“บิ๊กเล็ก” ยันไทยเร่งเก็บทุ่นระเบิด 13 พื้นที่ก่อนขยายพื้นที่ เพิ่ม ย้อน “ฮุน เซน” หลังท้าปิดด่าน 100 ปี จะได้ไม่ต้องพูดเรื่องเปิดด่านอีก ย้ำไม่ปล่อยตัว 18 เชลยศึก ตราบที่ยังแสดงเป็นปรปักษ์ รมว.กต.ยันยึดคำพูดผู้นำเดินหน้าเจรจาภาษีต่อ กองทัพบกโต้ประธานวุฒิสภากัมพูชา ปมศพทหารชายแดน-เชลยศึก ย้ำไทยปฏิบัติตามหลักสากล คณะผู้สังเกต การณ์อาเซียน (AOT-TH) และทีมกองทัพไทยลงพื้นที่ปราสาทคนา จ.สุรินทร์ ตรวจสอบปมเก็บกู้ทุ่นระเบิด ประกอบหลักฐานวางใหม่หรือไม่ ด้านทีมสำรวจกัมพูชาข้ามแดนร่วมประชุมกับไทยเตรียมปักหมุดชายแดน “หนองจาน-หนองหญ้าแก้ว” 19 พ.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 18 พ.ย. นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (ยูเอสทีอาร์) ส่งหนังสือระงับเจรจาภาษีมาถึงไทย ว่า ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย คุยกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้ ฝ่ายไทยถือเรื่องความมั่นคงเป็นสำคัญ ควรจะแยกเรื่องการค้าออกจากกัน ยืนยันไทยจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ร่วมกับกัมพูชา เมื่อถามย้ำว่าไม่ต้องรอหนังสือยืนยันอย่างเป็นทางการจากทางสหรัฐฯ แต่ยึดคำเจรจาระหว่างผู้นำ 2 ประเทศใช่หรือไม่ นายสีหศักดิ์กล่าวว่า ตรงนี้สำคัญที่สุด เมื่อถามย้ำว่าผู้นำ 2 ประเทศมีความเข้าใจตรงกันใช่หรือไม่ นายสีหศักดิ์กล่าวว่า ถือว่าเป็นความเข้าใจตรงกัน เราก็ยังเดินหน้าของเราในการเจรจาการค้า เป็นคนละเรื่องกับปฏิญญาไทยกัมพูชา ส่วนเรื่องการประท้วงกัมพูชา จะเดินทางไปที่เจนีวา เพื่อนำเสนอเรื่องราวของไทย ว่าถูกละเมิดอย่างไรด้าน พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการกำหนดเวลาเก็บทุ่นระเบิด 13 พื้นที่ว่า ไม่ได้กำหนดเวลาแล้วเสร็จเมื่อไหร่ เพราะต้องทำ ตามลำดับไปเร่งรัดไม่ได้ เสนอไปในที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) เมื่อ 10 ก.ย. เก็บกู้ทุ่นระเบิดใน 13 พื้นที่ ขณะนี้ได้เก็บแล้ว 5 พื้นที่ หาก 8 พื้นที่ที่เหลือเสร็จก็ขยายต่อ เพราะมีจำนวนมากต้องเร่งรัดให้ดำเนินการและคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนตามแนวชายแดนกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วย ส่วนพื้นที่ที่กำหนดไว้ 64 พื้นที่ ฝ่ายไทยจะดำเนินการเอง ตอนแรกที่ประชุมกันเราต้องการทำร่วมกันและกัมพูชาอยากให้รอ แต่เราคงรอไม่ได้แล้วจากการสูญเสียไปถึง 7 ขา ทหารเก็บในพื้นที่ของเรา เพื่อความปลอดภัยของประชาชนไทย เมื่อถามถึงกรณี 18 เชลยศึก ยังยืนยันไม่ปล่อยตัว เพราะทำเป็นสัญลักษณ์ว่ากัมพูชา ยังไม่แสดงความสิ้นสุดการเป็นปรปักษ์ ไม่ได้เป็นการต่อรอง แต่ทำตามหลักการและหลักกฎหมายผู้สื่อข่าวถามว่า สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ระบุว่า หากไทยอยากปิดด่าน 100 ปีก็ทำไป รมว.กลาโหม ตอบว่า ในปฏิญญา Joint Declaration งดการยั่วยุ ต้องแสดงความมุ่งมั่นไปสู่สันติภาพ ไม่พูดเรื่องปิดด่าน แต่ตอบไปตามความรู้สึก ความเห็นของคนไทย ความต้องการของประชาชน เมื่อสมเด็จฮุน เซน บอกว่า 100 ปี ไม่ต้องเปิดด่าน ก็สบายใจว่าชีวิตนี้ไม่ต้องมาคุยกันเรื่องเปิดด่านแล้ววันเดียวกัน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่ประธานวุฒิสภากัมพูชากล่าวในพิธีเปิดการประชุมสมัชชาสงฆ์แห่งชาติ ครั้งที่ 33 มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมถึงประเด็นบิดเบือนจากสื่อกัมพูชาที่ส่งผลกระทบต่อกองทัพบก ว่า ศพทหารที่ตกค้างในพื้นที่ชายแดนเป็นศพทหารกัมพูชาที่เสียชีวิตในการปะทะกันเมื่อเดือน ก.ค.68 ที่กัมพูชาปล่อยทิ้งไว้ในพื้นที่การรบจนศพเน่าส่งกลิ่นกระทบต่อชุมชนทั้งสองฝั่ง ทหารไทยเรียกร้องให้กัมพูชามาเก็บศพไป ผู้นำอาวุโสของประเทศกลับเมินเฉย มุ่งหวังเพียงสร้างข้อมูลบิดเบือน นำเสนอต่อสาธารณะอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่มีหลักฐานและภาพปรากฏในพื้นที่จริงให้ได้พิสูจน์ทราบโดยชัดเจนโฆษกกองทัพบกกล่าวต่อว่า ส่วนทหารไทยที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะช่วง ก.ค.68 รวมทั้งสิ้น 16 นาย กองทัพบกไทยดำเนินการส่งกลับภูมิลำเนาและประกอบพิธีศพอย่างสมเกียรติ พร้อมจัดกิจกรรมเชิดชูเกียรติ ดูแลครอบครัวผู้เสียสละ ตามระเบียบของทางราชการอย่างเหมาะสม ไม่ได้ถูกละเลยอย่างที่ประธานวุฒิสภากัมพูชาอ้างถึง ส่วนทหารกัมพูชาที่ยอมจำนนทั้งหมด 20 นาย ได้ส่งกลับ 2 นายที่บาดเจ็บและมีอาการทางจิตเวช ปัจจุบันเหลือ 18 นาย ไทยดูแล ตามหลักสากลและหลักมนุษยธรรม มี ICRC สังเกตการณ์ต่อเนื่อง กัมพูชาทราบดีว่าการปล่อยเชลยศึกจะกระทำได้เมื่อสถานการณ์ความเป็นปรปักษ์สิ้นสุดลง แต่ขณะนี้กัมพูชายังคงสร้างสถานการณ์ ลักลอบวางทุ่นระเบิด เผยแพร่ข้อมูลเท็จ อย่างต่อเนื่อง ทหารรายดังกล่าวมีอาการทางจิตเวชจากความเครียดระหว่างการสู้รบ ไทยจึงส่งกลับให้ไปเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา แต่กัมพูชากลับนำกลับไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่การสู้รบเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมต่อเพื่อนมนุษย์ละเมิดหลักมนุษยธรรมสากลและขอเรียกร้องให้องค์กรมนุษยธรรมในต่างประเทศที่เกี่ยวข้องได้ช่วยกันพิจารณาดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดต่อเรื่องนี้พล.ต.วินธัยกล่าวตอนท้ายว่า กรณีสื่อกัมพูชาอ้างว่า “ทหารพรานไทยทำร้ายและข่มขืนหญิงชาวกัมพูชาในพื้นที่สวายเจก” พบเป็นการสร้างข่าวเท็จบิดเบือนต้องการใส่ร้ายป้ายสีเรื่องไม่ดีหวังจะทำลายภาพลักษณ์ของไทย ตลอดเวลาที่ผ่านมากัมพูชาจะใช้วิธีการสกปรกสร้างเรื่องเท็จลวงโลก เชื่อว่าคงมีเฉพาะคนในกัมพูชาเท่านั้นที่จะเชื่อ ในสังคมโลกคงใช้วิจารณญาณ มองออกเรื่องดังกล่าวไม่ได้หลับหูหลับตาเชื่อข่าวเท็จตามที่กัมพูชาพยายามยัดเยียดให้ไทยแต่อย่างใดอีกด้านที่ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ คณะผู้สังเกตการณ์ อาเซียน (AOT-TH) และทีมกองทัพไทยรวม 8 นาย เข้าสังเกตการณ์บริเวณพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 (พื้นที่ปราสาทคนา) อ.กาบเชิง เพื่อรับทราบข้อมูลจากหน่วยในพื้นที่ เป็นการรับฟังการบรรยายสรุปในลักษณะบอร์ด walk ชี้แจงสถานการณ์ในพื้นที่ ชี้แจงเรื่องการตรวจพบทุ่นระเบิดในพื้นที่จำนวนมากที่มีการลักลอบเข้ามาวางในเขตอธิปไตยของไทย หลังจากนั้นคณะได้ดูทุ่นระเบิดที่ฝ่ายไทยเก็บกู้ได้ในพื้นที่ ซึ่งคณะ AOT ได้ให้ความสนใจสอบถามทหารที่ตรวจพบและเก็บกู้ทุ่นระเบิด ถึงวันเวลาที่พบจุดที่ตรวจพบ ทั้งนี้ มีชิ้นส่วนต่างๆที่ตรวจพบในที่เกิดเหตุเพื่อนำมาประกอบหลักฐานความสอดคล้องว่าเป็นระเบิดที่นำมาวางใหม่หรือไม่ ทั้งนี้ คณะ AOT ได้ให้ความสนใจเรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่มีความสอดคล้องทั้งวัน-เวลาและเจ้าหน้าที่ไทยได้อธิบายในทุกจุดได้เคลียร์ทุกพื้นที่ที่ด่านพรมแดนคลองลึก จ.สระแก้ว เช้าวันเดียวกัน คณะสำรวจกัมพูชาเดินทางข้ามด่านมาฝั่งไทยไปที่กองร้อยทหารพรานที่ 1201 ที่ถูกกำหนดให้เป็นสถานที่ประชุมร่วมระหว่างสองฝ่าย เกี่ยวกับกระบวนการสำรวจและปักหมุดเขตแดนชั่วคราว ในพื้นที่บ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง ที่เป็นพื้นที่ละเอียดอ่อนด้านเส้นเขตแดนและมีประเด็นค้างคามายาวนาน ฝ่ายไทยมีคณะทำงานระดับสูง นำโดย พ.อ.เกรียงไกร บุญเติม ผอ.กองภูมิศาสตร์ กรมแผนที่ทหาร กองทัพไทย เป็นหัวหน้าคณะปฏิบัติงาน พร้อมด้วย พ.อ.ยุทธพล สุจริต แม่กองสนามสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนร่วมนายสุเทพ ชัยวัฒน์ ปลัดจังหวัดสระแก้ว และนายนริศ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา นอภ.โคกสูง ขณะที่ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายสรวย โบรา หัวหน้ากลุ่มปฏิบัติการ พร้อมทีมและผู้แทนฝ่ายทหารจาก จ.บันเตียเมียนเจย มาร่วมประชุมเพื่อเปรียบเทียบข้อมูลเชิงเทคนิคทั้งหมด ทั้งแผนที่สำรวจ ภาพถ่ายดาวเทียม ภาพถ่ายทางอากาศ รวมทั้งเอกสารด้านภูมิศาสตร์และตำแหน่งหมุดที่แต่ละฝ่ายได้จัดเตรียมไว้ การประชุมวันนี้ถือเป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการปฏิบัติงานทั้งระบบ เพราะจะเป็นการตรวจสอบความสอดคล้องของข้อมูล การยืนยันตำแหน่งสำรวจ และการจัดทำแผนการลงพื้นที่ร่วมกันก่อนเริ่มภารกิจภาคสนาม หากการประชุมทุกส่วนผ่านไปอย่างเรียบร้อย ทั้งสองฝ่ายคาดว่าจะสามารถเริ่มกระบวนการสำรวจและปักหมุดเขตแดนชั่วคราวได้ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย. ครอบคลุมพื้นที่บริเวณหลักเขตแดนที่ 42 ถึง 47 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง เป็นจุดที่ชาวบ้านทั้งสองประเทศให้ความสนใจอย่างมาก เนื่องจากเกี่ยวข้องโดยตรงกับการใช้ที่ดิน การทำกิน และความชัดเจนของเส้นเขตแดนระหว่างไทยและกัมพูชาที่ทำเนียบรัฐบาล ช่วงเย็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว. มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีหลังจากได้พูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ว่า นายโดนัลด์เป็นคนตรงไปตรงมา พูดกับตนพูดเปิดเผย ไม่ได้เป็นการต่อรอง พูดกับตนว่ากังวลเรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เนื่องจากไทยบอกว่าถ้ากัมพูชาละเมิดปฏิญญา ไทยก็ระงับการดำเนินการตามปฏิญญา แต่ไม่ใช่ไม่เก็บกู้ทุ่นระเบิด จะดำเนินการต่อตามการตัดสินใจของเรา ต่างจากก่อนหน้านี้ต้องพร้อมทั้ง 2 ฝ่าย ตอนนี้เราเข้าไปเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม ตรงกับสิ่งที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯต้องการ ฉะนั้นเรื่องนี้ก็เคลียร์ เขาก็แฮปปี้ เขาถามมาว่าเรายังทำอยู่ใช่ไหม ถ้าทำอยู่ก็โอเค เดี๋ยวเขาจะไปพูดกับกัมพูชาว่า จุดนี้อย่าให้มีการขัดขวาง ให้เร่งทำการกู้ทุ่นระเบิดให้เร็วที่สุด ยิ่งทำเร็วเท่าไหร่ ก็จะ Chopping Off (ตัดออก) few Percentage Tariff เรื่องโจ๊กหรือไม่โจ๊กไม่รู้ แต่ว่าคนละระดับนี้ ถ้าเขาพูด สิ่งที่เราจะต้องทำคือเร่งทำในส่วนของเราให้ดีที่สุดอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่