สมาชิก

คิวบิก

ตอนที่ 12

เย็นวันนี้ หลินรับนันทกาไปออกงานไปด้วยกัน หลินนิ่งเสียจนนันทกาเหลือบมอง เธอเอามือกอดอกเอ่ยขึ้นว่า

“วันนี้อากาศเย็นจังเลยนะคะ” พูดแล้วเห็นหลินยังนิ่งเฉย เธอฝืนยิ้มพยายามชวนคุย “งานที่เราจะไปวันนี้เป็นงานอะไรหรือคะ”

“เธออยากรู้อะไรให้ถามจงซิน” หลินตอบโดยไม่หันมอง นันทกาถึงกับเหวอ เริ่มรู้สึกอึดอัดกับความเย็นชาของเขามากขึ้น แต่พอเขาพูดต่อ กลับถามว่า “ฤทัยนาคติดต่อมาบ้างรึเปล่า”

“เปล่าค่ะ นาคไม่ได้ติดต่อมาเลย”

นันทกาตอบอย่างเข้าใจไม่ได้กับท่าทีเย็นชาและคำถามถึงนาคของเขา ทั้งที่อยู่กับตน

ooooooo

นาคกลับไทยและหาบ้านพักได้แล้ว นาคหมุนคิวบิกที่เสมือนเป็นตัวแทนให้คิดถึงคนให้...

เย็นวันก่อนจากกัน ฝนตกหนัก นาคในชุดนักเรียนขี่จักรยานฝ่าสายฝนเข้ามาที่ตึกฉายหง บอกการ์ดว่าจะมาหาหลินหลานเซ่อ การ์ดไม่ให้ขึ้นไปอ้างว่าหลินกำลังคุยธุระกับท่านผู้ว่าฯ

“แต่ฉันมีเรื่องสำคัญต้องพบเขา บอกเขาหน่อยได้ไหมว่าฤทัยนาคมาหา...เรื่องสำคัญจริงๆนะ”

“งั้นรอเดี๋ยว” การ์ดบอกแล้วกดโทรศัพท์ “อาเฟย บอกคุณหลินว่าฤทัยนาคมาขอพบมีเรื่องสำคัญ”

“ขอบคุณนะ” นาคเอ่ยด้วยความรู้สึกขอบคุณจริงๆ

ไม่นานหลินเดินลงมาอย่างเร็ว พอเห็นนาคยืนหลบฝนตัวเปียกชุ่ม หลินชะงัก พอนาคหันมาบอกว่าเอาแฟ้มงานมาคืน หลินคว้ามือนาคจูงให้ขึ้นไปที่ห้องทำงานทันที

เมื่อขึ้นถึงห้องทำงาน หลินปล่อยมือให้นาคยืนอยู่กลางห้อง ครู่เดียวก็เอาผ้าขนหนูผืนเล็กมาเช็ดผมให้ นาคอึ้งงัน ครั้นเหลือบมอง ก็เห็นเขาใส่นาฬิกาที่เธอซื้อให้ นาคปลื้มจนเอ่ยออกมาเบาๆ

“ขอบคุณนะ” หลินถามงงๆว่าอะไร “ขอบคุณที่นายเช็ดผมให้กับ...นาฬิกา...ฉันไม่คิดว่านายจะใส่มัน” พูดแล้วเห็นหลินยิ้ม นาคจ้องชมทึ่ง “เวลาที่นายยิ้ม นายหล่อมากเลยรู้ไหม”

หลินชะงักมือ หยุดยิ้ม นาคมองอย่างแปลกใจ หลินเคลื่อนหน้าเข้าใกล้พูดเสียงอ่อนโยน

“นับจากพรุ่งนี้ไป ฉันไม่รู้ว่าเราจะได้เจอกันอีก รึเปล่า แต่ฉันอยากให้เธอรู้ว่า ฉันจะจดจำเธอตลอดไป”

นาคมองตะลึง อึ้ง หลินเคลื่อนหน้าเข้าใกล้ราวกับปากจะสัมผัสริมฝีปากนาค...นาคใจเต้นแรง แต่แล้วเขาเลื่อนริมฝีปากขึ้นไปที่หน้าผากสัมผัสหน้าผากนาคอยู่นิ่ง...นาน... ก่อนจะถอยออกมาจ้องนาคที่ยังตกตะลึงอยู่

“หนี้ทั้งหมดของเธอถือเป็นโมฆะและเมื่อเธอถึงเมืองไทย จะมีคนเอาเงินไปให้เธอสิบล้านเหรียญ”

หลินมองหน้านาคนิ่งอยู่อย่างนั้น แล้วโน้มหน้าเข้าจูบหน้าผากนาคอย่างแผ่วเบาอีกครั้ง...

นาคนึกถึงกลิ่นกรุ่นจากจุมพิตนั้น ความรู้สึกยังราวกับสัมผัสนั้นเพิ่งเกิดขึ้น...อดถามตัวเองไม่ได้ว่า

“มันคืออะไรกันนะ...ไม่จริงหรอก คนอย่างเขาน่ะหรือจะมาชอบเรา...”

ooooooo

หย่งเหวินอยู่ในที่ซ่องสุมของตัวเอง  เขาเปิดคอมพ์ดูการเคลื่อนไหวของหลินหลานเซ่อในสถานที่ต่างๆที่แอบถ่ายมาจนเจอรูปฤทัยนาค

“คิวบิก เธอคือคิวบิกงั้นเหรอ” หย่งเหวินจ้องหน้านาคในจอ นึกถึงวันที่เขายิงนาคแล้วหลินเข้ากอดปกป้องเธอไว้ แสยะยิ้มพึมพำ “ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างหลินหลานเซ่อจะมีจุดอ่อนอยู่ที่เด็กผู้หญิงหน้าตาแบบเธอ”

ระหว่างนั้น ลูกน้องมารายงานว่าตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาฤทัยนาคหายตัวไปจากที่นี่ ส่วนหลินหลานเซ่อ ลูกน้องรายงานว่า

“สายของเราที่แฝงตัวอยู่ในฉายหงกรุ๊ปบอกว่าหลินหลานเซ่อยังใช้ชีวิตเป็นปกติ ไม่มีอะไรต่างไปจากเดิม อ้อ มีแต่ผู้หญิงคู่ควงคนใหม่มาแทนเหม่ยจิง ชื่อนันทกาครับ เป็นผู้หญิงไทย”

หย่งเหวินถามว่าแต่ละวันหลินไปไหนบ้าง ลูกน้องรายงานว่าเลิกงานจากโรงเรียนก็กลับเข้าห้องไม่ไปไหนถ้าไม่มีงานสำคัญ หย่งเหวินอ่านเกมออกว่าหลินไม่ติดต่อกับเด็กเพื่อตัดไม่ให้ใครตามเธอเจอ ลูกน้องถามว่า จะให้ตนทำอย่างไรต่อไป

“ส่งคนไปที่เมืองไทย ฉันเชื่อว่าเธอกลับไปที่นั่น” ลูกน้องถามว่าเราจะหาเธอได้ที่ไหน “อย่าบอกว่าทำไม่ได้ถ้ายังไม่ได้ลงมือทำ หาตัวฤทัยนาคให้เจอ เพราะเธอคือจุดตายของหลินหลานเซ่อ” เมื่อลูกน้องกลับไปแล้วหย่งเหวินกดรูปหลินหลานเซ่อในคอมพ์จ้องคำราม “หลินหลาน– เซ่อ ฉันจะเก็บผู้หญิงของแกทีละคนล่ะนะ”

รูปแรกที่หย่งเหวินกดขึ้นดูคือ เหม่ยจิง!

ooooooo

หย่งเหวินให้ลูกน้องลงมือทันที ไปดักเล่นงานเหม่ยจิง  ขณะบอดี้การ์ดมาส่งเธอที่อพาร์ตเมนต์และตามเข้าลิฟต์เพื่อไปส่งถึงหน้าห้องตามคำสั่งของหลิน

มีมือปืนสังหารชายหญิงสองคนแต่งตัวดีเดินตามเข้าลิฟต์ มือปืนชายแทรกเข้าไปยืนด้านหลังบอดี้การ์ดที่ยืนตรงประตู ถามชายหญิงทั้งสองว่าจะไปชั้นไหน ผู้หญิงบอกว่าชั้น 6

ขณะบอดี้การ์ดกดเลขชั้นและเหม่ยจิงมองตัวเลขที่เลื่อนขึ้นไปนั่น ชายมือสังหารก็ใช้ลวดรัดคอบอดี้การ์ดจากด้านหลังและมือสังหารหญิงก็จับตัวเหม่ยจิงทันที พอลิฟต์เปิดมือสังหารชายโผล่หน้าออกไปดู แล้วมือสังหารหญิงก็ลากตัวเหม่ยจิงออกไปทางบันไดหนีไฟ

ไม่นาน หลินหลานเซ่อที่ทำงานกับจงซินอยู่ ก็เห็นหน้าเหม่ยจิงในสภาพบอบช้ำปรากฏบนหน้าจอคอมพ์ เธอร้องขอความช่วยเหลือ “หลานเซ่อ ช่วยฉันด้วย...” สิ้นเสียงเหม่ยจิง หย่งเหวินก็จิกผมเธอโผล่หน้าตัวเองมาเย้ยหลินว่าคิดถึงอดีตคู่นอนคนสวยนี้ไหม

“หย่งเหวิน ปล่อยเหม่ยจิงซะ แล้วเราจะไม่เอาเรื่องแก” จงซินตวาด ถูกหย่งเหวินเย้ยว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขา เป็นเรื่องระหว่างตนกับหลินหลานเซ่อ  หลินถามว่าต้องการอะไร หย่งเหวินบอกว่ามีข้อเสนอที่จะคุยกับเขา

“แกยังกล้าออกคำสั่งกับฉันอีกหรือ ฉันจะให้เวลาแกถึงพรุ่งนี้ ถ้าเที่ยงแกไม่ไปพบฉันที่โกดังเหลียงซาน แกก็รอรับศพนังเหม่ยจิงที่ปากแม่น้ำได้เลย”

ระหว่างนั้น เหม่ยจิงตะโกนบอกหลินหลานเซ่ออย่าเชื่อหย่งเหวินเพราะมันจะหลอกเขาไปฆ่าหย่งเหวินยังตะโกนอย่างบ้าคลั่งว่า พรุ่งนี้เที่ยงถ้าหลินไม่มาพบตนเหม่ยจิงตาย! สั่งให้หลินไปคนเดียวถ้าเห็นเขามากับลูกน้องแม้แต่คนเดียว คงไม่ต้องบอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับดาราม้าทองคำคนนี้!

เมื่อหย่งเหวินกระชากเหม่ยจิงหลุดจากจอไปแล้ว หลินถามจงซินว่าจะเอาไงดี

“ถ้าคุณไปมันต้องฆ่าคุณแน่”

“แต่ถ้าฉันไม่ไป เหม่ยจิงก็ต้องตาย ฉันปล่อยให้เธอตายไม่ได้หรอกไม่ว่ายังไงเราต้องหาทางช่วยเหลือเธอ”

ooooooo

หลังจากนั้น หย่งเหวินขู่เหม่ยจิงว่าอยากเอารูปเธอลงอินสตาแกรมให้วงการเห็นหน้าดาราม้าทองคำเวลานี้จริงๆ

เหม่ยจิงบอกว่าถ้าเขาทำหลินต้องฆ่าเขาแน่ หย่งเหวินถามว่าคิดว่าหลินจะช่วยเธอหรือ เขาคงปล่อยให้เธอตายที่นี่ “เพราะมันไม่ได้รักเธอ มันรักนังคิวบิกนังเด็กคนไทยนั่น”

“ถึงเขาจะไม่รักฉัน แต่เขาไม่เคยมีจิตใจอำมหิตเลวทรามเหมือนแก!” เหม่ยจิงยังพูดใส่หน้าว่า “ฉันรู้ว่าแกฆ่าไป่หลิง” ถูกหย่งเหวินตะโกนใส่หน้าว่าต่อไปก็จะฆ่าเธอด้วย! “ฉันขอสาปแช่งแก ให้แกตกนรกหมกไหม้ คนเนรคุณอย่างแกไม่มีวันเจริญหรอก”

หย่งเหวินชักปืนออกมาจ่อ เหม่ยจิงถ้าให้ยิง มันบอกว่าไม่ต้องห่วง ยิงเธอแน่ แต่รอให้หลินมาก่อน จะฆ่าหลินต่อหน้าเธอแล้วค่อยฆ่าเธอตามหลัง ขอแค่ให้หลินกล้ามาเถอะ!

เมื่อหย่งเหวินออกไป เหม่ยจิงใช้ปิ่นปักผมกรีดเทปที่พันมือแล้วแก้ที่พันเท้าออก ระหว่างนั้นหย่งเหวินเกิดระแวงเดินย้อนกลับมาที่ห้อง พอเข้าห้องปรากฏว่าเหม่ยจิงหายไปแล้ว ที่แท้เธอแอบอยู่หลังประตูใช้เก้าอี้ฟาดเขา แย่งปืนที่เอวยิงใส่ลูกน้องหย่งเหวินที่ตามมาแล้ววิ่งฝ่าออกไป

เธอถูกลูกน้องหย่งเหวินกรูกันมาดัก ถูกเธอยิงกลิ้งแล้ววิ่งหนีไป ลูกน้องคนหนึ่งวิ่งมาดูหย่งเหวิน เขาไล่ให้ไปดักเหม่ยจิงอย่าให้หนีไปได้

แม้เหม่ยจิงจะหนีสุดชีวิต แต่เพราะถูกทั้งหย่งเหวินและสมุนไล่ล่า เธอวิ่งหนีออกไปถึงกลางซอยก็ถูก

หย่งเหวินยิงจากข้างหลังแล้วตามยิงซ้ำจนตายทั้งที่ตาเบิกโพลง หย่งเหวินหันหลังเดินกลับทิ้งร่างโชกเลือดของเธอไว้ตรงนั้น

เมื่อหลินและจงซินมาถึงเจอแต่ร่างไร้วิญญาณของเหม่ยจิง

“หย่งเหวิน ฉันจะฆ่าแกด้วยมือฉันเอง” หลิน–หลานเซ่อคำราม

“ฉันขอโทษ...ที่ฉันมาช้าไป” จงซินประคองร่างเหม่ยจิงไว้ในอ้อมแขนบอกเธอว่า “ฉันจะไม่ยอมให้เธอตายฟรี”

ooooooo

ในพิธีที่สุสาน หลังจากบาทหลวงทำพิธีทางศาสนาเสร็จ บรรดาผู้มาร่วมพิธีต่างโยนดอกไม้ลงในหลุมศพ

เพ่ยอิงกับมีนามาร่วมงานด้วยความเศร้าโศกเสียใจ จงซินยืนอยู่เป็นคนสุดท้าย เขามองดอกไม้ในมือ คิดถึงวันนั้น...วันที่เหม่ยจิงเอาโทรศัพท์ของเขาไปเปิดดูเห็นรูปตัวเองในอิริยาบถต่างๆ หลายรูป วันนั้นเหม่ยจิงถามว่าเขาเคยรักใครไหม พอเขาตอบว่าเคย เธอถามว่าบอกหน่อยได้ไหมว่าใคร อยากรู้จริงๆ ว่าเขาจะรักผู้หญิงแบบไหน...

วันนั้นจงซินไม่ตอบ แต่วันนี้...จงซินยกดอกไม้ขึ้นจูบบอกเมื่อเธอจากไปแล้วว่า

“ฉันอยากให้เธอรู้นะว่าฉันรักเธอ ฟางเหม่ยจิง” จงซินยกดอกไม้ขึ้นมาจูบอีกครั้งก่อนโยนลงไปแล้วจึงเดินกลับ...

ระหว่างออกจากสุสาน เพ่ยอิงคุยกับหลินเรื่องหย่งเหวิน บอกว่าได้ให้คนของตนออกตามหามันอยู่เหมือนกัน ถามว่า

“ถ้าฉันเจอตัวมัน นายจะให้ฉันฆ่ามันเลย หรือว่านายอยากจะฆ่ามันด้วยมือตัวเอง”

“แกอยากทำอะไรก็ทำเถอะ” หลินตอบอย่างไร้อารมณ์

“นายจำได้ไหมฉันเคยบอกพวกนายแล้วว่า

มันเป็นคนลอบฆ่านาย แต่พวกนายไม่เชื่อฉัน” พูดแล้วมองหน้าจงซินบอกว่า “ฉันขอทายได้เลยว่าคนที่มันจะฆ่าต่อจากนายก็คือท่านซาน นายรู้ไหมจงซินว่าทำไมไอ้หย่งเหวินมันถึงเป็นคนอย่างนั้น เพราะมันไม่มีพ่อแม่สั่งสอนไง”

มีนาเกรงใจหลินและจงซินที่เพ่ยอิงพูดมากเกินไป เธอจึงชวนเขากลับ เพ่ยอิงยังอยากคุยเรื่องธุรกิจต่อ ถูกหลินตัดบทว่า กลับไปเถอะเพราะตนมีเรื่องสำคัญต้องทำ

ooooooo

เมื่อหลินกับจงซินกลับถึงห้องทำงาน จงซินขออนุญาตหลินว่าพรุ่งนี้เช้าตนขอเวลาสักสองสามชั่วโมงจะไปเก็บทรัพย์สินของเหม่ยจิงส่งให้พ่อแม่เธอ
หลินอนุญาต แต่พอจงซินจะออกไป หลินเรียกไว้ ถามว่าทำไมไม่บอกตนว่ารักเหม่ยจิง

ถูกถามตรงๆอย่างกะทันหันทำให้จงซินอึกอัก หลินพูดต่อว่า

“จงซิน ถึงขนาดนี้แล้ว เราไม่ควรจะมีอะไรต้องปิดบังกันนะ แล้วเหม่ยจิงเองฉันก็ไม่ได้...”

“คุณหลินครับ ผมขอบคุณที่คุณหลินเข้าใจ แต่เรื่องเหม่ยจิง ผมต่างหากที่เป็นฝ่ายต้องขอโทษที่แอบคิดไม่ดีกับเธอ”

“นายไม่ผิดหรอก เพราะมันเป็นเรื่องของความรัก ก่อนหน้านี้ฉันก็เคยคิดแบบนายว่าจะไม่มีวันรักผู้หญิงคนไหน แต่แล้วฉันก็บังคับหัวใจตัวเองไม่ได้ ตั้งแต่วันที่
ฉันได้รักฤทัยนาค โลกทั้งโลกมันก็เปลี่ยนไป ทุกครั้งที่ฉันได้อยู่ใกล้ชิดกับเธอ มันมีความสุขอย่างประหลาด...ฉันอยากให้นายได้มีความรู้สึกเหมือนฉันบ้าง...”

“ขอบคุณคุณหลินมากครับ” จงซินเอ่ยแล้วเดินออกไป

หลินนั่งคิดถึงเหม่ยจิงและฤทัยนาค อยู่อย่างอ้างว้างในห้องที่เงียบเหงา...

วันรุ่งขึ้น เมื่อจงซินไปที่ห้องเหม่ยจิง นึกถึงวันที่เธอเอาโทรศัพท์ตนไปดู เมื่อเขาเดินออกจากห้องวันนั้น เหม่ยจิงโผล่หน้ามาพูดเบาๆ

“ทำไมไม่บอกฉันว่าคุณรักฉัน ถ้าคุณบอก ฉันก็จะแต่งงานกับคุณ...”

จงซินสะดุ้งจากภวังค์เมื่อลูกน้องมาบอกว่า

แม่บ้านมาแล้วจะให้เข้ามาเก็บของเลยไหม จงซินพยักหน้าแล้วเดินออกไป ให้แม่บ้านถือลังเข้ามาเก็บของ
ในห้อง

ooooooo

ที่เมืองไทย นาคอ่านข่าวเหม่ยจิงถูกฆ่าตายอยู่ในห้องพัก เธอโทรศัพท์หาแดนนี่ทันที แดนนี่ตกใจเพราะหลินสั่งไว้ว่าห้ามติดต่อกัน เพราะถ้าตำรวจดักฟังโทรศัพท์ของตน เราจะเดือดร้อนกันหมด

นาคถามว่าเหม่ยจิงถูกใครฆ่า และฆ่าด้วยเรื่องอะไร ถามว่าแล้วหลินหลานเซ่อเสียใจมากไหม

“ยังมีหน้ามาถาม เขาจะเสียใจทำไม เขารักเธอ เขาไม่ได้รักฟางเหม่ยจิงซะหน่อย”

“นายพูดบ้าๆอยู่เรื่อย แค่นี้นะ” นาคตัดบท เขินจนต้องก้มอ่านหนังสือพิมพ์อีกครั้ง

พอวางสายจากนาค แดนนี่ก็ถูกแพทริกเข้ามาถามว่าคุยกับใคร แดนนี่เล่นลิ้นว่าตนจะคุยกับใครก็ได้เขาไม่เกี่ยว เลยถูกแพทริกดึงโทรศัพท์ไปถามว่าคงไม่ใช่คุยกับคารอสนะ แดนนี่ตกใจทวงโทรศัพท์คืน

แพทริกไม่ยอมคืน อ้างตัวเป็นตำรวจสากลที่กำลังตามหาคารอส ทาเปีย พ่อเขาฉะนั้นย่อมมีสิทธิ์สงสัยว่าเบอร์นี้อาจโทร.มาจากพ่อเขาก็ได้ แต่พอกดดูปรากฏรหัส 066 ลูกน้องแพทริกบอกว่าเป็นรหัสของเมืองไทย แพทริกกดโทร.กลับทันที

นาคเห็นเบอร์ของแดนนี่โทร.กลับ แต่เธอฉุกคิดได้ว่าแดนนี่เป็นคนบอกเองว่าไม่ให้โทร.หา กลัวตำรวจดักฟังจึงไม่รับสาย ระหว่างนั้นแดนนี่ก็พยายามยื้อจะเอาโทรศัพท์คืน แพทริกไม่ยอมให้บอกว่าแค่อยากรู้ว่ามันเป็นเบอร์ของใครเท่านั้น

“คืนโทรศัพท์ให้แดนนี่เดี๋ยวนี้ผู้กอง” หลินหลานเซ่อเข้ามาแทรก

“สวัสดีคุณหลินหลานเซ่อ ผมกำลังสอบสวนหาผู้ร้ายอยู่” แพทริกตีหน้าตาย

“ที่นี่เป็นโรงเรียนของผม คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต” แพทริกทำท่าจะโต้แย้ง ถูกหลินตัดบทว่า

“ถ้าคุณไม่คืนโทรศัพท์ละก็...ผมจะให้คนของผมจับคุณออกไป แล้วผมจะฟ้องให้คุณติดคุก”

แพทริกยังคงทำไม่รู้ไม่ชี้ จนหลินเรียกบอดี้การ์ด แพทริกจึงยอมคืนให้

“นายอย่าถือว่าเป็นตำรวจแล้วมาทำเบ่งกับฉัน นะ ฉันจะแจ้งความเอาเรื่องนายให้ถึงที่สุด” แดนนี่ขู่

“เชิญ” แพทริกท้า

“ออกไปจากโรงเรียนผมได้แล้ว หรือคุณจะให้คนของผมจับคุณโยนออกไป” หลินไล่

ลูกน้องแพทริกชักปืน เขาสั่งลูกน้องให้เก็บปืน แต่ขณะจะออกไป ถูกหลินเอามือแตะหน้าอกไว้ย้ำว่า

“ผมจะเตือนอีกครั้ง ถ้าคุณมาที่นี่โดยที่ผมไม่ได้อนุญาตละก็...คุณจะไม่ได้เดินกลับออกไปแน่”

“ผมก็อยากจะบอกให้คุณรู้นะ ผมจะต้องหาตัวเด็กผู้หญิงที่ชื่อฤทัยนาคให้เจอ แล้วเมื่อถึงตอนนั้น ผมจะทำให้คุณเหลือตัวเท่ามดเลย”

เมื่อแพทริกออกไปแล้ว แดนนี่ขอบใจหลินบอกว่าถ้าเขามาไม่ทันละก็...

“ใครโทร.มา” หลินตัดบท

“จะใครล่ะ ก็ฤทัยนาคน่ะสิ”

หลินหน้าตึงทันที ตำหนิว่า “ฉันบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าห้ามนายติดต่อกับเธอ”

“ฉันไม่ได้โทร. เด็กนายต่างหากที่โทร.หาฉัน” หลินถามว่าโทร.เรื่องอะไร “เธอเห็นข่าวเหม่ยจิงตายก็เลยเป็นห่วงนายน่ะสิ”

“ถ้าเธอโทร.มาอีก นายต้องไม่รับสาย เข้าใจรึเปล่า” หลินหันจะเดินออกไป

“เดี๋ยว...หลินหลานเซ่อ นายว่าฤทัยนาคจะปลอดภัยไหม” แดนนี่ถาม หลินไม่ตอบ เดินออกไปเลย

แดนนี่พ่นลมหายใจพึมพำ “เกือบไปแล้วฤทัยนาค”

ลูกน้องแพทริกพูดอย่างไม่พอใจขณะเดินออกไปว่า หลินหลานเซ่อกร่างมาก แพทริกพูดอาฆาตว่า

“มันยังไม่รู้จักฉันดี เอาไว้ให้ได้ตัวเด็กที่ชื่อฤทัยนาคก่อนเถอะ ฉันจะรวบมันเข้าคุกพร้อมกับไอ้คารอสเลย”

ooooooo

เมื่อหลินกลับเข้าห้องทำงาน เขาสั่งจงซินให้ส่งคนของเราประกบแพทริกไว้ ตนต้องรู้ความเคลื่อนไหวทั้งหมดของเขา และประกาศรางวัลหนึ่งล้านถ้าใครเจอตัวหย่งเหวิน

จงซินเป็นห่วงนันทกา เสนอหลินว่า “ผมคิดว่าไอ้หย่งเหวินอาจจะไม่ปล่อยเธอไว้เหมือนกัน”

“ใช่...ฉันลืมเธอไปอีกคน มันฆ่าเหม่ยจิงได้มันก็ต้องฆ่านันทกาได้เหมือนกัน บอกพ่อเธอไม่จำเป็นห้ามออกไปไหน แล้วส่งคนคุ้มกันเธออีกเท่านึง”

ทันใดนั้น จงซินได้รับโทรศัพท์จากอาเฟย

“ว่าไงอาเฟย...ที่ไหน...ดี เฝ้ามันไว้” แล้วหันบอกหลินว่า อาเฟยโทร.มาบอกว่าเจอตัวหย่งเหวินแล้ว มันอยู่ที่ท่าเรือซีฮอว์ก”

“ไอ้หย่งเหวิน ต่อให้มีปีกแกก็หนีไม่พ้น” หลินลุกขึ้นจิกตาอย่างหมายมาด

ooooooo

ไวเท่าความคิด หลินส่งบอดี้การ์ดของตนไปเก็บสมุนของหย่งเหวินบนเรือ แล้วหลินก็เดินหาหย่งเหวินจนถึงลานบนเรือ เจอลูกน้องหย่งเหวิน 5 คนนั่งเล่นไพ่กันอยู่มีกระป๋องเครื่องดื่มทิ้งเกลื่อน หลินกับจงซินและลูกน้องยิงกราดจนพวกมันล้มตายเป็นใบไม้ร่วง ข้าวของกระจุยกระจาย

ที่เคบินชั้นล่าง หย่งเหวินกำลังคีบกับข้าวเข้าปาก พลันก็ชะงักเมื่อได้ยินเสียงปืน อึดใจเดียวเห็นลูกน้องวิ่งเข้ามาในสภาพถูกกระสุนเจาะเข้ากลางหลัง ร้องบอกหย่งเหวิน

“หนีเร็วพี่ หลินหลานเซ่อมา”

หย่งเหวินทิ้งตะเกียบคว้าปืนทันที พอดีหลินกับจงซินโผล่เข้ามา หย่งเหวินสาดกระสุนใส่ทันที แต่ทั้งหลินกับจงซินระวังตัวอยู่แล้วหลบได้หวุดหวิด ขณะนั้นเองลูกน้องหย่งเหวินอีกสองคนวิ่งเข้ามา หลินกับจงซินหันยิงมัน หย่งเหวินได้รับการคุ้มกันจากลูกน้องพาหนีออกไป

“ตามมันไป” หลินตะโกนก้อง หย่งเหวินหนีออกมาหยุดที่บันไดจะปีนขึ้นไป หลินวิ่งตามมาเห็นตะโกนบอก

“มันอยู่นั่นจงซิน”

หลินจะตามขึ้นไป ถูกหย่งเหวินสาดกระสุนใส่จึงต้องหลบ หย่งเหวินตะโกนท้าลงมาว่า

“แน่จริงตามขึ้นมาหลินหลานเซ่อ ถ้าแกไม่กลัวตายก็ขึ้นมาเลย”

หลินหันพยักหน้าให้จงซิน ได้จังหวะก็สาดกระสุนเปิดทางแล้วพากันปีนขึ้นไป

ในที่สุดหย่งเหวินหลบออกไปอีกทางแล้วกระชากประตูปิดทันที หลินมาถึงพยายามกระชากประตูแต่เปิดไม่ออก เขาตะโกนบอกจงซินให้หาทางออกเร็ว เพราะมันล็อกประตูไว้

“ไปด้านหลังครับ” จงซินตะโกนบอก แล้ววิ่งนำไป
ooooooo
ที่กราบเรือ หย่งเหวินวิ่งออกมาอีกทางเจอบอดี้การ์ดของหลิน แต่ก็ถูกหย่งเหวินยิงร่วง แล้วกระโดดลงเรือเล็กปลดเชือกสตาร์ตเรือ

หลินกับจงซินวิ่งตามมาถึง จงซินร้องบอกหลินว่ามันกำลังจะหนี ทั้งสองวิ่งไล่ตามแต่เรือของหย่งเหวินก็บ่ายหน้าออกไปแล้ว หลินยิงตามจนหมดแม็กแต่ไม่ได้ผล ทั้งสองได้แต่มองตามด้วยความแค้น

หย่งเหวินหันมองจากเรือเล็กมาที่เรือใหญ่ แสยะยิ้มคำราม

“มันคงนึกว่ามันฉลาดกว่าเรา” แล้วกดโทรศัพท์ทันที

ที่ใต้ท้องเรือใหญ่เห็นไฟกะพริบที่ระเบิด อึดใจต่อมา เกิดระเบิดขึ้นที่กลางเรือสนั่นหวั่นไหว

หลินหลานเซ่อ จงซินและลูกน้องพากันกระโดดน้ำหนี ในขณะที่เรือใหญ่ยังเกิดระเบิดขึ้นอีกหลายลูกติดๆกัน

ooooooo

คิวบิก

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด