ดูเหมือนว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามเป้าหมายของ พรรคประชาชน ที่ยอมลงทุนยกมือให้ อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกฯตั้ง รัฐบาลเสียงข้างน้อย จะขาดทุนย่อยยับ ต้นทุนที่เคยมีอยู่บ้างก็เริ่มจะหดหายไปทุกวัน โดยเฉพาะการแก้รัฐธรรมนูญที่เริ่มจะมีเงื่อนไขมากมาย ไม่ตรงปกเหมือนที่เคยทำ MOA เอาไว้กับพรรคภูมิใจไทย เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดความผิดพลาด บกพร่องและมีผลต่อการบริหารประเทศของพรรคภูมิใจไทยขึ้นอย่างไร พรรคประชาชน ก็จะต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วยโดยตรงถึงจะมีเสียงขู่จากพรรคประชาชนว่าถ้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่เป็นไปตามข้อตกลงภายในเดือน ธ.ค.นี้ พรรคประชาชนจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ถามว่า พรรคภูมิใจไทย กลัวที่ไหน จะเป็นผลดีด้วยซ้ำไป เพราะจะได้ไม่ต้องไปพัวพันกับการแก้รัฐธรรมนูญให้เมื่อยตุ้ม นอกจากจะดับฝัน และขังพรรคประชาชนไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ต่อไปแล้ว ภูมิใจไทยก็ไม่ต้องมีความเสี่ยงต่อข้อกฎหมายเหมือนที่พรรคประชาชนเจออยู่ตอนนี้ประเด็น สแกมเมอร์ ที่ พรรคประชาชน ตั้งใจจะหยิบยกมาเป็นผลงานชิ้นโบแดง มีเทา ไม่มีเรา เอาไว้หาเสียงตอนเลือกตั้ง โฟกัสไปที่ พรรคกล้าธรรม และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ทั้งที่ สแกมเมอร์ มีนักการเมืองระดับบิ๊กกว่าในพรรคอื่นๆตั้งเยอะแยะ กลายเป็นว่าพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องจากสแกมเมอร์ มีอยู่แค่ กล้าธรรม พรรคเดียว ส่วนภูมิใจไทย เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ ที่เคยถูกพาดพิงถึงในอดีตไม่เกี่ยวข้องใดๆกลับมาที่เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน อ้างว่า กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา และแนวทางในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีมติใช้สูตร 20 หยิบ 1 เพื่อสรรหากรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญตามที่พรรคประชาชนเสนอ ส่วนการตั้งข้อสังเกตจะทำให้เกิดการล็อกสเปกแก้รัฐธรรมนูญได้หรือไม่ เพราะสูตรนี้ ให้ความสำคัญในเรื่องของสัดส่วน สส.และ สว.ในสภามากที่สุด ดังนั้นอาจเกิดปัญหาเสียงข้างมากลากไป ในเมื่อพรรคประชาชนมี สส.มากที่สุด ตามด้วยเพื่อไทยและภูมิใจไทยกับ สว.สายสีน้ำเงิน หัวหน้าพรรคประชาชนอ้างว่า พรรคได้ออกแบบมาดีแล้วว่าเป็นการสะท้อนเสียงของประชาชนมากที่สุดเรื่องนี้จะต่างอะไรกับ การเลือกตั้ง สว. จะต่างกันก็ที่ สว.จัดตั้งกันหน้างานสดๆ ส่วน กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ตั้งเอาจากอาหารที่สำเร็จรูปอยู่ในกระป๋องเรียบร้อยแล้ว แบ่งกันไปตามสัดส่วน สุดท้ายประชาชนทั่วไปก็ถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ดีพรรคไหนอยากจะแก้ประเด็นไหน ก็จับยัดใส่มือกรรมาธิการฯในสังกัด ประชามติก็จะเป็นแบบมัดมือชกการแก้ไขรัฐธรรมนูญสูตร 20 หยิบ 1 น่าจะเปลี่ยนเป็น สูตรฮั้ว หาร 3 มากกว่าจริงมะ.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม