“อนุทิน” หารือ “สี จิ้นผิง” ชื่นมื่น ผู้นำจีน ให้คำมั่นร่วมมือปราบอาชญากรรมออนไลน์ สแกมเมอร์ จี้ไทยเร่งก่อสร้างโครงการรถไฟ ไทย-จีนให้ลุล่วงเร็วที่สุด “เสี่ยหนู” หยอดรัฐบาลนี้ไม่มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยกาสิโน ยุติการเสนอ ก.ม.การพนันทุกชนิด ขอจีน เร่งดีลซื้อข้าวไทย 5 แสนตัน ปลดล็อกปมนักท่องเที่ยวจีนหาย พท.ประชุมใหญ่ ส่งไม้ต่อ “จุลพันธ์” นั่ง หัวหน้าคนใหม่ “ประเสริฐ” รับหน้าที่เลขาฯพรรค “หนิม” ลั่นเดินหน้ายกเครื่องปรับจูนการสื่อสาร-นโยบาย-เฟ้นผู้สมัคร สส.ตอบโจทย์ประชาชน ป.ป.ช. ตีตกคำร้อง “อิ๊งค์” ตั้ง “พิชิต” นั่ง รมต. ชี้เหตุเกิดก่อนเป็นนายกฯ “ครม.เศรษฐา” ลุ้นระทึกถูกไต่สวนคดีโยกงบฯปี 68 วงเงิน 3.5 หมื่นล้าน โปะโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เข้าข่ายผิด ม.157 ผิด พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง แต่ “ครม.อิ๊งค์” รอดบ่วง เพราะยังไม่ได้เข้ารับตำแหน่งตอนเกิดเหตุนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย หารือทวิภาคีกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกที่เกาหลีใต้ โดยผู้นำจีนให้คำมั่นจะร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีออนไลน์สแกมเมอร์ อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ พร้อมแสดงความพึงพอใจที่รัฐบาลยืนยันไม่มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการใช้กาสิโน“อนุทิน” ยันมุ่งมั่นจับมือเขต ศก.เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 ต.ค. (ตามเวลาท้องถิ่นเมืองคยองจู เร็วกว่ากรุงเทพฯ 2 ชั่วโมง) ที่ศูนย์ประชุม Hwabaek International Convention Centre (HICO) เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย เข้าร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 32 รอบที่ 1 ภายใต้หัวข้อ “Towards a More Connected, Resilient Region and Beyond” พร้อมกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมตอนหนึ่งว่า ไทยได้รับแรงบันดาลใจจากความร่วมมือในกรอบเอเปก และเริ่มกระบวนการเข้าสู่การเป็นสมาชิก OECD เพื่อสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการยึดมั่นต่อมาตรฐานสากลและความร่วมมือระหว่างเขตเศรษฐกิจ ไทยยังมุ่งขยายความร่วมมือกับเขตเศรษฐกิจนอกภูมิภาค ปีนี้ไทยและจีนจะร่วมเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง และในปีหน้าไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือเอเชีย (ACD Ministerial Meeting) และการประชุมประจำปีของ IMF และธนาคารโลกชูเอเปกสะพานความร่วมมือต่อมาเวลา 12.30 น. ที่ศูนย์ประชุม HICO ชั้น 3 เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี นายอนุทินเข้าร่วมหารือระหว่างผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปก (ABAC Dialogue with APEC Economic Leaders) กล่าวถ้อยแถลงหัวข้อ “ศักยภาพของไทยในการส่งเสริมการค้าการลงทุน และความเชื่อมโยงในภูมิภาค” เสนอ 3 แนวทางคือ 1.การเสริมสร้างความเชื่อมโยงระดับภูมิภาค ไทยเป็น “สะพาน” เชื่อมโยงเอเชียใต้ เอเชียตะวันออก และอาเซียน มีศักยภาพเป็นศูนย์กลางด้านการค้า โลจิสติกส์และการลงทุน 2.การลงทุนเพื่ออนาคต ภายใต้นโยบาย Quick Big Win ส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น รถยนต์ไฟฟ้า เซมิคอนดักเตอร์ และ 3.การขับเคลื่อนการเติบโตสีเขียวและยั่งยืน ภายใต้เป้าหมายกรุงเทพฯ หรือ Bangkok Goals on the Bio-Circular-Green Economy ความร่วมมือกับ ABAC สำคัญมาก ไทยพร้อมสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพเอเปกในปีหน้าของจีนเต็มที่ เอเปกจะทำงานได้ดีที่สุด เมื่อสร้างสะพานแห่งความร่วมมือ ไม่ใช่กำแพงแห่งความแตกแยก และเอเปกได้ร่วมกันเปลี่ยนความท้าทายให้เป็นความก้าวหน้าร่วมกันหารือ “สี จิ้นผิง” ร่วมปราบภัยไซเบอร์จากนั้นเวลา 16.30 น. ที่โรงแรม Kolon เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี นายอนุทินหารือทวิภาคีเต็มคณะกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐ ประชาชนจีน ระหว่างการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก โดยนายอนุทินเปิดเผยภายหลังการหารือว่า นายสี จิ้นผิง ยกปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีขึ้นมาพูดคุยและให้คำมั่นกับประเทศไทยว่าจะร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีออนไลน์สแกม เมอร์ อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ รัฐบาลถือเป็นวาระแห่งชาติ จะระดมความร่วมมือจากทุกภูมิภาคเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีให้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ และหารือรถไฟไทย-จีน ที่จีนขอให้รัฐบาลไทยเร่งก่อสร้างให้สำเร็จลุล่วงเร็วที่สุด ตนได้บอกว่าในโอกาสเยือนลาว ได้ทำความตกลงสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงช่วงหนองคาย เพื่อให้สินค้าเดินทางทั้งไปและกลับ ตั้งแต่จีนตอนล่าง ผ่านลาว ไทยไปจนถึงแหลมมลายูได้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และคณะผู้บริหารพึงพอใจ ส่วนการขายข้าวให้จีน 5 แสนตัน ได้ถือโอกาสขอให้เร่งพิจารณาเรื่องที่จีนจะซื้อข้าว คณะทำงานคณะเจรจาได้ทำงานมาในระดับหนึ่งแล้ว น่าจะมีแนวโน้มที่ดี ตอนที่อยู่มาเลเซียตอนช่วงประชุมอาเซียน ได้ขอนายกฯจีนไป 1 ครั้ง และขอประธานาธิบดีจีนอีกครั้งย้ำไทยไม่เดินหน้ากาสิโนถูก ก.ม.นายอนุทินกล่าวด้วยว่าที่เห็นความพึงพอใจอย่างมาก คือการยืนยันกับนายสี จิ้นผิงไปว่ารัฐบาลตนไม่มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการใช้กาสิโน เชื่อมั่นว่าด้วยความสามารถของคนไทย ผลิตภัณฑ์ของไทยสินค้าไทยเทคโนโลยีที่ไทยมีอยู่ เรามีทางเลือกอื่นกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้หยุดเรื่องการนำเสนอกฎหมายการพนันทุกชนิด ท่านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พูดคุยเรื่องนี้กันนอกสคริปต์ ท่านตอบกลับมาว่าชื่นชมและยินดีกับประเทศไทย สิ่งเหล่านี้จะทำให้นโยบายที่ท่านได้ดำเนินอยู่ คือการหายไปของนักท่องเที่ยว การหายไปของความร่วมมือต่างๆที่มีต่อไทยจะกลับไปปลดล็อก ได้ย้ำว่านโยบายรัฐบาลชุดนี้ และความรู้สึกคนไทยส่วนใหญ่ที่ไม่ต้องการการพนันถูกกฎหมาย โดยสังเกตเห็นปฏิกิริยาที่ตอบรับออกมาของจีนประเทศมหาอำนาจ และมีความสำคัญเป็นประเทศคู่ค้า เป็นประเทศพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เชื่อว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น จากนั้นเวลา 18.00 น.นายอนุทินเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำแก่ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก รับชมการแสดงทางวัฒนธรรมเป็นเกียรติแก่ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกที่เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ ที่โรงแรม Lahan Select Gyeongjuทำขึงขังฟันทุกคนเอี่ยวสแกมเมอร์นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงกรณีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) เสนอญัตติด่วนให้นายกฯปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางไซเบอร์ การค้ามนุษย์และการฟอกเงินว่า ญัตติของนายรังสิมันต์ถ้ามีข้อเสนอ ตนและรัฐบาลยินดีจะรับฟัง เพราะนายรังสิมันต์ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด การได้ข้อมูลเพิ่มมากขึ้น ล้วนแต่เป็นประโยชน์ ยินดีอยู่แล้ว เมื่อถามว่าเรื่องสแกมเมอร์พาดพิงถึงพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคกล้าธรรม ยังคงย้ำว่าหากใครเกี่ยวข้องจะดำเนินการจริงจังใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า แน่นอน ไม่ใช่เฉพาะสแกมเมอร์อย่างเดียว ทุกเรื่องในประเทศไทย ถ้าใครทำผิดกฎหมาย ทำผิดระเบียบ ผิดข้อบังคับ ผิดศีลธรรม เราดำเนินการกับทุกคน ไม่มีข้อยกเว้นอยู่แล้ว ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใครพท.ประชุมใหญ่ “วราเทพ” คืนถิ่นวันเดียวกัน พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดประชุมใหญ่วิสามัญประจำปีเพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ หลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯลาออก ตั้งแต่ช่วงเช้า แกนนำและสมาชิกพรรคเข้าร่วมประชุมพร้อมเพรียง อาทิ น.ส.แพทองธาร นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผอ.การเลือกตั้งพรรค พท. นายชูศักดิ์ ศิรินิล รักษาการหัวหน้าพรรค นายสรวงศ์ เทียนทอง รักษาการเลขาธิการพรรค โดยมีนายวราเทพ รัตนากร อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ ยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯที่ย้ายไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค พท. โดยนายวราเทพกล่าวว่า ปัจจุบันมี สส.กำแพงเพชร พรรค พปชร.อยู่กับตน 2 คน ได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.แล้ว“จุลพันธ์” นั่ง หน. “สรวงศ์” รอง หน.พรรคจากนั้นเวลา 10.05 น. นายชูศักดิ์ เป็นประธานการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี เลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหญ่และคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร สส.พรรค พท. ก่อนเริ่มประชุมแกนนำ สส.และสมาชิกพรรคยืนสงบนิ่งแสดงความอาลัยเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 1 นาที จากนั้น เข้าสู่ระเบียบวาระที่ประชุมมีมติเลือกนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ เป็นหัวหน้าพรรค มีรองหัวหน้าพรรค 13 คน คือนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ดูแลภาคเหนือตอนบน นายจเด็ศ จันทรา สส.พิษณุโลก ดูแลภาคเหนือตอนล่างนายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส.เลย ดูแลภาคอีสานตอนบน นางมนพร เจริญศรี สส.นครพนม ดูแลภาคอีสานตอนกลาง น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล ดูแลภาคอีสานตอนล่าง นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว ดูแลภาคกลาง น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม. ดูแลพื้นที่ กทม. นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ ดูแลภาคใต้ นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชี รายชื่อ ดูแลฝ่ายกฎหมาย นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.แรงงาน ดูแลฝ่ายบริหาร นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล อดีต รมช.คลัง ดูแลฝ่ายนโยบายและวิชาการ นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ สส.เลย ดูแลฝ่ายกิจการสภาฯ นายจักรพงษ์ แสงมณี อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ ดูแลฝ่ายต่างประเทศ“ประเสริฐ” เลขาฯ “ศึกษิษฏ์” โฆษกผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรองนายกฯ เป็นเลขาธิการพรรค มีรองเลขาธิการพรรค 5 คน คือ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ อดีต รมช.ศึกษาธิการ นายจิรวัฒน์ ศิริพานิชย์ สส.มหาสารคาม น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ น.ส.ปิยรัฐชย์ ติยะไพรัช สส.เชียงราย นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ เป็นเหรัญญิกพรรค น.ส.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ เป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรค นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ โฆษกพรรค กรรมการบริหารพรรคมี 6 คน คือนายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ นายเชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ สส.อุบลราชธานี นายวรวงศ์ วรปัญญา สส.ลพบุรี และนายวิพุธ ศรีวะอุไร ประธานสภา กทม. และตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส. 17 คน นำโดยนายจุลพันธ์ นายชูศักดิ์ นายสรวงศ์ และหัวหน้าสาขาพรรคเข้าร่วม หลังคัดเลือก กก.บห.ชุดใหม่เสร็จสิ้น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัว พท. มอบช่อดอกกุหลาบแสดงความยินดีกับนายจุลพันธ์และนายประเสริฐ“จุลพันธ์” ชี้โลกเปลี่ยน พท.ต้องปรับต่อมาเวลา 12.45 น. นายจุลพันธ์กล่าวว่า อยู่กับพรรค พท.มาตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย ครึ่งชีวิตมากกว่า 25 ปีทำงานกับพรรคนี้ มีทั้งความสำเร็จ อุปสรรค ต่อสู้ทุกรูปแบบ ผ่านปฏิวัติรัฐประหาร การตัดสิทธิผู้บริหารพรรค นายกฯถูกถอดถอน แต่พวกเรายังคงอยู่ วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ส่งไม้ต่อเพื่อให้พรรคเดินหน้านโยบายเพื่อประชาชน ภายนอกสื่อสารว่าพรรค พท.ต้องเปลี่ยน เห็นด้วยเพราะโลกเปลี่ยนทุกวัน การยกเครื่องพรรค พท. จึงไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางที่จำเป็นต้องเดิน เราแบกรับความหวัง ความเชื่อมั่นของประชาชนที่เลือกเรามาลั่นยกเครื่องพรรคสู่ชัยชนะ ลต.“วันนี้เราพร้อมยกเครื่อง เริ่มจากการสื่อสารกับประชาชนที่ต้องรวดเร็ว คัดผู้สมัครให้มีคุณภาพตรงกับความต้องการของประชาชน นโยบายต้องเป็นนโยบายที่ถูกใจ ตอบโจทย์กับประชาชนได้ ไม่ใช่ภารกิจที่ง่าย แต่ผมไม่ได้อยู่คนเดียว มีพวกเราทุกคนเป็นกำลัง เชื่อมั่นว่าเรามีประชาชนนับ 10 ล้านคนจะคอยเป็นกำลังผลักดันให้กับพรรคเพื่อไทยนำพาไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้ง และเป็นรัฐบาลในครั้งถัดไปให้ได้ ขอกำลังจากพวกเราทุกคนร่วมมือร่วมใจ ที่สำคัญที่สุดเชื่อมั่นในพรรคเพื่อไทย เชื่อมั่นในแนวทางที่เรายึดมั่น และเราจะนำพาประเทศไทยไปสู่ความสำเร็จและอนาคตที่สดใสต่อไป” นายจุลพันธ์กล่าวขยับใหม่ผู้สมัคร–การสื่อสาร–นโยบายเมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่ามานำพรรคตอนนี้จะได้ สส. 200 เสียง นายจุลพันธ์กล่าวว่า มั่นใจ สัมผัสประชาชนรู้สึกได้ว่าประชาชนตอบรับพรรค พท.จำนวนมาก เรากลับมามองตัวเองเพื่อมายกเครื่อง ตั้งแต่เรื่องผู้สมัคร การสื่อสารกับประชาชน แนวนโยบาย วันนี้เราเดินหน้าไปมากแล้ว เชื่อมั่นว่าจะสร้างความไว้วางใจให้ประชาชนได้ ผ่านการเลือกตั้งกลับมาเป็นรัฐบาลได้ เพื่อทำนโยบายที่ดีให้ประชาชนต่อไป เมื่อถามว่าการเป็นรัฐบาลที่ผ่านมาไม่สามารถผลักดันนโยบายให้สำเร็จได้ นายจุลพันธ์กล่าวว่า เรื่องเงินหมื่น มุมหนึ่งเราทำไม่เสร็จจริง เวลา 2 ปี ทุกท่านเห็นว่ามีอุปสรรคอะไรบ้าง แต่เราดำเนินการนโยบายนี้ไปแล้วครึ่งหนึ่งให้กลุ่มเปราะบาง อีกครึ่งทางที่เหลือเราไม่ได้เป็นรัฐบาลต่อไม่ได้สานต่อ ขณะนี้ความปวดหัวของเลขาธิการพรรคคือมีผู้สมัครมากกว่า 1 คน ใน 1 เขต ต้องคัดผู้สมัครให้เลือกเพียงคนเดียว คนที่ยังอยู่เข้มแข็งยึดมั่นอุดมการณ์ การเข้าการออกช่วงสถานการณ์เข้าใกล้สู่การเลือกตั้งเป็นเรื่องปกติทางการเมือง ที่ผ่านมาพรรค พท.เปิดตัวผู้สมัครไปแล้ว 2 รอบ วันที่ 7 พ.ย.จะเปิดอีก 1 ชุดยัน กก.บห.มีอำนาจเต็มเมื่อถามว่าพรรค พท. ชินวัตรยังถือเป็นกำลังสำคัญอยู่หรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า ความผูกพันตระกูลชินวัตรเราปฏิเสธไม่ได้ อย่าไปหลอกตัวเอง แนวคิดอุดมการณ์เริ่มมาจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯและ น.ส.แพทองธาร เป็นที่รักเคารพของพวกเราทุกคน และ น.ส.แพทองธารยังคงเป็นหัวหน้าครอบครัว พท. ขับเคลื่อนเรื่องสมาชิกและเรื่องต่างๆ แต่การขับเคลื่อนพรรคเป็นเรื่องของ กก.บห.ชุดใหม่ เมื่อถามว่าหัวหน้าครอบครัว พท.กับหัวหน้าพรรค พท.ใครใหญ่กว่ากัน นายจุลพันธ์กล่าวว่า หัวหน้าครอบครัว พท.เป็นความผูกพันทางใจ แต่ตนมีอำนาจบริหารจัดการอย่างสมบูรณ์ เมื่อถามว่าหัวหน้าพรรคจะเป็นแคนดิเดตนายกฯด้วยหรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า ไม่ได้เป็นข้อจำกัดทางกฎหมาย พรรคกำลังพิจารณาอยู่ ยังไม่ได้ตัดสินใจ ต้องคัดสรรตัวแคนดิเดตนายกฯที่ถูกใจและตอบโจทย์ประชาชนให้ได้ใช้เวลาไม่นาน ขอให้อดทนรอ อีกไม่กี่เดือนจะเลือกตั้งแล้ว จะประกาศเปิดตัว เชื่อว่าจะเป็นที่ถูกใจ ตอบโจทย์ความเดือดร้อนประชาชนได้อุบยื่นซักฟอกหลังเปิดสมัยประชุมเมื่อถามว่า หากสภาฯเปิดจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า ต้องหารือกันในสภาฯ แม้ไม่ขึ้นตรงต่อวิปฝ่ายค้านแต่หารือกันว่าเวลาเหมาะสมจะเป็นเมื่อไหร่ จะพิจารณาจากข้อมูลเพียงพอหรือไม่ หากอภิปรายแล้วฉายหนังเก่าพรรคจะเสียหาย เรากำลังรวบรวมข้อมูลทั้งเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน การปัดเป่าคดี การกระทำที่ไม่ถูกต้อง เรื่องจริยธรรมของบุคคลต่างๆ ต้องรอรวบรวมข้อมูลให้ครบถ้วนจึงจะตัดสินใจ ส่วนนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตหัวหน้าพรรค พท. มีการคุยกันอยู่ เดี๋ยวก็มา“เสี่ยหนู” ร่วมยินดี “หนิม” นำทัพ พท.เมื่อเวลา 17.30 น. ที่โรงแรม Kolon เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรค ภท.ให้สัมภาษณ์กรณีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค พท.ว่า ขอแสดงความยินดีกับนายจุลพันธ์หลังได้รับการโหวตให้เป็นหัวหน้าพรรค พท.คนใหม่ ตนกับนายจุลพันธ์สนิทสนมกันดีเป็นพี่เป็นน้อง หวังว่าจะนำพาพรรค ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติและประชาชนให้มากที่สุด“อนุดิษฐ์” ตั้งวอร์รูมสอบกล่าวหา กธ.น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม (กธ.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า จากกรณีการอภิปรายและการให้สัมภาษณ์ของนักการเมืองบางกลุ่มกล่าวหาบุคคลของพรรคเชื่อมโยงสแกมเมอร์ เมื่อข้อกล่าวหามาก่อนข้อเท็จจริง ยังไม่มีหลักฐานทางกฎหมายรองรับ ไม่ได้แสดงความคิดเห็นโดยสุจริต หรือติชมด้วยความเป็นธรรม แต่ใส่ความทำให้พรรคเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกขยายซ้ำในสังคมจนกลายเป็นความเชื่อ ไม่อาจนิ่งเฉยได้ เมื่อชื่อเสียงถูกใช้เป็นเครื่องมือแสวงประโยชน์ทางการเมือง โดยตนจะตั้งวอร์รูมเพื่อตรวจสอบเรื่องที่มีการกล่าวหาบุคลากรของพรรค กธ.อย่างเป็นรูปธรรม จะรวบรวมข้อกล่าวหาจากทุกฝ่าย และสืบค้นข้อเท็จจริงให้ได้มากที่สุด หากมั่นใจว่าได้ข้อมูลครบถ้วนรอบด้านแล้ว จะชี้แจงให้ประชาชนต่อไปกมธ.คาดถกแก้ รธน.จบช่วง พ.ย.ช่วงบ่าย ที่อาคารรัฐสภา นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ประธานคณะ กมธ.แก้รัฐธรรมนูญกล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ประชุมไป 4 ครั้ง เนื้อหาสาระยังมีเห็นแย้งกันอยู่หลายประการ ทั้งหมดน่าจะใช้เวลาประชุมประมาณ 10 ครั้งเป็นอย่างน้อย ถ้าทำได้เร็วที่สุดเมื่อเสร็จเรียบร้อยจะนำไปสู่การเปิดสมัยวิสามัญหรือไม่ เป็นเรื่องเนื้อหาสาระ ไม่สามารถตอบตอนนี้ได้ เข้าใจว่า กกต.พร้อมจัดทำประชามติและเลือกตั้ง และถามประชามติประเด็นอื่นด้วย เช่น MOU 43-44 เกือบจะได้ข้อสรุปทุกประเด็นแล้ว เชื่อว่าจะเดินได้เร็วขึ้น คาดว่าเดือน พ.ย.คณะ กมธ.จะพิจารณาได้แล้วเสร็จ จะเป็นวันไหนเมื่อไหร่จะเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญหรือสามัญหรือไม่ ยังตอบไม่ได้ชี้หลายพรรคสนบัตร 2 ใบ เบอร์เดียวนายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า ส่วนที่นักวิชาการเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ประเด็นกำหนดให้บัตรเลือกตั้ง สส.แบบเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อให้เป็นเบอร์เดียวกันทั้งประเทศ ลดความสับสนของประชาชน ในสภาฯชุดที่ 25 เคยเสนอประเด็นนี้มาแล้วในนามพรรค ก.ก.แต่ กมธ.และสภาฯยุคนั้นไม่เห็นด้วย มีข้อมูลว่าหลายพรรคได้ศึกษาสนใจเรื่องนี้อยู่ หากแก้ไขได้จะเป็นประโยชน์ประชาชน ขอสนับสนุนที่เสนอ ตรงใจกับหลายคนที่อยากเสนอลักษณะแบบนั้นแต่หลายพรรคมองว่าบางประเด็นอาจสุ่มเสี่ยง หรือตีความว่าเป็นการแก้เพื่อประโยชน์ของพรรคตนเองหรือไม่ จึงขอค้างไว้ก่อนได้หรือไม่ มาพิจารณากันว่าจะปลดล็อกการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับคืนอำนาจการตัดสินใจให้ประชาชนอีกครั้ง น่าจะสำคัญมากกว่าขู่ขาย “คนละครึ่งพลัส” เกินราคาเจอคุกนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า กรณีในโลกโซเชียลแชร์ข้อความร้านค้าขึ้นป้ายราคาสินค้าระบุว่า “เงินสด 159 คนละครึ่ง 169” มีส่วนต่างราคาสินค้า 10 บาท กระทรวงพาณิชย์ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบเป็นร้านค้ารายย่อยขนาดเล็กแห่งหนึ่ง ได้ตักเตือนให้นำป้ายสินค้าออกแล้ว พร้อมกำชับให้ขายสินค้าตามราคาจริง หากฝ่าฝืนอีกต้องถูกดำเนินคดี พร้อมถูกตัดสิทธิจากโครงการคนละครึ่งพลัส รวมถึงโครงการอื่นๆของรัฐบาลในอนาคต ขอย้ำผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการให้จำหน่ายสินค้าราคาเดียวกัน ทั้งชำระด้วยเงินสดและชำระผ่านสิทธิคนละครึ่งพลัสโทษ ไม่มีเหตุผลที่ต้องทำ ไม่มีการส่งข้อมูลภาษีให้นำมาใช้เป็นข้ออ้าง หากฝ่าฝืนมีความผิดตาม พ.ร.บ.กำกับดูแลสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ไม่ติดป้ายแสดงราคาปรับสูงสุดไม่เกิน 1 หมื่นบาท และฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าสูงเกินสมควร โทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หากประชาชนพบเบาะแสขอให้แจ้งมาที่สายด่วน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศไม่รับคำร้อง “อิ๊งค์” ตั้ง “พิชิต” นั่ง รมต.วันเดียวกัน นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รักษาราชการแทนเลขาธิการป.ป.ช. แถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาคำร้องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งเรื่องกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกฯ แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ ทั้งที่เคยต้องคำสั่งศาลฎีกากระทำผิดกฎหมายว่า ป.ป.ช.เห็นว่า การฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรงเป็นพฤติการณ์ที่ต้องกระทำขณะดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่การกระทำของ น.ส.แพทองธารเกิดขึ้นขณะยังไม่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นนายกฯ จึงมิใช่การกล่าวหาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรงตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 จึงไม่รับคำกล่าวหาไว้พิจารณา“เศรษฐา” ไม่ผิดฝืน รธน. ม.144นายสุรพงษ์กล่าวว่า ส่วนกรณีกล่าวหานายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ กับพวก แปรญัตติตัดทอนงบฯรายจ่ายในส่วนชำระต้นเงินกู้ ดอกเบี้ยเงินกู้ โดยไม่ถูกต้อง การที่นายเศรษฐากับพวกตัดทอนงบรายจ่ายสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 5 แห่งวงเงิน 35,000 ล้านบาท ที่เสนอปรับลดงบฯของตนลง เพื่อนำไปเพิ่มเป็นงบกลางใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต มิได้เกิดจาก สส.หรือ กมธ.วิสามัญฯเป็นผู้ขอแปรญัตติเอง จึงไม่มีการแปรญัตติของ สส.และ กมธ.วิสามัญฯอันเป็นองค์ประกอบความผิดตามรัฐธรรมนูญ คดีไม่มีมูลความผิดฐานฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยการยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ต้องอยู่ระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯประจำปี หากร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวพิจารณาเสร็จสิ้น ใช้บังคับแล้ว ย่อมไม่เข้าหลักเกณฑ์เสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญ จึงไม่มีกรณีต้องเสนอความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ยุติสอบสวนทางลับสั่งสอบผิด พ.ร.บ.วินัยการเงินนายสุรพงษ์กล่าวว่า แต่เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงนายเศรษฐาและ ครม.มอบนโยบายให้สำนักงบประมาณ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปดำเนินการให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 5 แห่ง ปรับลดงบฯของตนเอง นำไปใช้จ่ายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาล และ ครม. วันที่ 13 ส.ค.67 เห็นชอบการเปลี่ยนแปลงงบฯปี 68 เพื่อนำไปใช้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ต่อมา กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 68 และ สส. มีมติเสียงข้างมากเห็นชอบเปลี่ยนแปลงงบฯดังกล่าว ทั้งที่งบรายจ่ายที่สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 5แห่ง มีสถานะเป็นภาระทางการเงิน เพื่อชดเชยต้นทุนทางการเงิน ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 และ พ.ร.บ.พัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2562 รัฐบาลต้องตั้งงบรายจ่ายแก่หน่วยงานรัฐ ในโอกาสแรกที่กระทำได้ แต่รัฐบาลนายเศรษฐากลับปรับลดงบสถาบันการเงินทั้ง 5 แห่ง และไม่ตั้งงบชดเชยให้ในปีงบฯ 68เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ม.157“การกระทำของนายเศรษฐา ครม.และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง จึงเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วย พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ มีเจตนานำงบฯดังกล่าวไปใช้โครงการเติมเงิน 10,000 บาท เพื่อมุ่งสร้างความนิยมทางการเมือง อาจเกิดความเสียหายต่อระบบการเงินการคลังประเทศ มีมูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และพ.ร.บ.การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้รับเรื่องไว้ไต่สวน บุคคลหรือคณะบุคคล ดังนี้ 1.นายเศรษฐา 2.ครม.รัฐบาลนายเศรษฐาที่มีมติเห็นชอบปรับลดงบฯปี 68 วันที่ 13 ส.ค.67 3.นายพรชัย ฐีระเวช ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และนายกรณินทร์ กาญจโนมัย รอง ผอ.สำนักงบฯ ที่เสนอปรับลดงบฯสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 5 แห่ง 35,000 ล้านบาท”“อิ๊งค์”–ครม.–สส.รอดบ่วงความผิดนายสุรพงษ์กล่าวว่า ส่วนผู้ถูกร้องรายอื่นได้แก่ น.ส.แพทองธาร นายกฯ และ ครม.ในรัฐบาลแพทองธาร ป.ป.ช. มีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับเรื่องไว้ไต่สวน เนื่องจากขณะนั้นผู้ถูกร้องยังไม่ได้เข้าดำรงตำแหน่งหรือปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกฯ จึงไม่เกี่ยวข้องการแปรญัตติปรับลดงบฯในร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 68 รวมถึงคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 68 สส. สว.ที่ลงมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบฯดังกล่าว มีมติไม่รับเรื่องไว้ดำเนินการไต่สวน เนื่องจากไม่ปรากฏพยานหลักฐานรับฟังได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงงบฯสถาบันการเงินทั้ง 5 แห่ง ส่วนการกล่าวหานายเศรษฐากับพวก ร่วมแปรญัตติเพิ่มงบฯให้กองทุนผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา สำนักงานเลขาธิการสภาฯ 1,256,710,300 บาท จากการสอบสวนไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพียงพอฟังได้ว่าผู้ถูกร้องได้ร่วมกันแปรญัตติเพิ่มงบฯให้กับกองทุนผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภาของสำนักเลขาธิการสภาฯ 1,256,710,300 บาท ตามที่มีการกล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ยุติการสอบสวนทางลับพร้อมรับเรื่องคดีสินบน 40 ล้านดีอีนายสุรพงษ์กล่าวว่า ส่วนที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ส่งสำนวนการสอบสวนให้ ป.ป.ช.ดำเนินการคดีสินบน 40 ล้านบาท ที่เกี่ยวข้องกับนายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ข้อเท็จจริงปรากฏว่ากองบังคับการปราบปรามมีหนังสือลงวันที่ 22 ต.ค.68 ส่งสำนวนสอบสวนมายัง ป.ป.ช. กรณีกองบังคับการปราบปรามรับเรื่องร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีบุคคลที่จะจ่ายเงิน 40 ล้านบาทแก่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจฯ เพื่อไม่ให้ปราบเว็บพนันออนไลน์ ป.ป.ช.ได้รับหนังสือเมื่อวันที่ 28 ต.ค.68 พฤติการณ์ในเรื่องที่กองบังคับการปราบปรามส่งมายัง ป.ป.ช. สอดคล้องคำกล่าวหาที่ ป.ป.ช.เคยได้รับเมื่อวันที่ 2 ต.ค.68 บัดนี้จึงอยู่ระหว่างการพิจารณารวมคำกล่าวหาทั้งสองเรื่อง เพื่อดำเนินการไปในคราวเดียวกันอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่