สัญญาณนกหวีดเป่าปรี๊ด สนามหาเสียงเลือกตั้ง สส.เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ บรรยากาศความคึกคักเอิกเกริกรับสมัคร สส.ระบบเขต ทั่วประเทศวันแรก 27 ธ.ค.พรรคใหญ่ พรรคเล็กแห่ยื่นใบสมัครเลือกตั้ง ได้เวลาลงสนามสู้เต็มอัตราศึก ตีคู่ไปกับการเปิดอีเวนต์นโยบายหาเสียงที่ทุกพรรคการเมืองใช้เป็นแม่เหล็กดึงดูดคะแนนประชาชนแข่งโชว์แพ็กเกจแก้ปัญหาทุกมิติทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ที่เน้นเข้มข้นจริงจังกันเป็นพิเศษคือ นโยบายแก้ปัญหาปากท้อง ลดค่าครองชีพหลายรูปแบบ ผุดนโยบายประชานิยม ลดแลกแจกแถม เพิ่มสวัสดิการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน และการประกาศล้างบางทุนเทาเหยียบคันเร่งสู้กันดุเด็ดเผ็ดมันตั้งแต่โค้งแรก โชว์ทีมแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ประกาศความพร้อมลงสนามเลือกตั้งเต็มอัตราศึกแต่ที่ชัตดาวน์ตัวเองไปดื้อๆคล้ายๆยกธงขาวก่อนลงสนามคือ พรรคพลังประชารัฐ“บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศถอนตัวการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อ้างเหตุผลพ่ายสังขารปัญหาด้านสุขภาพส่งซิกวางมือทางการเมือง ต่างคนต่างแยกย้าย ทางใครทางมัน สะเทือนถึงลูกพรรคคนอื่นๆถอดใจตาม อาทิ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรค ยื่นไขก๊อกตำแหน่งแคนดิเดตนายกฯลำดับ 2 ขวัญกำลังใจลูกพรรค พปชร.ระส่ำระสาย จู่ๆหัวหน้าใหญ่ทีมบ้านป่าฯถอดใจ สถานการณ์ใกล้แพแตก ถูกถอดปลั๊กท่อน้ำเลี้ยง เคว้งคว้างก่อนถึงศึกใหญ่แค่ไม่กี่อึดใจเหลือขุนพลขัดตาทัพลงสนามแค่ “ตรีนุช เทียนทอง” เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ขยับขึ้นเป็นแคนดิเดตนายกฯแทน “บิ๊กป้อม” ก็ไม่รู้จะประคองพรรคไปตลอดรอดฝั่งได้แค่ไหนพรรคลุงเสี่ยงแตกสลาย จากสภาพเดิมที่แต้มต่อย่ำแย่อยู่แล้ว กลายเป็นวิกฤติหนักกว่าเดิมอีกพรรคที่ยังต้องลุ้นชะตากรรมตัวโก่งคือ พรรคประชาชนจะฝ่าด่านนิติสงครามที่ตามหายใจรดต้นคอก่อนวันเลือกตั้งได้หรือไม่คิวติดชนักปักหลังในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คดี 44 อดีต สส.พรรคก้าวไกล ถูกยื่นฟันผิดจริยธรรมร้ายแรง กรณีเข้าชื่อเสนอแก้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ปมระทึกที่ยังไม่รู้ว่า กว่าจะถึงวันหย่อนบัตรลงคะแนน จะเหลือสมาชิกฟูลทีมแค่ไหน แต่อย่างน้อยก็พอใจชื้นขึ้นมาหน่อย ในคิวล่าสุดที่ ป.ป.ช.เลื่อนวาระลงมติคดีมาตรา 112 ออกไปก่อน จากเดิมที่มีข่าวหนาหูจะลงดาบเชือดเหมาเข่งในวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากฝ่ายอดีต 44 สส. ยื่นเรื่องร้องขอความเป็นธรรมต่อ ป.ป.ช. ชะลอคันเร่งฟันยกลอตก่อนปีใหม่เกมค่ายส้มหวังยื้อเวลา ให้ลากการตัดสินคดีออกไปให้นานที่สุด เพราะมี 25 สส.พรรคสีส้มร่วมติดร่างแห แต่ไม่รู้จะยืดเวลาออกไปได้นานแค่ไหนยังหายใจได้ไม่ทั่วท้อง เพราะมีระดับแกนนำพรรคถูกขึ้นบัญชีดำ คดีมาตรา 112 ทั้ง “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค “ไหม” ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค 2 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี รวมถึงตัวจี๊ดอดีต 2 สส.บัญชีรายชื่อ รังสิมันต์ โรม หัวโจกลากไส้โจรสแกมเมอร์ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ตัวเปิดโปงเรื่องสีเทารัฐบาลมีโอกาสสุ่มเสี่ยง เกิดเกมพลิกกระดาน ถ้าถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดยกลอตช่วงใกล้เลือกตั้ง หรือช่วงรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล อาจเป็นปัจจัยพลิกผันซ้ำรอย มาอันดับ 1 แต่อาจวืดได้จัดตั้งรัฐบาลเหมือนรอบที่แล้วค่ายส้มอลหม่านต้องหาทางหนีทีไล่ โดยให้พวกมีคดีติดตัว อยู่ในลิสต์ สส.บัญชีรายชื่อ หากเกิดอุบัติเหตุการเมือง จะได้ไม่เสียจำนวนเก้าอี้ สส.แนวโน้มที่พรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย คือ เต็ง 1 และเต็ง 2 เป็นคู่ชิงเบียดจัดตั้งรัฐบาลภายหลังปิดหีบเลือกตั้ง ผู้นำประเทศคนต่อไป ไม่แคล้วแย่งกันระหว่าง “นายกฯหนู”อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กับ “หัวหน้าเท้ง” กัปตันทีมสีส้มในสถานการณ์ล่าสุดที่ค่ายสีส้มและสีน้ำเงิน ถึงจุดแตกหัก ลืมอดีตที่เคยหนุนเนื่องกันมา“หัวหน้าเท้ง–หัวหน้าหนู” เปิดศึกวีนเดือด เรื่องคดีมาตรา 112 มีจุดยืนไปคนละทาง โอกาสจับมือจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันคงลำบากโอกาสค่ายประชาชนตั้งรัฐบาลสำเร็จ ต้องได้เสียงเกินครึ่ง โชว์พลังส้มทั้งแผ่นดิน แต่หากชนะเลือกตั้งไม่ขาดก็อาจหงายหลัง เพราะวางเงื่อนไขไว้สูง ไม่เอาทั้งพรรคภูมิใจไทย พรรคกล้าธรรมร่วมตั้งรัฐบาลหากไปจับมือกับพรรคเพื่อไทย ก็ไม่รู้หายผูกใจเจ็บตอนถูกหักหลังจัดตั้งรัฐบาลปี 2566 ได้หรือยังอุปสรรคอีนุงตุงนัง เผชิญทั้งด่านนิติสงคราม และถูกแท็กทีมตั้งแง่สกัดหนัก ถึงมาเป็นที่ 1 ก็อาจเป็นฝ่ายต้องผิดหวังเหมือนเดิม!!!ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม