ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ในทางการเมือง นั้นไม่มีใครไว้วางใจกันได้ 100% สิ่งที่แน่นอนก็คือความไม่แน่นอน แน่นอนที่สุดก็คือปลอดภัยไว้ดีที่สุด ยิ่งมีอำนาจอยู่ในมือ เพื่อให้ชัวร์ที่สุดคือตัดสินใจเอง เป็นความได้เปรียบที่เหนือกว่าทุกอย่างจึงไม่แปลกที่ “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี ที่มีอำนาจ “ยุบสภา” อยู่ในมือ จึงต้องใช้อย่างเต็มที่ ประกาศชัดเจนหากฝ่ายค้านยื่นซักฟอกก็จะยุบสภาไม่ขู่ก็เหมือนขู่แม้ “เพื่อไทย” จะยื่นเพียงพรรคเดียวก็ตาม แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่า “ประชาชน” จะร่วมด้วย หรือพูดง่ายๆว่า “ไม่ไว้ใจ”“อนุทิน” บอกว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อยยังไงก็แพ้ฝ่ายค้านอยู่ดี ฝ่ายค้านมีข้อมูลดีก็โดน ตอบได้ก็โดน เพราะเสียงสู้ไม่ได้อยู่แล้วอยาก “ยุบสภา” เร็วๆก็ได้ไม่ยาก12 ธ.ค.2568 เปิดสภาก็พร้อมที่จะ “ยุบสภา” ทันทีเอาอย่างนี้มั้ยล่ะ...!ใครจะว่าอย่างไรก็ว่าไป เพราะวันนี้ “ภูมิใจไทย” พร้อมเลือกตั้งอยู่แล้ว โยกย้ายข้าราชการก็เสร็จตามเป้า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีก็ได้ 3 คนแล้ว“คนละครึ่ง” ก็ทำให้ได้คะแนนเต็มกระเป๋าแล้วแน่นอนว่าการที่ฝ่ายค้านยื่นซักฟอกนั้นถ้าไม่ลงมติก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าแบบลงมติก็แพ้วันยังค่ำ จึงไม่ยอมเล่นเกมนี้ด้วยที่สำคัญคือเกรง “ประชาชน” จะแทงข้างหลังยกมือไม่ไว้วางใจด้วยรัฐบาลก็โดนด่าฟรีๆ แล้วอำนาจที่อยู่ในมือก็หายไปด้วยก็เลยต้องประลองกำลังกัน“เพื่อไทย” นั้น มีแต่ได้กับได้ ส่วน “ประชาชน” นอกจากได้ยุบสภาแล้วยังทำให้คู่แข่งสำคัญเสียหายไปด้วยมิหนำซ้ำยังแก้รัฐธรรมนูญได้อีกคิดสะระตะแล้วจึงต้อง “หักดิบ” กันดื้อๆอย่างนี้แหละ!แน่นอนว่าการยุบสภาเร็วขึ้นก่อนปีใหม่จะมีปัญหาด้านเศรษฐกิจ โดย เฉพาะการเจรจาเรื่องภาษีกับสหรัฐฯยังไม่เสร็จที่สำคัญรัฐบาลรักษาการ สหรัฐฯจะไม่ลงนามด้วยนอกจากนั้น นักธุรกิจนักลงทุนจะมีปัญหาความไม่แน่นอนว่า ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลจะมีนโยบายอย่างไรเพราะการลงทุนจะต้องมีความแน่นอนเพื่อให้เกิดความมั่นใจก็เป็นเรื่องที่ฝ่ายค้านจะต้องนำไปคิดด้วยเพราะถ้าเกิดปัญหารัฐบาลก็ต้อง โทษรวมถึงเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยทุกอย่างไม่ต่างกับวัวกินหางที่สัมพันธ์กันหมดสรุปก็คือ “ภูมิใจไทย” กับ “อนุทิน ชาญวีรกูล” มีความได้เปรียบกว่าทุกพรรคทำให้มีอำนาจต่อรองที่เหนือกว่า!แวดวงการเมืองจึงชี้ไปที่ “เสี่ยหนู” ว่าโอกาสที่จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก 4 ปีค่อนข้างสูงกว่า “ประชาชน” และพรรคอื่นๆชี้ด้วยว่า “เพื่อไทย” โอกาสสูงสุดก็ที่ 3 ตามด้วย “กล้าธรรม” ที่ 4“ประชาธิปัตย์” ยุคใหม่น่าจะรั้งที่ 5 ก็ไม่เลวด้วยองค์ประกอบและความจริงทางการเมืองที่เกิดขึ้นผลจึงไม่น่าจะหนีไปจากนี้!“ลิขิต จงสกุล”คลิกอ่านคอลัมน์ “สับรางวันอาทิตย์” เพิ่มเติม