นักธุรกิจอันดับต้นๆของกัมพูชา นายก๊ก อาน ถูกชี้ว่าเป็นตัวการใหญ่ในขบวนการค้ามนุษย์ สแกมเมอร์ ประกอบธุรกิจหลากหลาย เป็น สว.กัมพูชา และเป็นคนสนิทของฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ถูกกรมการปกครอง (ปค.) จำหน่ายออกจากทะเบียนบ้านในไทย หลังทำผิดกฎหมาย และได้ลักลอบออกนอกประเทศไทยปค.ยังพบว่า บุตร 3 คนของนายก๊ก อาน ได้สัญชาติไทยโดยทุจริต หลังแอบอ้างนำคนสัญชาติไทยที่ไม่ใช่พ่อแม่ที่แท้จริง ไปยืนยันเป็นพ่อแม่ที่แท้จริงในขณะแจ้งเกิดเกินกำหนด ที่สำนักทะเบียน อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ถือว่าบุคคลทั้ง 3 ไม่มี สัญชาติไทยตั้งแต่แรก ทำให้บุคคลต่างด้าว 4 คนพ่อลูก ไม่มีสิทธิอยู่บนแผ่นดินไทยต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยบุตร 3 คนของนายก๊ก อาน ถูกดำเนินการจากผลที่ได้มีการแจ้งเกิด โดยทุจริตต่อ ปค. ส่วนนายก๊ก อาน ถูก ดำเนินการจากผลที่หลบหนีออกนอกประเทศ และยังต้องเจอกับการตรวจสอบของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ด้วยกระบวนการขอสัญชาติไทย ภาครัฐมีกระบวนการขั้นตอนกลั่นกรอง ตรวจสอบที่รัดกุม เริ่มตั้งแต่สำนักงานเขตใน กทม. หรือที่ว่าการอำเภอตามจังหวัด ต่างๆ ก่อนแทงเรื่องไปพิจารณาที่กระทรวงมหาดไทย เมื่อได้รับการอนุมัติจึงประกาศในราชกิจจานุเบกษา การได้สัญชาติไทยก่อให้เกิดสิทธิความเป็นพลเมืองไทยทันทีแต่กรณีบุตร 3 คนของนายก๊ก อาน เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็ง สะท้อนปัญหาดังกล่าวเป็นความหละหลวมเชิงโครงสร้างในการบริหารจัดการทะเบียน ราษฎร และการให้สัญชาติไทยอย่างร้ายแรง ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ ปค.จับได้ไล่ทัน แต่ทำไมกลไกรัฐปล่อยให้การทุจริตเกิดขึ้นได้ง่ายและกินเวลานานก่อนมีการตรวจสอบ จริงจังจนเป็นช่องโหว่ให้ “แก๊งเทา-อาชญากรรมข้ามชาติ” เข้ามาใช้บริการจากขบวนการขอสัญชาติไทยโดยทุจริต ที่มีข้าราชการบางคน บางหน่วยงาน ตั้งแต่ระดับเล็กจนถึงระดับใหญ่เกี่ยวข้อง เข้าข่ายหัวไม่ส่าย หางไม่กระดิก แม้ ปค.ได้เตือนบุคคลต่างด้าวที่แฝงตัวเข้ามาทำธุรกิจในไทยอย่างผิดกฎหมายเพื่อได้สิทธิดังกล่าวแล้วก็ตามดังนั้น กรมการปกครองต้องไม่มุ่งเน้นเฉพาะการปราบปรามกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติทุกรูปแบบ ตามนโยบายของรัฐบาล ที่เตรียมถอนสัญชาติโดยเด็ดขาดทุกกรณีที่กระทำความผิด แต่ต้องกล้าสังคายนาขบวนการทุจริตในกระทรวงมหาดไทย ที่เข้าข่ายเป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติอย่างร้ายแรง.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม