ฝนหลงฤดู พายุถล่มในหน้าหนาว ตามปรากฏการณ์ “ลานีญา” ที่แทรกเข้ามาทำให้สภาพลมฟ้าอากาศในเมืองไทยปั่นป่วน กรมอุตุนิยม วิทยาประกาศเข้าฤดูหนาวอย่างเป็นทางการแล้ว แนวโน้มฝนยังไม่จาง ส่อเค้าทะมึนจากฤทธิ์พายุ “คัลแมกี” พาดผ่านฟิลิปปินส์ เวียดนาม ราบเป็นหน้ากลอง เคลื่อนเข้าประเทศไทยในวันที่ 7—9 พฤศจิกายนนี้ ด้วยระดับความรุนแรงที่มากกว่าหย่อมความกดอากาศต่ำหรือมรสุมทั่วไปกระตุกสัญญาณเตือนขีดแดงให้ต้องรีบบริหารจัดการน้ำในเขื่อนหลัก ทั้งเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี ฯลฯ ที่น้ำล้นจนเกือบเต็มความจุร้อยเปอร์เซ็นต์เห็นภาพน้ำท่วมใหญ่ปี 54 ลอยมากระตุกต่อมผวาสภาพจำเป็นต้องรีบระบายน้ำเร่งด่วน เพื่อเพิ่มศักยภาพเขื่อนหลักพร้อมตั้งรับพายุใหญ่ หนีไม่พ้นกระทบพื้นที่ปลายน้ำ บริเวณที่ลุ่มภาคกลางไล่ตั้งแต่อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี อยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพฯ สมุทรปราการน้ำเหนือบ่าซ้ำ เติมน้ำท่าเจิ่งนอง น้ำคลองล้นตลิ่งชุมชนริมแม่น้ำขนของหนีกันอุตลุด ส่อโดนน้ำท่วมขังอ่วมนานกว่าปกติ“คัลแมกี” พายุฝนในฤดูหนาวเคลื่อนเข้าถล่มเมือง ตั้งรับกันระทึก โดยระดับความรุนแรงยังน้อยนัก เมื่อเทียบกับ “พายุสแกมเมอร์” ที่กำลังเขย่าการเมืองไทยอย่างหนัก ส่อลามไปถึงระบบเศรษฐกิจประเทศสะท้านสะเทือนรัฐบาลเซราะกราวในคราบสีเทาณ จุดที่ “ผู้นำคุณหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายก รัฐมนตรี เปิดปากไม่กั๊ก จ่อชักดาบไม้ตาย “ยุบสภา” หนีศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจสไตล์ผู้นำเกรียนฟอร์มเขี้ยว ไม่ยอมให้โดนด่าฟรีที่แน่ๆคือ “เอาจริง ไม่ได้มุก” คอนเฟิร์มโดย “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและ รมว.เกษตรฯ พี่ใหญ่ค่ายกล้าธรรม ที่บอกว่า ได้ถามย้ำกับ “นายกฯหนู” เองเลย “เอาอย่างนั้นจริงหรือ”สรุปคือ ยุบสภาแล้วก็ยังเป็นรัฐบาลรักษาการไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ภายหลังช็อตไฮไลต์ ภาพตั้งใจให้ปรากฏเป็นข่าวสู่สายตาสาธารณะ “นายกฯหนู” เปิดห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า นั่งคุยแบบตัวต่อตัวกับ ร.อ.ธรรมนัส เป็นเวลานาน 2—3 ชั่วโมงโดยเงื่อนไขสถานการณ์กับตัวละครตรงตามท้องเรื่องจังหวะจึงถูกเชื่อมโยงกับปมร้อน “โจรสแกมเมอร์” ที่กำลังลามเป็นไฟไหม้ใหญ่ เผือกร้อนลวกมือผู้นำเซราะกราว เขย่ารัฐบาลภูมิใจไทยอาการ “นายกฯหนู” อึดอัดพะอืดพะอม อารมณ์ “ผู้กองนัส” ก็ตาแข็งใส่“หงายไพ่” เปิดเกมเดิมพันวัดใจในเหลี่ยมตื้นๆฟอร์มพวกแต้มไม่เยอะ แต่พยายามเกหน้าตักสู้ แบบที่เซียนเด็กเซราะกราวอย่างนายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ แตะมือกับนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกฯฝ่ายกฎหมายนัดกันบ่นเป็นเสียงเดียว “เสียดาย”ถ้า “นายกฯอนุทิน” ต้องยุบสภาหนีศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็เท่ากับกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ตั้งไข่เตาะแตะแล้ว จะพานล้มหงายท้องไปด้วยล็อกคอเกมรื้อ “ค่ายกล ซือแป๋มีชัย” ไปผูกกับศึกเชือด “โจรสแกมเมอร์”เหลี่ยมเบอร์นี้ รู้กันในทีต้องถูกเทรนมาจากกุนซือ “เจ้าพ่อเขากระโดง”จังหวะโยนโจทย์วัดใจกลับไปที่ฝ่ายค้าน โดยเฉพาะค่ายส้ม พรรคประชาชน ที่เป็นผู้เล่นหลัก ทั้งในมุมของการเดินหน้า “เอ็มโอเอ” ในกระบวนการรื้อรัฐธรรมนูญมรดกทหารเฒ่า 3 ป. และการลุยหักดิบ “โจรสแกมเมอร์” ที่กำลังคึกคักทีมคนรุ่นใหม่ “พับสนาม” บุกหนัก โกยแต้มอยู่ค่ายเดียวเป็นพรรคเดียวที่ขึ้นป้ายหรา “มีเรา ไม่มีเทา” ปักธงมอตโต้ในศึกเลือกตั้งรอบต่อไปได้ก่อนใครเคลมกันได้ตามฟอร์ม สมราคา สมสถานะ “มวยชน”แค่ “รังสิมันต์ โรม” ที่ขึ้นแท่น “มือปราบสแกมเมอร์” ก็หามวยเปรียบยากในฟากรัฐบาล ไม่นับ “แม่มดสาว” อย่าง “ไอซ์” รักชนก ศรีนอก สส.กทม. มาเสริมทัพไล่ล่าแก๊งสแกมเมอร์สีเทา ตามปรากฏการณ์ “น้ำแข็งแยกแป้งออกจากบะหมี่”นาทีนี้สังคมรู้กันหมดแล้วใครเป็นใคร หลับตาก็เห็นเป็นสีเทาไม่ต้องเอ่ยชื่อกันชัดๆ ไม่ต้องเสี่ยงเสียเวลาไปกินข้าวเย็นที่พะเยา สงขลา นราธิวาส ด้วยฤทธิ์ของ “โรม—ไอซ์” ไล่บี้ไล่ต้อน อินฟลูเอนเซอร์ จอมพลังแข็งแกร่งมาจากไหน สส.แก๊งวัยรุ่นสร้างตัวหลบอยู่หลังบิ๊กบราเธอร์ลูกพี่ใหญ่โดนจับประแป้งประจาน เทาพรึบไปหมดโดยกระบวนท่าชัดๆที่ สส.ค่ายส้ม ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติออกแรงเต็มที่ลุยสงครามแก๊งสแกมเมอร์สีเทาแบบเอาจริงเอาจัง แสดงถึงพลังขับเคลื่อนไม่ใช่แค่ในเมืองไทย แต่ยกระดับไปเป็นหัวหอกผลักดันให้ที่ประชุมรัฐสภาโลก (ipu)ร่วมรับหลักการรวมพลังกันปราบอาชญากรไซเบอร์ที่ป่วนทุกประเทศณ จุดที่สภาคองเกรส สหรัฐอเมริกา ขยับออกกฎหมายเปิดทางการตั้งทีมพิเศษเพื่อดำเนินการกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรสแกมเมอร์ประจานแบล็กลิสต์ “โจรไซเบอร์” เบอร์ต้นๆ ของโลกหัวโจกสำคัญล้วนแต่ชื่อคุ้นๆ ทั้ง “เบน สมิท-เฉิน จื้อ-ยิม เลียก-ก๊ก อาน”กดปุ่มสงครามถล่มฐานฟอกเงินเทา ล็อกเป้าดินแดนบาปกัมพูชา พาดโยงคาบเกี่ยวเมียนมา ไทย กลุ่มประเทศในแถบอินโดจีนโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง สหรัฐฯ อังกฤษ ลุยยึดทรัพย์หัวโจกโจรสแกมเมอร์ทันทีทันควัน มูลค่ามหาศาลนับแสนล้าน นำร่องตามน้ำทั้งเกาหลีใต้ ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ ลุยริบสมบัติอาณาจักรเงินเทาเรียบวุธในจุดที่ไทยแลนด์ตีมึน หน่วยตรวจสอบสแกนไม่เจอเงินเทาไม่นิ่งเปล่า แถมยังเบิ้ลกระแสร้อน สวนหมัดข่าวลับ “แบล็กลิสต์ 7 นักการเมืองไทยเอี่ยวสแกมเมอร์”สดๆร้อนๆที่ประชุม ครม.นัดล่าสุด มีมติอนุมัติการแต่งตั้งนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ประจำสำนักเลขาธิการนายก รัฐมนตรี ตามการเสนอจากทีมงานพรรคกล้าธรรมเป็น “ธนดล” คนเดียวกับที่ขันอาสาเป็นทนายให้ “เบน สมิท”เปิดหน้าว่าความแก้ต่างให้หัวโจก “โจรสแกมเมอร์” ก่อนจะโดนสหรัฐฯเปิดโพยแบล็กลิสต์มาตบจนหน้าหงาย กลับตัวถอยหลังกันไม่ทัน แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา ตามอาการ สำนึกในโอกาส ที่ลูกพี่ใหญ่มอบให้ นายธนดลรีบโพสต์ขอบคุณ “ผู้กองนัส” พร้อมทุ่มทำงานแบบถวายหัวไม่กลัวกระแส ต้าน ไม่สนเสียงวิจารณ์ ให้มันรู้กันไปเลยว่าไผเป็นไผนั่นก็ไม่ต้องพูดถึงเสียงเรียกร้องดังๆจากนายรังสิมันต์ โรม ที่แกล้งไล่บี้เค้นคอให้ “นายกฯอนุทิน” ปลด “ผู้กองนัส” ออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความจริงใจในการจัดการขบวนการสแกมเมอร์จี้เบอร์ใหญ่ ยั่วไฟช็อตลัดวงจรรัฐบาลโหมไฟลามทุ่งไปทั้งวงการ จากปฏิบัติการ “ระเบิดพลีชีพ” โดย “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.ที่ลุยแฉแหลกแก๊งโจรสแกมเมอร์ ทลายเครือข่ายบิ๊กตำรวจที่มีเอี่ยว โยงนักการเมืองระดับชาติระดับอดีตรอง ผบ.ตร.เข้าร่วมรายงาน “ผีเห็นผี” เรตติ้งเลยกระฉูดพูดแล้วมีน้ำหนัก อารมณ์สังคมไทยเชื่อในภาษิตไม่มีมูลหมาไม่ขี้ทั้งหมดทั้งปวง โดยเงื่อนไขสถานการณ์ย้อนแย้งที่ผูกเป็นลูกตุ้มน้ำหนักถ่วงขา “นายกฯอนุทิน” ไม่ให้ลอยตัวชิ่ง คราบสีเทาลามเข้าเนื้อก๊วนเซราะกราวปมฉาว “โจรสแกมเมอร์” กลายเป็นวาระโลกล้อมไทยโจทย์โยงการเมืองในประเทศล้อไปกับการเมืองนอกประเทศ ปฏิเสธไม่ได้ว่าสภาพปัญหามันหินเกินกว่าจะโชว์อีเวนต์ “วาระแห่งชาติปราบสแกมเมอร์” รำเชิดปี่เชิดกลองสร้างภาพไฟต์บังคับแบบที่ “นายกฯหนู” ยอมรับ ขืนไทยไม่มีผลงานปราบอาชญากรไซเบอร์ เสี่ยงโดนแซงก์ชันสภาพแบกเทาไม่ไหว จังหวะผู้นำต้องแง้มประตูหนี จ่อยุบสภาชิ่งโดนด่าฟรียังไม่วายโดน “รังสิมันต์ โรม” ดักทาง เตือนผู้นำอย่าส่อพิรุธ กระตุกให้สังคมกังขาอุ้มขบวนการสแกมเมอร์หนี หรือมีเอี่ยวอะไรด้วยหรือไม่.“ทีมการเมือง”คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม