หลังรัฐบาลภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน ในห้วงระยะเวลา 2 เดือนที่ ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีการอนุมัติแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด หลายลอตติดต่อกันเกือบทุกสัปดาห์ทั้งนี้ การแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัด ตามกฎหมายเป็นอำนาจของปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยความเห็นชอบของ รมว.มหาดไทย นำเสนอให้ ครม.อนุมัติ แต่ในทางปฏิบัติเป็นที่รู้กันว่า รมว.มหาดไทย คือผู้เสนอแต่งตั้งปลัดกระทรวง ดังนั้นการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในกระทรวง ย่อมอยู่ภายใต้อิทธิพลของรัฐมนตรีเจ้ากระทรวง ยิ่งในสถานะที่รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เตรียมจัดทำประชามติ เพื่อนำไปสู่การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยมีเวลาบริหารประเทศแค่ 4 เดือน แล้วต้องยุบสภาจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ตามเอ็มโอเอที่ทำไว้กับพรรคประชาชน ซึ่งนายอนุทินได้ประกาศชัดเจนว่าจะยุบสภา ภายในวันที่ 31 ม.ค. 2569 การที่รัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทยมีการแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นจำนวนมาก รวมหลายสิบจังหวัด ในช่วงเวลา 2 เดือน ที่เข้ามาเป็นรัฐบาล จึงถูกมองว่าเป้าหมายหลักก็เพื่อวางคนที่มีความสนิทสนมกับแกนนำและ สส.พรรคภูมิใจไทย ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อประโยชน์เรื่องความได้เปรียบในการเลือกตั้งเป็นหลักแน่นอน การอนุมัติแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอยู่ในอำนาจรัฐมนตรีและรัฐบาล แต่ถ้าเน้นตั้งคนไปรับตำแหน่ง เพื่อหวังประโยชน์ทางการเมือง ชิงความได้เปรียบในการเลือกตั้งเป็นสำคัญ โดยไม่คำนึงถึงความสามารถและฝีมือการทำงาน ย่อมต้องกระทบต่องานราชการในความรับผิดชอบ เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชนตัวอย่างมีให้เห็นกันหมาดๆ จากกรณีมหาอุทกภัย อ.หาดใหญ่ ที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 145 ราย ประชาชนเดือดร้อนแสนสาหัส การท่องเที่ยว ธุรกิจ เศรษฐกิจในพื้นที่พังพินาศ สาเหตุก็เพราะกลไกระบบราชการในจังหวัดไร้ประสิทธิภาพในการรับมือภัยพิบัติ ซึ่งเป็นผลจากการแต่งตั้งคนที่สนิทสนมเข้าไปคุมกลไกราชการในจังหวัดดังนั้น เมื่อรัฐบาลตั้งคณะ กก.ถอดบทเรียนเหตุอุทกภัยหาดใหญ่ เพื่อรับมือมหาอุทกภัยในอนาคต นอกจากการวางระบบช่วยผู้ประสบภัยแล้ว ควรให้ความสำคัญกับการแต่งตั้งผู้ว่าฯในจังหวัดที่มีปัญหาน้ำท่วมรุนแรงทุกปี ต้องตั้งคนที่มีประสบการณ์ไปรับตำแหน่ง อย่ามุ่งแต่ผลประโยชน์ทางการเมือง โดยเอาชีวิตประชาชนมาสังเวย.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม