สารภาพนะครับ อายุเข้าปูนนี้เลย 70 แล้ว ปล่อยวางเรื่องราวได้ตั้งมากมาย แต่ยังละอคติกับระบบประกัน ไม่ว่าประกันชีวิต ประกันภัย ประกันรถยนต์ไม่ได้เสียทีราว 25 ปีที่แล้ว ซื้อรถยนต์ป้ายแดงเป็นของตัวเองคันแรก แน่นอนก็ต้องประกันชั้น 1 ตัวเลขกว่าสองหมื่น ตามความรับรู้ว่า ไม่ว่าเกิดอะไร ประกันชั้น 1 เอาอยู่ผมเลือกบริษัทประกัน สำนักงานใหญ่อยู่ปากซอยที่บ้าน วันที่เฉี่ยวกับมอเตอร์ไซค์ เรียกประกันไปเป็นชั่วโมงไม่มีใครมาน่าอัศจรรย์ตรงที่บริษัทประกันอยู่ห่างบ้านแค่ 200 เมตรเรื่องก็จบลงตรงต้องพาคนขับมอเตอร์ไซค์ไปทำแผลที่โรงพยาบาล (เอกชน) เอง จ่ายเงินเอง ปีต่อไปก็เปลี่ยนบริษัทประกัน...แต่ถึงไม่เปลี่ยนบริษัทจัญไรนั่น ซึ่งก็มีชื่อไปทางโกงเขาไปทั่วก็เจ๊งไปเอง (เจ๊งจริงๆไม่ได้แช่ง)เปลี่ยนรถหลายคัน รถคันหลังสุด งกที่เขาโฆษณาว่า ไม่คิดดอกเบี้ย ผ่อนเดือนละหมื่น...รถเงินผ่อน บริษัทลิสซิ่งเขาเลือกบริษัทประกันให้ไม่ว่ากันสองสามปีที่แล้ว รถเฉี่ยวนิดหน่อย เอารถไปเคลมก็เรียบร้อยดี แต่มีปัญหาติดพัน เบอร์โทรศัพท์ผมถูกขาย มีไอ้บอ อีบ้า เรียงหน้า กันมาสี่ห้าคนแต่ละคน ก็รัวประโยคหว่านล้อม ให้ต่อประกันบริษัทเดิมอีบ้าคนสุดท้ายไม่รู้จะเปรียบกับพวกไหนดี นึกได้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ผมกำลังกินข้าว อารมณ์ยังดีก็ฟังเธอพูดเหมือนน้ำไหลไฟดับ ต้อนไปซ้ายย้ายไปขวาสารพัดเรื่องจูงใจลมๆแล้งๆ ราวสิบนาทีก็วกกลับฉับ “รอที่บ้านนะคะ สักบ่ายสองโมงจะมีคนไปส่งเอกสาร คุณจ่ายเงินมัดจำก่อนสี่พัน”“จ่ายสี่พัน แล้วไง” “อีกสองเดือนเราจะส่งเอกสารประกันปีต่อไปให้ถึงบ้าน”ถึงตอนนี้ ผมโกรธจนขำ “นี่เธอประกันรถยนต์บริษัทนี่เหรอ...ต้องจ่ายมัดจำล่วงหน้า” ผมตอกหน้าเธอกลับ “สรุปง่ายๆผมตัดสินใจแล้ว ไม่เอาประกันบริษัทคุณ”ประทานโทษบริการน่ารังเกียจถึงปานนั้น...มองลูกค้าโง่เง่า เต่าตุ่น ต้อนกันยังกะวัวควาย ทำประกันต่อไปทำไมให้โง่เรื่องนี้ผมคาใจ อยากจะถามไปถึงบริษัทรถยนต์แม่ ออกชื่อก็ได้ฮอนด้าที่ผมซื้อ ว่า คัดเลือกบริษัทที่ทำธุรกิจร่วมด้วยหรือไม่...เลือกบริษัทเลวแบบที่ผมเจอ เสียหายไปถึงยี่ห้อรถยนต์คุณมากและการเปลี่ยนบริษัทประกันนั้นก็โยงมาถึงคนใกล้ตัวผม เธอเป็นลูกค้าประกันชั้น 1 ห้าปี ประวัติดี เซลส์แนะให้ใช้ “แอกซ่าประกันภัย” ชั้นหนึ่งเหมือนกัน จ่ายค่าประกันน้อยไปอีกหน่อยรถคันที่ผมใช้น้อย เดือนละครั้งสองครั้ง ครั้งละไม่กี่ชั่วโมง เธอก็แนะให้ใช้เป็นคันที่สองเรื่องล่าที่เพิ่งเจอมาก็คือ รถคนใกล้ตัวผม เฉี่ยวนิดหน่อยหลายแผล บริษัทประกันผ่านการเคลมให้ แต่แผลที่เหลือ ลูกค้าจะต้องจ่ายเพิ่มสามหมื่นคราวนี้ ลูกค้าชั้นดีห้าปี บริษัทประกันภัย ก็งง...เธอเป็นนักกฎหมายทำงานศาล หาเบอร์หน่วยงานที่รับร้องเรียน โทรศัพท์เท่าไหร่ก็ไม่เคยติด ไม่รู้เหมือนกันว่าตั้งหน่วยงานไว้ทำไม...เรื่องก็จบลงเหงาๆเศร้าๆเหมือนเดิมๆ คือไปขอรถคืน และตั้งใจไว้ว่าจะร้องเรียนเรื่อยไป สิ่งที่ทำได้แน่ยิ่งกว่าแน่ ก็คือหาบริษัทประกันใหม่คุยกับเพื่อนที่แบงก์กรุงไทย...เพื่อนว่า ผู้ใหญ่หลายคนก็เจอเขาเรียกบริษัทพวกนี้ว่า แก๊งแมลงสาบผมได้ช่องหาเรื่องด่า เจอพวกนี้จะฉีดยามากก็เหม็นทั้งบ้าน จะฉีดยาน้อยก็เอามันไม่อยู่ก็ต้องทนรำคาญ รบรากับพวกมันต่อไป...จนกว่าไม่ใครก็ใครจะตายกันไปข้างหนึ่ง.กิเลน ประลองเชิง