อากาศเย็นยามเช้ารู้สึกได้ถึงใน กทม. ล้อตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาประเทศไทยเปลี่ยนเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคมเป็นต้นไป จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ต้นปี 2569 แต่ลมหนาวที่โชยมาก็ไม่อาจกลบอุณหภูมิการเมืองไทยที่กำลังร้อนระอุ ดุเดือดแบบที่นายวรภัค ธันยาวงษ์ รมช.คลัง ต้องประกาศลาออกกะทันหันตัดใจไขก๊อกกลางวงแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนตัดไฟแต่ต้นลม ไม่ให้ลามช็อตเจ๊งทั้งรัฐบาลเซราะกราว ผลจาก รมช.คลังโควตาคนนอกมีชื่อไปพัวพันอยู่ในบอร์ด BIC กรุ๊ป ธุรกิจฟอกเงินเทาของขุมข่าย “ตระกูลฮุน” นัวเนียกับเครือข่าย “อาชญากรสแกมเมอร์กัมพูชา” ที่ถูกสภาคองเกรส ของสหรัฐอเมริกา ขึ้นแบล็กลิสต์ประจาน “บัญชีดำ” แก๊งโจรไซเบอร์ตัวอันตรายของโลกล้วนแต่หัวโจกชื่อคุ้นทั้งนั้น “เบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์–เฉิน จื้อ–ยิม เลียก–ก๊ก อาน–ลียงพัด” ตรงเผงกับที่มีกระแสสะพัดมาก่อนหน้าไม่ใช่แค่โผล่มาป้วนเปี้ยนลับๆล่อๆเท่านั้นแต่เส้นปึ้กถึงขั้นมีถิ่นพำนัก ลงหลักปักฐานอยู่ในเมืองไทย ในชั้น “วีวีไอพี” ในแวดวงไฮโซมหาเศรษฐี และขาใหญ่ในโซนผู้มีอำนาจการเมืองภาพถ่ายโชว์สายสัมพันธ์การดีลผลประโยชน์ร่วมกับอดีตนายกฯ รัฐมนตรีคนดัง หลักฐานเส้นสายการเชื่อมโยงธุรกิจ ครอบครัวแต่งงานกับภรรยาชาวไทยย่ามใจในความปึ้ก ถึงขั้นรุกขอ “สัญชาติไทย”บ่งบอกระดับความใกล้ชิดเกินธรรมดา และถ้าจำได้ตั้งแต่ตอนฟอร์ม ครม.สื่อก็ทัก “นายกฯหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ แล้ว ให้เช็กดีๆ แต่ที่สุดก็หลุดรอดสายตาด่านความมั่นคง หน่วยสแกนคุณสมบัติของไทยไปได้จนมาสะดุด “บัญชีดำ” มหาอำนาจประจานด้วย “แบล็กลิสต์”เร่งชนวนกระแสภายในประเทศไทย ฝ่ายค้าน นักวิชาการ ดาหน้าไล่บี้ไล่ต้อน “นายกฯหนู” ให้แสดงความเอาจริงเอาจังกับ “เฟกนิวส์–ข่าวจริง” ผู้นำเกาหลีใต้ กระตุกเป็นนัยปล่อยโพย 7 นักการเมืองไทยมีชื่อเอี่ยวในบัญชีดำแก๊งโจรสแกมเมอร์เขมร ยกระดับสัญญาณเตือนขั้นสูงสุดณ จุดที่โจรสแกมเมอร์เขมรมาซ่องสุมนัวเนียธุรกิจการเมืองไทยขบวนการฟอกเงินเทาไหลมาแทรกซึมตลาดเงิน ตลาดทุนในกรุงเทพฯตามเงื่อนไขสถานการณ์ต่อเนื่องที่มหาอำนาจ นานาชาติปฏิบัติการล้อมกรอบกัมพูชา ไล่ทุบทำลายแหล่งซ่องสุมใหญ่ของอาชญากรไซเบอร์ในอินโดจีนขืนไทยยังยึกๆยักๆโอกาสสูงที่จะถูกเหมารวมเป็น “ศูนย์กลาง” ไปด้วยแน่นอน โดยเงื่อนไขสถานการณ์ที่เชื้อร้ายโจรสแกมเมอร์ถูกปล่อยให้ไหลลามลึกจนเห็นตอโผล่ โยงถึงกลุ่มธุรกิจและก๊วนการเมือง ลำพังแค่การ “ไขก๊อก” ของนายวรภัค เพื่อตัดไฟแต่ต้นลมตามฟอร์มการเมืองแบบไทยๆแต่คงไม่อาจเบรกกระแสไฟที่ช็อต ลามเป็นเพลิงลุกโชนอย่างที่เห็นพัฒนาการของกระแส แม้นายวรภัคจะลาออกแล้ว และขึ้นเสียงขึงขัง ขู่ฟ้องแหลก “ทอม ไรต์” นักข่าวจอมแฉเงินเทาชื่อดังของโลกผู้เปิดโปงแก๊งเงินเทาเขมร รวมถึงสื่อไทยที่เอาข้อมูลมาขยายผลก็ไม่วายโดนย้อนศร อาการตอบแบบอู้อี้ๆกับคำถามดักทาง ทำไมถึงไม่ฟ้อง BIC กรุ๊ปที่เป็นต้นตอเอารูปและโปรไฟล์ของนายวรภัคไปโชว์ใน “บอร์ดที่ปรึกษา” ร่วมกับอดีตบิ๊กตำรวจ ตระกูลดังในแวดวงธุรกิจ รวมถึงอดีตบิ๊กข้าราชการกระทรวงการคลังทั้งๆที่เป็นจุดนำมาซึ่งคราบเทาดำ ทำให้เสื่อมเสียชัดเจนอารมณ์สลัดไม่หลุดจากแก๊งเงินเทาเขมร อดีต รมช.คลังหมาดๆ ยังโดนรุกไล่ต่อไม่หยุด จุดชนวนไฟลาม ต้องเคลียร์ปมร้อนสายสัมพันธ์แก๊งสแกมเมอร์กัมพูชาที่โยงไปถึงคนในครอบครัว นัวเนียๆสลัดไม่หลุดถึงจุดที่เปลวไฟไหลลามลวก “นายกฯอนุทิน” ลอยตัวไม่ออกโดนไล่บี้ให้แสดงความรับผิดชอบการตั้งรัฐมนตรีมีปัญหา ไล่ต้อนให้โชว์ความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีเอี่ยวผลประโยชน์กับแก๊งสแกมเมอร์กัมพูชาโดยเฉพาะแรงกดดันหนักๆจาก “มือปราบสแกมเมอร์” เบอร์ต้นๆตามปรากฏการณ์ขับเคลื่อนอย่างทรงพลังของนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ที่เพิ่งบินไปโชว์ผลงานโบแดงในที่ประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา (ipu) ในการนำเสนอร่างมติ “อาชญากรรมข้ามชาติ–สแกมเมอร์”ผลักดันให้เสียงส่วนใหญ่ในหมู่สมาชิกรัฐสภาโลกร่วมด้วยช่วยกันลุยปราบแก๊งโจรไซเบอร์ที่กำลังทำร้ายพลเมืองนานาชาติอย่างหนักจังหวะลากประเทศไทยพ้นจากเหลี่ยมเทาๆ แก้ลำจากสภาพรัฐบาลเซราะกราวยึกๆยักๆ “นายกฯหนู” เหมือนไม่กล้าหยิกเล็บเจ็บเนื้อเมื่อกระแสโลกเข้าทาง “รังสิมันต์ โรม” ไม่พลาดไล่บี้ ส่งเสียงท้าข้ามโลกมาจากสวิตเซอร์ แลนด์ วัดใจผู้นำรัฐบาลเซราะกราว กล้าหรือไม่ใจถึงแค่ไหนในการปลด “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและ รมว.เกษตรฯ ออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความจริงจังในการลุยหักลำแก๊งสแกมเมอร์ในขณะที่ “ผู้กองนัส” ก็ยังไม่สะทกสะท้านอาการมั่นใจในแสงของตัวเองที่ใครก็ดับหรือทำให้หมองไม่ได้ กัดฟันชื่นชมการทำหน้าที่ของกองทัพส้มย้ำชัดๆ ไม่ใช่มนุษย์สีเทา อู้ฟู่มาก่อนเล่น การเมืองแถมยังออกตัวแทนสหาย “บัญชีดำ” อย่าเพิ่งกล่าวหา “เบน สมิท” ว่าเป็นสแกมเมอร์ และร่างกฎหมาย แซงก์ชั่นอาชญากรไซเบอร์ของสหรัฐฯก็ยังไม่มี เราจะไปกล่าวหาไม่ได้ ต้องให้เขาพิสูจน์ตัวเองก่อนแน่นอน ตามทรง “ธรรมนัส” ไม่โยนผ้าง่ายๆ เหมือน “วรภัค” แน่และนั่นจะโหลดน้ำหนัก “นายกฯหนู” ที่ต้องไปเผชิญแรงเสียดทานในเวทีประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่มาเลเซียและวงประชุมเอเปกที่เกาหลีใต้หนีไม่พ้นโดนจี้ปม “แก๊งโจรสแกมเมอร์” ที่ไหลมากบดานนิ่งในไทยตามเงื่อนไขสถานการณ์หนีไม่พ้นกลับมาโดนถล่มซ้ำในเวทีสภาผู้แทนราษฎร ในจังหวะแบบที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ มือเชือดบัญชีเทาของกองทัพส้ม กั๊กให้รอสัญญาณขอประเมินท่าทีของผู้นำเซราะกราว ดูอาการกระตือรือร้นของนายกฯไทยในเวทีสากล ตอบรับการลุยปราบสแกมเมอร์ในเวทีนานาชาติว่า จริงจังแค่ไหนถ้า “เฟกส์” เด้งเชือก ก็เจอกันแน่ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจแต่ที่ไม่ต้องรีรอ ก็คือพรรคเพื่อไทยที่ง้างเท้ามาตั้งแต่บ้าน จองกฐินเชือดรัฐบาลแน่ทันทีที่เปิดสภากลางเดือนธันวาคมนี้แน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นกองทัพส้มเองก็คงไม่รีรอให้โดนด่า “ฝ่ายค้ำ”เพราะ “รังสิมันต์ โรม–วิโรจน์ ลักขณาอดิศร–ไอซ์ รักชนก ศรีนอก” นำธงแห่สงครามถล่มแก๊งโจรสแกมเมอร์มาอย่างเอาเป็นเอาตายไม่พลาดลุยเก็บซาก ปิดเกมนักการเมืองบัญชีดำสหรัฐฯชัวร์ทั้งหมดทั้งปวง โดยเงื่อนไขกดทับ ลอยตัวหนีลำบาก แนวรบโลกลุยถล่มฐานโจรสแกมเมอร์เขมรลามถึงไทย การเมืองในประเทศรุกไล่บี้ซ้ำ“นายกฯอนุทิน” ส่อโยนผ้า ร่ำๆยุบสภาก่อน 4 เดือนอารมณ์ผู้นำหนีคำถามนักข่าว เพราะตอบไม่ได้ จนมุมสถานการณ์ลำบาก “นักเลือกตั้งอาชีพ” รู้ทางกันดี อาการแบบนี้รอดยาก นั่นจึงได้เห็นจังหวะการขยับแต่งตัวเลือกตั้ง บรรดาป้อมค่ายขยับปรับทัพกันคึกคักทั้งพรรคเพื่อไทยที่ “อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ไขก๊อก เปิดทางคนนอกตระกูลชินคุมกิจการกงสี หรือยี่ห้อประชาธิปัตย์ ที่ “เดอะมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับมาประคองวิกฤติตกต่ำสุดในประวัติศาสตร์ที่คึกคักสุดหนีไม่พ้นกองทัพส้ม ที่ “กุมารเท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ที่เตรียมปิดวิก นำ สส.ตัวจี๊ดเปิดคอนเสิร์ต เปิดแคมเปญเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายนนี้รับเกมเลือกตั้งมาไว ตามจังหวะหนี “โจรสแกมเมอร์”.ทีมการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม