สมาชิก

เหนือเมฆ2 มือปราบจอมขมังเวทย์

ตอนที่ 10

แพรไพลินนำกำลังวิ่งขึ้นไปยังตึกเป้าหมาย เจอดาหลาพอดี แพรไพลินประเมินคู่ต่อสู้ที่เธอค้นคว้าข้อมูลมาอย่างดีว่าแขนหักตั้งแต่วัยเด็กและทำศัลยกรรมจมูกผิดวิธี

เธอโจมตีจุดอ่อนทั้งสองแห่งของดาหลาอย่างรวดเร็ว แม่นยำ อึดใจเดียวดาหลาก็หมดท่า ถูกแพรไพลินจับใส่กุญแจมือนำกลับไปที่สำนักงานสืบสวนพิเศษ จากการสอบสวนแพรไพลินรับรู้ด้วยความเจ็บปวดว่างานนี้เป็นฝีมือของรวินั่นเอง!

เวลาเดียวกันนั้น นภาและอินทนนท์ติดตามการเคลื่อนไหวของรวิจากฐานลับ แต่ยังจุดระเบิดไม่ได้เพราะรถตู้ขับเข้าไปในย่านชุมชน รวิโทร.ติดต่อจักรแจ้งว่า “กำลังจะสลัดนักข่าวออกไป พร้อมนำของไปส่งที่หมาย”

ไม่กี่อึดใจต่อมา รถนักข่าวที่ตามรถตู้ของรวิไปก็ถูกรถคันหนึ่งขับตัดหน้า ต้องเบรกกะทันหัน จากนั้นน้ำใสรายงานด้วยนํ้าเสียงผิดหวัง เสียดายว่า

“รถถ่ายทอดสดถูกสกัดไม่ให้ติดตามขบวนต่อไป คาดว่าโบราณวัตถุทั้งสองชิ้นคงจะถูกนำไปเก็บยังสถานที่ลับสุดยอดค่ะ”

เมื่อรถตู้คันนั้นขับออกจากย่านชุมชน อินทนนท์สั่งจุดระเบิด แต่ปรากฏว่าระเบิดไม่ทำงาน! เพราะมีอุปกรณ์สื่อสารชิ้นหนึ่งติดที่ใต้ท้องรถตู้ สัญญาณจุดระเบิดถูกรบกวน

“พวกมันตัดสัญญาณ CCTV” นภาบอก แล้วเธอก็รัวนิ้วลงบนคีย์บอร์ดอย่างตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง ภาพบนจอคอมพิวเตอร์เปลี่ยนเป็นภาพมุมสูงจากดาวเทียม ที่จักรเพิ่งติดตั้งด้วยงบพิเศษ

“หึๆ...ถ้ารองจักรรู้คงแค้นใจน่าดู งบโกงกินของ พวกมันกำลังจะทำร้ายตัวเอง” อินทนนท์หัวเราะสะใจ ในลำคอ

แสงกล้า สมิง ดาบแหบกับจ่าหวานติดตามข่าวอยู่ที่สำนักงานสืบสวนพิเศษ คอยแล้วคอยเล่าก็ไม่มีข่าวรถตู้ระเบิด ต่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น?

ที่ฐานลับ...จากการติดตามรถตู้คันนั้น เห็นขับเข้าไปในนิคมอุตสาหกรรม มีคลังสินค้านับร้อย รถตู้มุ่งตรงไปที่อุโมงค์ แต่พอรถออกจากอุโมงค์ กลายเป็นมีรถตู้เหมือนๆกันถึง 4 คัน!

ทั้งนภาและอินทนนท์มองหน้ากัน ไม่รู้ว่าคันไหนคือคันที่รวินั่ง ซ้ำร้าย พอขับไปถึงทางแยก รถทั้ง 4 คันก็แยกย้ายกัน เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ตรงไป และกลับรถ ลวงทิศเบนทางกันจนงงไปหมด อินทนนท์สบถ “จบกัน จะตามคันไหน?”

“เราพลาดแล้วค่ะผู้การ” นภาหัวเสียที่ถูกปั่นให้พลาดจนได้!

รวิโทร.จากรถตู้บอกจักรอย่างสะใจว่า “ทุกอย่างเรียบร้อย ของทั้งหมดจะถึงที่หมายภายในครึ่งชั่วโมง” จักรชมว่าเก่งมาก เธอย้ำว่า “อย่าลืมที่ตกลงกันไว้ ร่างของท่านวิญญูกับอนันตคทาจะต้องถึงที่หมายพร้อมๆ กัน”

ที่คลังสินค้าโล่งทันสมัย พวกลูกน้องจักรแบกแคปซูลที่วิญญูนอนอยู่ออกมาที่คลังโล่ง รวิมาถึงถามว่าวิญญูเป็นอย่างไร จักรบอกว่ายังไม่ตาย พอดีลูกน้องคนหนึ่งเดินนำพวกที่เอาภาพอนันตคทามา รวิสั่งการทันที

“เอาไปรวมกับศาสตราวุธชิ้นอื่นทางด้านโน้น”

ooooooo

ที่ทาวน์โฮมของแพรไพลิน แสงกล้ากับสมิงอยู่กับเธอที่นั่น แสงกล้าสงสัยว่าทำไมรวิไม่เอาศาสตราวุธทั้งหมดไปรวมไว้ที่บ้านจักร สมิงบอกว่าพวกมันไม่กล้าเสี่ยง เพราะถ้าเราบุกไปตอนนี้พวกมันมีแต่ แพ้กับแพ้

แสงกล้ากับแพรไพลินเร่งเคาะคีย์บอร์ดหาข้อมูลเพื่อจะชิงศาสตราวุธกลับคืนให้ได้

“ต้องรีบหาให้เจอ มีเวลาอีกไม่มาก พวกมันกำลังจะเอาศาสตราวุธทั้งสามชิ้นไปทำลายเหล็กไหลทมิฬเพื่อชุบชีวิตพญามาร” แสงกล้าร้อนใจถามว่ามีเวลาถึงเมื่อไหร่ “ไม่เกินคืนนี้...เวลาพระจันทร์เต็มดวง!”

แพรไพลินจำได้ว่าแสงกล้าเคยใช้ GPS หาที่อยู่ของรวิได้ เธอรีบเคาะค้นหาสัญญาณ แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะผลการค้นหาแจ้งว่าไม่มีสัญญาณ เธอบอกแสงกล้าว่า “พี่รวิปิดสัญญาณ GPS”

เวลาที่งวดเข้ามาทำให้ทุกคนกระวนกระวายจนเกือบกลายเป็นหงุดหงิด แสงกล้าบอกสมิงว่าให้สร้างอิทธิ-ฤทธิ์อะไรก็ได้ ให้รู้ว่าศาสตราวุธทั้งสามชิ้นอยู่ที่ไหน!?

“เอางี้นะหมวด...ผมบอกได้แต่ว่า พวกมันต้องเอาของทั้งสามชิ้นไปไว้ในที่โล่งอยู่สูงพอสมควร เพื่อให้แสงจันทร์ส่องถึงตัวไอ้พญามาร พระจันทร์เต็มดวงเมื่อไหร่ อานุภาพของเทวาศาสตราวุธจะปรากฏ”

ขณะนั้นเองแพรไพลินบอกว่ามีคนส่งเมล์เข้ามา ครู่เดียวเธอบอกว่าจาก “ศรัทธา” แสงกล้าชะโงกมาดูพึมพำ

“ศรัทธาใช้ดาวเทียมจารกรรมตามรถตู้คันนั้นไปจนถึงอุโมงค์ก่อนถึงนิคมอุตสาหกรรม”

แพรไพลินเชื่อว่าศรัทธาส่งข้อมูลมาให้เราวิเคราะห์ต่อ

“นิคมอุตสาหกรรมกว้างเป็นพันไร่ ใครจะไปรู้ว่ามันเอาของไปซ่อนที่ไหน” สมิงทำหน้ามุ่ยบ่นตามประสา

แพรไพลินบอกว่าพื้นที่แถบนี้มีคลังกระจายสินค้าในเครือไดมอนด์กะรัตหลายสิบแห่ง แสงกล้าจำได้ว่าไดมอนด์กะรัตเป็นของเพชรแท้ ถามว่า “คุณคิดว่าคุณแม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยเหรอ”

“แม่ฉันอยู่ข้างคนชนะเสมอค่ะ” แพรไพลินตอบแดกดันนิดๆ แล้วเร่งค้นหาพิกัดคลังกระจายสินค้าในเครือเพชรไดมอนด์ ล่อเหยื่อให้ติดกับด้วยการแกล้งโทร. ไปหารวิ พูดคุยถ่วงเวลาเพื่อสังเกตเสียงรอบข้าง รวิรู้ทันพูดกันไม่นานก็ตัดสาย

แพรไพลินอาศัยประสบการณ์ ความชำนาญ ช่างสังเกต ไหวพริบเชาว์ไว ค้นหา วิเคราะห์สภาพแวดล้อม ตัดส่วนที่คิดว่าไม่ใช่ออกไปทีละส่วน แคบเข้ามาจนพบว่า คลังสินค้าเครือไดมอนด์กะรัตที่ติดตั้งเครื่องปั่นไฟขนาดกลางมี 4 แห่ง

“คิดเร็วๆหน่อยคุณหมอ...พระจันทร์ใกล้เต็มดวงแล้ว” สมิงมองท้องฟ้าเร่งอย่างร้อนใจ

ในที่สุดแพรไพลินก็ได้ข้อสรุปจากการค้นคว้าอย่างละเอียดว่า

“ฉันโทร.หาพี่รวิเวลา 20 นาฬิกา 10 นาที ตามตารางเวลาจะมีเครื่องบินขึ้นจากสนามบินติดต่อกันหลายลำ...แต่ไม่ปรากฏคลื่นเสียงเครื่องบินตลอดการสนทนาทางโทรศัพท์” เธอสรุปได้ทันทีว่า “มีคลังสินค้าเครือ

ไดมอนด์กะรัตเพียงแห่งเดียวที่ไม่อยู่ใกล้สนามบิน!”

เธอเคาะคีย์บอร์ดหาข้อมูลต่อ จนได้พิกัด GPS ปรากฏขึ้นเต็มจอ เธอบอกแสงกล้ากับสมิงอย่างตื่นเต้นว่า

“เทวาศาสตราวุธทั้งสามชิ้น อยู่ที่คลังสินค้านี้แน่นอน!”

ooooooo

คลังสินค้าที่หลังคาถูกเปิดโล่งส่วนหนึ่ง ถูกใช้เป็นสถานที่ชุบชีวิตวิญญู ที่นั่น ตรีศูลวัชระ สังข์ไชย มงคล และอนันตคทาถูกลำเลียงมาพร้อมกับแคปซูลที่มีร่างวิญญูอย่างเร่งรีบ

ทันทีที่ศาสตราวุธถูกนำมาวางเรียงกัน ก็เกิดแสงวาววับเชื่อมต่อกัน จนทุกคนตะลึงกับภาพที่เห็น

“เหลือแค่รอเวลา คืนนี้ เมื่อพระจันทร์อยู่ในองศาเดียวกับร่าง ด้วยอำนาจของตรีศูลวัชระ อนันตคทา และสังข์ไชยมงคล ท่านวิญญูจะปลอดภัยจากเหล็กไหลทมิฬ กลับมามีชีวิตเป็นปกติ” รวิพูดอย่างเปี่ยมด้วยความหวัง สั่งลูกน้องว่า “จัดคนดูแลความปลอดภัยรอบอาคารนี้ อย่าปล่อยให้ใครเข้ามาข้างในอาคารเป็นอันขาด!”

ขณะรอดวงจันทร์นั้น รวิฉุกคิดเรื่องที่แพรไพลิน โทร.มาหา พึมพำอย่างรู้ทันว่า

“แพรไพลิน...เธอน่าจะรู้ว่าฉันรู้ทันแน่ๆ ถ้างั้น... เธอโทร.มาทำไม?”

ooooooo

เมื่อรู้ว่าศาสตราวุธทั้ง 3 อยู่ที่ไหนแล้ว สมิงเร่งให้รีบปฏิบัติการ เพราะถ้าจันทร์กระจ่างฟ้าเมื่อไร พญามารจะกลับมา คมศรประสานงานฉับไว ส่งเจ้าหน้าที่สำนักงานสืบมีอุปกรณ์และอาวุธพร้อมมือเดินทางมาทันที

แพรไพลินเก็บไอแพดเตรียมเดินทางเช่นกัน แสงกล้าเรียกเธอไปคุยบอกว่า เธอหมดหน้าที่แล้ว ต่อไปเป็นหน้าที่ของหน่วยจู่โจมนิติเทคฯ เธอไม่จำเป็นต้องเสี่ยง

แสงกล้ายังพูดว่า ในฐานะคนสนิท ตนไม่ยอมให้เธอไปเสี่ยง เขาดึงเธอเข้าไปกอดอย่างไม่อาจปกปิดความรู้สึกได้ แพรไพลินรับรู้ความรู้สึกของเขาด้วยอารมณ์เดียวกัน เธอบอกว่ายินดียอมเขาทุกอย่าง แต่ถ้าเป็นภารกิจเพื่อชาติ ตนขอปฏิเสธ

พอดีสมิงมาเคาะประตู บอกว่าหน่วยสนับสนุนมาแล้ว แสงกล้าจึงออกมาพบคมศร เขาบอกทุกคนว่าออกเดินทางได้เลย โดยแยกกันไปสองคัน หันไปบอกแพรไพลินว่า

“คุณไปรถตู้กับท่านเลขา ผมจะไปกับทีมปฏิบัติการ คุณทั้งสองคนต้องคอยสนับสนุน” ก่อนแยกกันขึ้นรถเขาหันบอกคมศร “ฝากดูแลหมอแพรด้วย”

“หมวดตัดสินใจถูกต้องแล้ว เราไม่ควรเอาคนรักมาเสี่ยงในสถานการณ์แบบนี้” สมิงเอ่ยขณะนั่งมาในรถ แสงกล้าเหล่มอง นึกแปลกใจว่าสมิงพูดเหมือนรู้ในตน...

ส่วนแพรไพลิน นั่งรถไปครู่หนึ่งก็รู้ว่าไม่ใช่เส้นทางไปปฏิบัติการ พอรู้จากคนขับว่ากำลังกลับนิติเทคฯ ตามคำสั่งของหมวดแสงกล้า เธอสั่งให้ตามรถแสงกล้าไป

“เสียใจด้วยครับด็อกเตอร์...ภารกิจนี้รหัสแดง นอกจากหัวหน้าชุดแล้วคงจะเปลี่ยนคำสั่งกลางคันไม่ได้”

คนขับตอบหน้านิ่ง จนแพรไพลินเงียบไปอย่างจำยอม

ooooooo

ระหว่างทาง สมิงบอกแสงกล้าว่าสังหรณ์ใจว่า งานนี้จะหนักกว่าที่เราคิด แล้วส่งแมกกาซีนกระสุนอักขระให้ บอกว่า จัดหนัก จัดเต็ม ชุดนี้สำหรับพญามาร!

บนถนนสายหนึ่งที่บ่ายหน้าไปยังพื้นที่เป้าหมาย หญิงชุดดำอาวุธครบมือขี่มอเตอร์ไซค์มาอย่างเท่ในความมืด

เวลาเดียวกัน ที่คลังสินค้า รวิแหงนมองเห็นพระจันทร์กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้จะถึงตำแหน่งสำคัญแล้ว ร่างวิญญูนอนรออยู่ในแคปซูลรายล้อมด้วยศาสตราวุธทั้งสาม มีรวิอารักขาอยู่ห่างๆ

พระจันทร์ยิ่งใกล้ศาสตราวุธทั้งสามเท่าไร ศาสตราวุธก็ส่องประกายวาวแววราวกับจะสำแดงฤทธานุภาพเท่านั้น รวิชะงักไปนิดหนึ่งเหมือนรับรู้ว่ากำลังเกิดสิ่งผิดปกติขึ้นที่ด้านนอก เธอชักปืนเดินออกไปทันที

แสงกล้าและสมิงนำกำลังมาถึงแล้ว ทั้งหมดบุกเข้าไปในโกดัง 1 เก็บพวกที่เฝ้าอยู่ข้างนอกอย่างเงียบกริบ

ที่โกดัง 2...ทันทีที่แสงจันทร์ส่องมาถึง ศาสตราวุธทั้ง 3 ก็เกิดฤทธานุภาพทันที แสงพุ่งจากศาสตราวุธเข้าสู่ร่างวิญญูพร้อมกับแสงจันทร์ แสงเจาะเข้าไปดึงเหล็กไหลจากหน้าผากวิญญูออกมาและสลายไปในพริบตา!

วิญญูดีดตัวจากแท่นชาร์จพลัง ที่ใบหน้ามีหน้ากากสวมทับดูน่าสะพรึงกลัว

แสงกล้ากับสมิงเข้าไปถึงที่หมายตามพิกัด แต่ปรากฏว่าไม่พบอะไรเลย สมิงบอกว่าพญามารไม่ได้อยู่ที่นี่

“นึกแล้วว่าพวกแกต้องมา” เสียงรวิดังขึ้น ทุกคนหันมองหาแต่ไม่เห็นเธอ คงมีแต่เสียงก้องมาว่า “แสงกล้า หมวดมาช้าไปนิด...ฉันผิดหวังในตัวแกมาก”

“มันรู้ตัว...ย้ายทุกอย่างออกไปหมดแล้ว” สมิงกระซิบบอกแสงกล้า

พวกแสงกล้าตกอยู่ในวงล้อมของลูกน้องรวิ ถูกระดมยิงใส่จนแทบเอาตัวไม่รอด สมิงบอกแสงกล้าว่า

“หมวด ผมรู้วิธีทำให้พวกเรารอดแล้ว” แสงกล้าถามว่าทำยังไง “เลือดเข้าตา ล่อแม่งแบบตรงไปตรงมา ปลายเท้าชนปลายเท้าเลยดีกว่า ตามมานะหมวด”

ทั้งสมิง แสงกล้า จ่าและดาบ ช่วยกันระดมยิงพวกนั้นตายเป็นใบไม้ร่วง ตามด้วยระเบิดเปิดทางแล้ววิ่งทะลวงออกไป แต่ไม่ทันพ้นก็ถูกคลื่นพลังพุ่งเข้าปะทะร่างลอยคว้างไปคนละทิศละทาง

ขมังเวทย์ปรากฏขึ้นทันที! สมิงร้องบอก “พญามารฟื้นแล้ว...”

“ฆ่ามันให้หมด...อย่าให้เหลือ!” เสียงขมังเวทย์สั่งตาย ลูกน้องของแสงกล้าถูกทำลายไปทีละคน...ทีละคน จนเหลือแต่สมิง แสงกล้า จ่าหวาน และดาบแหบเท่านั้น ดูท่าไม่มีทางรอดเลย!

ทันใดนั้น เสียงปืนลั่นเปรี้ยง! กระสุนเจาะหัวลูกน้องรวิคนหนึ่งที่กำลังจะยิงพวกสมิง พริบตานั้นหญิงชุดดำก็โรยตัวลงจากหลังคาโกดัง โจมตีพวกเหล่าร้ายตายเป็นเบือ รวิยิงใส่หญิงชุดดำแต่ไม่ถูก จังหวะที่หญิงชุดดำหลบกระสุนนั่นเอง แว่นตาเธอหล่น เผยให้เห็นใบหน้าและแววตาแข็งกร้าวจริงจัง

“ผบ.นภา!” แสงกล้าอุทานตะลึงงัน!!

“รีบหนีออกไป!” นภาร้องบอกพวกแสงกล้า แล้วพุ่งเข้าต่อสู้กับขมังเวทย์ แม้จะสู้ไม่ได้แต่ก็เบี่ยงเบนความสนใจไปจากกลุ่มสมิงกับแสงกล้าได้

จ่าหวานกับดาบแหบหนีออกไปได้แล้ว ขมังเวทย์พุ่งเข้าใส่แสงกล้ากับสมิง นภาจะขวางถูกรวิยิงสกัด ทำให้ขมังเวทย์ใช้สองมือบีบคอแสงกล้ากับสมิงยกขึ้น จนทั้งสองเกือบหมดลม สมิงพยายามยกปืนขึ้นยิงแต่ถูกขมังเวทย์จ้องสะกดไว้ทำให้ยกมือไม่ขึ้น

ที่หน้าคลังสินค้า รถคอนเทนเนอร์ขับพุ่งเข้าใส่ดาบแหบกับจ่าหวานที่หนีออกมาได้ ทันใดนั้นประตูรถเปิดออก

“รีบขึ้นรถ!” อินทนนท์ตะโกนเรียก เมื่อทั้งสองขึ้นรถแล้ว อินทนนท์ขับพุ่งเข้าข้างในทันที

ooooooo

ขมังเวทย์สะกดสมิงไว้ได้ หันจ้องสะกดแสงกล้าแต่ทำไม่สำเร็จ ขมังเวทย์จ้องอย่างสงสัยเห็นที่คอแสงกล้ามีล็อกเกตห้อยอยู่ พริบตานั้นล็อกเกตพลิกกลับอีกด้าน เป็นกระจกสะท้อนแสงวาววับ ขมังเวทย์ ชะงักงัน สมิงเห็นขมังเวทย์ชะงักมองตามสายตาไป

ถึงกับนิ่วหน้าตกใจ!

เหตุการณ์เมื่อเกือบ 20 ปีก่อนผุดขึ้นในความทรงจำทันที...

เวลานั้น จอมแสงแม่ของแสงกล้า วิญญู และมงคล ต่างห้อมล้อมอยู่รอบไตรรัตน์อาจารย์ของสมิงกับวิญญู ไตรรัตน์สวมสร้อยห้อยล็อกเกตให้ทารกแสงกล้าที่จอมแสงอุ้มอยู่เพื่อรับขวัญ

“ใส่ติดตัวไว้...เป็นมงคลแก่ชีวิต” อาจารย์ไตรรัตน์ให้พร ล็อกเกตที่คอทารกแสงกล้า ปรากฏแสงวาววับคล้ายมีฤทธานุภาพ!

ขณะขมังเวทย์จ้องล็อกเกตที่คอแสงกล้านั่นเอง แสงกล้าเหยียดมือออกไปยิงกระสุนอักขระเข้าแสกหน้าขมังเวทย์จนหน้ากากที่น่าสะพรึงกลัวนั้นแตกกระจาย ขมังเวทย์ร้องอย่างเจ็บปวด ปล่อยร่างสมิงกับแสงกล้าร่วงลงมากองที่พื้น ทั้งสองหันมองขมังเวทย์ที่หน้ากากถูกทำลายแล้ว

“วิญญู...” แสงกล้าอุทาน ส่วนจ่าสมิงพูดอย่างสะใจว่า “คิดไว้แล้วไม่ผิดว่าต้องเป็นมัน”

ขมังเวทย์หันมาจะเล่นงานทั้งสองอีก ถูกรถคอนเทน–เนอร์ที่อินทนนท์ขับเข้ามาพุ่งชนลอยคว้างออกไป อินทนนท์โผล่หน้ามาเรียกแสงกล้ากับสมิง “ขึ้นรถ...” แต่ทั้งสองยังเป็นห่วงนภาที่กำลังยิงต่อสู้กับรวิและลูกน้อง อินทนนท์ร้องสำทับ “ไม่ต้องห่วง ผบ.นภา” สมิงกับแสงกล้าจึงกระโดดขึ้นด้านหลังคอนเทนเนอร์ รถพุ่งออกไปอย่างเร็วทันที

ขมังเวทย์พยุงตัวขึ้นจากที่ถูกคอนเทนเนอร์พุ่งชนจะเข้าเล่นงานนภา ถูกนภากระชากเครื่องยิงระเบิดที่สะพายอยู่ด้านหลังออกมาประทับยิง ประกาศก้อง

“ดอกนี้...สำหรับเมฆา!”

ระเบิดพุ่งเข้าใส่บริเวณหน้าขมังเวทย์ พอระเบิดตูม ก็เกิดเปลวไฟและควันพวยพุ่งกลบร่างขมังเวทย์ รวิตกใจถลาไปช่วย

เสียงมอเตอร์ไซค์แผดลั่น นภาบิดหนีออกไป พุ่งผ่านช่องผนังที่โดนระเบิดอย่างสุดเท่ เหนือชั้น!

รวิประคองร่างขมังเวทย์ขึ้นมา ทั้งสองหันมองตามมอเตอร์ไซค์ไปอย่างเจ็บใจ

นภาขี่มอเตอร์ไซค์ไล่ตามรถคอนเทนเนอร์ไป ทันใดนั้นท้ายรถคอนเทนเนอร์เปิดออก รถมอเตอร์ไซค์พุ่งขึ้นรถไปอย่างสุดเท่...

ระหว่างเกิดการต่อสู้กันนั้น ที่สำนักนิติเทคฯ แพรไพลินได้รับรายงานจากกุ๊บกิ๊บว่า เกิดการต่อสู้อย่างรุนแรงที่คลังสินค้าแถบลาดกระบัง เธอถามคมศรว่าแสงกล้ารายงานเข้ามาบ้างไหม พอรู้ว่าไม่ เธอกังวลจนคมศรถามว่าเป็นอะไร

แพรไพลินค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ลาดกระบังอย่างร้อนใจ จนคมศรดูออกถึงความเป็นห่วงแสงกล้าของเธอ เขาถามอย่างน้อยใจก่อนเดินออกไปอย่างช้ำใจว่า

“รู้ตัวรึเปล่าว่าตั้งแต่หมวดคนนั้นเข้ามาในชีวิต คุณเปลี่ยนแปลงไปมากนะ”

ooooooo

อินทนนท์พาทุกคนกลับมาที่ฐานลับ แสงกล้าที่ยังงงกับเรื่องราวที่เพิ่งได้ยินได้รับรู้มา เขาขอให้นภาช่วยอธิบายได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น ถามว่า ผบ.กับศรัทธาเป็นคนเดียวกันใช่ไหม

“ศรัทธา เป็นชื่อเรียกแทนความเชื่อมั่นในการทำความดี ขอเพียงเราศรัทธาที่จะต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและถูกต้อง ความดีจะไม่มีวันดับสูญ คนดีจะไม่มีวันหายไปจากสังคม” อินทนนท์อธิบายแทน นภาช่วยพูดต่อว่า

“แนวคิด ‘ศรัทธา’ ในการทำความดี จะถูกปลูกฝังจากรุ่นสู่รุ่น ค่านิยมของการทำดีเพื่อสังคมจะต้องอยู่ตลอดไป ด็อกเตอร์เมฆาตั้งหน่วยงานลับ ‘ศรัทธา’ ขึ้นเพื่อจรรโลงไว้ซึ่งการทำความดีในสังคม ปกป้องคนดีให้ปลอดภัยจากคนชั่วที่นับวันจะมากขึ้น กฎหมายปกติเอาตัวมาลงโทษไม่ได้”

แสงกล้าติงว่า ผบ.นภาตกตึกตายไปแล้ว? สมิงพูดขึ้นอย่างรู้ทันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า อย่าเชื่อในทุกอย่างที่เห็น เพราะความจริงอาจจะมีมากกว่านั้น แล้วหันมองหน้าอินทนนท์ถาม

“ผู้การอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมดใช่ไหมครับ”

อินทนนท์ไม่ตอบ นิ่งเหมือนยอมรับในที

ที่จริงแล้ว เหตุการณ์ครั้งนั้น อินทนนท์ใช้ยากระตุ้นทำให้หัวใจนภาหยุดเต้นชั่วขณะเพื่อหลอกวิญญูที่เข้ามาดูในห้องเก็บศพว่าเธอตายแล้วจริงๆ แต่ต้องทำให้หัวใจเธอกลับมาเต้นได้อีกภายในเวลา 4 นาที เป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก แต่อินทนนท์ก็ทำได้สำเร็จ ทำให้นภาตายไปในความรับรู้ของสังคม จากนั้นก็ร่วมทำงานใต้ดินกับอินทนนท์ที่ฐานลับตลอดมา

ต่อมาวิญญูไปดูศพนภาในห้องดับจิต ปรากฏว่าหายไป แน่ใจว่านภายังไม่ตาย รวิจะตามล่าให้ เขาบอกไม่ต้อง

“อยู่เฉยๆ ทำเรื่องที่ควรทำ ตามหา ‘จักรนารายณ์’ ศาสตราวุธชิ้นสุดท้ายให้พบ ส่วนนังนภากับพวก ฉันมีวิธีทำให้พวกมันออกมาหาพวกเราเอง!” วิญญูจิกตาร้ายกาจ

นภาปรารภว่าต่อไปเราคงทำงานยากขึ้น แต่อินทนนท์เห็นว่ายังดีที่เรารู้แผนทั้งหมดของพวกมันแล้ว เขาชี้ว่า

“รองจักรต้องการสร้างอำนาจความยิ่งใหญ่ให้กับตัวเองด้วยการรวบรวมศาสตราวุธทั้ง 4 ชิ้น เพราะเชื่อตามคัมภีร์เทวาศาสตราวุธโบราณว่า หากใครครอบครองแล้วจะยิ่งใหญ่ในทุกสิ่ง”

“ไอ้จักรก็แค่เหยื่อของการถูกหลอกใช้” สมิงฟันธง “คนที่ต้องการยิ่งใหญ่...เป็นเหนือคน คือได้พญามารวิญญู!”

แล้วสมิงก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับล็อกเกตของแสงกล้าที่เชื่อมโยงถึงอดีตที่หลายคนไม่เคยรู้ว่า...

“หมวดแสงกล้า...หมวดไม่ใช่เด็กกำพร้าธรรมดาๆ

อย่างที่เข้าใจมาตลอดชีวิต แต่หมวดเป็นลูกชายคนเดียวของโชติฌาน ศิษย์ผู้พี่สายไสยเวทขาวของผมเอง...ผมสงสัยมานานแล้วว่าทำไมพญามารไม่สามารถบังคับหมวดได้เลยสักครั้ง เป็นเพราะความเป็นสายเลือดไสยเวทขาว พญามารบังคับคนที่มีไสยเวทติดมากับสายเลือดไม่ได้”

แสงกล้าถามงงๆด้วยความตื่นเต้นอยากรู้ว่า หมายความว่าอย่างไร คำตอบของสมิงทำเอาทุกคนชะงักอึ้งไปว่า

“หมวดเป็นทายาทโดยตรงของโชติฌาน...เจ้าแห่งไสยเวทขาว!”

สมิงยังเล่าเรื่องในอดีตราวกับเพิ่งเกิดขึ้นสดๆให้ทุกคนฟังว่า...

“ศิษย์เอกของอาจารย์ไตรรัตน์ ปรมาจารย์ไสยเวทมีสามคน ฉัน พี่โชติฌาน และวิญญู อาจารย์สั่งสอนให้พวกเรามุ่งมั่นใช้ไสยเวทขาวเพื่อทางดีงาม ช่วยเหลือคนที่ประสบทุกข์ ในบรรดาลูกศิษย์ของอาจารย์ไตรรัตน์ทั้งสามคน พี่โชติฌานมีคุณธรรมสูง อาคมไสยเวทขาวจึงสูงส่ง มีความก้าวหน้าไปไกลกว่าทุกคน”

ต่อมาโชติฌานพบรักกับจอมแสง ท่ามกลางความไม่พอใจของวิญญู สมิงเล่าถึงวิญญูว่า

“ความก้าวหน้าของพี่โชติสร้างความไม่พอใจให้กับวิญญู มันคิดยิ่งใหญ่ จึงเปลี่ยนความคิด ก้าวเข้าสู่ไสยเวทดำ ในเวลาเดียวกับที่หมวดลืมตาดูโลก!

เมื่อได้ตำราไสยเวทดำ ทุกอย่างจึงเปลี่ยนไป วิญญูเปลี่ยนพฤติกรรมจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากคนที่รู้จักโลก ลดละกิเลสกลับถูกครอบงำด้วยอำนาจมืด กลายเป็นพญามาร ทำทุกอย่างเพื่อสนองกิเลสที่รุมเร้าจิตใจ”

สมิงเล่าถึงความเปลี่ยนแปลงที่น่ากลัวของวิญญูว่า “เขาฆ่าทุกคนที่จะเป็นอุปสรรคต่อการก้าวสู่ความยิ่งใหญ่ ทั้งอาจารย์ไตรรัตน์ และพี่โชติฌานพ่อของหมวด ในเวลานั้น...คนที่มันคิดจะกำจัดรายต่อไป คือสายเลือดไสยเวทขาวคนเดียวที่เหลืออยู่”

เหตุนี้เอง สมิงในเวลานั้นคือมงคล จึงให้จอมแสงพาแสงกล้าหนีไป เพราะพญามารจะทำร้ายเธอกับลูก ให้รีบหนีไปก่อนที่จะเป็นอันตรายมากกว่านี้

หลังจากนั้น วิญญูคาดคั้นข่มขู่มงคลว่าเอาจอมแสงกับแสงกล้าไปไว้ที่ไหน มงคลพยายามหว่านล้อมให้เขากลับมาเป็นคนดี เป็นคนเดิม แต่วิญญูไม่ยอมกลับตัว จึงต่อสู้กันจนบาดเจ็บด้วยกันทั้งคู่และตกหน้าผาไปคนละด้าน

“หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น ผมคิดว่าพญามารตายไปแล้ว...คิดไม่ถึงว่ามันจะกลับมาอีกครั้ง”

“แล้วจอมแสงไปไหน? ทำไมแสงกล้าถึงต้องไปอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า” นภาถาม

“เครื่องบินลำที่จอมแสงโดยสารตก ผมเองก็นึกว่า แสงกล้าตายไปพร้อมกับจอมแสงแล้ว”

แต่ที่แท้ เครื่องบินตกกลางทะเล ต่อมามีผู้พบจอมแสงตายอยู่ที่ชาดหาด แต่เด็กทารกยังรอดชีวิตราว ปาฏิหาริย์!

ทุกคนที่ฟังสมิงเล่าต่างนิ่งงันด้วยความสะเทือนใจ สมิงเดินมาแตะไหล่แสงกล้าพูดอย่างมุ่งมั่นจริงจังว่า

“เมื่อก่อน เราอาจจะสู้กับพญามารแบบไร้ทิศทาง โอกาสจะชนะมันมีน้อยเต็มที แต่วันนี้เรามีความหวังแล้ว... คนคนเดียวที่จะสามารถล้มพญามารได้ ต้องเป็นสายเลือดไสยเวทขาวโดยตรงของโชติฌาน...นั่นคือหมวดแสงกล้า!”

แววตาแสงกล้าเครียดขึ้นมาทันที เมื่อรับรู้ว่าภารกิจที่ยิ่งใหญ่ในการกำจัดพญามารนั้น อยู่ที่ตัวเอง!

ooooooo

เหนือเมฆ2 มือปราบจอมขมังเวทย์

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด