สมาชิก

นางฟ้ากับมาเฟีย

ตอนที่ 18

ตั้งแต่กำนันตาลตาย ท่านก้องภพไม่ยอม กลับบ้าน ขอพักอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้า เพราะเป็นสถานที่ที่กำนันตาลชอบมา เธอรักเด็กๆมาก  เคยฝันไว้ว่าหลังเกษียณจะชวนเขามาช่วยกันดูแลเด็กๆ ที่นี่  รามฝากละมุนช่วยดูแลท่านก้องภพแทนเขาด้วย ละมุนยินดี แต่ที่เธอเป็นห่วงมากคือ เมขลาหายไป ไม่รู้ตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน

“คนพวกนั้นจะทำร้ายหนูเมหรือเปล่า” ทรงวาดพลอยเป็นกังวลไปด้วย

รามเลยต้องโกหกแม่ว่าเมขลาไม่ใช่เป้าหมาย พวกนั้นต้องการเล่นงานตำรวจเท่านั้น ทรงวาดจับมือรามไว้

“แม่รู้ว่ารามคงไม่ยอมลาออกจากอาชีพนี้ แม่ทำได้แค่บอกกับตัวเองทุกวันเหมือนแม่ของตำรวจทุกคนว่าลูกต้องไม่เป็นอะไร”

“แม่ก็รู้นี่ผมดวงแข็งแค่ไหน ยมบาลไม่ต้องการผมหรอกครับ” รามมองแม่ด้วยแววตาเข้มแข็ง...

อาเหลียงคอยส่งข่าวการสังหารเหยื่อให้เฮียจางที่อยู่ในฮ่องกงได้รู้เป็นระยะๆ ครั้งนี้ก็เช่นกัน ก่อนจะลงมือไล่ล่าเหยื่อรายต่อไป อาเหลียงส่งข่าวไปแจ้งให้เฮียจางรู้ว่าเป้าหมายต่อไปของเขาคือใคร...

ตกดึกวันเดียวกัน เทวัญคิดมากเรื่องฆ่าตัดตอน จนเก็บเอาไปฝันเห็นตัวเองถูกอาเหลียงยิง เขาตกใจสะดุ้งตื่นเหงื่อท่วมตัว มองไปรอบๆถึงได้รู้เป็นแค่ฝันร้าย รู้สึกกระหายน้ำจึงลงมาหาน้ำดื่มที่ชั้นล่าง ขณะกำลังรินน้ำใส่แก้ว ได้ยินเสียงเหมือนมีคนเดินอยู่ชั้นบน สังหรณ์ใจบอกไม่ถูก คว้ามีดจากลิ้นชักเคาน์เตอร์ ค่อยๆย่องขึ้นข้างบน

ในเวลาเดียวกัน เมขลายังไม่นอน นั่งพับกระดาษทิชชูสำหรับใช้ในร้าน ได้ยินเสียงลูกบิดประตูห้องหมุนไปมา นึกว่าขโมยขึ้นบ้าน หันไปคว้าแจกันดอกไม้มาเตรียมพร้อม ประตูห้องค่อยๆเปิดออก แขกไม่ได้รับเชิญตรงมาที่เตียงนอนของเธอ กระชากผ้าห่มบนเตียงออก ชะงักที่เจอแต่หมอนข้างวางอยู่

เมขลาโผล่มาด้านหลัง เอาแจกันฟาดเปรี้ยงไปที่หัว อาเหลียงหัวแตก แต่เขาไม่สะทกสะท้าน หันกลับมาเล็งปืนใส่ ขณะอาเหลียงกำลังจะเหนี่ยวไก เลือดไหลจากแผลที่หัวเข้าตาพอดี กระสุนเลยพลาดเป้า เมขลาอาศัยจังหวะนั้นเผ่นออกจากห้อง อาเหลียงยิงซ้ำ กระสุนพลาดเป้าอีกครั้ง เมขลาวิ่งหนีมาเจอเทวัญละล่ำละลักว่า

“ขโมยขึ้นบ้านเราค่ะ มันจะฆ่าฉันด้วย”

สิ้นเสียงเมขลา อาเหลียงวิ่งตามออกมา เทวัญจำหน้าได้ ปามีดใส่แล้วคว้ามือเมขลาวิ่งหนี อาเหลียงไวมากเบี่ยงตัวหลบมีดแล้วเอี้ยวตัวกลับมายิงใส่ สองคนนั้นวิ่งลงบันไดไปแล้ว แต่ยังไม่ทันจะหนีออกจากร้าน มือสังหารโดดจากหน้าต่างชั้นบนลงมาดักหน้าไว้ เทวัญดึงเมขลามาไว้ด้านหลังตัวเอง

“ปล่อยเราไป เราจะไปซ่อนตัวให้ไกลที่สุดจะไม่ปริปากเรื่ององค์กรกับตำรวจ หรือกับใครทั้งสิ้น”

“ฉันไม่มีหน้าที่ต่อรองกับใคร งานของฉันคือ...เก็บกวาดให้เรียบ” อาเหลียงว่าแล้วเล็งปืนใส่ เมขลาหัวไวแกล้งมองไปด้านหลังอาเหลียง ตะโกนลั่นว่า ผู้กองยิงมันเลย อาเหลียงหลงกลหันขวับไปสาดกระสุนใส่ เมขลา กับเทวัญวิ่งปรู๊ดกลับเข้าร้านไปหลบหลังเคาน์เตอร์

อาเหลียงตามมายิงใส่หนึ่งนัด เฉียดทั้งคู่ไปนิดเดียว

เทวัญรอจังหวะที่อาเหลียงย่ามใจเดินเข้ามาใกล้ ฉีดเครื่องดับเพลิงใส่หน้าอย่างจัง แล้วสั่งให้เมขลาวิ่งหนี จากนั้น เขาทุ่มเครื่องดับเพลิงซ้ำ ก่อนจะวิ่งตามเธอไปที่รถกระบะ เมขลาสตาร์ตรถแล้วพุ่งออกไปทันที แต่ต้องตกใจเมื่ออาเหลียงวิ่งออกมาจากร้านอีกทางหนึ่ง โดดขวางไว้พร้อมกับเล็งปืนใส่ เมขลาตัดสินใจเหยียบคันเร่งมิด ทะยานเข้าหา อาเหลียงจำต้องพุ่งหลบข้างทาง ลุกขึ้นมามองอีกที รถแล่นไปไกลแล้ว...

เมขลายังคงเร่งเครื่องรถหนีไม่คิดชีวิต เทวัญเอ็ดลั่น ทีหลังอย่าทำบ้าบิ่นแบบนั้นอีก เมื่อครู่ถ้าคนร้ายยิ่งใส่ เมขลาอาจตายได้

“ฉันจำเป็นต้องเสี่ยงดวงเอา ทำไมมันพยายามจะฆ่าเราให้ได้...คุณคุยกับมันเหมือนรู้จักกันมานาน”

“มันชื่ออาเหลียง” เทวัญนึกย้อนไปเมื่อตอนที่เจอกับอาเหลียงครั้งแรก
วันนั้น เทวัญนัดส่งมอบหัวเชื้อสำหรับผลิตยาเสพติดกับเฮียจาง อาเหลียงซึ่งคอยคุ้มกันเฮียจางจับได้ว่าสมุนคนหนึ่งของเทวัญเป็นสายให้ตำรวจ เขาสะบัดมีดสั้นปักคาอกตายสนิท ค้นตัวสมุนคนนั้นพบเครื่องดักฟังติดอยู่ที่ตัว เทวัญแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เฮียจางเดินมาตบบ่าเขา

“หลานชายจะอยู่วงการนี้ให้รอดต้องรอบคอบ ถ้ามันไม่ตายเราก็ตาย”

เทวัญยังจำภาพนั้นติดตาเหมือนเพิ่งเกิดขึ้น

เมื่อวาน คนในวงการนี้รู้ดีว่าเฮียจางโหดเหี้ยมแค่ไหน ใครที่มีส่วนทำลายธุรกิจเขา จะโดนตามเก็บไม่เหลือ เมขลาไม่เข้าใจทำไมเฮียจางต้องส่งคนมาตามล่าเทวัญด้วย

“องค์กรนี้เข้าได้แต่ออกไม่ได้ ถ้าวางมือเมื่อไหร่ก็คือตาย” เทวัญถอนหายใจ หนักใจ

“แต่ทำไมพวกมันถึงรู้ว่าเราอยู่ที่นี่”

“เครือข่ายของเฮียจางมีอยู่ทุกซอกทุกมุม”

คราวนี้เมขลาเป็นฝ่ายถอนใจบ้าง  ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วเราสองคนจะหนีไปไหนได้

ooooooo

ทันทีที่รามรู้ข่าวจากตำรวจในพื้นที่ว่าเกิดเหตุยิงกันที่ร้านกาแฟของเทวัญ เขาแวะรับธิดาแล้วบึ่งรถไปที่นั่น ยิ่งได้เห็นสภาพในร้านที่เต็มไปด้วยรูกระสุน รามยิ่งใจไม่ดี เดินสำรวจไปถึงในครัว สะดุดตากับขนมปังอบรูปหัวใจประกบ กันที่วางอยู่ในถาด นึกถึงวันที่เมขลาทำขนมปังแบบนี้ให้กิน แล้วเขาแกล้งชวนทะเลาะจนเธอ โกรธ กระชากจานขนมปังคืน

“ฉันก็ไม่ได้คิดอยากทำให้คุณกินเหมือนกัน เพราะมันเสียของเสียเวลา เสียความรู้สึก”

“คุณเอาไปแล้วผมจะกินอะไรล่ะ ที่พูดไปเนี่ย ติเพื่อก่อนะ”

รามตื่นจากภวังค์ หยิบขนมปังรูปหัวใจขึ้นมาดู “ความจริงถ้าเป็นฝีมือคุณ ผมก็กินได้หมด แต่ผมไม่ได้พูดออกไปเท่านั้น...คุณต้องรอผมก่อนนะเม” รามบิขนมปังใส่ปาก แล้วเดินออกมาหน้าร้าน ตำรวจนายหนึ่งวิ่งเข้ามารายงานว่าพบรอยล้อรถแล่นออกจากร้านไปทางถนนใหญ่ เขาแจ้งตำรวจทางหลวงให้ตรวจสอบในรัศมีใกล้ๆแถวนี้ให้อยู่ รามสีหน้าไม่สู้ดีนัก หันไปชวนธิดากลับ แต่เธอไม่ยอมกลับ โวยวายไล่ให้เขาไปตามหาเทวัญให้

“คุณเองก็ตกอยู่ในอันตรายเหมือนกัน ผมต้องพาคุณไปอยู่ในที่ปลอดภัยก่อน”

“ฉันด้วยเหรอ ฉันไปทำอะไรให้พวกมันล่ะ” ธิดางง

“ใครที่เกี่ยวข้องกับพ่อคุณ อยู่ในบัญชีดำทั้งหมด รวมทั้งผมด้วย” รามเสียงเครียด

ooooooo

ในเวลาต่อมา รามพาธิดามายังห้องพักของภาคภูมิพร้อมกับกระเป๋าเดินทางหลายใบ ภาคภูมิไม่ค่อยพอใจนัก  ลากรามออกไปคุยกันตามลำพัง  ต่อว่าต่อขานยกใหญ่ที่พาธิดามาที่นี่แทนที่จะไปบ้านตัวเอง

“เฮ้ย...ได้ที่ไหน ขืนพาไปก็เป็นข่าวใหญ่สิ คนยิ่งมองว่าผมแอบนอกใจเมียไปคบกับเธออยู่ แล้วแม่ผมก็คงไม่ยอมแน่” รามยกแม่ขึ้นมาอ้าง ภาคภูมิก็ไม่ยอมเหมือนกัน ทำท่าจะเดินหนี รามดึงไว้ เตือนว่าคนที่เป็นตำรวจต้องรับใช้ประชาชนที่กำลังตกอยู่ในอันตราย  และนี่เป็นเรื่องงานล้วนๆไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของเขา ภาคภูมิถึงกับอึ้ง

“เป็นอันว่าผู้กองตกลงแล้วนะ  ผมต้องรีบไปหาดาบยุทธก่อน” รามรีบตัดบท

ภาคภูมิโวยลั่น ใครไปตกลงกับรามตั้งแต่เมื่อไหร่ รามไม่ฟังเสียง จ้ำอ้าวไปเลย ภาคภูมิหนีไม่ออก จำต้องพาธิดาไปดูห้องที่จะยกให้เป็นห้องพักของเธอ ธิดาไม่พอใจที่ห้องนั้นเต็มไปด้วยข้าวของรกรุงรัง สั่งให้เขาย้ายของออกไป ภาคภูมิไม่พูดอะไร คว้ามือถือของเธอไปตั้งหน้าตั้งตากดเบอร์ ปากก็พูดกับธิดาไปด้วย

“ชั้นล่างมีร้านอาหาร โทร.สั่งให้เขาขึ้นมาส่งให้ จำไว้ ห้ามออกไปไหนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผม...ที่สำคัญอย่าแตะหรือเคลื่อนย้ายของทุกชิ้นในห้องนี้เด็ดขาด นี่เบอร์โทร.ผม โทร.หาได้เฉพาะที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น”

ภาคภูมิคืนมือถือให้ธิดา เดินออกจากห้องแล้วปิดประตูตามหลัง ธิดาโกรธ โวยวายเรียกให้เขากลับมาพูดกันให้รู้เรื่องก่อน แต่แล้วมีเสียงขู่ฟ่อๆดังขึ้นด้านหลัง ธิดาหันขวับ ค่อยๆเดินตามเสียง เจอตู้กระจกใบเล็กใบหนึ่งมีผ้าคลุมไว้ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เปิดผ้าดู ต้องตกใจกรี๊ดสนั่นที่เห็นงูขดอยู่ในตู้...

ทันทีที่รามไปถึงที่หน่วย ป.ป.ส. ยุทธเข้ามารายงานว่ารถเป้าหมายที่ทางเรากำลังตามหาเป็นของเทวัญและพบมันจอดอยู่ที่อู่ซ่อมรถแห่งหนึ่ง เจ้าของอู่แจ้งว่ามีหญิงชายคู่หนึ่งเอารถมาทิ้งไว้แล้วหายไปเลย จังหวะนั้นรุจโทร.เข้ามือถือราม น้ำเสียงตื่นตระหนก

“คุณรามเร็วครับ ช่วยเมมันด้วย ยายเมมัน เมมัน...”

รามคิดว่ารุจเจอเมขลา ตรงดิ่งไปที่ร้านกาแฟของเทวัญ แต่เขาต้องผิดหวัง นอกจากไม่เจอเมขลา ยังถูกรุจด่าฉอดๆว่ามัวแต่ไปอี๋อ๋อกับธิดาละเลยเพื่อนของเขา จนเกิดเรื่องร้ายแรงแบบนี้ รามชักฉุนที่รุจปิดบังเรื่องเจอเมขลา ขยุ้มคอเสื้อเขาเข้ามาใกล้

“ถ้าคุณบอกผมตั้งแต่แรกว่าเมอยู่ที่นี่ มันก็คงไม่เป็นอย่างที่เห็น”

รุจหน้าจ๋อยสนิท ไม่คิดว่ารามจะโกรธขนาดนี้...

รามไม่รู้จะไปตามหาเมขลาที่ไหน นึกถึงโรสขึ้นมาได้ รีบบึ่งรถไปที่ร้านขายของชำของโรสกับเย็น กลับพบสองผัวเมียแอบใช้ร้านขายของชำเปิดเป็นบ่อนการพนัน รามโกรธมากจะเอาเรื่อง เย็นแก้ตัวที่ต้องทำแบบนี้เพราะขายของไม่ได้ ขืนไม่ทำต้องอดตายแน่ โรสรีบเออออ คนไม่เคยจนอย่างรามไม่มีวันรู้

“แล้วทำไมผมเห็นคนจนตั้งมากมายเขาทำมาหากินอย่างสุจริตได้ ไม่เห็นต้องไปปล้น ไปเดินยา หรือเปิดบ่อนเถื่อน” รามโต้ไม่ยอมแพ้ โรสเบื่อจะฟัง ทำไมรามต้องพูดเหมือนเมขลาด้วย รามคว้าข้อมือโรสขึ้นมาบีบ

“เมติดต่อคุณมาแล้วใช่มั้ย บอกผมมา...เมอยู่ไหน”

โรสยืนยันคำเดิมไม่รู้ไม่เห็น รามยัวะ หันไปบอกเย็นให้เตือนเมียตัวเองด้วยว่าเขาไม่มีเวลามาเล่นด้วย ตอนนี้เมขลาตกอยู่ในอันตรายกำลังโดนตามฆ่า ระหว่างนั้น ท่านก้องภพตามมาสมทบ

“ตอนนี้เราประสานไปที่ตำรวจท้องที่ทุก สน.แล้ว มันลงมือไม่ได้ง่ายๆแน่”
“ท่านรู้ได้ยังไงว่าผมอยู่ที่นี่” รามมองท่านก้องภพแปลกใจ

“ผู้กองภาคภูมิบอกผม เราต้องวางแผนรุกโต้ตอบมันบ้าง ตั้งรับอย่างเดียวมีแต่เสียเปรียบ”

“แต่ท่านยังอยู่ในช่วงลาพักนะครับ” รามทักท้วง

“นายคิดว่าฉันจะยอมให้ลูกน้องเสี่ยงภัยอยู่คนเดียวได้เหรอ เฮียจางมันท้าทายตำรวจไทย ฉันจะจับมันด้วยมือของฉันเอง” ท่านก้องภพตาวาวโรจน์

ooooooo

เมขลาหมดทางไป จึงโทร.ไปขอใช้บ้านสวนของรุจเป็นที่หลบภัยชั่วคราว สมุนของอาเหลียงแอบสะกดรอยตาม แต่เทวัญรู้ตัวเสียก่อน รีบพาเมขลาเร่งฝีเท้าหนี สมุนของอาเหลียงจะขี่มอเตอร์-ไซค์ตาม แต่ดันทำรถตกร่องสวน กว่าจะเข็นขึ้นมาได้ เมขลากับเทวัญหายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว...

ครู่ต่อมา เทวัญพาเมขลาหนีเข้าไปหลบอยู่ฟาร์มกล้วยไม้ของเจ๊ง้อซึ่งอยู่ในละแวกเดียวกันกับสวนของรุจ เมขลาหนีต่อไปไม่ไหวขอนั่งพักเหนื่อยก่อน แต่คอยมองไปทางด้านหลังตลอด กลัวคนร้ายจะตามมาทัน

“คงไม่แล้วล่ะ ถึงตามก็คงตามไม่ถูก เราวิ่งหนีเข้ามาจนลึก หาร่องรอยไม่เจอแบบนี้”

ทันใดนั้น มีเสียงดังขึ้น “นั่นใครน่ะ เข้ามาในฟาร์มของอั๊วทำไม”

เทวัญกับเมขลาหันมองตามเสียง เห็นเจ๊ง้อเจ้าของฟาร์มกล้วยไม้ยืนมองมาด้วยสีหน้าดุดัน เมขลาคิดจะหลบพวกอาเหลียงที่นี่สักพัก จึงทำทีมาหางานทำ เจ๊พอจะรู้จักใครที่ต้องการคนสวนบ้างไหม เจ๊ง้อสบช่องจะได้แรงงานถูกๆไว้ใช้พาทั้งคู่ไปที่บ้านของเธอ ให้เทวัญช่วยเธอทำงานในสวน ส่วนเมขลามีหน้าที่กวาดบ้านถูบ้าน เอาเสื้อผ้าของลูกสาวเธอไปซัก และต้องทำให้เสร็จก่อนห้าโมงเย็น เพราะหกโมง เธอกับลูกจะต้องกินข้าวเย็น
“ส่วนค่าแรง ฉันจะจ่ายพวกแกเป็นรายวัน วันละ 50 บาท แต่ให้ที่พักที่กินฟรี”

เมขลาถึงกับอ้าปากค้าง คนอะไรจะเค็มขนาดนี้ แต่จำใจต้องทำเพราะไม่มีทางเลือก...

ขณะที่เมขลาได้ที่หลบภัยอยู่ในฟาร์มของเจ๊ง้อ รามมาถึงบ้านสวนของรุจ ต้องพบกับความผิดหวังอีกครั้งที่ไม่เจอเมขลา รุจเองแปลกใจไม่น้อยทำไมเมขลาถึงไม่มาที่นี่ ในเมื่อไม่มีที่อื่นให้ไป

“เว้นเสียแต่ว่าจะมาไม่ถึง เจอไอ้พวกนั้นเสียก่อน...โธ่...เม ฮือๆๆ...จะถูกเชือดเป็นชิ้นๆมั้ยเนี่ย”

“พูดอะไร เมต้องปลอดภัย คุณไปทางโน้น ผมไปดูด้านนั้นเอง”

รามตามหาเมขลาไปทั่วบริเวณจนมาถึงหน้าฟาร์มของเจ๊ง้อ คลาดกับเมขลาที่เอาขยะออกมาทิ้งเพียงเส้นยาแดงผ่าแปด รามเดินหาตั้งแต่บ่ายยันค่ำไม่เห็นแม้แต่เงา ป่านนี้เมขลาคงหนีไปที่อื่นแล้ว จึงชวนรุจกลับ...

เจ๊ง้อคิดว่าเทวัญกับเมขลาเป็นผัวเมียกัน จึงให้พักอยู่ห้องเดียวกัน เมขลาบอกเจ๊ง้อไปแล้วว่าจะขอแยกห้อง เจ๊ง้อไม่ยอม และถ้าเธอกับเทวัญไม่อยากอยู่ห้องเดียวกัน ก็ต้องมีคนหนึ่งออกไปนอนตากยุงข้างนอก เทวัญไม่สบายใจเห็นในห้องมีฟูกเพียงหลังเดียว

“งั้นเดี๋ยวผมนอนพื้นเอง คุณเมไม่ต้องห่วง แต่คุณต้องสละผ้าปูที่นอนกับผ้าห่มให้ผมนะ”

“คุณเทวัญจะเอาไปทำอะไรคะ”

เทวัญไม่ตอบ ดึงผ้าปูที่นอนกับผ้าห่มออกมาขึงตรงกลางห้องเป็นฉากกั้นเพื่อให้เมขลาสบายใจ หญิงสาวซาบซึ้งใจพูดไม่ออก ฉุกคิดถึงตอนที่ตัวเองนอนห้องเดียวกับรามในบ้านรัตนมณี เขาไม่ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษกับเธอแบบนี้ กลับแสดงความเถื่อน กลั่นแกล้งเธอต่างๆนานา ผิดกับชายแสนดีตรงหน้าเธอลิบลับ...

ในขณะเดียวกัน ภาคภูมิเคืองมากที่กลับถึงห้องพักแล้วพบว่าธิดายึดห้องนอนของเขาไป เธออ้างว่าไม่สามารถจะอยู่ห้องเดียวกับสัตว์บ้าๆพวกนั้นได้ ถ้าภาคภูมิไม่ยอมเอามันออกไปก็ต้องเข้าไปนอนในห้องนั้นเอง

“นี่...ฟังนะคุณธิดา”

“ฉันชื่อเทเรซ่า” ธิดาเข่นเขี้ยว

“ผมไม่สนหรอกนะว่าคุณชื่ออะไร ผมรู้แต่ที่นี่บ้านผม คนที่ออกคำสั่งในบ้านนี้ได้ มีแค่ผมคนเดียวไม่งั้นคุณก็ย้ายข้าวของออกไปนอนริมถนนได้เลย”

“ไม่...ฉันไม่มีวันออกไปนอนริมถนนเด็ดขาด แล้วก็ไม่นอนในห้องนั้นด้วย ฉัน...ฉันนอนที่โซฟานี่ก็ได้” ธิดาพูดจบทิ้งตัวลงนอนหลับตาปี๋เหมือนเด็กเอาแต่ใจตัวเอง ภาคภูมิถึงกับอึ้ง

ooooooo

เมขลาตกใจแทบช็อกเมื่อเปิดประตูห้องนอนหมวยลูกสาวของเจ๊ง้อจะเข้าไปทำความ สะอาด เห็นหมวยกำลังจะเอาคัตเตอร์กรีดข้อมือตัวเอง เมขลาถลันเข้าไปแย่งคัตเตอร์โยนทิ้ง หมวยแค้นใจ ทุบเมขลาไม่ยั้ง เธอไม่โต้ตอบได้แต่จับมือหมวยไว้ แล้วขอร้องให้ล้มเลิกความคิดจะฆ่าตัวตาย เพราะมันไม่ใช่ทางออก

“เธอจะรู้อะไร เธอไม่ใช่ฉัน เธอไม่ต้องโดนแม่บังคับให้แต่งงานเหมือนฉัน”

“ถ้าคุณไม่อยากแต่งงานก็น่าจะบอกเจ๊ดีๆ ชีวิตมีค่านะคะ อย่ามาทำร้ายตัวเองแบบนี้”

หมวยนึกขึ้นได้ ถามเมขลาเป็นใคร เข้ามาอยู่ในบ้านเธอได้อย่างไร เมขลาจึงแนะนำตัวเองให้หมวยรู้จัก...

หลังจากเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านเจ๊ง้อเสร็จ เมขลายกถาดใส่น้ำไปให้เทวัญที่ทำงานง่วนอยู่ในฟาร์มกล้วยไม้ เทวัญกำลังกระหายน้ำพอดี ดื่มรวดเดียวหมดแก้ว เมขลาจะรินน้ำเติมแต่แก้วน้ำเปื้อนคราบดิน เลยหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดแก้วให้ ขณะยื่นแก้วใส่น้ำให้เทวัญ เห็นหน้าเขาเปื้อนดินคว้าผ้าเช็ดหน้าผืนเดิมขึ้นมาเช็ด แต่ลืมไปว่าผ้าเช็ดหน้าตัวเองเปื้อนอยู่ ยิ่งเช็ดเลยยิ่งเปรอะเปื้อนไปกันใหญ่

“ตายแล้ว ทำไมฉันโก๊ะอย่างนี้เนี่ย แทนที่จะช่วย คุณกลับทำให้แย่ลง”

เทวัญงง แต่พอเห็นเงาสะท้อนของตัวเองใน ถาดสเตนเลสใส่น้ำถึงกับหัวเราะขำ ยกชายเสื้อตัวเองขึ้นมาเช็ดหน้า เมขลาถอนใจเฮือก เอือมระอาตัวเองที่เป็นตัวถ่วง ทำให้เทวัญลำบากอยู่เรื่อย

“ใครบอกว่าคุณทำให้ผมลำบาก คุณทำให้ผมมีความสุขต่างหาก เห็นไหมวันนี้คุณยังทำให้ผมหัวเราะออกมาได้เลย” เทวัญว่าแล้วคว้ามือเมขลามากุมไว้ เมขลาเขิน รีบดึงมือออก ทั้งคู่ไม่เห็นหมวยยืนมองอยู่ด้วยความอิจฉา...

อีกมุมหนึ่งของฟาร์มกล้วยไม้ เจ๊ง้อเดินคุยมือถืออยู่กับบุญเลี้ยงว่าที่ลูกเขย โกหกว่าหมวยบ่นคิดถึงเขาทุกวัน ทั้งๆที่หมวยไม่เคยชอบเขาแม้แต่น้อย ซ้ำยังถามว่าเมื่อไหร่เขาจะมาขอหมวยแต่งงานเสียที

“เอ่อ อีไม่ได้เร่งหรอกนะคะ อีแค่อยากรู้ว่าคุณบุญเลี้ยงจะให้สินสอดอีเท่าไหร่...อะไรนะคะ อุ๊ย...จริงหรือคะ แหม...คุณบุญเลี้ยงนี่น่ารักจัง เดี๋ยวนะคะ น้องหมวยมาโน่นแล้ว คุณคุยกับอีเองก็แล้วกัน”

เจ๊ง้อกวักมือเรียกหมวยที่เพิ่งเดินเข้ามา สั่งให้สวัสดีบุญเลี้ยงหน่อย เขาอุตส่าห์โทร.ทางไกลข้ามทวีปมาจากแคนาดา หมวยรับมือถือจากแม่

“สวัสดีค่ะ...อ่ะม้า เสร็จแล้ว” หมวยส่งมือถือคืนแม่แล้วเดินหนีไปเลย เจ๊ง้อตาเหลือก

“คุณบุญเลี้ยงคือ...เอ่อ...พอดีน้องหมวยมันปวดฟัน เลยคุยไม่ได้ ไว้คุยกันวันหลังแล้วกันนะคะ” เจ๊ง้อรีบวางสาย เดินตามหมวยอย่างเคืองสุดๆ พอตามทัน กระชากแขนเธอไว้ ต่อว่าต่อขานทำไมพูดกับบุญเลี้ยงแค่นั้น หมวยทำตามคำสั่งของแม่ทุกอย่าง แม่ให้บอกสวัสดี เธอก็สวัสดีแล้วจะเอาอย่างไรอีก

“นี่ลื้อแกล้งอั๊วใช่มั้ย ลื้ออยากให้อั๊วอกแตกตายใช่มั้ย โอ๊ย...ทำไมมีลูกทั้งทีไม่ได้ดั่งใจเลย”

“หมวยไม่ได้แกล้งม้า แต่หมวยไม่ได้รักเขา หมวยไม่อยากแต่งงานกับเขา หมวยอยากแต่งงานกับคนที่หมวยรักเท่านั้น เหมือนคนงานใหม่ที่ม้าจ้างมาไง”

“ไปเอาอย่างพวกมันได้ยังไง มันมีทางเลือกเหมือนลื้อที่ไหน ฮึ...ลื้อรู้มั้ยว่าลื้อโชคดีแค่ไหนที่มีคนอย่างคุณ

บุญเลี้ยงมาสนใจ เขาทำงานในบริษัทฝรั่งเงินเดือนเยอะแยะเลยนะ แถมเขายังให้ค่าสินสอดอั๊วตั้ง 3 ล้าน แหวนเพชรอีกวงกับบ้านอีกหลัง ลื้อไม่เอาก็โง่ตายชัก” เจ๊ง้อคุยอวดความร่ำรวยของบุญเลี้ยง แต่หมวยไม่สนใจเดินหนี เมขลาได้ยินทุกคำ รู้สึกสงสารหมวยมาก

ooooooo

ที่คอนโดฯ ที่พักของภาคภูมิ ธิดาทนไม่ไหวที่ต้องอยู่ร่วมชายคากับงูและกิ้งก่า หนำซ้ำภาคภูมิยังฝากหนูกับหนอนแช่แข็งให้เธอช่วยให้อาหารพวกมันด้วย ธิดาตัดสินใจโทร.เรียกเจ้าหน้าที่จากสวนสัตว์ให้มาเอาตัวสัตว์ทั้งสองชนิดไป ภาคภูมิกลับมาไม่เห็นลูกๆของเขา โวยวายใส่เธอลั่น เอาลูกของเขาไปไว้ไหน

“สวนสัตว์ ฉันให้คนของสวนสัตว์มาจับไปแล้ว

ลูกของคุณน่ะควรไปอยู่กับเพื่อนของพวกมันในสวนสัตว์มากกว่าอยู่ร่วมกับคนอย่างพวกเราๆนะ”

“เงียบไปเลย ใครสั่งให้คุณออกความเห็นไม่ทราบ” ภาคภูมิตะคอกใส่

“ก็ใครใช้ให้คุณเลี้ยงสัตว์ประหลาดพวกนั้นในบ้านนี้ล่ะ” ธิดาโต้ไม่ยอมแพ้

“แต่นี่มันบ้านผม...บ้านที่ผมหาซื้อมาด้วยหยาดเหงื่อแรงงาน ไม่ใช่คฤหาสน์ที่พ่อคุณสร้างขึ้นจากเงินค้ายานรกพวกนั้น คุณถึงจะได้เที่ยวทำอะไรตามใจชอบแบบนี้”

“ใช่ พ่อฉันเป็นพ่อค้ายานรก และคุณก็เป็นนายตำรวจมือสะอาด คงรู้สึกแย่มากสินะ ที่ต้องทนอยู่กับลูกสาวพ่อค้ายาอย่างฉัน...ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ เป็นฉันก็ทนไม่ได้เหมือนกัน” ธิดาพูดจบผลุนผลันออกจากห้อง ภาคภูมิมองตู้กระจกใส่งูที่ว่างเปล่าแล้วอดเจ็บใจไม่ได้ แต่พอนึกถึงหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ออกตามหาธิดามาถึงหน้าคอนโดฯที่พัก แต่เธอหายไปแล้ว ภาคภูมิไม่สบายใจเพราะท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว

ทันใดนั้น มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังมาจากท้ายซอย รีบวิ่งไปดู เห็นจิ๊กโก๋สองคนกำลังลวนลามธิดาอยู่ ภาคภูมิในชุดเครื่องแบบตำรวจวิ่งเข้าหาหน้าตาเอาเรื่อง จิ๊กโก๋หันมาเห็นถึงกับหน้าตื่น วิ่งหนีกันป่าราบ ธิดายังงอนไม่หาย สะบัดหน้าเดินหนี ภาคภูมิคว้ามือเธอไว้ หญิงสาวพยายามสะบัดมือออกแต่ไม่สำเร็จ

“ปล่อยฉันนะ ไม่งั้นฉันจะร้องให้ลั่นเลยว่าตำรวจรังแกประชาชน”

“คิดหรือว่าคนจะเชื่อ ผมอยู่แถวนี้มานานกว่าคุณนะ”

ธิดาเงียบ หมดทางโต้เถียง จำใจเดินกลับห้องพักพร้อมภาคภูมิ

ooooooo

ที่ฟาร์มกล้วยไม้ หมวยหายตัวไปตั้งแต่เช้า เมขลาเดินตามหาทั่วฟาร์มก็ไม่เจอ แนะให้เจ๊ง้อตามไปดูแถวสะพาน เจ๊ง้อสงสัยหมวยจะไปทำไมที่นั่น เมขลาเกรงหมวยจะคิดสั้นอีก เมื่อวานเธอเห็นหมวยจะฆ่าตัวตาย

“แล้วทำไมลื้อไม่บอกอั๊วฮึ”

“ถ้าบอกไป เจ๊จะเลิกบังคับหมวยให้แต่งงานกับคนที่เธอไม่รักหรือเปล่าล่ะ”

เจ๊ง้อโกรธ นี่เป็นเรื่องภายในครอบครัวของเธอ เมขลาเป็นแค่คนรับใช้มายุ่งอะไรด้วย เมขลาต้องยุ่งเพราะสงสารหมวย ไม่อยากเห็นเธอต้องทรมานใจไปตลอดชีวิต

“ลูกอั๊วได้ผัวรวยไม่เห็นทรมานที่ตรงไหน ลื้ออิจฉาลูกอั๊วล่ะสิ หรือว่าเป็นลื้อที่ยุให้อาหมวยหนีออกจากบ้าน”

เมขลาอ้าปากจะเถียง แต่เทวัญห้ามไว้ ขอร้องเจ๊ง้อ อย่าเพิ่งชวนทะเลาะ รีบไปตามหาหมวยกันดีกว่า ขืนช้าจะไม่ทันกาล เมขลาเห็นด้วย ชวนเทวัญตามหาหมวยต่อ ทิ้งเจ๊ง้อให้ยืนหน้างออยู่คนเดียว...

เป็นจริงอย่างเมขลาคาด หมวยวางจดหมายลาตายที่เขียนถึงแม่ แล้วปีนขึ้นไปยืนบนราวสะพานทำท่าจะกระโดด รามขับรถผ่านมาเห็นเข้า รีบลงไปห้าม หมวยตกใจเกือบพลัดตกสะพาน ดีที่รามรวบเอวไว้ทัน หมวยหน้ามืดเป็นลมไปตรงนั้น รามหันรีหันขวางไม่รู้จะทำอย่างไรดี เหลือบไปเห็นจดหมายลาตาย หยิบขึ้นดู

“กรุณาส่ง เจ๊ง้อ เจ้าของฟาร์มกล้วยไม้สุดสวย”

รามรีบอุ้มหญิงสาวไปใส่รถ แล้วกวาดตามองหาฟาร์มที่ว่า...

ด้านเจ๊ง้อ ชะเง้อคอรอลูก แต่ไม่เห็นกลับมาสักที ชักใจไม่ดี ขี่มอเตอร์ไซค์ไปตามขณะกำลังจะเลี้ยวออกจากฟาร์ม รถของรามเลี้ยวสวนเข้ามาพอดี เกือบชนกัน

“ไอ้หยา ลื้อขับรถยังไงฮึ ไม่ดูตาม้าตาเรือ”

“คุณรู้จักเจ๊ง้อมั้ยครับ” รามตะโกนถาม

“อั๊วเอง...มีอะไร”

รามเบี่ยงตัวหลบ เผยให้เห็นหมวยนอนพับอยู่บนเบาะนั่งข้างคนขับ ครู่ต่อมา รามอุ้มหมวยมาวางบนโซฟาในห้องรับแขก เจ๊ง้อเข้าไปบีบๆนวดๆพลางเขย่าตัวลูกให้ได้สติ หมวยฟื้นแล้วแต่แกล้งหลับต่อ เพราะคิดไม่ตกจะทำอย่างไรดี รามอ้าปากจะบอกว่าหมวยพยายามฆ่าตัวตาย แต่เจ๊ง้อคิดว่าเขาจะขอเงินเป็นค่าตอบแทนที่พาลูกสาวมาส่ง ตัดใจควักเงินให้เขาห้าสิบบาท รามไม่ได้อยากได้เงิน เจ๊ง้อรีบตะครุบคืน

“ถ้าลื้อไม่อยากได้เงินแล้วอยากได้อะไร ทำไมไม่ไปซักที”

“คือผมอยากบอกเจ๊ว่า เมื่อกี้น้องกำลังจะฆ่าตัวตาย ถ้ายังไงเจ๊ก็ค่อยๆคุยกับน้องก็แล้วกัน เผื่อจะแก้ไขได้”

“ลื้อเป็นใคร ทำไมอั๊วต้องเชื่อลื้อด้วย”

หมวยที่หลับอยู่เมื่อครู่โพล่งขึ้นทันที “ม้าต้องเชื่อเขา เพราะเขาเป็นสามีของหมวยเอง”

รามตกใจหันขวับมองหมวย เด็กสาวผวาเข้าไปบีบมือราม มองตอบด้วยสายตาอ้อนวอน

“เฮีย...นี่ม้าของหมวยเอง เฮียบอกม้าไปสิว่าเราเป็นอะไรกัน ถ้าเฮียไม่บอก ม้าก็จะจับให้หมวยไปแต่งงานกับคุณบุญเลี้ยงนะ แล้วถ้าเป็นแบบนั้น หมวยฆ่าตัวตายเสียดีกว่า”

“เดี๋ยวคุณ...นี่คุณพูดเรื่องอะไร” รามยังงงไม่หาย เจ๊ง้อสุดทน ตบหน้ารามฉาดใหญ่ โวยวายลั่นทำไมถึงทำแบบนี้ เธอหาผัวไว้ให้ลูกแล้วสินสอดทองหมั้นก็ตกลงกันไว้แล้ว แล้วแบบนี้เธอจะไปบอกทางนั้นอย่างไร

“นั่นเป็นเรื่องของพวกคุณแม่ลูกแล้วล่ะ ไม่เกี่ยวกับผม ผมไม่ใช่สามีลูกสาวเจ๊...บ้ากันไปใหญ่แล้ว บ้าชัดๆ” รามทนไม่ไหวเช่นกัน ลุกหนี เจ๊ง้อหันมองลูกสาว ถามคาดคั้นว่าโกหกแม่ใช่ไหม หมวยกลัวความแตก รีบตามรามจนทัน ขอร้องอย่าเพิ่งไป ขืนเขาไปตอนนี้ แม่ของเธอต้องจับเธอแต่งงานกับบุญเลี้ยงแน่ๆ

“นั่นมันปัญหาของคุณไม่ใช่ของผม แล้วผมก็...” รามจะบอกว่ามีเมียแล้ว แต่ต้องชะงักที่เห็นเทวัญประคองเมขลาที่ข้อเท้าแพลงเข้ามาเสียก่อน ต่างฝ่ายต่างมองตะลึง หมวยเห็นแม่ออกมาตาม โผกอดรามโชว์เสียเลย

“หมวยกับเฮียเป็นคนคนเดียวกันแล้ว หมวยจะไม่แต่งงานกับใครเป็นอันขาด”

“พวกลื้อสองผัวเมีย ลากตัวอาหมวยออกมาเดี๋ยวนี้” เจ๊ง้อหันไปสั่งเมขลากับเทวัญ รามถึงกับอึ้ง

“เธอควรจะเห็นใจความรักของเราสองคนนะ เธอรักผัวเธอ ฉันก็รักผัวฉันเหมือนกัน” หมวยยังกอดรามไว้แน่น เจ๊ง้อเครียดจัด เป็นลมล้มพับไปตรงนั้น เทวัญรีบเข้าไปประคองเจ๊ง้อเข้าบ้านโดยมีเมขลาเดินตาม

“สองคนนั่นเป็นใคร มาอยู่ที่นี่ได้ไง” รามว่าพลางมองตามเมขลากับเทวัญอย่างเจ็บปวดใจ
“เขามาสมัครเป็นคนงานของม้า ยิ่งเห็นเขาผัวเมียรักกันมาก หมวยก็ยิ่งไม่อยากแต่งงานกับคนที่หมวยไม่รัก  เฮีย... เฮียช่วยหมวยหน่อยนะ” หมวยอ้อนวอน รามคิดแผนการบางอย่างขึ้นมาได้ รับปากจะช่วยแต่มีข้อแม้อยู่หนึ่งข้อ หมวยยอมทำทุกอย่าง ขอเพียงให้เขาช่วยเธอเล่นละครตบตาแม่ต่อไป...

เจ๊ง้อถึงกับเด้งขึ้นจากโซฟาหายวิงเวียนเป็นปลิดทิ้งเมื่อรู้ว่ารามจะมาอยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะผัวของลูก รามขู่ถ้าไม่ให้ อยู่เขาจะพาหมวยไปอยู่ข้างนอก ถึงเขาจะจนแต่เขาก็มีปัญญาเลี้ยงดูหมวย เราสองคนจะช่วยกันขายเต้าฮวย เจ๊ง้อแทบจะลมใส่อีกรอบ ตัดพ้อถ้าหมวยไปแล้วใครจะช่วยเธอดูแลฟาร์มกล้วยไม้

“นั่นมันเรื่องของเจ๊ ไม่ใช่เรื่องของผมกับหมวย” รามพูดจบ คว้ามือหมวยลุกขึ้น

“เดี๋ยว...ลื้ออยู่ก็ได้แต่ลื้อต้องทำงานแลกค่าที่พัก จะมากินฟรีอยู่ฟรีไม่ได้ และอั๊วไม่มีวันยอมรับลื้อเป็นลูกเขยเด็ดขาด ลื้อต้องลงไปนอนรวมกับคนงานที่ข้างล่างโน่น” เจ๊ง้อมองลูกสาวอย่างเจ็บใจ ขณะที่รามแอบยิ้มดีใจ

ooooooo

นางฟ้ากับมาเฟีย

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด