“สำลักน้ำ” หูตาเหลือกไปตามๆกัน ในวันที่เมืองหาดใหญ่จมอยู่ใต้บาดาล ประชาชนชาวสงขลากำลังเผชิญวิบากมหาอุทกภัยหนักหนาสาหัส สภาพกดทับผู้นำรัฐบาลอย่าง “นายกฯหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล จมน้ำครึ่งปากครึ่งจมูก หายใจหายคอไม่ทันสั่นผิดคิวไปหมด อุตส่าห์ยืนผัดข้าวแจกชาวบ้านโชว์ยังโดนโห่ลั่นและนั่นทำให้ต้องไล่ถามหา “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และ รมว.เกษตรฯ ที่ได้ตั้งให้เป็น ผอ.ศูนย์จัดการภัยพิบัติฯ และเพิ่งโชว์ใส่ชุดกันฝน นั่งท้ายรถดัมพ์สั่งการขึงขังให้เฮลิคอปเตอร์กรมฝนหลวงขึ้นบินแจกข้าวแจกน้ำผู้ประสบภัยแต่ปรากฏ “พี่ใหญ่ค่ายกล้าธรรม” ไปโผล่ตรวจงานเขื่อนที่จังหวัดเชียงใหม่“นายกฯหนู” เลยได้ตัวช่วยแชร์เสียงด่าไปจมหู“โคตรวิกฤติ” มันเกินจุดที่จะเอาอยู่กะอีแค่โชว์อีเวนต์ เล่นกระแสโซเชียลฯโดยโจทย์สถานการณ์ฉุกเฉินเฉพาะหน้า มหาอุทกภัยหาดใหญ่ สงขลา กลายเป็นบททดสอบฝีมือบริหารจัดการของรัฐบาลผสมพรรคภูมิใจไทย ตามฉากประจานความล้มเหลวของภาครัฐทั้งระบบในการรับมือภัยพิบัติขาดการรวมศูนย์บัญชาการ ลอยคอไปคนละทิศคนละทางอย่างที่ได้ยินเสียงสะท้อนตรงกัน ประชาชนได้รับการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า แต่ไม่รู้จะปฏิบัติต่อไปยังไง เพราะไม่มีแผนรองรับการอพยพชาวบ้านงง หันรีหันขวางไม่รู้จะหลบไปทางไหนภาพยิ่งกว่าฉากหนัง คนในพื้นที่ปีนหนีน้ำไปตากฝนอยู่บนหลังคาบ้าน อดข้าว อดน้ำ 2-3 วัน เพราะการช่วยเหลือเข้าไม่ถึง และที่กระทบเต็มๆก็คือสภาพหาดใหญ่เมืองท่องเที่ยว ทัวริสต์ชาวมาเลเซียติดเกาะนับพันคนผลต่อความมั่นใจในวันข้างหน้า ใครจะกล้ามาเสี่ยงภัยในเมืองที่ไร้หลักประกันความเสียหายมหาศาลประเมินมูลค่าไม่ได้ กดตัวเลขกันไม่หวาดไม่ไหวแต่ที่ต้องหยั่งความลึกกันตรงหน้าให้ดีๆ ในมุมของ “น้ำการเมือง”ตามท้องเรื่องที่มหาอุทกภัยปักษ์ใต้ จะเชื่อมโยงเป็นเงื่อนไขไปถึงการ “กดปุ่มยุบสภา” ที่ “นายกฯอนุทิน” กำลังเล่นแต้ม คุมเชิงบุกของฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่เงื้อดาบขู่เชือด จ้องยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจสไตล์เกรียนเซราะกราวประกาศกร้าว ไม่ยอมโดนด่าฟรีแต่เกิดจังหวะผีผลัก บังเอิญซวยเจอมหาวิกฤติน้ำท่วมหาดใหญ่โผล่มาตัดหน้า ทำผู้นำรัฐบาลเซราะกราว “สำลักน้ำ” โดนหักแต้มบริหารจัดการไปอื้อซ่า“นายกฯหนู” จะเสี่ยงสละเรือ โดดหนีน้ำในภาวะคับขัน มันก็ใช่ที่คะแนนนิยมไหลจมน้ำ ในห้วงสั้นๆ 2—3 เดือนเลือกตั้ง กู้กัน ไม่ทันแน่โดยเฉพาะกับเดิมพันสำคัญ รู้กันอยู่ว่าทั้งค่ายภูมิใจไทยและพรรคกล้าธรรมของ “ผู้กองนัส” ต่างก็ปักหมุดสงขลาเป็นชัยภูมิที่มั่นในปักษ์ใต้ในการเลือกตั้งไฟต์ที่กำลังจะมาถึงแข่งปั่นแต้ม สส.กันล่วงหน้า แย่งกันต้อนตัวชัวร์มาอยู่ในสังกัดแวบเดียวโดนน้ำพัดกระเจิดกระเจิง แต้มหายไปในพริบตาปรากฏการณ์แบบที่โซเชียลฯประกาศคนหาย ถามหา “ผู้แทนฯ สงขลา” ไปจมน้ำอยู่มุมไหน ขึ้นป้ายโชว์รูป โชว์ชื่อกันชัดๆล้วนแต่ตัวเด่นดังกำลังเป็นเป้าโฟกัส สังคมคุ้นหู รู้จักหน้าตากันทั่วประเทศโดยเฉพาะ “เสี่ยกฤต” นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา เขต 4 ค่ายกล้าธรรม “โกถึก” นายสมยศ พลายด้วง สส.สงขลา เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ ที่กำลังจะย้ายสังกัดเข้า “ก๊วนผู้กอง”โดนกระแส “เงินเทา” กระหน่ำโงหัวไม่ขึ้น มาเจอกระแสน้ำซัดระเนระนาดไปกันใหญ่ทีม “บิ๊กบราเธอร์” เหนื่อยหนัก ในสภาพทีมเซราะกราวก็สะบักสะบอมไม่แพ้กัน แต่ไม่สำคัญเท่ากับประชาชนคนหาดใหญ่ เมืองสงขลา ที่เผชิญวิบากกับตัวเอง ลอยคอ จมบาดาล อดน้ำ อดอาหารอาการเดือดดาล พาลโกรธแค้นนักการเมืองพึ่งพาไม่ได้รัฐบาลโดนด่ายับ ไม่รับประกันฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทยที่ตั้งท่ายื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ต้องเช็กระยะให้ดี เพราะดีไม่ดีจะโดนข้อหาเล่นเกมการเมืองป่วนซ้ำน้ำท่วมใต้หนีไม่พ้นโดนลากคอจมบาดาล “สำลักน้ำ” หูตาเหลือก.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม