ไฟต์บังคับ “ดู ออร์ ดาย” ถ้าไม่ทำก็เจ๊ง พาบ้านเมืองพังพาบ อีเวนต์ใหญ่ประเทศไทยล่าสุด “นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล” เป็นประธานสักขีพยานในการลงนามบันทึกความเข้าใจ หรือเอ็มโอยู 15 หน่วยงาน เพื่อร่วมป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ประกาศสงครามขบวนการสแกมเมอร์อย่างเป็นทางการ ก็เป็นนิมิตหมายที่ดี หลังต้วมเตี้ยมมาพักใหญ่กับ "วาระแห่งชาติ"หลังจากนี้ที่ต้องจับตา “เอ็มโอยูล้างโจร” จะขลังเพียงใด เพราะงานนี้ใหญ่มาก ขบวนการโจรไซเบอร์ แก๊งต้มตุ๋นระบาดหลายประเทศ ชนิดต้องระดมกำลังมาปราบเต้นตามจังหวะโลกกันแล้วหน่วยงานหลักๆ โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ใช่แค่ฉีด “วัคซีนไซเบอร์” แต่ต้องถึงขั้นต้อง “ผ่าตัด”ส่วนคนกลุ่มวิชาชีพสีกากี ไม่ต้องเสียเวลากับข้อกล่าวหา เพื่อปกป้ององค์กร ไปว่ากันโต้ข้อมูลกันเองนอกเวทีนี้ แต่จะให้ดีต้องร่วมกระตุ้น ผบ.ตร.พิสูจน์ฝีมือและความจริง ไล่ล่าอาชญากรรมไซเบอร์เต็มแรงขืนทำขอไปที งานไม่เข้าเป้า เสี่ยงเก้าอี้สั่นกันได้และอีกจุดที่สำคัญ ตามข้อมูลที่ว่าขบวนการทุนเทา ใช้ประเทศไทยให้กลายเป็น “จุดศูนย์กลาง” ยักย้ายถ่ายเทเงินสีเทาสีดำมหาศาลเข้ามา “ฟอกขาว” บ้านเรา กระทบความน่าเชื่อตลาดเงิน ตลาดทุน ตลาดหุ้น ตลาดทอง คลิปโตฯกระทบความเชื่อมั่น อีกปัจจัยทำเศรษฐกิจประเทศทรุดโดยเฉพาะตลาดหลักทรัพย์ เรื่องนี้ต้องฝากทีม ก.ล.ต.—ตลท. รวมบรรดามือการเงินโปรไฟล์ดี ลาสต์บอสมาเป็นมือผ่าตัด จัดการโจรนักลงทุนใส่สูทใช้กลเกมการเงินซับซ้อนซ่อนเงื่อนแทรกเข้ามาต้องเร่งสกัดเงินเทาดำไม่ให้แปดเปื้อน ทำไทยเป็น “ฮับฟอกเงิน”เรียกว่า “นายกฯอนุทิน” ส่งสัญญาณดี ส่องแค่นี้ก็เห็นได้ว่ามีงานให้ทำอีกมาก ไม่ต่างจากที่เปิดไต๋เรื่อง “ยุบสภาก่อนกำหนด” 31 ม.ค.2569 ทำเอากระเพื่อมไปทั้งกระดานการเมืองปัจจัยหลัก เงื่อนไขอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผู้นำฮึ่มๆไม่ยอมขึ้นเวทีให้โดนด่าฟรี อาจ ชิ่งหนีโดยทิ้งไพ่ยุบสภา รายการนี้เลยวัดใจทุกขั้วก๊กการเมือง จะปรับเกมตามอย่างไรก๊กแรกขั้วสีแดง เพื่อไทย ฝ่ายแค้นฝ่ายคลั่งในนามฝ่ายค้าน ต้องประเมินว่าห้ามเลือดอยู่ จัดทัพพร้อมหรือไม่ที่จะไปวัดดวงในสนาม ก่อนใช้ไพ่ซักฟอกที่สำคัญคิวนี้ถ้าเล่นเต็มแรง ก็เสี่ยงกระทบแผนข้ามช็อตหลังเลือกตั้ง กลืนเลือดร่วมวงอำนาจกับภูมิใจไทยส่วนค่ายส้ม ต้องรีบชิ่งหนีภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกตัดสินใจ ไม่ถูก ทางหนึ่งก็เงื้อง่า ยังหวังผลเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ อีกทางก็ต้องทำหน้าที่ไม่ให้เสียเครดิตฝ่ายค้านถูกตีตราติดแบรนด์ “ฝ่ายค้ำ” ไปลงสนามแม้กระทั่งที่กระอักกระอ่วนไปด้วย ค่ายสีเขียว พรรคกล้าธรรมของ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” รองนายกฯ และ รมว.เกษตรฯ ต้องดิ่งเข้าตึกไทยคู่ฟ้าหารือกับ “นายกฯหนู” ที่ทำเนียบฯทันทีคาดการณ์ถ้าไม่มาเคลียร์ปมโดนพาดพิงเรื่องร้อนๆ ก็ต้องมาเอาชัวร์ ไม่โดนปล่อย “ลอยแพ”เพราะไม่วางใจเกมซ่อนเกม สีน้ำเงิน “ยืมดาบส้ม” บอนไซกล้าธรรมไม่ให้เป็นหอกข้างแคร่ในอนาคตที่แน่สุด ดอกนี้เป็น “เหลี่ยมเจ๋งๆ” ของค่ายสีน้ำเงิน ทั้ง “น.หนู” อนุทิน และ “น.เนวิน ชิดชอบ” ผู้นำจิตวิญญาณ ทำหน้าที่ “เนวินเกเตอร์” นำทางอยู่หลังฉากพรรคภูมิใจไทยโยนไพ่ใบนี้ใส่ล็อกเกมจากทุกขั้วทั่วสารทิศกระทั่งล่าสุดใส่ล็อกซ้ำ กรณีที่แกนนำพรรคสีน้ำเงิน ในทีมแก้รัฐธรรมนูญเสนอเปิดประชุมสมัยวิสามัญ พิจารณาร่างแก้ไข รธน. ในวาระ 2 เพื่อทิ้งเวลาไปโหวตวาระ 3 ให้จบปลายปี ถ่วงเกมอภิปรายไม่ไว้วางใจทางหนึ่งก็อ้างทำตามสัญญาเอ็มโอเอ แต่อีกทางหวังผลพ่วง ใช้เรื่อง “เงื่อนเวลา” ล่อพรรคสีส้มให้ละล้าละลังบทฝ่ายค้านในคิว “ซักฟอก”เรียกว่าเหลี่ยม 2 น.แพรวพราว แม้เป็นเสียงข้างน้อยก็ตามที.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม