สมาชิก

คิวบิก

ตอนที่ 11

เมื่อนาคมานั่งกินแฮมเบอร์เกอร์กับแดนนี่ที่ริมเบย์ เธอนั่งเหม่อคิดถึงเหตุการณ์เมื่อเช้าที่ไปรับพ่อกับนันทกาจนแดนนี่ถามว่าคิดอะไร

นาคบอกว่าไม่มีอะไร แต่ปดแดนนี่ไม่ได้ พอถูกคาดคั้น นาคยอมรับว่าอยากหางานที่ได้เงินมากกว่านี้ ถามว่าพ่อเขามีงานอะไรให้ทำบ้างไหม แดนนี่ถามว่าเธอจะขนอาวุธอีกหรือ “ใช่...ถ้าพ่อนายจะจ้าง”

“เธอคิดว่าเธอเคยทำงานนั่นได้ครั้งนึง แล้วตัวเองจะเก่งกาจจนทำได้สำเร็จทุกครั้งรึไง เธอรู้รึเปล่า ถ้าเธอหลุดเข้าไปในวงการนี้เธอจะกลับออกไปไม่ได้”

นาคบอกว่ารู้ แต่มันคืนหนทางเดียวที่จะหาเงินมาใช้หนี้ได้เร็วที่สุด แดนนี่ไม่เห็นด้วยถามว่า ไหนบอกว่าหลินรับข้อเสนอของเธอแล้วไง นาคถอนใจยอมรับว่าตนไม่ได้กลัวหลิน แต่กลัวใจพี่สาวตัวเองมากกว่า

“ทำไม พี่สาวเธอชอบหลินหลานเซ่อเหรอ” นาคบอกว่าแค่หวั่นใจ แดนนี่ยุว่า “แต่ถ้าชอบก็ดีน่ะสิ เธอกับพ่อก็จะได้เป็นอิสระไม่ต้องใช้หนี้ ทุกฝ่ายวินวินแฮปปี้เอนดิ้ง”

นาคกลัวพี่สาวตนจะตกนรกทั้งเป็น เพราะเหม่ยจิง บอกว่าหลินไม่เคยรักใคร แดนนี่ติงว่าถ้าพี่สาวเธอ

รักเขาก็ต้องยอมรับสภาพได้ พูดประชดหลินว่า ตนหวังว่ามาเฟียหนุ่มจะล้างมือจากวงการไปมีชีวิตครอบครัวสุขสันต์ นาคถามว่าเป็นไปไม่ได้หรือ

“ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะได้ แต่สำหรับหลินหลานเซ่อ ฉันว่าเขาไม่มีวันทิ้งลูกน้องไว้ข้างหลังเพื่อผู้หญิงคนเดียวหรอก ว่าแต่ที่พูดมาทั้งหมดเนี่ย เธอหวงพี่สาว หรือว่าหวงหลินหลานเซ่อกันแน่”

นาคบอกว่าไม่ใช่ ตนแค่ห่วงพี่สาวและที่สำคัญคนอย่างหลินไม่มีทางมองผู้หญิงอย่างตนหรอก แดนนี่ฟังแล้วยิ้มด้วยความรู้สึกเดิมๆ ที่มีต่อนาคว่า ช่างซื่อบ้ือเสียจริงๆไม่ประสาอะไรเล้ย!

ooooooo

ที่ห้องทำงานหลิน จงซินเข้ามาบอกหลินว่าให้คนไปรับตัวยุทธพงษ์มาแล้ว

ทั้งสองคุยกันถึงคะแนนทดสอบไอคิวฤทัยนาค จงซินมองทึ่งเมื่อเห็นไอคิวนาคสูงถึง 153 หลินบอกว่าคนปกติทั่วไปจะมีไอคิวประมาณ 90-100 เท่านั้น จงซินยอมรับว่านาคมีไอคิวสูงระดับอัจฉริยะทีเดียว

“นายจำได้ไหม ตอนที่ยุทธพงษ์ส่งฤทัยนาคมาให้เรา ในจดหมายบอกว่าเธอจะทำประโยชน์ให้เรามากกว่านันทกา” จงซินถามว่าหมายถึงยุทธพงษ์รู้ว่านาคไม่ใช่เด็กธรรมดา? “ใช่...ฉันคิดว่านายยุทธพงษ์มีจุดประสงค์บางอย่างถึงส่งฤทัยนาคมาให้เรา” หลินมั่นใจเช่นนั้น

จนเมื่อยุทธพงษ์มาถึง เขาขอโทษหลินที่ส่งฤทัยนาคมาแทนนันทกา หลินบอกว่าตนต้องการคำอธิบาย

ยุทธพงษ์อึกอักไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร เลยถามหลินว่า

“คุณหลินคงรู้จักตำแหน่งเงาในฉายหงกรุ๊ปใช่ไหมครับ” จงซินขัดขึ้นว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเงา “เพราะผมรู้จักคนที่เป็นเงาของผู้นำสูงสุดของฉายหงกรุ๊ปคนก่อน ผมกับเขาเป็นเพื่อนรักกัน แต่ผมไม่เคยรู้ว่าเขาทำงานให้ใครและมีตำแหน่งอะไร จนกระทั่งวันหนึ่งเขาเอาลูกสาวที่เพิ่งเกิดได้ไม่กี่เดือนมาฝากไว้กับผม...”

ยุทธพงษ์เล่าว่า เพื่อนรักคนนั้นบอกว่าเขาทำงานให้กับมาเฟียของฉายหงกรุ๊ปและเล่าความลับเกี่ยวกับเงาให้ตนฟังว่า “เขาคือคนที่คิดโครงสร้างทั้งหมดของฉายหงกรุ๊ปขึ้นมา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จะไม่มีใครล้มระบบของฉายหงลงได้แม้แต่กฎหมาย เขาบอกว่าเขาเป็นบุคคลที่ใครหลายคนต้องการตัวและต้องการทำลายในเวลาเดียวกัน”

ยุทธพงษ์เล่าเหตุการณ์ในอดีตอย่างคนรู้จริงให้หลินกับจงซินฟังว่า

วันหนึ่ง หย่งสือพ่อของหลินหลานเซ่อไปกินอาหาร กับเงาที่ร้านอาหาร เงาถามว่าคนของเราหายไปไหนหมด บอกหย่งสือว่าเราถูกหักหลังแล้ว เงาพาหย่งสือวิ่งไปออกด้านหลัง แต่ถูกมือปืนของฝ่ายตรงข้ามดักอยู่แล้วยิงทั้งสองคนเสียชีวิต

ยุทธพงษ์เล่าว่าในที่สุดเงาก็เสียชีวิตและอีกไม่นาน ภรรยาของเขาก็ถูกฆ่าตาย แล้วสรุปว่า

“เท่าที่ผมรู้ ช่วงนั้นฉายหงกรุ๊ปสูญเสียอะไรไปเยอะมาก รวมทั้งผู้นำสูงสุดของฉายหงกรุ๊ปคือคุณพ่อคุณ” ยุทธพงษ์เล่าว่าเวลานั้นธุรกิจตนล้มละลายไม่มีเงินใช้หนี้ กอปรกับเชื่อว่าฤทัยนาคเอาตัวรอดได้จึงส่งมาแทนนันทกา เล่าอย่างเชื่อมั่นว่า

“สิบเจ็ดปีที่ผมเลี้ยงนาค ผมไม่ได้เลี้ยงเธอแบบ เด็กทั่วไป ยิ่งผมรู้ว่าเธอฉลาดมีไอคิวสูงกว่าเด็กธรรมดา ผมยิ่งพัฒนา ฝึกพรสวรรค์ที่เธอมี เพื่อให้เธอก้าวขึ้นไปยืนในจุดเดียวกับพ่อของเธอ”

ฟังเหตุผลของยุทธพงษ์กอปรกับที่ได้ทดสอบไอคิวของนาคแล้ว หลินสรุปว่า

“เอาล่ะ ผมเข้าใจแล้ว สรุปว่าเงื่อนไขที่คุณเคยส่งแฟกซ์มาหาผม ผมตกลงตามนั้น ให้ฤทัยนาคอยู่ที่นี่ แทนนันทกา” ยุทธพงษ์บอกว่าตนไม่เข้าใจ จงซินชี้แจงแทนว่า หลินยกหนี้ให้เขาแลกกับฤทัยนาค หลินตัดบท ว่า “เอาล่ะ ผมขอตัว” ว่าแล้วเดินกลับเข้าห้องไป

ยุทธพงษ์ถามจงซินว่าหลินชอบนาคหรือเปล่า จงซินถามว่าแล้วเขาคิดอย่างไร

“ไม่รู้สิ ผมไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนเพราะนาคไม่ใช่เด็กผู้หญิงประเภทที่ผู้ชายจะชอบง่ายๆ” จงซินติงว่าถึงนาคจะไม่ใช่ลูกสาวเขาแต่ก็อย่าดูถูกเธอ “เปล่า...ผมไม่ได้คิดอย่างนั้น ถึงนาคจะไม่ใช่ลูกสาวผมแต่ผมก็รักเธอไม่น้อยไปกว่านันทกา อ้อ...แล้วนาครู้ตัวหรือเปล่า ว่าคุณหลินคิดยังไงกับเธอ”

“เรื่องนี้คุณคงต้องไปถามลูกสาว เพราะผมไม่รู้ เชิญครับ” จงซินผายมือให้ยุทธพงษ์กลับออกไป

ooooooo

ระหว่างที่ยุทธพงษ์ไปพบหลินหลานเซ่อนั้น ฤทัยนาคอยู่กับนันทกาที่ห้องเซฟเฮาส์

นันทกาพยายามแสดงความเห็นใจนาคที่ต้องมาขัดดอกแทนตน นาคติงว่าพ่อทำถูกแล้ว เพราะถ้าพ่อส่งพี่นัน มาตั้งแต่แรกป่านนี้คงตกเป็นเมียหลินหลานเซ่อไปแล้ว

“แต่ถ้าพี่รู้ตั้งแต่แรกว่าเจ้าหนี้ของพ่อคือคุณหลิน–หลานเซ่อละก็ พี่ไม่ยอมให้พ่อส่งเธอมาหรอก เธอไม่ต้อง ห่วงนะ พี่จะใช้หนี้คุณหลินหลานเซ่อแทนพ่อเอง”

นาคถามว่าจะยอมเป็นเมียเก็บหลินหรือ นันทกา พูดอย่างผู้เสียสละว่าเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยพ่อกับนาคได้ นาคจะได้เป็นอิสระไม่ต้องลำบากทำงานหนักต่อไป นาคพยายามชี้ให้เห็นว่าหลินหลานเซ่อไม่เคยรักใคร และไม่มีหัวใจให้ใคร นันทกาตอบอย่างมั่นใจว่า เขาอาจ มีหัวใจให้ตนก็ได้ แล้วตัดบทว่า

“เอาล่ะ เธอไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ขอให้เธอรู้ว่าตอนนี้ พี่ชอบเขา แล้วพี่ก็เชื่อว่าเขาต้องชอบพี่อยู่เหมือนกัน”

พอดียุทธพงษ์กลับมา นันทกาถามทันทีว่าหลิน–หลานเซ่อว่าอย่างไรบ้าง

“ก็ไม่ได้ว่าอะไร ลูกไปอาบน้ำแต่งตัวไป เดี๋ยวคุณหลินจะให้คนมารับไปทานข้าว”

“จริงเหรอพ่อ เห็นไหมนาค พี่บอกแล้วว่าเขาอาจ จะชอบพี่” พูดแล้วรีบไปอาบน้ำอย่างร่าเริง

ยุทธพงษ์มองนาคถามว่าอยู่ที่นี่มีความสุขดีไหม นาคบอกว่าตอนแรกก็ไม่แต่ตอนนี้โอเคแล้ว พูดทะเล้นว่าพ่อก็รู้ว่าตนเป็นกิ้งก่าปรับสีปรับตัวได้ทุกสภาวะ ยุทธพงษ์ ยิ้มเอ็นดู บอกนาคว่า “พ่อภูมิใจในตัวแกนะ”

นาคเอะใจถามว่ามีอะไรจะทดสอบตนอีกหรือเปล่า เพราะวันที่พ่อจะทิ้งตนให้พวกหลินหลานเซ่อมาเอาตัวไป พ่อก็พูดแบบนี้ ยุทธพงษ์บอกว่าไม่มี แล้วขอกอด บอกนาคว่าอยากให้รู้ว่าพ่อรัก

“หนูก็รักพ่อนะ” นาคกอดตอบ

ooooooo

ที่ร้านอาหารหรู หลินถามนาคว่าทำไมไม่ยอมย้ายมาอยู่ที่ตึกฉายหง

นาคบอกว่าชอบอยู่ที่ใกล้ไซด์งานเพราะสะดวกและไปไหนมาไหนก็ไม่ต้องแลกบัตร

นันทกาพยายามที่จะให้นาคมาอยู่กับตนและพ่อ ยุทธพงษ์บอกนาคว่าควรทำตามคำแนะนำของหลิน

“ไม่เอาหรอกพ่อ หนูชอบอยู่อิสระ ไม่ชอบให้ใครมาบังคับ แล้วอีกอย่างหนูก็ชินกับห้องของหนูแล้วด้วย ขืนย้ายที่นอนเดี๋ยวก็นอนไม่หลับ”

“นาคก็เป็นอย่างนี้ล่ะค่ะคุณหลิน ดื้อเป็นที่หนึ่ง” นันทกาพูดเรียกความสนใจจากหลิน แล้วชูแก้วยิ้มหวานชวน “คุณหลินคะ ขออนุญาตชนแก้วหน่อยได้ไหมคะ”

หลินยกแก้วชน นาคมองอย่างหวั่นไหว ในขณะที่ยุทธพงษ์ซึ่งรู้อะไรๆในใจแล้วมองหน้านันทกายิ้มฝืนๆ

เช้าวันรุ่งขึ้น ระหว่างไปโรงเรียน นาคขอคุยกับหลิน เขาบอกว่าให้ไปคุยที่ห้องทำงาน พอไปถึงห้องทำงาน นาคถามว่าเขาคิดอย่างไรกับนันทกา หลังจากเจอตัวเป็นๆ

แล้วยังสนใจตัวเธออยู่หรือเปล่า หลินตอบเลี่ยงๆว่าเคยบอกเธอไปแล้ว นาคถามว่าบอกตอนไหน ขอให้เขาบอกอีกทีได้ไหมว่า “นายสนใจพี่สาวฉันรึเปล่า”

“ถ้าฉันบอกว่าสนใจล่ะ” พูดแล้วจ้องตานาคอย่างค้นหา นาคบอกว่าถ้ารักจริงตนก็ไม่ขัดขวางขอแต่ให้เขารักจริง อย่าทำให้พี่สาวตนเสียใจ “แล้วเธอล่ะ เธอไม่รู้สึกอะไรเลยหรือ ถ้าฉันชอบพี่สาวเธอ”

นาคบอกว่าตนก็คงดีใจที่พี่สาวสมหวังเพราะนันทกาเคยบอกว่าชอบเขา หลินฟังแล้วยิ่งเซ็งตัดบทว่าถามแค่นี้ใช่ไหม นาคบอกว่าแค่นี้แหละแต่พอจะไปก็หันถามย้ำอีกว่า “นายชอบพี่นันจริงๆใช่ไหม” หลินนิ่งไม่ตอบ นาคยิ้มแหยๆทำเสียงร่าเริงว่า “โอเคๆฉันรู้คำตอบแล้ว บ๊ายบาย ฉันไปเรียนก่อนล่ะ”

พอนาคออกไป หลินมองตามส่ายหน้าบ่น “เด็กบ้านี่ไม่รู้จริงๆหรือว่าเราคิดยังไง”

ooooooo

เหม่ยจิงไม่ยอมเสียหลินให้ใคร เธอมาหาหลินที่ห้องทำงาน หลินไม่อยู่ เธอเห็นมือถือของเขาวางอยู่บนโต๊ะ จึงหยิบเปิดดูด้วยความสงสัยที่เคยเห็นหลินเปิดดูรูปในนั้น

ปรากฏว่ามีแต่รูปของนาคในอิริยาบถต่างๆ ทำให้เหม่ยจิงรู้ความจริงว่า ที่แท้หลินหลานเซ่อชอบฤทัยนาค!

หลินกลับเข้ามาเห็นเหม่ยจิงดูโทรศัพท์ตนอยู่ก็ไม่พอใจถามว่าใครอนุญาต เหม่ยจิงยิ้มเยาะว่าถ้าตนไม่ทำก็ไม่รู้ความจริง ถามหลินว่า “คุณรักฤทัยนาคตั้งแต่เมื่อไหร่” หลินไม่ตอบ
เธอบ่นตัวเองว่า  “ทำไมฉันถึงได้โง่ขนาดนี้”

เมื่อหลินนิ่งไม่ตอบอะไร เหม่ยจิงบอกว่า “ที่จริงฉันมาวันนี้ก็เพราะอยากจะมาเห็นหน้านันทกาเพื่อประเมินคู่ต่อสู้ แต่พอมาเจอแบบนี้บอกตามตรงนะ ฉันไปไม่ถูกจริงๆ”

หลินปล่อยให้เหม่ยจิงพล่ามจนพอแล้วบอกเธอว่าตนไม่สนใจว่าเธอจะคิดอย่างไร และเรื่องของตนกับฤทัยนาคก็ไม่เกี่ยวกับเธอ

เหม่ยจิงดักคอว่า เชื่อว่าเขายังไม่ได้บอกนาค เย้ยว่าไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างหลินหลานเซ่อจะไม่กล้าบอกรักผู้หญิง เธอพูดจนหลินทนไม่ได้บอกให้เธอกลับไปเสีย แต่เหม่ยจิงที่กำลังผิดหวังจนสติแตกยังพล่ามไม่หยุด

“ฉันรู้นะว่าคุณกลัวใช่ไหม คุณกลัวว่าถ้าคุณบอกรักเธอไป ฤทัยนาคอาจจะปฏิเสธความรักของคุณแล้วหนีหายไปจากชีวิตของคุณ สมน้ำหน้า คราวนี้คุณจะได้รู้ซึ้งถึงความรู้สึกของคนที่เป็นฝ่ายหลงรักคนอื่นดูบ้าง” พูดจนหนำใจแล้ว เหม่ยจิงบอกเขาก่อนกลับไปว่า “อ้อ...ไม่ต้องห่วงนะ ถึงยังไงฉันก็ยังรับจ้างเป็นคู่ควงออกงานให้คุณได้”

หลังจากเหม่ยจิงกลับไปแล้ว หลินยกเลิกการประชุมทั้งหมดและไม่รับแขก จงซินสงสัยมากตามไปถามเหม่ยจิงถึงบาร์ที่เธอนั่งดื่มอยู่ว่าทะเลาะกับหลินหรือเหม่ยจิงย้อนถามว่าจงซินรู้ใช่ไหมว่าหลินแอบรักฤทัยนาค จงซินทำไขสือแต่เดาว่าเธออาจจะเสียใจที่รู้
ความจริง

“ผิด ฉันไม่ได้เสียใจ เพราะไม่ว่าหลินหลานเซ่อจะรักหรือไม่รักฤทัยนาค เขาก็ไม่มีวันรักฉัน ฉันเพียงแต่อึ้ง มึน แล้วก็งงกับเรื่องนี้มากกว่า ถ้าคุณไม่รีบกลับ นั่งดื่มเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม” เธอพูดดักคอจนจงซินต้องยอมอยู่ดื่มเป็นเพื่อน เธอยกแก้วชูเอ่ย “ดื่มให้กับความรักของหลินหลานเซ่อ”

ooooooo

ขณะที่ความรักของหลินหลานเซ่อกำลังถูกเปิดเผยนั่นเอง แดนนี่ก็ได้รับโทรศัพท์จากคารอสพ่อของเขาบอกว่า

“ตอนนี้ไอ้แพทริกกำลังจะกลับไปที่นั่น เพราะมีคนส่งข้อมูลให้แพทริกว่านาคเป็นคนส่งอาวุธให้เราที่เป่ยเปียน และดูเหมือนในข้อมูลจะบอกด้วยว่าเธอคือคิวบิก”

“พ่อกำลังสงสัยว่าหยางหย่งเหวินเป็นคนส่งข้อมูลให้แพทริกงั้นเหรอ”

“ฉันเดาว่าใช่นะ ถ้าไอ้หมอนั่นต้องการโค่นล้มหลินหลานเซ่อ มันต้องหาทางทำทุกวิธีที่จะให้หลิน–หลานเซ่อเดือดร้อน และถ้ามันทำสำเร็จ ฉันก็จะติดร่างแหไปด้วย” แดนนี่ถามว่าแล้วพ่อจะให้ตนทำอย่างไร “บอกฤทัยนาคให้กลับเมืองไทย” แดนนี่อึ้ง พอตั้งสติได้ก็วิ่งอ้าวไปทันที

เป็นเวลาที่หลินเรียกจงซินมาบอกว่าตนต้องการให้ยุทธพงษ์กับนันทกาอยู่ที่นี่อย่างถาวร เพราะนาครักพ่อกับพี่สาวมาก ถ้าพวกเขาอยู่ที่นี่นาคก็จะไม่ไปไหน พูดแล้วเปรยๆว่า “นายคงรู้ว่าฉันคิดยังไงกับเธอ”จงซินรับปากว่าจะจัดการทุกอย่างให้ หลินขอบใจ แต่จงซินยังไม่ทันออกไป แดนนี่ก็ฝ่าด่านลูกน้องหลินบุกเข้ามา

“ฉันมีเรื่องสำคัญจะมาคุยกับหลินหลานเซ่อ” แดนนี่บอกอย่างร้อนรนร้อนใจ

เมื่อฟังแดนนี่แล้ว หลินยืนยันเสียงแข็งว่าฤทัยนาคจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ตนจะจัดการเรื่องนี้เอง

“จัดการยังไง ฉันรู้ว่านายเป็นมาเฟียทรงอิทธิพล นายจะทำอะไรที่นี่ก็ได้ แต่นายอย่าลืมนะว่าไอ้แพทริกมันเป็นตำรวจสากล อิทธิพลที่นายมีนายทำอะไรมันไม่ได้หรอก แล้วถ้านายคิดจะฆ่ามัน รับรองได้ว่าตำรวจสากลอีกทั้งกรมจะต้องแห่กันมาขุดคุ้ยเรื่องนี้ แล้วเมื่อถึงตอนนั้น ทั้งนาย ทั้งฉายหงกรุ๊ป ทั้งพ่อฉัน ก็จะจบเห่ เข้าใจรึเปล่า!”

หลินยังคงยืนยันไม่ยอมส่งนาคกลับไทย ตนจะจัดการเรื่องนี้เอง แดนนี่ฉุนขาดประกาศก่อนหุนหันกลับไปว่า

“ได้ ถ้านายไม่ส่งฤทัยนาคกลับ ฉันจะพาเธอกลับเอง”

“ผมเห็นด้วยกับแดนนี่นะครับ ถ้าเราไม่ส่งฤทัยนาคกลับ แพทริกจะต้องควานหาจนเจอตัวเธอแล้วขุดคุ้ยจนรู้เรื่องที่เราทำสัญญากับคารอส เมื่อถึงตอนนั้นเราจะเดือดร้อนนะครับ”

กระนั้นหลินก็ยังไม่ยอม บอกจงซินว่าตนจะลบประวัติทั้งหมดของนาคที่อยู่ที่นี่และหาที่ซ่อนตัวเธอ อย่างน้อยเธอก็ยังอยู่ในสายตาของเรา

“แต่ผมไม่มั่นใจว่าเธอจะปลอดภัย ทุกวันนี้ผมเชื่อว่ายังมีสายของหย่งเหวินปะปนอยู่กับคนของเรา ถ้าฤทัยนาคยังอยู่ในสายตาของคุณ เท่ากับว่าเราเปิดโอกาสให้ศัตรูรู้ความเคลื่อนไหวของเธอ” จงซินย้ำเตือนว่าถ้าเขาไม่ส่งฤทัยนาคกลับ เดิมพันครั้งนี้คือฉายหงกรุ๊ป!

“ตกลง ฉันจะส่งเธอกลับเมืองไทย” หลินตัดสินใจด้วยความกล้ำกลืนอย่างที่สุด

ooooooo

ที่ห้องเรียน นาคตกใจเมื่อแดนนี่บอกว่าเธออยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้ว เธอต้องรีบไปก่อนที่แพทริกจะมา

“ไม่ ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น” นาคทั้งโมโหทั้งตกใจ

“ฤทัยนาค เธอฟังฉันให้ดีนะ เรื่องครั้งนี้มันไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ครั้งนี้ไอ้แพทริกมันเจาะจงพุ่งเป้ามาที่เธอ แล้วถ้ามันได้ตัวเธอ รับรองได้ว่าเธอไม่มีทางรอดแน่ เข้าใจรึเปล่า”

“แดนนี่ ฉันเป็นคนของหลินหลานเซ่อ ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้นถ้าหลินหลานเซ่อไม่ได้สั่ง”

“เธอต้องกลับเมืองไทยพรุ่งนี้ จงซินจะจัดการทุกอย่างให้เธอ” หลินหลานเซ่อเดินเข้ามาสำทับ มีจงซินเดินตามมา

“แล้วพี่นันกับพ่อล่ะ” นาคมองหน้าถาม หลินสบตาแว่บเดียวแล้วหันหลังให้ จงซินตอบแทนหลินว่า

“พ่อกับพี่สาวเธอต้องอยู่ที่นี่ เราจะลบประวัติทั้งหมดของเธอที่มีอยู่และสร้างตัวตนของพี่สาวเธอขึ้นมาแทน โดยใช้เงื่อนไขสัญญาของพ่อเธอที่ตกลงจะส่งนันทกามาใช้หนี้”

“เธอจะไม่เคยมีตัวตนอยู่ที่นี่ คนที่นี่คือนันทกาไม่ใช่เธอ” หลินเสริม

นาคถามอย่างสับสนว่าตนไปอยู่เมืองไทยแล้วจะติดต่อจงซินกับแดนนี่หรือติดต่อพ่อกับพี่นันได้ไหม หลินบอก “ไม่ได้” ถามว่าแล้วติดต่อเขาได้ไหม หลินส่ายหน้าบอก “ไม่ได้” อีก นาคถามเหมือนตัดพ้อว่าตนถูกปล่อยเกาะหรือ

“เพื่อความปลอดภัยของฉายหงกรุ๊ป จะไม่มีใครรู้ที่อยู่ของเธอ เราจะไม่ติดตามและไม่ติดต่อเธอ” จงซินชี้แจง

“แล้ว...แล้วมันจะจบลงเมื่อไหร่...” นาคมองแดนนี่ มองจงซิน ทั้งสองนิ่ง นาคพยักหน้ากับตัวเองพูดอย่างฝืนความรู้สึก “เท่ากับว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีกตลอดไปใช่ไหม” หลินพยักหน้า นาคมองเขา พยักหน้าน้ำตาคลอ พูดเสียงเครือทว่าเด็ดเดี่ยวว่า “เข้าใจแล้ว ฉันจะทำตามคำสั่งนาย”

หลินแข็งใจจะเดินกลับ ถูกนาคคว้าแขนเสื้อไว้ พอเขาหันมอง นาคพูดอึกๆอักๆ

“เออ...ฉัน...” แววตานาคสับสนลังเลเหมือนอยากจะถามว่าไม่ไปได้ไหม แต่เมื่อควบคุมความรู้สึกไว้พยายามไม่ร้องไห้ เธอกลับพูดอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “ฉันจะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด”

หลินดึงนาคเข้าไปกอดอย่างหักห้ามใจไม่ได้ แดนนี่กับจงซินจึงเดินเลี่ยงออกไป หลินดึงนาคออกบอกเธอว่า

“แค่เธอบอกว่าไม่อยากไป ฉันจะยุติทุกอย่าง”

“ไม่ ฉันเป็นคนของนาย ฉันจะทำตามคำสั่งนาย”

หลินดึงนาคเข้าไปกอดอีกครั้ง...อย่างแนบแน่น...

ooooooo

วันรุ่งขึ้น แดนนี่ไปส่งนาคที่สนามบิน เขาพูดอย่างรู้สึกผิดว่า

“ฉันน่าจะรู้อยู่แล้วว่าทุกอย่างต้องลงเอยแบบนี้ ฉันไม่น่าปล่อยให้เธอไปส่งอาวุธนั่นเลย” นาคบอกว่าไม่เกี่ยวกับเขา ทุกอย่างเป็นเพราะตนคนเดียว “ฉันไม่อยากให้เธอต้องไปเผชิญชะตากรรมคนเดียวเลยจริงๆ”

นาคบอกแดนนี่ไม่ต้องห่วง ตอนมาที่นี่ตนไม่รู้จักใครเลยก็ยังเอาตัวรอดได้ แต่นี่กลับเมืองไทยบ้านเกิดตัวเองแท้ๆ หลับตายังเดินได้สบายเลย แดนนี่มองหน้าอย่างอาลัยบอกว่าตนคงคิดถึง

“แต่ถ้าฉันไม่คิดถึงนายอย่าว่ากันนะ เพราะฉันต้องหาที่พักที่อยู่หลบซ่อนตัวอาจไม่มีเวลาคิดถึงนาย เอาล่ะส่งแค่นี้พอ”

แดนนี่ดึงนาคเข้าไปกอดอวยพรให้โชคดี ต่างยกกำปั้นชนกัน นาคกระชับเป้บนหลัง เดินจากไปด้วยก้าวย่าง ที่มั่นคง...

ก่อนขึ้นเครื่อง นาคฝากข้อความเข้ามือถือหลินแทนคำพูดจากใจที่ไม่อาจเอ่ยก่อนจากกัน...

“นี่ฉันเองนะหลินหลานเซ่อ ขอโทษที่โทร.เข้าห้องส่วนตัวนาย ฉันแค่อยากจะขอบคุณสำหรับทุกเรื่อง ตลอดสามเดือนที่ผ่านมา ทั้งเรื่องที่นายคอยสั่งสอนฉัน เรื่องหนี้ของพ่อ เรื่องที่นายช่วยชีวิตฉัน รวมถึงเรื่องที่นายต้องทนกับความงี่เง่าของฉันในบางครั้ง หรืออาจจะหลายครั้ง”

นาคยังคงเดินไปพูดฝากข้อความจากความรู้สึกลึกๆของตัวเองตลอดเวลาสามเดือนที่ผ่านมา...

“แม้แต่เรื่องที่ฉันโง่เกินกว่าจะรู้หรือไม่แน่ใจ ซึ่งตอนนี้ฉันก็ยังไม่แน่ใจอยู่ดีว่า มันคืออะไร...ที่ฉันบอกว่าจะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ฉันจะพยายามจริงๆนะ ฝากพ่อกับพี่นันด้วย แค่นี้นะ...ฉันจะไม่บอกลานายนะ...”

เสียงสัญญาณขาดหายไปแล้ว หลินหลานเซ่อกดฟังซ้ำ พร้อมทั้งหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นกดดูรูปนาคหลายๆรูปที่เก็บไว้ แล้วค่อยๆลบออกทีละรูป...ทีละรูป... ด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวด...จนหมดทุกรูป...

ooooooo

วันต่อมา จงซินไปที่เซฟเฮาส์แจ้งแก่นันทกาว่านับแต่นี้ไปเธอต้องออกงานคู่กับหลินในฐานะผู้หญิงของหลินหลานเซ่อ เธอต้องทำตัวให้สวย มีสง่า เวลาที่เดินไปกับหลินไม่ต้องถามหรือพูดอะไรมาก ถ้าหลินไม่ได้ถาม

นันทกาตื่นเต้นดีใจมาก ถามว่าต้องย้ายไปอยู่กับหลินที่ตึกฉายหงหรือเปล่า จงซินบอกว่า “ไม่ต้อง” นันทกาหน้าเสียถามว่าหลินจะมาหาตนที่นี่เองหรือ จงซินบอกว่า “ไม่” นันทกาเริ่มใจเสียบอกจงซินว่าตนไม่เข้าใจ

“คุณหลินต้องการตัวเธอแค่เป็นคู่ควงไว้ออกงาน เอาล่ะ...เย็นนี้ฉันจะส่งรถมารับเธอไปงานกับคุณหลิน เดี๋ยวจะมีคนมาจัดการเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมให้เธอ”

พอจงซินกลับไป นันทกาถามยุทธพงษ์ว่าหลินต้องการตนแค่ออกงานเท่านั้นหรือ

“คุณหลินต้องการล้างประวัตินาคและสร้างตัวตนลูกขึ้นมาเพื่อบอกให้คนรู้ว่าตลอดสามเดือนที่ผ่านมา ลูกคือคนที่มาที่นี่ ไม่ใช่นาค” นันทกาถามว่าเพื่ออะไร “พ่อก็ไม่รู้เหตุผลแน่ชัด แต่ที่แน่ๆตอนนี้ฉายหงกรุ๊ปกำลังมีปัญหาเรื่องนาค”

นันทกามึน อึ้ง แทบช็อกเมื่อรู้ฐานะที่แท้จริงของตัวเอง

ooooooo

แพทริกกับลูกน้องอีกคนมาหาหลินหลานเซ่อที่ตึกฉายหง ทันทีที่พบหลิน แพทริกทำงานทันที

เขาเอารูปของฤทัยนาคให้หลินดู ดักคอว่าหวังว่าเขาคงรู้จัก แพทริกพูดอย่างทำการบ้านมาอย่างดี รู้รายละเอียดนับแต่ฤทัยนาคมาอยู่ที่นี่ในฐานะลูกหนี้และทำงานใช้หนี้เขา หลินนิ่งฟังอย่างเยือกเย็นปล่อยให้

แพทริกพูดจนจบ เขาจึงเอ่ยขึ้นว่า

“คุณคงได้ข่าวมาผิด เพราะคนที่มาอยู่ที่นี่คือพี่สาวของเธอชื่อนันทกา” หลินส่งรูปนันทกาให้ดู แพทริกชะงัก เอาเอกสารเกี่ยวกับนาคทั้งที่ทำงานที่นี่จนกระทั่งไปส่งอาวุธให้คารอส หลินถามว่าเขาเชื่อกระดาษไม่กี่แผ่นนี้เท่านั้นหรือ?

แพทริกใช้ไม้แข็งสั่งหลินให้เอาตัวฤทัยนาคให้ตน หลินเสียงเข้มกว่าว่าฤทัยนาคไม่เคยมาที่นี่ เมื่อแพทริกยืนกรานให้ส่งฤทัยนาคให้ตน หลินตอบอย่างท้าทายว่า “ถ้าคุณอยากได้ตัวเธอ คุณก็ต้องไปควานหาเอาเอง”

ความมุ่งมั่นที่จะได้ตัวฤทัยนาคของแพทริกทำให้หลินหลานเซ่อเป็นห่วง กังวลและเจ็บปวดกับสิ่งที่เกิดขึ้น

แพทริกกลับไปอย่างหัวเสีย ลูกน้องบอกเขาว่าข้อมูลที่คนส่งให้เราบอกว่าเด็กนั่นเป็นเงาของหลินหลานเซ่อที่มีโค้ดเนมว่า คิวบิก แพทริกติงว่าคนที่จะมาเป็นเงาผู้นำของฉายหงกรุ๊ปต้องเก่งและฉลาดมาก ถ้าฤทัยนาคเป็นคิวบิกจริงไม่น่าจะปล่อยให้ข้อมูลของตัวเองรั่วออกมาได้

“เธอเพิ่งอายุ 17 ไม่ใช่เหรอครับ อาจจะเป็นเงามือใหม่ประสบการณ์ยังไม่มากพอ” ถามแพทริกว่า “แล้วเราจะเอาไงครับ ถ้าหลินหลานเซ่อปกป้องเธอขนาดนี้”

“ยังไงก็ต้องหาตัวเธอให้เจอ เพราะเธอเป็นคนเดียวที่จะทำให้เราจับไอ้คารอสได้” แพทริกตัดบทอย่างมุ่งมั่น

ooooooo

คิวบิก

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด