ยังติดตามปัญหาเงินกู้ของพรรค การเมืองอย่างต่อเนื่อง แบบกัดไม่ปล่อย นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการ กกต. แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว จี้นายทะเบียนพรรคการเมือง ซึ่งได้แก่เลขาธิการ กกต. ต้องนำเสนอต่อที่ประชุม กกต.กรณีที่ปรากฏว่ามีพรรคการเมืองที่มีเงินกู้ 16 พรรค และพรรคที่มีเงินยืม 16 พรรค
เป็นข้อมูลที่ได้จากการตรวจสอบเอกสารการเงินของพรรคต่างๆที่ กกต.เผยแพร่ ตั้งแต่ปี 2556-2561 ปรากฏรายการเงินกู้ เงินยืม เงินทดรองจ่ายของพรรคการเมืองมากมาย ในรายการหมวด “หนี้สิน” ไม่ใช่หมวด “รายได้” แต่ กกต.ปัจจุบันสร้างบรรทัดฐานใหม่ เห็นว่าเป็นรายได้ที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เมื่อเห็นว่าเงินกู้เป็นรายได้ของพรรคที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามกฎหมายพรรคการเมืองมาตรา 72 กกต.จึงมีมติให้เสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ และเมื่อนายสมชัยออกมาเปิดเผยว่า มีถึง 32 พรรค ที่มีการกู้เงิน จึงขอให้ กกต.ตรวจสอบ และปฏิบัติต่อทุกพรรคโดยเสมอหน้า มิฉะนั้นอาจโดนข้อหาละเว้น
มีคำชี้แจงตามเอกสาร กกต. ระบุว่านายทะเบียนพรรคการเมือง ได้ประกาศงบการเงินประจำปีของพรรคการเมือง ปี 2557 ถึง 2561 ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2562 หากพบว่าพรรคใดทำผิดกฎหมาย นายทะเบียนจะแจ้งให้พรรคดังกล่าวได้ชี้แจงข้อเท็จจริง และแสดงพยานหลักฐาน ภายในระยะเวลาที่กำหนด
จากเอกสารคำชี้แจงของ กกต. แสดงว่า กกต.ได้รับงบการเงินของพรรค การเมือง ภายในเดือนพฤษภาคม 2562 เป็นอย่างช้า มีเวลาตรวจสอบอย่างน้อย 6 เดือน แต่ไม่ทราบว่าตรวจพบรายการ “เงินกู้” หรือ “เงินยืม” ของ 32 พรรค ที่นายสมชัยตรวจพบหรือไม่ และได้ดำเนินการกับพรรคนั้นๆเหมือนพรรคอนาคตใหม่หรือไม่
...
นายสมชัยเรียกร้อง กกต. ดำเนินการ กับ 32 พรรคการเมือง ภายใต้มาตรฐาน เดียวกัน ต้องนำเสนอต่อ กกต.เพื่อวินิจฉัยผิดหรือถูก และส่งฟ้องศาลรัฐธรรมนูญอย่างเท่าเทียมโดยเร็ว ควรเปิดโอกาสให้มีการไต่สวนก่อนมีคำวินิจฉัย ทุกฝ่ายต้องส่งเสริมให้เดินหน้าด้วยหลักการที่ถูกต้อง เป็นมาตรฐานและสร้างสังคมนิติรัฐที่น่าอยู่
ใครเป็นบิดาแห่งข้อยกเว้นต้อง เปลี่ยนเป็นบิดาของหลักกฎหมาย ที่ยึดหลักนิติธรรม อย่าให้สังคมรู้สึกว่าหากเป็นพวกเอ็งผิดตลอด แต่หากเป็นพวกข้าไม่ผิด และขอเสริมว่าอย่าให้สังคมมีความรู้สึก เหมือนกับผลของซูเปอร์โพลในช่วงปีใหม่ คนส่วนใหญ่รู้สึกเบื่อลัทธิการเล่นพวกพ้อง และกลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้าม เพื่อสังคมสามัคคี.