สมาชิก

นางฟ้ากับมาเฟีย

ตอนที่ 16

รามใจหายเมื่อรู้จากทรงวาดว่าเมขลาไปจากที่นี่แล้ว ทรงวาดเองก็ไม่รู้ว่าไปไหน เธอบอกเพียงว่าขอเวลาอยู่คนเดียวสักพัก หาที่อยู่ได้แล้วจะโทร.มาบอก รามร้อนใจมากจะออกไปตาม เย็นโทร.เข้ามือถือเขาพอดี

“ตอนนี้ผมยังไม่ว่างคุยกับพี่นะ แล้วผมจะโทร.กลับ” รามพูดได้แค่นั้นแล้วรีบร้อนวางสาย

เย็นจะโทร.มาบอกว่าเมขลาอยู่กับโรสที่อพาร์ตเมนต์ แต่รามไม่ฟัง...

รามตามหาเมขลาให้วุ่นไปหมด ขอให้รุจช่วยเช็กเที่ยวบินไปต่างประเทศให้ทุกไฟลต์ไม่มีชื่อเมขลาอยู่เลย เขาลองไปตามที่บ้านเด็กกำพร้า ละมุนเองก็ไม่รู้ว่าเมขลาไปไหน รามรีบไปที่หน่วย ป.ป.ส. ขอร้องให้ยุทธกับภาคภูมิสืบข่าวให้ก็ไม่ได้เรื่อง สัญญาณจีพีเอสก็ตรวจไม่พบ รามชักหงุดหงิด ท่านก้องภพตบบ่ารามเบาๆ

“ใจเย็นหน่อยเมียหนีแค่นี้ทำเป็นตื่นเต้นไปได้ เอาอย่างฉันสิถูกเมียทิ้งไปตั้งหลายปีฉันยังไม่เห็นเดือดร้อน”

“จริงหรือคะ ท่านผู้บัญชาการ”

ท่านก้องภพหันมองตามเสียงเจอกำนันตาลยืนอยู่ถึงกับหน้าจ๋อยรีบบอกว่าไม่จริง เขาแค่ปลอบใจลูกน้องเท่านั้น กำนันตาลหันไปถามรามว่ารู้ไหมว่าผู้หญิงทุกคนชอบฟังคำพูดอะไรที่ผู้ชายมักจะไม่ชอบพูด

“ผมรักคุณนะจ๊ะ...แบบนี้ใช่มั้ย” ท่านก้องภพชิงตอบคำถามตัดหน้า กำนันตาลแกล้งกระทุ้งศอกใส่ท่านก้องภพ ยุทธกับภาคภูมิพากันหัวเราะขำ แต่รามกลับใจลอยถึงเมขลา จังหวะนั้น ธิดาโทร.มาตามรามไปพบ...

ครู่ต่อมา รามมาถึงสวนสาธารณะเห็นธิดารออยู่อย่างกระวนกระวายใจ เพราะเทวัญหายตัวไป ติดต่อไม่ได้มาสามวันแล้ว เธออยากให้เขาช่วยหาตัวพี่ชายให้ รามเองกำลังจะโทร.ถามเทวัญเหมือนกันว่าเห็นเมขลาหรือเปล่า ทั้งคู่หายไปพร้อมกันแบบนี้หรือว่าเทวัญเป็นคนพาเมขลาไป ธิดาแหวใส่ทันที

“นายจะกล่าวหาว่าพี่ชายฉันล่อลวงยัยเมงั้นสิ พี่เทพไม่ตาบอดกลับไปหาคนที่มีส่วนทำให้พ่อตัวเองต้องตายหรอก” ธิดาลงนั่งแบบไม่พอใจ รามตามมานั่งข้างๆ ไหนธิดาเคยบอกเขาว่าให้อภัยเมขลาแล้วไม่ใช่หรือ

“ก็นายเริ่มก่อน นายรักเมียนาย ฉันก็รักพี่ชายฉัน พี่เทพ เป็นสุภาพบุรุษไม่รังแกผู้หญิงเหมือน...” ธิดาว่าพลางมองหน้ารามซึ่งยิ้มแหยๆให้ ชายหนุ่มไม่อยากทะเลาะด้วย ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะฟื้นฝอยหาตะเข็บ เราสองคนต้องช่วยกันคิดว่าเทวัญจะไปที่ไหน ธิดายอมสงบศึกด้วย แต่รามต้องพาเธอไปเลี้ยงข้าวก่อน เธอไม่ได้กินของดีๆแพงๆมาเป็นเดือนๆแล้ว รามมองเธออย่างสงสาร

ooooooo

ขณะเทวัญกำลังทาสีร้านกาแฟของตัวเองอย่างขะมักเขม้น เมขลาลากกระเป๋าเดินทางเข้ามา ชายหนุ่มแปลกใจ เธอหาเขาเจอได้อย่างไร เมขลาจำได้ว่าครั้งหนึ่งเทวัญเคยให้เธอดูพิมพ์เขียวของสถานที่ตั้งร้านกาแฟในฝันของเขา และบอกเธอว่าวันใดที่วางมือจากธุรกิจของพ่อ เขาจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น เธอยังจำได้อีกด้วยว่า  เคยบอกเขาไว้เมื่อไหร่ที่ตกงาน เธอจะขอเข้าหุ้นร้านนี้ด้วย

“โอเคเลยครับ เพราะผมก็ถังแตกเหมือนกัน โชคยังดีที่ดินตรงนี้ผมใช้เงินเก็บส่วนตัวซื้อไว้ เพราะเงินกับทรัพย์สินของพ่อโดนอายัดหมด เรียกว่าชีวิตผมตอนนี้เริ่มต้นจากศูนย์”

“แต่ว่าตอนนี้ฉันยังไม่มีเงินหรอกค่ะ ถังแตกเหมือนกัน เงินในธนาคารก็เป็นเงินของคุณแม่ฝากให้ ฉันอายที่จะเบิกมาใช้ เอางี้ได้มั้ยคะ ฉันขอลงแรงไปก่อนแล้วกัน”

เทวัญหัวเราะชอบใจ ตกลงรับข้อเสนอ และจะไม่ให้เธอลงแรงฟรีๆเพราะเขามีเงินเดือนให้ เมขลากุลีกุจอคว้าแปรงทาสีจะโชว์ฝีมือ แต่แปรงกลับกระเด็นหลุดมือโดนหน้าเทวัญเต็มๆ เรื่องโก๊ะไม่มีใครเกินนางฟ้าเมขลา...

ในเวลาเดียวกัน รามกับธิดายังคงมุ่งมั่นตามหาเทวัญไปตามบ้านเพื่อนของเขา แต่ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าใดนัก พวกที่เทวัญเคยช่วยเหลือไว้ก็ไม่อยากเกี่ยวข้องด้วยเกรงจะเดือดร้อน จากนั้น ธิดาพารามไปที่ร้านคาราโอเกะซึ่งเคยเป็นถิ่นเก่าของเย็น รามจำได้ว่าเคยทำงานที่นี่กับเย็นมาก่อน

“ตอนนี้มันถูกปิดไปแล้ว แต่ลูกน้องเก่าของพี่เทพบางคนยังทำงานอยู่ย่านนี้ เขาเคารพพี่เทพมาก อาจช่วยเราสืบข่าวพี่เทพได้” ธิดาเดินนำเข้าไปในซอยใกล้ๆ รามรีบดึงมือเธอไว้ ตรงหน้าทั้งคู่ มีนักเลงหลายคนเข้ามาล้อมกรอบพร้อมกับไม้หน้าสามในมือ จ้องมองธิดาด้วยสายตามุ่งร้าย นักเลงคนหนึ่งเข้ามาชี้หน้าหญิงสาว

“นี่ไงลูกสาวไอ้พ่อเลี้ยงจอมโหด ใครที่เคยถูกมันกดขี่ รีดไถเงิน ฆ่าผัวพรากเมีย...ลูกสาวมันยืนอยู่ตรงนี้แล้ว เอาคืนกับลูกสาวมันได้ตามใจชอบ”

“พูดงี้ก็ไม่ถูกนะ บ้านเมืองมีกฎหมายจะเที่ยวทำร้ายใครตามใจชอบไม่ได้”

พวกนักเลงไม่ฟังรามพูด เงื้อไม้จะเข้าทำร้ายธิดา รามเข้าขวาง ผลักธิดาหลบไปด้านหลัง แล้วเข้าต่อสู้กับพวกนักเลงด้วยมือเปล่า พวกนั้นอีกส่วนหนึ่งจะตรงเข้าทำร้ายธิดา รามเห็นท่าไม่ดี คว้ามือเธอวิ่งหนี ธิดาโวยลั่นจะวิ่งได้ อย่างไรเดี๋ยวรองเท้าส้นสูงราคาแพงพัง รามสั่งให้ถอดทิ้งแล้ววิ่งเท้าเปล่า ธิดายังติดภาพนางร้าย ถอดรองเท้าได้ปาใส่หน้านักเลงอย่างจัง ก่อนจะเผ่นแนบไปกับราม...

ไม่นานนัก รามพาธิดามานั่งกินข้าวในร้านอาหารหรูดูดี ธิดาเอาแต่เขี่ยอาหารกินไม่ลง รามแซวทำไมถึงไม่รีบกิน หรือว่าซาบซึ้งใจที่เขาช่วยชีวิตเธอไว้

“ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคนเกลียดคุณพ่อมากมายขนาดนี้ ตอนที่คุณพ่อยังอยู่ รอบตัวฉันก็มีแต่คนพะเน้าพะนอเอาใจ แต่เดี๋ยวนี้...” ธิดาพูดยังไม่ทันจบประโยค มีเสียงผู้หญิงที่นั่งโต๊ะด้านหลัง ด่าว่าเธอเสียงลั่นว่าเป็นลูกมาเฟียค้ายา ธิดาโกรธจะหันไปเอาเรื่อง แต่เจอผู้ชายคนหนึ่งพุ่งเข้ามาเอาน้ำสาดหน้า

“พ่อแกทำให้ลูกสาวฉันต้องติดยา...ลูกสาวที่น่ารักของฉันต้องกลายเป็นคนวิกลจริตก็เพราะไอ้พวกนรกส่งมาเกิด พวกแกต้องไม่ตายดี ต้องโดนสาปแช่ง”

ทุกโต๊ะในร้านจ้องมองธิดาเป็นตาเดียวกัน รามจะกันชายคนนั้นออกไป ธิดากลับบอกให้รามปล่อยเขาแล้วยื่นแก้วน้ำของตัวเองให้ ถ้าเขายังไม่หายแค้นเชิญสาดน้ำใส่เธอได้ตามสบาย

ธิดาสะเทือนใจเพราะรู้มาตลอดว่าเงินทุกบาทที่ได้มาเป็นเงินสกปรกจากการค้ายา แต่กลับไม่แคร์ ขอแค่ให้มีเงินซื้อกระเป๋าหรู กินอาหารขึ้นเหลาอย่างดี สมควรแล้วที่โดนแบบนี้ แล้วเชิญชวนให้ใครที่อยากด่าหรืออยากทำร้ายเธออีกเข้ามาได้เลย รามสงสารธิดา รีบจูงมือออกมานั่งที่สวนสวยหน้าร้าน ธิดาทนไม่ไหวร้องไห้โฮ

“ไหล่ผมกำลังว่างอยู่ สนใจใช้บริการก็บอกได้นะ” รามว่าแล้วลงนั่งข้างๆ

“นายไม่รังเกียจฉันเหมือนพวกเขาหรือ ขนาดฉันยังรู้สึกขยะแขยงตัวเองเลย”

รามเองก็เคยมีชีวิตที่บัดซบเหมือนกัน แต่ถ้าเขาไม่ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง ชีวิตในวันนี้ของเขาก็คงเป็นได้แค่ไอ้ขยะสังคม ธิดาไม่รู้จะทำอย่างไรกับตัวเองดี รามแนะ ให้เดินหน้าต่อไป ธิดาซึ้งใจมากขอยืมไหล่รามสักหนึ่งนาทีได้ไหม รามยินดีให้บริการ แล้วดึงเธอมากอดแบบเพื่อนโดยไม่เห็นนักข่าวคนหนึ่งแอบถ่ายรูปทั้งคู่ไว้

ooooooo

ที่บ้านของเฮียจางเจ้าพ่อมาเฟียใหญ่ของฮ่องกง หลังจากเฮียจางฟังลูกน้องรายงานเรื่องพ่อเลี้ยงปอง-ธรรมซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ของตัวเองในประเทศไทยถูกตำรวจวิสามัญฯ แถมเรืองฤทธิ์หุ้นส่วนใหม่ของพ่อเลี้ยงปองธรรมก็ตกอยู่ในมือตำรวจ เพื่อเป็นการตัดตอนไม่ให้เรืองฤทธิ์ปูดความลับขององค์กร เฮียจางสั่งให้สมุนไปตามอาเหลียงนักฆ่ามือหนึ่งของฮ่องกงมาพบ

ไม่นานนัก อาเหลียงมายืนอยู่ตรงหน้าเฮียจางเพื่อตกลงค่าเหนื่อยสำหรับงานครั้งนี้ เขาขอทองคำ 1 แท่งต่อ 1 ศพ เฮียจางตกลงรับปาก แต่อาเหลียงต้องได้รายชื่อคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก่อน ส่วนตามเก็บได้กี่ศพก็มารับค่าเหนื่อยไปตามนั้น อาเหลียงอยากรู้คราวนี้เป้าหมายอยู่ที่ไหน

“เมืองไทย ตอนนี้อั๊วให้สายเข้าไปส่งข่าวแล้ว ลื้อมีหน้าที่รอรับตัวมันออกมาจากคุก แล้วก็เค้นเอารายชื่อทั้งหมดออกมา” เฮียจางยิ้มเหี้ยม...

ขณะที่อาเหลียงเตรียมตัวเดินทางมาเมืองไทย เรืองฤทธิ์ ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำในเมืองไทยได้รับข่าวจากคนของเฮียจางโดยแอบส่งมากับกระดาษรองขนมเปี๊ยะว่า

“พรุ่งนี้เฮียจางจะให้คนมารับคนป่วยออกไป” เรืองฤทธิ์ ยิ้มดีใจ รีบขยำกระดาษรองขนมเปี๊ยะกลืนลงท้อง

ooooooo

เมขลาถึงกับชะงักเมื่อเห็น นสพ.หน้าบันเทิงลงรูปรามกำลังกอดกับธิดา ใต้ภาพมีคำบรรยายว่า

“เพิ่งหลุดจากคดีใหญ่ เทเรซ่าเซเลปสาวก็ได้หนุ่ม ดาร์ค ทอลแอนด์แฮนซั่มมาปลอบใจทันที”

จังหวะนั้น เทวัญยกชามใส่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาวางบนโต๊ะ บอกให้เมขลาวางมือจากเช็ดกระจกมากินอะไรก่อน เมขลารีบฉีกรูปนั้นยัดใส่กระเป๋ากางเกงเดินไปนั่งกินบะหมี่อย่างเอร็ดอร่อย เทวัญมองเธอกินมื้อเย็นอย่างมีความสุข แอบมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง พลันเสียงมือถือของเขาปลุกให้ตื่นจากภวังค์ มองเบอร์โชว์หน้าจอ

“ผมขอตัวแป๊บนะ ตรงนี้สัญญาณไม่ค่อยดี”

ทันทีที่เทวัญไปพ้นสายตา เมขลาหยุดกิน สีหน้าเปลี่ยนเป็นเศร้า หยิบรูปรามกับธิดาขึ้นมาดู ด้านเทวัญปล่อยให้สัญญาณเรียกเข้าจากธิดาดังอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสายทิ้ง แล้วดึงแบตฯออก...

ธิดาแปลกใจที่พี่ชายไม่รับสาย เพราะที่ผ่านมาเขาจะรับสายเธอตลอด หรือคราวนี้เขาตั้งใจจะทิ้งน้องสาวคนนี้ไปจริงๆ รามถึงกับร้องอ้าว ตัดพ้อว่าเอาเพื่อนอย่างเขาไปทิ้งไว้ที่ไหน ถ้าธิดามีปัญหาอะไรโทร.ตามเขาได้ตลอด ธิดาแกล้งตัดพ้อกลับว่าไม่ต้องย้ำคำว่าเพื่อนบ่อยๆก็ได้

“ผมไม่ได้อยากจะย้ำสักหน่อย” รามทำหน้าไม่ถูก ธิดาหัวเราะคิก

“ฉันล้อเล่น ฉันน่ะไม่ได้คิดอะไรกับนายแล้ว เพราะฉันเป็นฝ่ายสลัดนายทิ้ง คนสวยอย่างฉันยังมีหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยวรอต่อคิวอีกเพียบ ขอบใจนะที่มาส่ง” ธิดาพูดจบลงจากรถ พอพ้นสายตาราม สีหน้าสลดลงทันที...

จากนั้นไม่นาน รามกลับถึงบ้าน พบโรสกับเย็นนั่งกินข้าวอยู่กับทรงวาด อดแซวไม่ได้ว่าสองผัวเมียจะย้ายสำมะโนครัวมาอยู่นี่กันหมดเลยหรือ ทรงวาดพาซื่อบอกรามว่าโรสแค่มาเยี่ยม เพราะเมขลาขอให้มา

“คุณโรสเจอกับเมเหรอครับ แล้วตอนนี้เธออยู่ไหน” รามตาวาวดีใจ

“อุ้ย ยังไม่เจอค่ะ เมมันสั่งฉันไว้ก่อนจะหายตัวไป จากวันนั้นถึงวันนี้มันก็ไม่เคยโผล่มาหาอีก มือถือมันก็ติดต่อไม่ได้เลย”

รามไม่เชื่อ มองเย็นที่นั่งก้มหน้าก้มตากินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ก่อนจะดึงคอเสื้อให้ลุกขึ้นทั้งที่ข้าวยังคาปาก แล้วลากออกไปที่สวนหน้าบ้าน ซักไซ้ไล่เลียงเมขลาพูดอะไรบ้างตอนที่ไปหาโรสครั้งก่อน เย็นเล่าว่าวันนั้นเมขลาบอกกับโรสว่าจะเลิกกับราม แล้วพอโรสถามเธอว่าที่ผ่านมาไม่ได้รักรามบ้างเลยหรือ

“คุณเมไม่ได้ตอบ แต่ส่ายหน้าแทน”

“ก็ดี...ผมจะได้เลิกตามหา มีเมียแล้ววุ่นก็อย่ามีดีกว่า” รามปากแข็งแต่อดเจ็บจี๊ดในหัวใจไม่ได้

“ทีเอ็งทำกับเธอไว้มาก พอโดนเธอทำให้หน่อยทำเป็นโวยวาย เอ๊ะ...แต่เมียไม่อยู่สักพักก็ดีนะโว้ย เอ็งจะได้แอบไปหาสาวๆกับข้าได้” เย็นทำปากดี ทันใดนั้น มีเสียงโรสตะโกนขึ้นด้านหลัง

“ไอ้เย็น แกคิดนอกใจฉันเหรอ...วันนี้ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง” โรสปราดเข้ามาตบ เย็นก้มหลบเลยพลาดโดนหน้ารามเต็มๆ รามสบช่อง เอาตัวเย็นกับโรสไปที่หน่วย ป.ป.ส. แกล้งขึงขังจะแจ้งความจับโรสข้อหาทำร้ายเจ้าพนักงาน เย็นพยายามขอร้องรามอย่าเอาเรื่อง โรสทำไปโดยไม่ได้ตั้งใจ รามไม่สนใจหันไปขยิบตาให้ภาคภูมิอย่างรู้กัน แล้วขอให้ภาคภูมิจัดการเรื่องนี้ต่อให้ด้วย เขามีงานต้องรีบไปทำ

“ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะคะ ผู้กองช่วยพูดให้หน่อยสิคะ” โรสเสียงอ่อย

“พักนี้ผู้กองรามหงุดหงิดง่าย ก็น่าจะรู้ใช่มั้ยครับว่าเพราะอะไร ถ้าอยากให้ผู้กองรามอารมณ์ดีไม่เอาเรื่องคุณ คุณก็ต้องตามคุณเมกลับมาให้ได้” ภาคภูมิทำเสียงเข้ม ขณะที่โรสมองเย็นหน้าเครียด ไม่รู้จะไปตามหาเมขลาได้ที่ไหน ภาคภูมิ รอจนสองผัวเมียกลับ จึงเข้าไปที่ห้องทำงานของราม ต่อว่ารามทำแบบนี้กับโรสและเย็นไม่เกินไปหน่อยหรือ รามมั่นใจว่าโรสต้องรู้ว่าเมขลาอยู่ไหน แต่ปิดบังไว้ ถ้าเอาคุกมาขู่เดี๋ยวต้องยอมเปิดปากแน่ๆ

“แล้วข่าวนี้ล่ะครับ ทางหนึ่งผู้กองก็ตามหาเมีย อีกทางก็กอดผู้หญิงอีกคน ตกลงผู้กองจะเอายังไง” ภาคภูมิชี้รูปรามกำลังกอดธิดาบน นสพ.ที่กางอยู่บนโต๊ะทำงานราม

ให้ดู รามปฏิเสธว่าเขากับธิดาไม่เคยมีอะไรกัน เขาแค่ปลอบเธอเพราะวันนั้นเธอมีเรื่องไม่สบายใจ ถึงเขาจะไม่ได้เป็นสามีที่ดี แต่ไม่มีทางนอกใจเมียแน่นอน

“ที่ผมถามเพราะจะได้ช่วยผู้กองได้อย่างสบายใจ” ภาคภูมิอมยิ้ม

“แล้วผมจะตอบแทนผู้กองด้วยการหาเมียสวยๆให้ผู้กองสักคนก็แล้วกันนะ” รามตบบ่าภาคภูมิเบาๆ ภาคภูมิจะอ้าปากบอกไม่ต้อง แต่ยุทธเข้ามาแจ้งเสียก่อนว่าท่านก้องภพต้องการพบ

ครู่ต่อมา ผู้กองหนุ่มทั้งสองคนมาพบท่านก้องภพที่ห้องทำงาน ท่านอยากรู้ความคืบหน้าคดีเรืองฤทธิ์ ภาคภูมิรายงานว่าพรุ่งนี้เช้าจะมีการพิจารณาคดีนัดแรก ท่านก้องภพเตือนทั้งคู่อย่าปล่อยให้ผู้ต้องหาหลุดไปได้  รามสีหน้าไม่ค่อยดี ท่านก้องภพเห็นเข้ารีบออกตัว ลืมไปว่าผู้ต้องหากับรามเกี่ยวข้องกัน

“ผมไม่เป็นไรครับ ถึงจะเป็นอาผม แต่ยาเสพติดเป็นมะเร็งร้ายบ่อนทำลายประเทศ ในฐานะตำรวจ ผมต้องทำตามหน้าที่” รามสายตาแข็งกร้าว

ooooooo

ได้เวลาตามนัด  อาเหลียงเอาตัวเรืองฤทธิ์ออกจากเรือนจำด้วยรถพยาบาลปลอมสำเร็จตามแผน  แล้วพาไปที่เซฟเฮาส์ของเฮียจางกลางกรุงเพื่อให้เรืองฤทธิ์เปลี่ยนชุดนักโทษออก  เรืองฤทธิ์ไม่พบเฮียจางที่นั่นก็ถามหา ได้ความว่าอยู่ฮ่องกง  เรืองฤทธิ์ต้องการให้อาเหลียงพาไปหาเฮียจางเพราะอยู่ที่นี่ไม่ปลอดภัย

“คุณได้ไปแน่ แต่เฮียอยากรู้ว่าใครบ้างที่เกี่ยวข้องกับการทำลายล้างแก๊งพ่อเลี้ยง”

เรืองฤทธิ์เก๋าเกมขอต่อรอง ถ้าให้รายชื่อแล้ว อาเหลียงต้องพาเขาออกนอกประเทศพร้อมกับเงินก้อนหนึ่ง อาเหลียงหยิบกระดาษพร้อมปากกายื่นให้เรืองฤทธิ์เขียนรายชื่อมาให้เขาก่อนแล้วเรื่องนั้นเขาจะจัดการให้...
การหายตัวไปของเรืองฤทธิ์ทำให้การพิจารณาคดีนัดแรกต้องเลื่อนไปโดยปริยาย ทั้งราม และภาคภูมิเดาไม่ถูก ฝีมือพวกไหนกันแน่ที่เอาตัวเรืองฤทธิ์ไป  จังหวะนั้น  ท่านก้องภพ

โทร.มาแจ้งทั้งคู่ว่า ยุทธได้ภาพจากกล้องจราจรเห็นรถพยาบาลคันที่เอาตัวเรืองฤทธิ์ไปจากเรือนจำกำลังใช้ถนนมอเตอร์เวย์วิ่งออกนอกเมือง ราม และภาคภูมิต้องไล่กวดพวกนั้นให้ทัน แล้วทางเขาจะประสานงานกับตำรวจทางหลวงให้ช่วยอีกแรง...

ใกล้โพล้เพล้เต็มที ตอนที่รถพยาบาลที่อาเหลียงขับเลี้ยวเข้าไปในไร่สับปะรดที่รกร้าง ชาวไร่คนหนึ่งเลิกงานกำลังจะกลับบ้าน อดแปลกใจไม่ได้ รถพยาบาลแล่นเข้าไปทำไม แต่ไม่ติดใจสงสัยอะไร

ด้านเรืองฤทธิ์ชักเอะใจเมื่อลงจากรถพยาบาลมองไปรอบๆเห็นไร่สับปะรดรกๆสุดลูกหูลูกตา กว่าจะรู้ตัวว่าถูกลวงมาฆ่าก็เป็นตอนที่อาเหลียงชักปืนจะยิงแสกหน้า เรืองฤทธิ์ไวทายาด โดดหลบไปอยู่หลังรถเข็นดินที่มีดินกองอยู่เต็ม อาเหลียงยิ้มเหี้ยมเดินเข้าหา เรืองฤทธิ์รอให้นักฆ่าจอมโหดเข้ามาได้ระยะ ผลักรถเข็นดินเต็มแรง รถพุ่งเข้าหาจนอาเหลียงต้องโดดหลบ พอหันไปอีกที เรืองฤทธิ์วิ่งหนีหัวซุกหัวซุนหายเข้าไปในไร่แล้ว...

ระหว่างที่ภาคภูมิขับรถมากับรามด้วยความเร็วสูงตามเส้นทางที่ยุทธแจ้งมาว่า กล้องจราจรของตำรวจทางหลวงจับภาพรถพยาบาลเป้าหมายได้เป็นครั้งสุดท้าย ภาคภูมิถึงกับบ่นอุบ

“ถนนสายนี้ทั้งยาวทั้งทางแยกเยอะ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่ามันไปทางไหน”

ทันใดนั้น มีคนวิ่งออกมาจากข้างทาง ภาคภูมิตาเหลือก กระแทกเบรกแทบไม่ทัน รามกับภาคภูมิลงจากรถไปดู เห็นชาวไร่คนนั้นนอนคลุกฝุ่นอยู่ข้างถนน โชคดีที่ไม่เป็นอะไร ทั้งสองหนุ่มโล่งใจรีบชวนกันขึ้นรถ เกรงยิ่งมืดจะยิ่งตามหาพวกนั้นยาก แต่แล้วรามนึกอะไรขึ้นมาได้ หันไปถามชาวไร่

“เดี๋ยวครับลุง...ลุงเห็นรถพยาบาลสีขาว วิ่งผ่านมาทางนี้บ้างไหมครับ”

ชาวไร่นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า เห็นรถพยาบาลเลี้ยวเข้าไปในไร่สับปะรดก่อนจะเจอสองหนุ่มประมาณ 2 กิโลเมตรได้ รามกับภาคภูมิรีบวิ่งกลับขึ้นรถ ขับไปยังทิศทางที่ชาวไร่บอก

ooooooo

ในเวลาต่อมา เรืองฤทธิ์วิ่งหนีมาหลบอยู่หลังต้นไม้ มองไปด้านหลังไม่เห็นอาเหลียงตามมา นั่งลงหลับตาพักเหนื่อย แต่อยู่ๆได้กลิ่นควันไฟลอยมาแตะจมูกทะลึ่งพรวดลุกขึ้นมองไปรอบๆเห็นเปลวไฟล้อมรอบตัวเองอยู่ห่างๆถึงกับหน้าซีด คิดหาทางหนี

อีกมุมหนึ่งของไร่สับปะรด อาเหลียงมองดูผลงานตัวเองอย่างสะใจ ก่อนจะเดินไปที่รถหยิบเสื้อตัวใหม่มาเปลี่ยนแล้วไปยืนรออย่างใจเย็นพร้อมปืนในมือ ตรงส่วนที่เขาเว้นว่างไว้ไม่ได้ราดน้ำมันและไม่ได้จุดไฟเพื่อเปิดทางให้เรืองฤทธิ์ออกมา รออยู่ไม่นาน เรืองฤทธิ์วิ่งหนีไฟออกมาทางนั้นตามแผน อาเหลียงซาดิสต์ สาดกระสุนใส่แค่กันไม่ให้เรืองฤทธิ์หนี สะใจที่เห็นเป้าหมายวิ่งหลบกระสุนด้วยความหวาดกลัว

“ตอนนี้แกมีทางเลือกสองทาง ยอมตายอยู่ในนั้นหรือออกมากินลูกตะกั่วนี่”

“ไอ้ชั่ว ฉันไปทำอะไรให้แกฮึ แกถึงได้ทำกับฉันแบบนี้” เรืองฤทธิ์ตะโกนด่าลั่น อาเหลียงไม่มีความแค้นอะไรส่วนตัว เพียงแต่เรืองฤทธิ์อยู่ในบัญชีที่ต้องถูกฆ่าตัดตอนเท่านั้น แล้วสาดกระสุนเข้าไปในดงต้นสับปะรดอีกครั้ง เสียงปืนทำให้รามกับภาคภูมิชะงัก รู้ทันทีว่ามาถูกทาง ขับตะบึงตามเสียงปืนเข้าไปในไร่

ฝ่ายเรืองฤทธิ์รอดจากคมกระสุนของอาเหลียงหวุดหวิด แอบมองผ่านต้นสับปะรดเห็นอาเหลียงคว้าแกลลอนน้ำมันขึ้นมาไล่สาดน้ำมันไปรอบๆ ถูกเรืองฤทธิ์เต็มตัว

“เฮ้ย...อย่านะ แกอย่าทำอะไรบ้าๆ นะโว้ย”

อาเหลียงไม่พูดอะไร หยิบไฟแช็กขึ้นมาจุด ทันใดนั้นรถของรามแล่นฝ่าความมืดเข้ามาจอด สองหนุ่มพุ่งออกจากรถพร้อมกับจ้องปืนเล็งอาเหลียง แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สั่งให้วางอาวุธแล้วมอบตัว อาเหลียงเหมือนจะยอมจำนน แต่กลับโยนไฟแช็กใส่เรืองฤทธิ์ไฟลุกพรึบท่วมตัว ร้องลั่น รามกับภาคภูมิตะลึง อาเหลียงฉวยโอกาสนั้น คว้าแกลลอนน้ำมันเหวี่ยงใส่ภาคภูมิ ก่อนวิ่งไปขึ้นรถ รามยิงไล่หลังแต่ไม่โดน ขยับจะวิ่งตาม

“ช่วยด้วย ราม...ช่วยอาด้วย”

เสียงร้องขอความช่วยเหลือของเรืองฤทธิ์ทำให้รามชะงัก บอกให้ภาคภูมิตามคนร้ายไป แล้วตัวเองรีบวิ่งกลับไปช่วยเรืองฤทธิ์ ถอดแจ๊กเกตออกฟาดไฟที่ลุกท่วม แล้วประคองเขาฝ่าเปลวไฟออกมาจนได้ จากนั้น รามรีบโทร.แจ้งยุทธให้ส่งรถพยาบาลมารับตัวเรืองฤทธิ์ทันที...

ขณะที่รามเสี่ยงตายเข้าไปช่วยเรืองฤทธิ์ เหมือนมีลางสังหรณ์สื่อไปถึงเมขลาซึ่งอยู่ห่างกันตั้งไกล หญิงสาวกำลังฟุบหลับอยู่ในร้านกาแฟของเทวัญ ละเมอร้องห้ามรามอย่าเข้าไปลั่นร้าน เทวัญตกใจเขย่าให้รู้สึกตัว
“คุณเม...ตื่นเถอะครับ...คุณเม”

เมขลาสะดุ้งตื่นมองไปรอบๆ พบว่าตัวเองฝันไป เทวัญเป็นห่วงถามว่าฝันร้ายหรือ เมขลาพยักหน้าแต่ไม่ยอมเล่าความฝันให้ฟัง เทวัญเจ็บแปลบหัวใจ แต่ยังมีแก่ใจปลอบหญิงสาว

“คุณทำใจให้สบายเถอะ โบราณบอกฝันร้ายจะกลายเป็นดี”

“ฉันก็หวังอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ หวังว่าคงไม่มีใครเป็นอะไร” เมขลาพึมพำเบาๆ

ooooooo

นางฟ้ากับมาเฟีย

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด