“ท็อป” ทิ้งมรดก ชทพ. “อนุชา” เผยไปยกทีมนครปฐม- สุพรรณบุรี-ร้อยเอ็ด เห็นพ้องต้องกันซบภูมิใจไทย สารภาพ พรรคเล็กอยู่ไม่ไหว พร้อมเปิดตัวทางการ 23 พ.ย. “อนุทิน” ปั่นแต้มล่วงหน้ากลุ่ม อสม. “ศุภจี” ยันไม่รู้เรื่องแคนดิเดตฯ แต่ขอบคุณนายกฯที่ไว้ใจ บ้านใหญ่ “อัศวเหม” ไหลรวม พท. “อัครวัฒน์” ถอดบทเรียนพรรคส้มยกจังหวัด จัดส่วนผสมกับเสื้อแดงลงตัว “จุลพันธ์” ตอกดื้อรั้นตั้ง รบ.เสียงข้างน้อย ลั่นไม่มี ซูเอี๋ยแก้ รธน.แลกยื่นอภิปรายตรวจสอบ “พริษฐ์” ดักคอนายกฯชิงยุบสภาฯเท่ากับผู้รับเหมาทิ้งงาน ชี้ถ้าล้มกระดานเท่ากับผิดเงื่อนไข MOA ปชน. ตีปี๊บ “ประกาศสำคัญ” จัดกำลังรับศึกเลือกตั้งใกล้สะเด็ดน้ำ ศาลขยายอุทธรณ์คดี 112 “ทักษิณ”นายอนุชา สะสมทรัพย์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ประกาศยืนยันยกทีมนครปฐม-สุพรรณบุรี-ร้อยเอ็ด ซบพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมเปิดตัวเป็นทางการวันที่ 23 พ.ย.นี้ ชี้ทุกคนในพรรคเห็นพ้องต้องกัน เลือดสุพรรณไปไหนไปกัน สุดท้ายสรุปร่วมกันว่าจะไปพรรค ภท.ด้วยกัน“อนุทิน” ปั่นแต้มล่วงหน้ากลุ่ม อสม.เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 22 พ.ย.ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพ อสม. สู่สาธารณสุขยุคพัฒนา เชื่อมต่อเทคโนโลยีสู่ชุมชน มีนายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รมว.สาธารณสุข ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และ อสม.กว่าหมื่นคนเข้าร่วม นายอนุทินกล่าวโครงการว่า อสม.คือหมอคนแรกของประชาชน พัฒนาการให้บริการพี่น้องประชาชนให้ทันสมัย มีการยกระดับจาก อสม.ธรรมดาให้เป็น “สมาร์ท อสม.” เคยทำงานกับ อสม.มา 4 ปีเต็มทราบดี วันนี้ซ้อมไว้เดี๋ยวก็เลือกตั้งแล้ว มาเจอพี่น้องอสม.ที่มาเป็นหมื่นๆ ใครจะเจ๋งหรือเก๋าต้องมาพูดกับคนเป็นหมื่นคนต่อหน้าเป็นตนยังขาสั่น สั่นด้วยความตื่นเต้น สั่นด้วยความดีใจ เจอ อสม.ก็สั่นสู้ เรามี อสม.อยู่กับทุกชุมชน นี่คือสาเหตุที่ทำให้ไทยเรามีความมั่นใจระบบสาธารณสุขแสดงความยินดี “อัศวเหม” ซบ พท.ต่อมานายอนุทินให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคเพื่อไทยเปิดตัวทีมบ้านใหญ่สมุทรปราการ “อัศวเหม” เสนอตัวลงสมัครสส.สมุทรปราการ ในการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า “ยินดีด้วย จะได้มาช่วยบ้านเมือง” เมื่อถามว่าถือเป็นการตัดขาดกันเลยหรือไม่ นายอนุทินยิ้มแต่ไม่ตอบคำถามก่อนจะโบกมือเดินขึ้นรถยนต์ไปเปิดกิจกรรมรวมพลังแห่งความภักดีต่อมาเวลา 15.50 น.ที่โครงการพัฒนาบึงสีไฟเฉลิมพระเกียรติฯ อ.เมืองพิจิตร นายอนุทิน เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมชาวจังหวัดพิจิตรรวมพลังแห่งความภักดี ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรม ราชชนนีพันปีหลวง นายอนุทินกล่าวเปิดงานว่า การมารวมพลังกันวันนี้ สะท้อนให้เห็นถึงหัวใจของคนพิจิตรที่เปี่ยมไปด้วยความสามัคคี แสดงให้เห็นถึงพลังแห่งความจงรักภักดี ความกตัญญู รัฐบาลจะน้อมนำแนวทางตามพระราชดำริมาเป็นหลักในการบริหารประเทศ พร้อมทั้งส่งเสริมให้เกิดความสามัคคีปรองดอง และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการสร้างสรรค์สังคมและประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าต่อไป จากนั้นนายกฯ ร่วมบรรเลงดนตรีเพลงพระราชนิพนธ์ยามเย็น กับวงออร์เคสตรา ม.นเรศวร“ศุภจี” ยันไม่รู้เรื่องแคนดิเดตนายกฯนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีนายกฯประกาศเสนอชื่อเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ มาก่อน เพิ่งทราบข่าวนี้พร้อมกับทุกคน เพราะวันที่นายกฯเสนอชื่อให้เป็นแคนดิเดต ยังปฏิบัติภารกิจอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ยังไม่ได้คุยเรื่องนี้กับนายกฯ ขออนุญาตคุยกับนายกฯก่อน ณ วันนี้ขอทำหน้าที่ รมว.พาณิชย์ให้ดีที่สุด ยืนยันไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน ขอบพระคุณนายกฯที่ไว้วางใจ ถือเป็นกำลังใจที่ดี ตอนนี้ขอโฟกัสกับหน้าที่ รมว.พาณิชย์ก่อน ขอตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ตอนนี้ทำงานมาแล้ว 52 วัน เหลืออีก 68 วัน จะทำให้ดีที่สุด“ศิลปอาชา–สะสมทรัพย์” เอกฉันท์นายอนุชา สะสมทรัพย์ สส.นครปฐม รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงกระแสข่าวย้ายไปพรรคภูมิใจไทยว่า เรื่องนี้พูดคุยกันมาระยะหนึ่งแล้วถึงอนาคตทางการเมืองของพรรค เพราะเรามองว่าการเมืองวันข้างหน้าพรรคเล็กจะอยู่ไม่ไหว พรรคเล็กจะทำประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนได้น้อยกว่าการได้รวมกับพรรคใหญ่ และมาตกผลึกกันที่พรรค ภท. โดยเฉพาะตระกูลสะสมทรัพย์ เรามองว่าพรรค ภท.เหมาะสมกับประชาชน จ.นครปฐมมากที่สุด ระหว่างสะสมทรัพย์กับศิลปอาชา เราเห็นพ้องกันไปไหนไปกันเลือดสุพรรณ นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค ชทพ. เลือกตรงกัน จึงมาสรุปร่วมกันว่าจะไปพรรค ภท.ด้วยกัน และมีการพูดคุยกับระดับสูงสุดของพรรค ภท.แล้วถึงแนวทางการรวมกัน เพื่อให้คำตอบแก่พี่น้องประชาชน วันที่ 23 พ.ย.จะชัดเจนอย่างเป็นทางการส่ง “พาณุวัฒณ์” เปิดตัวเข้า ภท.23 พ.ย.นายอนุชากล่าวต่อว่า ตระกูลสะสมทรัพย์เล่นการเมืองมากว่า 30 ปี เราต้องกราบพ่อแม่พี่น้องชาวนครปฐมทุกคนที่เลือกสะสมทรัพย์มายาวนาน เราเห็นอะไรมามาก ที่ผ่านมาสะสมทรัพย์ไม่ได้ย้ายพรรคเรื่อยเปื่อย เราอยู่กับใครเราจริงใจ เรามีสัจจะ พรรค ชทพ.ทั้งหมด นครปฐม สุพรรณบุรี ร้อยเอ็ด ไปพรรค ภท. วันที่ 23 พ.ย. มอบหมายให้นายพาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ สส.นครปฐม หลานชาย ไปแทน เพราะติดภารกิจบ้านใหญ่ “อัศวเหม” ยกทีมซบ พท.ที่พรรคเพื่อไทยเมื่อเวลา 10.30 น. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผอ.เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ร่วมเปิดตัวผู้เสนอตัวสมัคร สส.สมุทรปราการ จำนวน 8 คน และบัญชีรายชื่อ 3 คน นำโดยนายอัครวัฒน์ อัศวเหม รองนายก อบจ.สมุทรปราการ นายสุริยะกล่าวว่า แสดงให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยยังเป็นสถาบันการเมืองที่เข้มแข็งมีบุคลากรอีกจํานวนมากจะเข้ามาร่วมทํางานกับพรรค เพราะเชื่อว่าทํานโยบายให้เป็นรูปธรรม เกิดประโยชน์ต่อประชาชนได้ ด้านนายจุลพันธ์กล่าวว่า มั่นใจว่าทีมผู้สมัครชุดนี้มีความรู้ความเข้าใจในประชาชนชาวสมุทรปราการดีเยี่ยม จะมอบให้รองหัวหน้าพรรคด้านนโยบาย ไปพูดคุยรายละเอียดกับทีมสมุทรปราการต่อไป เพื่อสร้างนโยบายที่ตรงความต้องการและความหวังของประชาชนได้ ถือเป็นการรวมพลังมั่นใจมากว่าจะคว้าชัยชนะมาได้ทั้งจังหวัด“อัครวัฒน์” ถอดบทเรียนส้มยก จว.นายอัครวัฒน์ อัศวเหม รองนายก อบจ.สมุทรปราการ กล่าวว่าเมื่อกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้ามารวมกับพรรคเพื่อไทย จะเป็นกระแสใหม่ของสมุทรปราการ เชื่อว่าจะชนะการเลือกตั้งได้ทั้ง 8 เขต เมื่อถามว่าจะสู้กับพรรคประชาชนได้หรือไม่ นายอัครวัฒน์ตอบว่า เราถอดบทเรียนและพยายามทำทุกอย่าง ไม่เห็นว่าตอนนี้พรรคประชาชนจะแก้ปัญหาได้ หรือเป็นรัฐบาลทั้งที่มีโอกาส เดิมกลุ่มเราอยู่ในท้องถิ่นมานาน ถึงเวลาแล้วที่ต้องดำเนินการร่วมกันกับพรรคเพื่อไทย เมื่อถามว่ากังวลเรื่องกระแสหรือไม่ การเลือกตั้งที่ผ่านมาแพ้เพราะกระแส นายอัครวัฒน์ตอบว่า เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยก็ถอดบทเรียนเช่นกัน คงแก้ไขปัญหาตรงจุด มั่นใจในหัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค ผอ.เลือกตั้งและทีมบริหารพรรค เป็นคนรุ่นใหม่มีวิสัยทัศน์ วางยุทธศาสตร์การเมืองได้ดีจัดส่วนผสมเสื้อแดง–อัศวเหมผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อว่าที่ผู้สมัคร สส.สมุทรปราการทั้ง 8 เขต ประกอบด้วย 1.นายอัครวัฒน์ อัศวเหม รองนายก อบจ.สมุทรปราการ อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (หลานนายวัฒนา อัศวเหม) 2.นายยงยุทธ สุวรรณบุตร อดีต สส.สมุทรปราการ พปชร. 3.นายภิญโญ กิจเลิศไพโรจน์ บุตรชายนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ อดีตรมช.พาณิชย์ 4.พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ อดีตรอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี 5.นายปิยะพงษ์ เหมะ บุตรชายนายวรชัย เหมะ 6.นางนฤมล ธารดำรงค์ อดีตสส.สมุทรปราการ พรรค พท. 7.นายประชา ประสพดี อดีต รมช.มหาดไทย และ 8.นางสลิลทิพย์ สุขวัฒน์ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรค พท. ส่วนรายชื่อว่าที่ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ 3 คน คือ นายต่อศักดิ์ อัศวเหม อดีต สส.สมุทรปราการ นายธนประเสริฐ จันทรักษรังษี และนายจาตุรนต์ นกขมิ้นตอก “หนู” รั้นตั้ง รบ.เสียงข้างน้อยนายจุลพันธ์ให้สัมภาษณ์กรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย ขู่พร้อมยุบสภาในวันที่ 12 ธ.ค. หากมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมเลือกตั้ง ไม่ติดขัดอะไร ยุบสภาเป็นอำนาจนายกฯ จะยุบเมื่อไหร่ก็ทำได้ แต่ยืนยันกระบวนการยุบสภา หากมีการเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว ไม่สามารถทำได้เพราะขัดต่อรัฐธรรมนูญ ส่วนที่นายกฯบอกว่าหากอะไรที่ยังค้างอยู่ทำไม่สำเร็จ เป็นเพราะฝ่ายค้านยื่นอภิปรายนั้น นายอนุทินไม่มีเครื่องคิดเลขหรือ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเสียงไม่พอ พวกเราชี้ประเด็นมาหลายครั้งว่าการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยขัดต่อหลักการประชาธิปไตย แต่ท่านเลือกเดินทางนี้ พรรคประชาชนก็ส่งสัญญาณว่ากรณีที่รัฐบาลไม่ได้กระทำความผิดอะไรร้ายแรง จะไม่ลงมติไม่ไว้วางใจ แสดงว่ารัฐบาลมีชนักหรือไม่ ถ้าไม่ได้ทำความผิดก็ไม่ต้องกลัว หากเราอภิปรายโดยไม่มีข้อมูลเนื้อหา สุดท้ายความเสียหายตกกับเราเอง เมื่อถามว่าคุยกับหัวหน้าพรรคประชาชนแล้วหรือยัง นายจุลพันธ์ตอบว่า พูดคุยกันแล้ว แต่ยังไม่ชัดเจนว่าพรรคประชาชนจะร่วมเข้าชื่อด้วยหรือไม่ไม่ซูเอี๋ยแก้ รธน.แลกการตรวจสอบผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลพยายามทำให้เข้าใจว่าหากต้องยุบสภาก็เป็นเพราะพรรคเพื่อไทย นายจุลพันธ์ตอบว่า การเข้าสู่ MOA มีเจตนาว่าจะไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญให้สำเร็จอยู่แล้ว เห็นอาการชัดมาตั้งแต่ต้นว่ารัฐบาลพยายามใช้เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นตัวประกัน แต่เรื่องความเสียหายต่อประเทศ และการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย ไม่สามารถยกเว้นได้ คนที่พยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตลอดคือพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชน ขณะที่บางพรรคมักวอล์กเอาต์ สว.สีอะไร ทำไมถึงไม่สามารถรวบรวมเสียงได้ โจทย์ชัดเจนตั้งแต่แรกว่าไม่แก้ แต่เพื่อต้องการเข้าสู่อำนาจรัฐ จึงไปมีข้อตกลงกัน 2 ฝ่าย เห็นแต่การแก้ไขเรื่องคดีความ การโยกย้ายข้าราชการ เหมือนเตรียมการเลือกตั้ง เชื่อมั่นว่าสุดท้ายกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญคงประสบความสำเร็จได้ยาก“ชลน่าน” ชี้นายกฯท้าทายฝ่ายค้านนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย กรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติมรัฐสภา กล่าวถึงกรณีนายกฯขู่จะยุบสภาวันที่ 12 ธ.ค. หากฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า เป็นการท้าทายและขู่ฝ่ายค้านที่เตรียมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีนัยส่งถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เท่ากับเอาการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นตัวประกัน การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเรื่องที่พรรคให้ความสำคัญ รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ออกมาดีที่สุด ทั้ง 2 ประเด็น พรรคเพื่อไทยอยากได้ทั้งคู่ แต่มีประเด็นต้องพิจารณาคือเนื้อหาที่นำไปสู่การทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่ โดยเฉพาะที่มาคณะยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่เสียงข้างมากถูกครอบงำจากสีใดสีหนึ่ง ทำให้การจัดทำอาจไม่ได้รัฐธรรมนูญดีที่สุด เป็นความชอบธรรมที่พรรคเพื่อไทยจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2 แล้วเสร็จชิงยุบสภาเท่ากับผู้รับเหมาทิ้งงานวันเดียวกัน นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์กรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย ขู่อาจยุบสภาวันที่ 12 ธ.ค. ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญได้รับผลกระทบไปด้วยว่า ท่าทีของนายกฯต่อการยุบสภา เคยพูดไปแล้วว่าหากนายกฯจะยุบสภาหลีกหนีการตรวจสอบ หรือปัดความรับผิดชอบเรื่องแก้รัฐธรรมนูญไม่ต่างอะไรกับผู้รับเหมาที่ทิ้งงาน หรือปิดกิจการเพื่อหนีการตรวจสอบ แม้เวลานี้ยังมีการถกเถียงในเชิงข้อกฎหมายอยู่ ว่ายื่นอภิปรายแล้วจะยุบสภาได้หรือไม่ คิดว่าเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดว่าไม่ต้องการให้นายกฯใช้อำนาจยุบสภาหนีการตรวจสอบ แม้ว่าจะถกกันว่ากฎหมายตีความอย่างไร คิดว่าในเชิงความรับผิดรับชอบทางการเมือง หากนายกฯตัดสินใจยุบสภา ย่อมไม่ส่งผลดีต่อมุมมองของประชาชนที่มีต่อนายกฯ โดยเฉพาะในสนามเลือกตั้งที่จะมาถึงชี้ถ้านายกฯล้มกระดานเท่ากับผิด MOAเมื่อถามว่าหากยุบสภาในวันที่ 12 ธ.ค. โดยที่รัฐธรรมนูญยังแก้ไขไม่เสร็จ จะถือว่าพรรค ภท.ผิดข้อตกลงหรือไม่ นายพริษฐ์ตอบว่า ชัดเจนว่า MOA ที่ลงนามกันไว้ มี 2 ประเด็นหลัก คือ ต้องมีการยุบสภาภายในวันที่ 31 ม.ค.2569 และการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หากไม่มี 2 คำถามในการทำประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง ถือว่าผิดเงื่อนไข MOA สิ่งที่เราพยายามทำคือการจูงมือทุกฝ่าย เพื่อทำให้การผลักดันร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จเร็วที่สุด และเราเข้าใจดีว่าเรื่องนี้จะสำเร็จต้องอาศัยทุกฝ่าย เมื่อถามว่าหากชะลอการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะเป็นผลดีกับทุกฝ่ายหรือไม่ นายพริษฐ์ตอบว่า การตัดสินใจของพรรค พท.จะอภิปรายหรือไม่ ยื่นใคร ยื่นเมื่อไหร่ เป็นสิทธิของพรรค พท. เราเคารพสิทธิปชน.ตีปี๊บจับตา “ประกาศสำคัญ”ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 22-23 พ.ย.นี้ พรรค ปชน.เตรียมจัดงาน “รีชาร์จประชาชน” ที่อาคารอนาคตใหม่ มีกิจกรรมวาระประเทศไทย ให้สส.พรรค ปชน. นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ร่วมเสนอแนวนโยบายความมั่นคงใหม่ เศรษฐกิจใหม่ บริหารประเทศแบบใหม่ ไทย.ทัน.โลก มีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ วันที่ 23 พ.ย. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้นำทางจิตวิญญาณ ประธานคณะก้าวหน้า บรรยายหัวข้อ Orange Megaprojects การลงทุนครั้งใหญ่เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย พร้อมการเปิดชุดนโยบายแรกของพรรคประชาชน โดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ปชน. ขณะที่ทีมงานพรรค ปชน. แจ้งว่าวันที่ 23 พ.ย. ช่วงเวลา 16.00 น. เป็นต้นไป หัวหน้าพรรคจะมีการประกาศเรื่องสำคัญทีม “ครม.เงา” ใกล้สะเด็ดน้ำเต็มทีมีรายงานเพิ่มเติมว่าการจัดทัพรับศึกเลือกตั้ง 2569 ทั้งการคัดสรรผู้สมัคร สส. ทั้งแบบเขต และบัญชีรายชื่อ คืบหน้าไปมากแล้ว อาทิ ผู้สมัคร สส.เขต คัดสรรไปแล้วเกินครึ่ง โดยมีแชมป์เก่าแบบเขต 84 คน ได้ลงสมัครในนามพรรค ปชน. ส่วนที่เหลือยังอยู่ในกระบวนการคัดสรร ที่พรรค ปชน.วางไว้อย่างเข้มข้น มีหลายกระบวนการ นอกจากประเมินภาพรวมการทำงานในฐานะ สส.เป็นหลักแล้ว มีการส่งเอสเอ็มเอสไปยังบุคลากรของพรรคในเขตนั้นๆ ให้ประเมินการทำงานผู้แทนฯเขตของตน ประกอบการตัดสินใจส่งหรือไม่ส่งลงสมัครด้วย ส่วนการวางตัวแคนดิเดตคณะรัฐมนตรีที่จะเปิดเผยให้ประชาชนเห็นหน้าค่าตาก่อนการหาเสียงเลือกตั้ง ค่อนข้างสะเด็ดน้ำแล้ว หากนายกฯประกาศยุบสภา จะทยอยเปิดตัวผู้ที่จะเป็นรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญทันที รวมถึงแคนดิเดตนายกฯทั้ง 3 คน มีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ปชน. เป็นแคนดิเดตลำดับที่ 1 พรรคกำลังจับตาท่าทีหลังนายกฯขู่อาจยุบสภา วันที่ 12 ธ.ค. ถือว่าเร็วกว่าข้อตกลงตาม MOA“ไทยก้าวใหม่” พร้อมลุยเลือกตั้งช่วงสายที่พรรคไทยก้าวใหม่ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ประธานพรรคไทยก้าวใหม่ และนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ ร่วมแถลงเปิดนโยบายป้องกันน้ำท่วม กทม. และปริมณฑล จากนั้นเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.กทม.รวม 15 เขต นายสุชัชวีร์กล่าวถึงกรณีนายกฯประกาศพร้อมยุบสภาในเดือน ธ.ค.ว่า ทุกพรรคต้องพร้อมทุกวินาที พรรคไทยก้าวใหม่พร้อมส่งคนลง โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ตั้งใจเปลี่ยนแปลงประเทศให้ไม่เหมือนเดิม และอาสาพาประเทศไทยก้าวใหม่ นายกฯจะยุบสภาเมื่อไรพวกเราทุกคนพร้อม เมื่อถามว่าจะมีการเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯครบ 3 ชื่อหรือไม่ นายสุชัชวีร์ตอบว่า หัวหน้าพรรคทุกพรรคต้องมีความพร้อม มีวิสัยทัศน์ เป็นผู้นำประเทศอยู่แล้ว แต่เราจะเสนอใครในลำดับต่อๆไป อยากให้ติดตามปธ.ผู้ตรวจฯเร่งแก้นอมินีข้ามชาติที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายทรงศัก สายเชื้อ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงนโยบายการทำงานหลังเสร็จพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานผู้ตรวจการแผ่นดินคนใหม่ว่าจะมีการปรับแนวทางการทำงาน มุ่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและเสริมสร้างความเป็นธรรม ยึดถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง สำหรับปัญหานักธุรกิจชาวต่างชาติที่เข้ามาประกอบกิจการแย่งงานแย่งอาชีพคนไทย ถือเป็นปัญหาหลักของประเทศ ผู้ประกอบการเหล่านี้มีแนวโน้มมีธุรกิจสีเทา และเป็นนอมินีเป็นส่วนใหญ่ ปีนี้จะเพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินการเร็วๆนี้จะพบกับ รมว.พาณิชย์ เพื่อเร่งรัดขั้นตอนการออกระเบียบเกี่ยวกับเรื่องนอมินี ที่ผ่านมาการออกกฎหมายดังกล่าวค่อนข้างล่าช้า หวังว่ารัฐบาลปัจจุบันจะเห็นความสำคัญเร่งด่วนให้ขยายอุทธรณ์คดี 112 “ทักษิณ”อีกเรื่อง มีรายงานความคืบหน้าคดีหมิ่นสถาบัน ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยต่อศาลอาญา คดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ กรณีนายทักษิณให้สัมภาษณ์สำนักข่าวแห่งหนึ่ง ที่กรุงโซล เกาหลีใต้ มีเนื้อหาพาดพิงดูหมิ่นสถาบัน คดีนี้ศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้อง เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาพนักงานอัยการขอขยายอุทธรณ์คดีมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งล่าสุดยื่นขอขยายอุทธรณ์เมื่อวันที่ 19 พ.ย. วันนี้ศาลอาญาพิจารณาคำร้องขอขยายอุทธรณ์ของพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 แล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ขยายอุทธรณ์ไปถึงวันที่ 19 ธ.ค.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่