ใครที่ได้ดูหนังเรื่องโหมโรง...“นายศร” นักระนาดเอกหนุ่มลุ่มน้ำแม่กลอง ชนะ “ขุนอินทร์” มือหนึ่งระนาดเอกวงการ ด้วยอาการ “มือตาย” ตีต่อไปไม่ไหว สะใจคนดูภาพ “ขุนอินทร์” ในหนังแต่งให้ นายศรเป็นพระเอก ให้ขุนอินทร์เป็นผู้ร้ายแต่ในเรื่องจริง...ลูกศิษย์ลูกหาของสองฝ่าย รู้แก่ใจกันดี ไม่มีใครเป็นผู้ร้ายเลยอาจารย์ถาวร สิกขโกศล เล่าเรื่องเบื้องหลัง เรื่องนี้ไว้ในหนังสือ เจ้ายุทธจักรดนตรีไทย ประวัติศาสตร์สืบเนื่องจากภาพยนตร์เรื่องโหมโรง (สำนักพิมพ์ศยาม ส.ค.2559) ว่าเรื่องการประชันระนาดเอก...ครั้งนั้น ดร.อุทิศ นาคสวัสดิ์ เขียนคนแรก โดยไม่ออกชื่อ นายแช่ม (สุนทรวาทิน) โดยเรียกว่า ท่านผู้นั้น หรือนักระนาดผู้ยิ่งใหญ่ ชื่อ“ขุนอินทร์”เป็นชื่อสมมติวัยหนุ่มนายแช่ม เป็นคนระนาดฝีมือเยี่ยมแห่งยุค การประชันเกิดจากพระประสงค์ของ สมเด็จฯเจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช เจ้านายพระองค์นี้ ทรงตั้งวงปี่พาทย์เสภาในวังบูรพาแต่คนระนาด พระเอกของวงปี่พาทย์ตอนนั้น เป็นนาย “แช่ม” วงวังบ้านหม้อ...สมเด็จฯวังบูรพา เสาะหาคนระนาด...จนปี 2442 ได้นายศร บุตรครูสิน สมุทรสงคราม ทรงหาครูแปลกพระกาฬ สอนเชิงฝีมือ และแก้ทางเพลงพอนายศรรู้ว่าต้องประชันกับครูแช่ม...ถ้าแพ้จะถูกลงอาญา ก็กลัวมือเท้าอ่อน กราบไหว้ผู้ใหญ่ ไปขอให้นายแช่มออมมือ ได้ตอบว่า จะแสดงเต็มฝีมือ นายศรก็หนีจากวังบูรพาสมเด็จฯวังบูรพา กริ้วมากให้เอาตัวนางโชติภรรยานายศรมากักตัว ส่งข่าวไปทั่วว่า ถ้านายศรไม่มาจะลงอาญานางโชติแทน นายศรจึงกลับวังบูรพามีเรื่องเล่าว่า สมเด็จฯวังบูรพา ทรงใช้ปี่ชวางา ที่ทรงถือติดพระหัตถ์ ฟาดหัวนายศรจนลำโพงปี่แตก แล้วสั่งให้เอาตัวนายศรไปฝึกไล่ระนาดทั้งกลางวันกลางคืนทรงให้ทำระนาดทองแดงหนักข้างละ 10 บาท ให้นายศรฝึกไล่มือ และยังให้สวมกำไลตะกั่วถ่วงข้อมือ ฝึกให้กล้ามเนื้อแขนและข้อมือมีกำลังดีแล้วก็ถึงวันนั้น วันประชันจริง ราวปี 2444-2445 เริ่มแต่เพลงโหมโรง ต่อด้วยเพลงเดี่ยวระนาด เดี่ยวเชิดนอก พญาโศก ฯลฯ ไปจนถึงเพลงเดี่ยวกราวใน เพลงเดี่ยวสูงสุดนายศรงัด “เดี่ยวกราวในทางฝัน” ออกใช้ ก็เอาชนะทางกราวในของนายแช่มไม่ได้ จึงต้องวัดฝีมือกันด้วย “เชิดต่อตัว” ถ้าเป็นฟุตบอลก็คือเตะลูกโทษการตีเชิดต่อตัว ต้องใช้ความ “ไหว” และความ “อึด” สองฝ่ายผลัดกันส่ง-รับ รักษาเสียงระนาดให้ชัดเจน และเร่งความไหว ขึ้นไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะตอนส่งให้คู่ต่อสู้ “สวมรับ”เวลาตีสาม ฝีมือยังคู่คี่ เพลงเชิด 3 ชั้น เชิดสองชั้น ยิ่งตีจังหวะยิ่งรุกเร้าจุดสุดท้าย นายศรเร่งสุดฝีมือ ส่งไปให้อีกวงรับ นายแช่มรับไม่ทัน ตีต่อไม่ได้ ก็เลยวางไม้ระนาดการตัดสิน ทำกันด้วยใจ...ครูเพชร คนฆ้องวังบูรพา ในวันประชัน คุ้นกับสองฝ่าย บอกศิษย์ว่า “พี่แช่มไหวกว่านายศร แต่ท่าไม่สวย พอตีไหวมาก ข้อศอกกาง” แกสวมรับแล้วไม่ยอมตีต่อ จึงเป็นเหตุให้นายแช่มถูกปรับแพ้สมเด็จฯวังบูรพา พระราชทานปี่ชวางา ที่ใช้ฟาดหัวนายศร มีข้อความสลักเป็นที่ระลึกตรงลำโพงปี่ที่แตก ให้นายศรเป็นรางวัลการประชันระนาดชนะผมคัดย่อมาให้ได้แค่นี้ เนื้อหาหนังสือเจ้ายุทธจักรดนตรีไทย มีเรื่องของสามดุริยกวี ประจำสำนักปรมาจารย์ ทั้ง “ประสานดุริยศัพท์ เสนาะดุริยางค์ และประดิษฐ์ไพเราะ” ให้อ่านจุใจลองโทร.สำนักพิมพ์ศยาม 0-2225-9536-9 ถ้าไปงานหนังสือที่ศูนย์ฯสิริกิติ์ แล้วหาไม่เจอ.กิเลน ประลองเชิง