“อนุทิน” ทำบุญตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อสิริมงคล ยันมีแน่คนละครึ่งเฟส 2 หลังกระแสดี หยอก รมต.ลอยกระทงเอาความขมขื่นไปทิ้งแม่โขง “ภราดร” มั่นใจนายกฯไม่ยุบสภาก่อนครบ 4 เดือน ชี้พูดเผื่อเกิดอุบัติเหตุเท่านั้น “อิ๊งค์” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค พท. รีบตัดไฟแต่ต้นลม “อนุสรณ์” ชี้ปมสแกมเมอร์คือจุดตาย “ผู้กอง” จ่อดูด “ไชยา พรหมา” บอกซี้กัน ก.ม.ประชามติ มีผลบังคับใช้ สว.สำรองยื่นฟ้อง 8 กกต. เอาผิด 157 ยื้อจนน่าเกลียด ภาค ปชช.ฝันสลาย สภาลงมติยืนกรานไม่นิรโทษมาตรา 112นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคภูมิใจไทย ปฏิเสธนายกฯไม่ได้ส่งสัญญาณจะยุบสภาก่อนครบ 4 เดือน แค่พูดเผื่อไว้กรณีมีอุบัติเหตุ มั่นใจยังคงเป็นไปตามไทม์ไลน์เดิมคือ 31 ม.ค.2569“หนู” ทำบุญตึกไทยคู่ฟ้าเป็นสิริมงคลเมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 21 ต.ค. ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย นิมนต์พระสงฆ์ 10 รูป จากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ทำบุญตึกไทยคู่ฟ้าเป็นการส่วนตัว มีเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี หรือสมเด็จธงชัย เจ้าคณะใหญ่หนกลาง และกรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรฯ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ตรงกับวันครบรอบถึงแก่กรรมของ พล.อ.เจ้าพระยารามราฆพ เจ้าของบ้านนรสิงห์ เพื่อความเป็นสิริมงคล มี น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ ภริยานายกฯ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี นายภราดร ปริศนานันทกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ร่วมพิธี ทั้งนี้ ก่อนเริ่มพิธีทำบุญนายกฯขึ้นไปไหว้รูปปั้นนรสิงห์จำลองด้านบนด้วยลอยกระทงเอาความขมขื่นทิ้งแม่โขงต่อมาที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาลนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นำคณะผู้บริหารการ ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เข้าพบนายอนุทินเพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงาน Maha Loi Krathong World Event ในเดือนต.ค.-พ.ย. ที่ จ.สุโขทัย และ จ.พระนครศรีอยุธยา และงาน Vijit Chao Phraya 2025 ในเดือนพ.ย.-ธ.ค. ที่บริเวณสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา กรุงเทพฯ มีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วัฒนธรรม เข้าร่วม ทั้งนี้ นายอนุทินร่วมลอยกระทงจิ๋ว พร้อมกล่าวอารมณ์ดีว่า “เอาความขมขื่นไปทิ้งแม่โขง” ก่อนพูดหยอกล้อกับบรรดารัฐมนตรีมีแน่คนละครึ่งเฟส 2 หลังกระแสดีนายอนุทินให้สัมภาษณ์หลังการประชุม ครม. ถึงโครงการคนละครึ่งพลัสที่เปิดให้ลงทะเบียนผู้ใช้สิทธิเมื่อวันที่ 20 ต.ค. และสิทธิเต็มแล้วว่า คนละครึ่งเรียบร้อยหมดแล้ว สิทธิครบหมดแล้ว เดี๋ยวมีเฟส 2 ที่ประชุม ครม.วันนี้ ยังอนุมัติงบประมาณช่วยเหลือน้ำท่วมด้วยเปิดวันรักต้นไม้ประจำปีของชาติช่วงเช้าที่สวนสิรินธราภิรมย์ ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานเปิดกิจกรรมวันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ 2568 มี น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ ภริยา ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รมช.มหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วม ทั้งนี้ นายอนุทิน และ น.ส.ธนนนท์ ปลูกต้นรวงผึ้ง ต้นไม้ประจำพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และนำผู้ร่วมกิจกรรมรดน้ำพรวนดินบำรุงรักษาต้นไม้ นายอนุทินกล่าวว่า การจัดกิจกรรมวันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ เป็นกิจกรรมที่มีคุณค่า มีจุดมุ่งหมายสำคัญในการแสดงความกตัญญูกตเวทิตาแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี “สมเด็จย่า” ซึ่งพระองค์ได้ทรงเล็งเห็นความสำคัญและคุณค่าของการอนุรักษ์ป่าไม้ และทรัพยากรธรรมชาติ ได้ทรงปลูกและรักษาป่าไม้ด้วยพระองค์มาตลอดพระชนม์ชีพแถลงปฏิบัติการล้างเครือข่ายยานรกช่วงบ่ายที่ บช.ปส. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานแถลงผลการปฏิบัติงานด้านการปราบปรามยาเสพติด ภายใต้แผนยุทธการ “ทำลายล้างเครือข่ายยาเสพติด ถล่มจุดพัก ทุบคลัง ปิดเส้นลำเลียง ทั่วประเทศ 12 วัน” ระหว่างวันที่ 9-20 ต.ค. สำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมหน่วยงานความมั่นคง จับกุมผู้ต้องหา 16 ราย จาก 10 คดีสำคัญ ยึดของกลางยาบ้าได้กว่า 33.84 ล้านเม็ด, ยาไอซ์ 800 กิโลกรัม, คีตามีน 500 กิโลกรัม และทรัพย์สินอีกจำนวนมาก นายอนุทินกล่าวยืนยันเจตนารมณ์รัฐบาลในการสนับสนุนการทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างเต็มที่ ทั้งในด้านการจัดหาเทคโนโลยีที่ทันสมัย และการวาง “กลไกเชิงระบบ” ที่มั่นคงและยั่งยืน เพื่อใช้เป็นแนวทางถาวรต่อสู้กับอาชญากรรมทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภัยยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ หรือรูปแบบอาชญากรรมยุคใหม่ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น และกล่าวแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ร่วมกันปฏิบัติงานอย่างทุ่มเท กล้าหาญ และไม่หวั่นไหว แม้ต้องเสี่ยงชีวิต เพื่อขจัดภัยร้ายที่คุกคามความมั่นคงของชาติหารือความร่วมมือนายกฯเวียดนามจากนั้นเวลา 17.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย หารือทางโทรศัพท์กับนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงผลการพูดคุยว่า นายอนุทินกล่าวขอบคุณนายกฯเวียดนามที่โทร.มาแสดงความยินดี เชื่อมั่นว่าความร่วมมือระหว่างไทยและเวียดนามจะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการพัฒนาของภูมิภาคให้เติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงการกระชับความร่วมมือกลไกความมั่นคง การค้าและการลงทุน รวมถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายอนุทินยืนยันว่ารัฐบาลมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธีผ่านกลไกทวิภาคี พร้อมปกป้องอธิปไตยของประเทศอย่างเต็มที่ หวังว่าการประชุมทวิภาคีจะทำให้ทั้งสองฝ่ายพึงพอใจนำไปสู่การลงนามร่วมกันที่มาเลเซียปลายเดือนนี้ ไทยยังหวังว่ากัมพูชาจะปฏิบัติตามเงื่อนไข ขณะที่นายกฯเวียดนามยินดีที่ไทยยึดมั่นในการเจรจาอย่างสันติ และหวังว่าทั้งไทยและกัมพูชาจะเดินหน้าไปสู่สันติภาพอย่างยั่งยืนมั่นใจนายกฯไม่ยุบสภาก่อนกำหนดนายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม (กมธ.) และแกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า มั่นใจการพิจารณาในชั้น กมธ.จะแล้วเสร็จตามไทม์ไลน์กำหนด ให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประชามติฉบับใหม่ ดังนั้น ในส่วนของรัฐสภาไม่น่ามีปัญหา เพราะทุกส่วนเห็นพ้องกัน ต้องเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อถามถึงการยุบสภา นายภราดรตอบว่า นายกฯไม่ได้ส่งสัญญาณอะไร ท่านพูดถึงหากมีอุบัติเหตุเฉยๆ แต่ไทม์ไลน์เดิมคือ 31 ม.ค.2569พท.ห่วงกระสุนอยู่เหนือกระแสนายสมคิด เชื้อคง อดีต สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องที่รัฐบาลอาจยุบสภาก่อนวันที่ 31 ม.ค.2569 น่าจะมาจากปัจจัยการเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย เป็นเป็ดง่อยทำอะไรไม่ได้ บริหารประเทศลำบาก พรรคภูมิใจไทยคงคิดว่าดูดสส.จากพรรคอื่นมาอยู่มากพอ จึงมั่นใจจะชนะเลือกตั้ง มี สส.มากพอเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล มีอำนาจรัฐในมือ ได้เปรียบสนามเลือกตั้ง อาจเลือกยุบสภาได้ อีกทั้งพรรคภูมิใจไทยอาจไม่ต้องการแก้รัฐธรรมนูญ หากเลือกยุบสภาก็ชัดเจนว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ต้องการให้แก้รัฐธรรมนูญสำเร็จ เป็นละครลวงโลก 2 ปีที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยไม่มีเจตนาแก้รัฐธรรมนูญ ส่วนที่อ้าง MOA คือสัญญาหลอกเด็กตั้งแต่ต้น เด็กก็พร้อมให้หลอกเพราะสมประโยชน์ทั้งคู่ ส่วนพรรคเพื่อไทยมีสมาชิกเข้าออกตลอด แต่หวั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ได้วัดที่กระแส แต่วัดที่กระสุน ที่ผ่านมามีข่าวการใช้กระสุนให้ชนะเลือกตั้ง ชาวบ้านในพื้นที่รู้ใครทำอะไร แต่แปลกใจกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เลือกปิดหูปิดตา อยากให้ กกต.ทำหน้าที่ให้ดีกว่านี้“อนุสรณ์” ชี้สแกมเมอร์จุดตาย รบ.นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า น่าเห็นใจประชาชนคนไทยที่ไม่มีสิทธิ์รับรู้และร่วมกำหนดอนาคตทิศทางประเทศ เพราะเงื่อนไขของประเทศผูกติดล็อกอยู่กับ MOA ระหว่างนายอนุทินกับพรรคประชาชน โดยไม่มีประชาชนอยู่ในสมการ ถึงวันนี้ถือว่าไม่มีความแน่นอนอะไรเลย ตลอดจนโอกาสที่ MOA จะถูกฉีกสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา รัฐบาลเสียงข้างน้อยที่ไม่สามารถทำอะไรได้ สารพัดปัญหาที่ประเทศต้องเผชิญ ประชาชนตัดสินใจได้ว่าใครต้องรับผิดชอบ ส่วนที่มีคนตั้งคำถามว่ามีคนในรัฐบาลมีเอี่ยวกับธุรกิจสีเทาข้ามชาติ นายอนุทินบอกว่านายกฯไม่ได้รู้ทุกเรื่อง จนทัวร์ลง ความจริงคนไม่ได้คาดหวังให้นายอนุทินรู้ทุกเรื่อง แต่เรื่องปราบสแกมเมอร์ ที่รัฐบาลเสียงข้างน้อยประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ นายอนุทินน่าจะอธิบายความ หรือมีเรื่องพูดสร้างความเชื่อมั่นได้มากกว่านี้ ปัญหาสแกมเมอร์-ทุนเทาข้ามชาติ-ความมั่นคงชายแดน จะเป็นจุดเปราะบางของรัฐบาลเสียงข้างน้อย ที่ประชาชนจับตามอง และอาจเป็นจุดตายรัฐบาล“อิ๊งค์” จ่อไขก๊อกหัวหน้าพรรค พท.ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า ในวันที่ 22 ต.ค.นี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เรียกประชุม สส. ที่พรรคเพื่อไทย ในเวลา 08.30 น. เพื่อแจ้งให้ สส.ทราบว่าจะขอลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค จากนั้นจะเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคในเวลา 09.30 น. ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเปิดทางให้มีการเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ โดยจะกำหนดวันประชุมวิสามัญเพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่อีกครั้ง สาเหตุที่ น.ส.แพทองธารประกาศลาออก สืบเนื่องจากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ให้ น.ส.แพทองธารพ้นจากตำแหน่งนายกฯ เพราะขาดคุณสมบัติฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงจากกรณีคลิปเสียงสนทนา แม้ตามข้อบังคับพรรคจะไม่มีการกำหนดไว้ แต่ในการเลือกตั้ง สส. หัวหน้าพรรคต้องไปเซ็นรับรองผู้สมัคร ทำให้ในอนาคตอาจมีผู้ไปร้องต่อศาลหรือองค์กรต่างๆได้ หากมีผู้ไปร้องผู้สมัครก็จะไม่สามารถสมัครได้ ถือเป็นการป้องกันไว้ล่วงหน้า เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบหรือความเสียหายต่อพรรคในอนาคต“ผู้กอง” จ่อดูด “ไชยา พรหมา” ซี้กันด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม กล่าวว่า พรรคพร้อมเลือกตั้งมานานแล้ว มีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์มากกว่าพรรคใด เมื่อถามว่าจะมี สส.ภาคอีสานจากพรรคอื่นเข้ามาร่วมกับกล้าธรรมเพิ่มหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า มี แต่ไม่อยากเปิดเผย เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯ และ สส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย จะมาร่วมงานกล้าธรรม ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า นายไชยากับตนสนิทสนมกันตั้งแต่อยู่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีอะไรแลกเปลี่ยนกันตลอดเวลา โดยเฉพาะนายก อบจ.หนองบัวลำภูก็เป็นเครือข่ายพรรคกล้าธรรม ต้องทำงานร่วมกัน“อนุทิน” ไม่รู้ภรรยายื่นทรัพย์สินเพิ่มขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีการยื่นบัญชีทรัพย์สินเพิ่มเติมกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายละเอียดเป็นทรัพย์สินของ น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ ภริยา เพิ่มขึ้น 15 ล้านบาทว่า เขาก็ยื่นของเขาไป ส่วนรายละเอียดไม่ทราบ เพราะมีทนายความทำให้“พิชัย” พ้นขุนคลังมีทรัพย์สิน 247 ล้าน ที่สำนักงาน ป.ป.ช. มีการเปิดบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง มีบัญชีทรัพย์สินที่น่าสนใจ อาทิ นายปัญญา อุดชาชน กรณีพ้นตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 30 ส.ค.2568 มีทรัพย์สินรวม 24,244,845 บาท ไม่มีหนี้สิน เป็นของนายปัญญา 23,884,845 บาท ขณะที่นางวิจิตรา อุดชาชน คู่สมรส มีทรัพย์สิน 3.6 แสนบาท นายพิชัย ชุณหวชิร กรณีพ้นตำแหน่งรองนายกฯและ รมว.คลัง เมื่อวันที่ 29 ส.ค. มีทรัพย์สิน 247,764,506 บาท ไม่มีหนี้สิน เป็นของนายพิชัย 92,524,308 บาท อาทิ เงินฝาก 20,310,630 บาท เงินให้กู้ยืม 21,479,837 บาท ในจำนวนนี้มีการให้กู้ยืมแก่สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย 2 ครั้งรวม 20.5 ล้านบาท ยอดหนี้คงเหลือปัจจุบัน 6 ล้านบาท ที่ดิน 24 แปลง 22,961,722 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 5 หลัง 18,781,071 บาท ขณะที่ น.ส.สุทธาสินี สกุลคู คู่สมรส มีทรัพย์สิน 155,240,198 บาทเปิดไทม์ไลน์ประชามติหลังบังคับใช้วันเดียวกัน เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระบรมราชโองการ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติฉบับแก้ไข มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค. โดยเฉพาะในมาตรา 10 กำหนดให้กรณีจะต้องจัดให้ทำประชามติตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และเป็นเรื่องเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามมาตรา 9 (1) ให้ประธานรัฐสภาแจ้งให้นายกฯทราบ และให้นายกฯประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีการออกเสียงประชามติตามวันที่กำหนดตามที่ได้หารือร่วมกับคณะกรรมการ ที่ต้องไม่เร็วกว่า 90 วัน และไม่ช้ากว่า 120 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากประธานรัฐสภา ทั้งนี้ หากพิจารณาเห็นว่าวันเลือก สส. หรือวันเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น เนื่องจากดำรงตำแหน่งครบวาระแล้วแต่กรณีอยู่ในช่วงใกล้เคียงกัน อาจกำหนดให้วันทำประชามติเป็นวันเดียวกับการเลือกตั้งก็ได้ แต่ต้องไม่เร็วกว่า 60 วันและไม่ช้ากว่า 150 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากประธานรัฐสภา ทั้งนี้ จะเป็นไปตามที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกฯ ระบุว่า พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติฉบับใหม่ ทำให้รัฐสภามีเวลาพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมากขึ้น โดยหากยุบสภาวันที่ 31 ม.ค.69 ดังนั้นวันสุดท้ายที่จะประกาศวันทำประชามติคือ 29 ม.ค.69 รัฐสภาต้องลงมติแก้รัฐธรรมนูญวาระ 3 ช่วงวันที่ 15-19 ม.ค.69 และเว้นเวลาไว้ 10 วัน เพื่อให้ประธานรัฐสภาจัดทำร่างตลอดจนคำอธิบายสาระสำคัญของร่าง เพื่อให้รัฐบาลหารือกับ กกต.ได้สว.สำรองยื่นฟ้อง 8 กกต.ผิด ม.157ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นายอัครวัฒน์ พงศ์ธนาชลิตกุล สว.สำรอง พร้อมคณะและทนายความ ยื่นฟ้องนายอิทธิพร บุญประคอง กกต. กับพวก กกต. และนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. รวม 8 คน เป็นจำเลย กระทำความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 91 และ 157 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยป้องกันและปราบปรามการทุจริตมาตรา 172 พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภามาตรา 32 วรรคหนึ่ง และมาตรา 88 ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และวินิจฉัยชี้ขาด จากคดีฮั้ว สว.ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของอนุกรรมการวินิจฉัยชุดที่ 36 นายอัครวัฒกล่าวว่า คดีฮั้ว สว.ตลอดระยะเวลา 1 ปี 3 เดือน การทำงานของ กกต.เกินกว่ากรอบเวลาตามกฎหมาย มองว่าเป็นการยื้อเวลา เพื่อเอื้อให้กับบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือไม่ เรื่องนี้เป็นผลร้ายที่จะทำลายระบอบประชาธิปไตยของไทย หลังจากนี้ขอให้ศาลเป็นผู้ตัดสินความถูกต้องเพื่อให้เกิดความยุติธรรมขึ้นภาค ปชช.ร้องนิรโทษกรรม ม.112อีกเรื่องที่รัฐสภา นายณัฐชนน ไพโรจน์ ตัวแทนเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน ยื่นหนังสือถึง น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน ขอให้พิจารณารวมการนิรโทษกรรมความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 110 และ 112 ในร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข นายณัฐชนนกล่าวว่า การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เสริมสร้างสังคมสันติสุขในชั้น กมธ. แม้จะมีการแก้ไขรายละเอียด และเพิ่มฐานความผิดการนิรโทษกรรม แต่ผลสรุปยังคงยกเว้นความผิดมาตรา 110 และมาตรา 112 ที่มีหลักฐานจำนวนมากชี้ว่าเป็นคดีทางการเมือง ขัดกับแนวปฏิบัติการนิรโทษกรรมในอดีต แต่กลับไปนิรโทษกรรมให้คดีกบฏ คดีก่อการร้ายที่มีอัตราโทษสูงกว่า รวมถึงคดีแพ่งที่เกี่ยวกับการปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง ร่างกฎหมายนี้จึงไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งทางการเมืองได้จริง มีลักษณะเลือกปฏิบัติ นิรโทษกรรมเพื่อพวกพ้องบางกลุ่มลงมติยืนกรานไม่นิรโทษมาตรา 112ขณะที่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เสริมสร้างสังคมสันติสุข ที่มีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นประธาน กมธ.พิจารณาเสร็จแล้ว มีสาระสำคัญคือการตั้งคณะกรรมการสร้างเสริมสังคมสันติสุข เพื่อทำหน้าที่ชี้ขาดการได้รับการนิรโทษกรรมและการพ้นจากความผิดทั้งปวง กำหนดให้การกระทำของบุคคลที่เข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง อันมีมูลเหตุจากความขัดแย้งหรือแรงจูงใจทางการเมือง ได้รับนิรโทษกรรมพ้นจากความผิด ยกเว้นคดีทุจริต คดีกระทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หรือบาดเจ็บสาหัส คดีความผิดตาม ป.อาญามาตรา 112 ไม่อยู่ในเงื่อนไขได้รับนิรโทษกรรม ทั้งนี้มาตราที่มีการอภิปรายถกเถียงกันมากเป็นพิเศษคือมาตรา 3 ที่ไม่ให้นิรโทษกรรม 3 ฐานความผิด คือ 1.คดีทุจริต 2.คดีทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หรือบาดเจ็บสาหัส 3.คดีมาตรา 112 กมธ.เสียงข้างน้อย และ สส.พรรคประชาชนอภิปรายท้วงติงที่ไม่นิรโทษกรรมมาตรา 112 ถือว่าไม่จริงใจสร้างความปรองดองให้เกิดสังคมสันติสุขอย่างแท้จริง แต่ที่สุดที่ประชุมลงมติเห็นด้วยกับเนื้อหามาตรา 3 ด้วยคะแนน 184 ต่อ 133 คือไม่นิรโทษกรรมกับฐานความผิดมาตรา 112อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่