัวคุณหลินออกไป”

ลูกน้องช่วยกันดึงลากหลินออกไปท่ามกลางควันและฝุ่นที่ลอยคละคลุ้งจนแทบจะมองไม่เห็นทาง

บอดี้การ์ดพาหลินไปนั่งในที่ปลอดภัยไม่ไกลนัก หลินถูกรายล้อมป้องกันอย่างเข้มแข็ง จงซินที่ได้รับการปฐมพยาบาลแผลที่ถูกยิงและมีผ้าคล้องแขนที่บาดเจ็บ เดินสั่งการอย่างเคร่งเครียด พอเดินมาถึงที่หลินนั่งอยู่ ถูกหลินต่อว่าทันที

“นายไม่น่าห้ามฉันไว้เลยจงซิน ฉันปล่อยให้เธอตายอยู่ในนั้น...เราไม่น่าเชื่อเธอเลย เราไม่ควรจะทำตามแผนของเธอ” หลินทุบกำปั้นกับมืออย่างโมโหตัวเอง

“แต่ถ้าเราไม่ทำตามแผนเธอ บางทีเราทุกคนอาจจะตายอยู่ในตึกนั้นก็ได้”

“ฉันควรจะเข้าไปช่วยเธอ นายไม่ควรห้ามฉันไว้”

“แต่ผมก็ปล่อยให้คุณตายไม่ได้เหมือนกันนะครับ” จงซินเสียงเข้มขึ้น หลินโถมตัวเข้าไปกอดจงซิน อย่างอัดอั้น

ขณะนั้นเอง แพทริกเดินรี่เข้ามา ถูกบอดี้การ์ดของหลินขวางไว้ บอกว่านี่เป็นเขตหวงห้าม เข้าไม่ได้

แพทริกตวาดว่าทำไมจะเข้าไม่ได้ในเมื่อตนกำลังตามหาตัวคนร้ายอยู่ ผลักอกบอดี้การ์ดออกไปแล้วเดินเข้าไปหาหลินหลานเซ่อกับจงซิน ถามอย่างเอาเรื่องว่า ฤทัยนาคอยู่ไหน จงซินบอกว่าเธอเสียชีวิตแล้ว

“นายรู้ได้ไงว่าเธอเสียชีวิตแล้ว นี่มันเป็นแผนของพวกนายใช่ไหมที่สร้างสถานการณ์ให้ฤทัยนาคตาย”

หลินหลานเซ่อกระชากคอเสื้อแพทริกเข้าไปตะคอก

“ถ้าคุณพูดชื่อฤทัยนาคอีกคำละก็...ผมจะฆ่าคุณด้วยมือของผมเอง ออกไปจากที่ของผมเดี๋ยวนี้!” หลินเหวี่ยงแพทริกออกไป แพทริกหันจ้องพูดอย่างโกรธจัดก่อนออกไปว่า

“หลินหลานเซ่อ วันนี้ฉันจะไม่เอาเรื่องนาย แต่ฉันจะบอกให้นายรู้นะ ตราบใดที่ฉันยังไม่เห็นด้วยตาว่าฤทัยนาคตาย ฉันจะตามจับเด็กผู้หญิงคนนี้ให้ได้”

เมื่อแพทริกกับลูกน้องออกไปแล้ว จงซินสั่งอาซังให้ไล่นักข่าวและคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปจากที่นี่ให้หมด และห้ามบุคคลภายนอกเข้ามาในนี้เด็ดขาด

หลินทรุดนั่งอย่างทำใจไม่ได้ที่ฤทัยนาคหายไป จงซินเสนอให้กลับกันไปก่อนดีไหม หลินไม่ยอมกลับจนกว่าจะเจอศพฤทัยนาค จงซินจึงไปหาอะไรมาให้ดื่ม

ooooooo

จงซินกลับมาพร้อมกาแฟ ขณะหลินยกกาแฟดื่มนั้น เสียงมือถือของจงซินดังขึ้น พอหยิบดูจงซินบอกว่าเป็นเบอร์ของหลิน

หลินสงสัยว่ามือถือตนตกตอนที่โดดมาจากช่องขยะ จงซินกดรับ ปรากฏว่าสัญญาณขาดหายไป หลินสงสัยว่าใครเอามือถือตนไปโทร. จงซินสงสัยมากกว่านั้นว่า แล้วใครเป็นคนเก็บมือถือเขาได้
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีก จงซินรีบกดรับ...

ที่ช่องทิ้งขยะ นาคเนื้อตัวมอมแมมอยู่ในกองขยะ พยายามพูดในความมืด “จงซิน...นั่นนายหรือเปล่า”

“ฤทัยนาค!” จงซินอุทาน หลินมองขวับ “ฤทัย–นาคยังไม่ตายครับ” จงซินรีบส่งโทรศัพท์ให้หลิน

“ฤทัยนาค” หลินเรียกอย่างตื่นเต้นสุดชีวิต

“หา...หลินหลานเซ่อ นั่นนายเหรอ...นายปลอดภัยใช่ไหมหลินหลานเซ่อ” เสียงนาคตื่นเต้นมาก

“ใช่...ฉันเอง ฉันปลอดภัย แล้วเธอล่ะ เธออยู่ไหนฤทัยนาค” นาคบอกว่าตนไม่รู้ว่าอยู่ไหน รู้แต่ว่าในนี้มีแต่ขยะเต็มไปหมด หลินเดาได้ทันทีว่า “เธออยู่ในช่องเก็บขยะงั้นเหรอ”

นาคบอกว่าไม่รู้แต่มันเหม็นมากและมืดด้วย หลินขอให้เธออดทนแล้วหันบอกจงซินว่านาคติดอยู่ในช่องทิ้งขยะ

“ครับ เดี๋ยวผมจะให้คนของเราขุดไปที่ช่องทิ้งขยะก่อน อาเทียนเอาแปลนตึกมา แล้วบอกให้คนไปขุดที่ช่องทิ้งขยะด่วน”

เมื่อจงซินกับอาเทียนเริ่มดำเนินการ หลินพยายามพูดกับฤทัยนาค ปลุกใจ ให้กำลังใจเธอ บอกให้อดทนเพราะกำลังให้คนขุดลงไปหาเธอแล้ว

“อย่านานนะ...เพราะฉันว่าในห้องนี้มันเริ่มจะไม่มีอากาศแล้ว” หลินบอกให้เธออดทนเธอจะต้องไม่เป็นอะไร นาคพูดทั้งที่อ่อนเพลียมากแล้วว่า “ฉันดีใจนะที่รู้ว่านายปลอดภัย หลินหลานเซ่อ”

“ฉันก็ดีใจที่รู้ว่าเธอยังไม่ทิ้งฉันไป...ฤทัยนาค” แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากนาคแล้ว หลินตะโกน “ฤทัย–นาค...ฤทัยนาค เธอได้ยินฉันหรือเปล่า”

“อืมม์...ทำไมฉันง่วงๆ ไม่รู้ มึนหัวด้วย” เสียงนาคอ่อนล้าลงทุกที หลินบอกให้เธอต้องอดทน “ฉันจะพยายาม

แค่นี้ก่อนนะ” นาคปิดมือถือ หลินวิ่งออกไปบอกจงซินให้เร่งมือเพราะฤทัยนาคกำลังจะขาดอากาศหายใจ

ooooooo

ฤทัยนาคนอนอยู่ในกองขยะที่เหม็นคลุ้งไปหมด เหลือบเห็นขวดน้ำที่ยังมีน้ำเหลืออยู่ เธอเอื้อมไปหยิบเปิดดื่มเล็กน้อยแล้วเทรดหน้าตัวเอง พยายามสูดลมหายใจ

รถตักทำงานแข่งกับเวลาเต็มที่ แต่แล้วก็มีอุปสรรคขุดต่อไปไม่ได้เมื่อเจอคานขวางอยู่ คนขับรถตักบอก

จงซินว่าต้องเอาเครนใหญ่มายกคานออก ใช้เวลาประมาณหกชั่วโมง

“นานขนาดนั้นฤทัยนาคตายแน่” หลินร้อนใจ จงซินสั่งให้ช่างเอาแบบแปลนตึกมาดูที่ฐานราก จากการช่วยกันวิเคราะห์ช่องทางที่จะเจาะเข้าไปได้ พบว่าท่อระบายน้ำทิ้งสามารถเจาะเข้าไปถึงห้องเก็บขยะได้ “งั้นก็เร็ว
เลย” หลินเร่ง

ทันใดนั้น มือถือของจงซินดังขึ้น หลินรีบกดรับ เสียงนาคถามว่าขุดไปถึงไหนแล้ว พอหลินบอกว่าเวลานี้ มีปัญหาเราต้องเปลี่ยนที่ขุดใหม่ นาคพูดเสียงอ่อนล้าว่า

“ฉันคงทนไม่ไหวแล้ว” แต่พอหลินขอให้เธออดทนเพื่อตน นาคบอกว่า “ฉันจะพยายาม...”

“นี่เป็นคำสั่งนะฤทัยนาค เธอจะตายไม่ได้เข้าใจรึเปล่า ได้ยินไหม เธอจะตายไม่ได้!”

“แต่ฉันจะบอกนายว่า...ฉันกำลังจะตาย...” เสียงนาคขาดหายไปเพราะมือถือตกลงข้างตัวแล้ว...

หลินหลานเซ่อแทบจะคลั่ง เร่งให้ทุกคนลงมือขุดเมื่อไม่ได้ดั่งใจก็คว้าจอบจากคนงานไปขุดเอง

ในภาวะที่ใกล้หมดสตินั้น นาคเคลิ้มไปว่าเห็นแสงไฟจากมือถือสว่างวาบๆ นาคร้องถาม

“หลินหลานเซ่อ นั่นนายหรือ...นายจริงๆด้วย...” หลินมองและยิ้มให้ “นี่นายยิ้มหรือ เป็นครั้งที่สองที่ฉันเห็นรอยยิ้มของนายนะ...ฉันชอบจัง..เวลาที่นายยิ้ม...” นาคยิ้มให้แล้วค่อยๆหลับตาลง มือถือร่วงจากมือ...

ooooooo

หลินหลานเซ่อตั้งหน้าตั้งตาขุดอย่างไม่กลัวเหน็ดเหนื่อย ปากก็พร่ำบอก

“ฤทัยนาค เธอต้องรอฉันนะ เธอจะตายไม่ได้นะ” หลินสับจอบเข้าที่รูท่อน้ำทิ้งจนเห็นท่อ เขาสั่งคนงาน “ถอย ส่งไฟฉายมาเร็ว”

ทันทีที่คนงานส่งไฟฉายให้ หลินมุดเข้าไปในท่อทันที นายช่างมุดตามไป ส่วนจงซินสั่งให้เอาออกซิเจนมา แล้วมุดตามเข้าไปอย่างเร็ว

“ฤทัยนาค เธออยู่ไหน ฤทัยนาค...” หลินร้องถามไปตามท่อน้ำทิ้ง จนพบฤทัยนาคนอนหมดสติอยู่ หลินถลาเข้าประคองจับหน้านาคร้องเรียก “ฤทัยนาค..ฤทัยนาค...”
 
“เอาออกซิเจนมาเร็ว” จงซินตะโกนบอก ลูกน้องรีบส่งให้ หลินเอาออกซิเจนสวมให้นาคทันที “ตามหมอลงมาเร็ว” จงซินตะโกน

“ฤทัยนาค ตื่นสิ...เธอต้องตื่นนะฤทัยนาคเธอ

จะจากฉันไปไม่ได้นะ...ฤทัยนาค...นี่ฉันเองนะ ฉันหลิน–หลานเซ่อ...”

“หลินหลานเซ่อ...” นาคพึมพำ ถามเสียงแผ่วโผย “นายรักคุณเหม่ยจิงรึเปล่า”

“ไม่..ฉันไม่ได้รักเหม่ยจิง”

“แล้วพี่นันล่ะ นายรักพี่นันรึเปล่า”

“เปล่า ฉันไม่ได้รักพี่สาวเธอ”

“ถ้างั้น...ฉันขอ...” นาคพูดได้แค่นั้นก็หมดสติไปอีกครั้ง...หลินกอดร่างเขย่าเรียก จนนายช่างวิ่งมาบอกว่าหมอมาแล้ว หมอเข้าจับชีพจรนาค ครู่หนึ่งบอกว่า

“โอเค...เธอหายใจได้แล้ว เอาส่งโรงพยาบาลก่อน เอาตัวเธอออกไปเดี๋ยวนี้เลย”

หลินอุ้มร่างฤทัยนาควิ่งออกไปทันที

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้น แดดยามเช้าอ่อนๆ ส่องทาบลงมายังพื้นผิวที่ยังมีควันลอยกรุ่นท่ามกลางซากปรักหักพังของตึกฉายหง

หลินอุ้มร่างไร้สติของฤทัยนาคออกมาจากซากตึก ท่ามกลางเสียงปรบมือดีใจ ให้กำลังใจของผู้คน แดนนี่ปราดเข้ามาถามหลินทันทีว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง หลินบอกว่าเธอปลอดภัยแล้ว ส่วนจงซินรีบมากันแดนนี่ให้หลบไปอย่าขวางทางเจ้าหน้าที่ บอกหลินให้วางเธอไว้บนเตียง

“เธอปลอดภัยแล้วนะ เรากำลังจะพาเธอไปโรงพยาบาล” หลินประคองแก้มนาคบอกเบาๆ

แต่พอรถจะเคลื่อนออกนาคลืมตาพึมพำ “หลินหลานเซ่อ...” พลางพยายามจะลุกขึ้น จนเจ้าหน้าที่ต้องจับตัวไว้บอกอย่าเพิ่งขยับ แต่นาคก็ขืนตัวขึ้น “ไม่..ฉันมีเรื่องจะพูดกับเขา..”

“มีอะไร ลุกมาทำไม” หลินรีบเข้าไปหา นาคบอกว่าเมื่อกี้ตนยังพูดไม่จบ “เธอจะพูดอะไร...”

“ฉันมีคำถามจะถามนาย...ที่ฉันถามนายว่ารักคุณเหม่ยจิงรึเปล่า นายบอกว่าไม่...พอฉันถามว่ารักพี่นันหรือเปล่า นายก็บอกว่าเปล่า...ฉัน...ฉันก็เลยอยากถามนายว่า...ฉัน...รักนายได้ไหม”

ฤทัยนาคจ้องหน้าหลินหลานเซ่อแววตาหวาดหวั่นกับคำตอบที่จะได้รับ หลินหลานเซ่อมองนาคตะลึง จงซินมองทั้งสองไปมา นาคยังพยายามรวบรวมแรงพูดอย่างยากลำบากแต่พยายามที่จะพูดให้หมดหัวใจ...

“ฉันรู้ว่า ฉันไม่ใช่สเปกของนาย ฉันไม่น่ารักเหมือนพี่นัน ฉันไม่สวยสง่าเหมือนคุณเหม่ยจิง แล้วฉันก็ชอบสร้างปัญหาและเรื่องเดือดร้อนให้นายอยู่บ่อยๆ ...ฉันรู้ดีว่า ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่ผู้ชายทั้งโลกชอบ แล้วฉันก็อาจจะเป็นผู้หญิงคนสุดท้ายที่ผู้ชายจะมอง...ฉันเป็นความผิดพลาดที่นายได้มา แล้วนายก็อยากจะฆ่าฉันตั้งแต่วันแรกที่เจอ...”

ทุกคนที่อยู่รอบข้างต่างอึ้ง พูดอะไรไม่ออก ทุกสายตาจ้องหน้าฤทัยนาค  ลุ้น...ให้เธอมีแรงที่จะพูดจนหมดหัวใจที่อยากจะพูด...

“นายอาจจะรำคาญฉัน อยากไล่ให้ฉันไปอยู่ไกลๆ เพราะนายมีผู้หญิงให้เลือกมากมาย ที่สวยกว่า น่ารักกว่า แสนดีกว่า แต่...แต่...ฉัน...ฉันขอไม่เจียมตัว จะรักนาย...ได้ไหม...”

ฤทัยนาคมองหลินน้ำตารื้น หลินจ้องหน้านาค ขยับเข้าหา ถามอย่างขอคำสัญญาว่า...

“เธอจะรับผิดชอบทุกคำพูดของตัวเอง...จะรับผิดชอบและทำตามคำพูดตัวเองโดยไม่มีเงื่อนไขใช่ไหม” ฤทัยนาคอึกอัก “เธอจะไม่หนีไปไหน จะอยู่เคียงข้างฉัน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นใช่ไหม...บอกสิ...ว่าเธอจะอยู่เคียงข้างฉันตลอดไป...”

นาคพยักหน้ามองหลินหลานเซ่อนิ่ง แม้เสียงตอบจะขาดเป็นห้วง แต่มันคือคำสัญญาที่หนักแน่นว่า

“ฉันจะอยู่กับนายไม่หนีไปไหน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น”

หลินดึงร่างฤทัยนาคเข้าไปกอดแนบแน่น เสียงปรบมือจากทุกคนดังขึ้น จงซินยิ้มเต็มหน้าอย่างโล่งใจ ในขณะที่แดนนี่ทำหน้าฮึดฮัดหมั่นไส้

นาทีนี้...ของหลินหลานเซ่อและฤทัยนาค เหมือนโลกทั้งโลกมีแต่เขาและเธอ...หลินกอดฤทัยนาคแนบแน่น... นิ่ง...นาน...ดุจจะหยุดโลกไว้ในความทรงจำ...

ooooooo

แพทริกยังไม่ยอมแพ้ เข้ามาที่ห้องเก็บศพเพื่อขอดูศพฤทัยนาค หลินหลานเซ่อปรามว่ามากไปแล้ว คนตายไปแล้วยังจะเอาเรื่องอะไรอีก

“ก็ผมบอกคุณแล้วไง ถ้าผมไม่ได้เห็นด้วยตา ผมไม่มีวันเชื่อ” แพทริกยืนยัน หลินเลยประชดเชิญให้ไปดูเอาเอง

แพทริกเดินเข้าไปในห้องเก็บศพซึ่งเป็นห้องกระจก หลินหลานเซ่อกับจงซินยืนดูอยู่อีกห้องหนึ่ง แพทริกตรงไปเปิดผ้าคลุมศพออก เป็นศพผู้หญิงถูกไฟไหม้เกรียม แพทริกอึ้ง หันไปสบตาหลินและจงซินแล้วจึงดึงผ้าคลุมไว้ตามเดิม

“ว่าไงผู้กอง พอใจรึยัง” จงซินถามเมื่อแพทริกเดินออกมา หลินถามว่าเห็นศพก็คงหายสงสัยแล้วใช่ไหม

“ยัง  ผมจะเชื่อได้ยังไงว่าศพนั่นเป็นศพของฤทัยนาค พวกคุณอาจจะเอาศพใครมาวางตบตาผมก็ได้”

“งั้นคุณต้องคุยกับหมอแล้วล่ะ เพราะตอนนี้หมอเขายืนยันแล้วว่าเป็นฤทัยนาค” หลินพูดแล้วเดินออกไปกับจงซิน

แพทริกหันไปถามหมอว่าศพนี่คือเด็กที่ชื่อฤทัยนาคจริงหรือ หมอยืนยันว่า

“จริงครับ จากที่ตรวจดีเอ็นเอของศพ สามารถยืนยันได้ว่าตรงกับดีเอ็นเอของเด็กที่ชื่อฤทัยนาค นี่ไงครับ ถ้าผู้กองไม่เชื่อก็ดูจากรายงานนี้ได้เลย” หมอส่งเอกสารให้ แพทริกรับไปดู บอกหมออย่างจำต้องยอมรับว่า

“ถ้าหมอยืนยันผมคงต้องเชื่อ” แพทริกจำต้องยอมรับ แต่พอเดินมาเจอจงซินกับหลิน เขากลับถามว่า “ทำไมวันนั้นที่ผมไปหาคุณแล้วถามถึงฤทัยนาค คุณบอกไม่รู้จัก แต่มาวันนี้คุณกลับเจ้ากี้เจ้าการกับเรื่องของเด็กผู้หญิงคนนี้”

หลินไม่เพียงไม่ตอบแต่ยังเชิญเขาออกจากโรงพยาบาลในฐานะเจ้าของโรงพยาบาลที่ไม่ต้อนรับเขาด้วย

“อย่าให้ถึงทีฉันบ้าง วันนึงฉันจะจับแกสองคนเข้าคุก” แพทริกกล่าวอาฆาตก่อนถูกบอดี้การ์ดของหลินเชิญตัวออกไป แต่พอออกไปแล้วลูกน้องถามแพทริกว่า แบบนี้เราก็ปิดคดีได้แล้วใช่ไหม “ยัง! ปิดเฉพาะคดี
ฤทัยนาค แต่ไอ้คารอสฉันต้องหาทางจับมันให้ได้!”

บอดี้การ์ดยืนดูจนลิฟต์ปิดจึงกลับไป พร้อมกันนั้น หลินบอกกับจงซินขณะเดินออกไปอีกด้านหนึ่งว่า

“ตอนนี้ฤทัยนาคก็หายไปจากโลกนี้แล้ว”

ooooooo

คิวบิก

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด