ประเทศไทยกำลังชุลมุนอยู่กับ การปรับทัพของพรรคการเมืองและการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ท่ามกลาง ปัญหาโลกล้อมประเทศไทย ทั้ง สงครามการค้า และ สงครามเย็น วันนี้ ประชาธิปัตย์ ได้อดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีกรอบ บ้างก็ว่าเป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่ เพราะมีแต่คนเก่าๆรุ่นอดีตนายกฯอภิสิทธิ์ ตบเท้าเข้าพรรคพร้อมหน้าพร้อมตา ไม่มีเจนใหม่ๆ เช่น ลูกชายอดีต รมว.ต่างประเทศ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย หรือลูกชาย อดีตรองนายกฯ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ หรือสี่กุมาร อย่างที่เคยปรากฏเป็นข่าว ตราบใดที่สงครามยังไม่จบก็อย่าเพิ่งรีบนับศพทหาร พื้นที่ กทม.และธนบุรี เคยผูกขาดโดย ประชาธิปัตย์ วันนี้ พรรคประชาชน ฟาดเรียบ วันหน้า คน กทม.จะเลือกใครขึ้นอยู่กับสถานการณ์ พฤติกรรมของคน กทม. กระแส แรงกว่า กระสุน อยู่แล้วในภาคใต้เช่นกันแข่งกันเดือดระหว่าง กล้าธรรม ภูมิใจไทย 3 จังหวัดภาคใต้ พรรคประชาชาติ พยายามยึดครองเอาไว้ให้ได้ ประชาธิปัตย์ จะชิงส่วนแบ่งพื้นที่คืนได้แค่ไหน ขึ้นอยู่กับ แกนนำภาคใต้จะกลับมาเหนียวแน่นแค่ไหน ส่วนพรรคเพื่อไทยภายใต้การนำ อดีตนายกฯแพทองธาร ชินวัตร ไม่สิ้นไร้ไม้ตอกเลยทีเดียว ถึงจะไม่ได้เท่าเก่าก็ยังจะพอลุ้นชิงดำได้ การเลือกตั้งซ่อมที่ จ.กาญจนบุรี ก็ดีหรือที่ จ.ศรีสะเกษก็ดี ที่เพื่อไทยแพ้ไม่ได้แปลว่าแพ้หมดรูปคะแนนยังเป็นหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับว่าเพื่อไทยจะจัดการปัญหาในพรรคอย่างไรและจะชูใครขึ้นมาเป็นตัวเลือกที่ 2 ที่ 3 สำหรับตำแหน่งแคนดิเดต นายกฯที่ไม่ใช่คนในตระกูลชินวัตรถ้าเพื่อไทยต้องอาศัยเหล้าเก่าก็ไม่ใช่เรื่องแปลกพรรคประชาชน ใช้เทคโนโลยีคำนวณอนาคตการเลือกตั้ง คุยว่า จะได้ สส.เข้ามามากกว่า 250 ที่นั่ง ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ ถ้าคนเบื่อการเมืองแบบเดิมทำนิติสงครามชิงอำนาจทางการเมืองกันไม่เลิก เข้าไปก็แก่งแย่งชิงอำนาจ ประเทศไม่เจริญ รัฐบาลหลายพรรคไม่มีความมั่นคง การเลือกตั้งปี 2566 เป็นตัวอย่าง เปลี่ยนรัฐบาลไป 3 ชุดได้นายกฯมา 3 คน ได้รัฐบาลเสียงข้างน้อยก็เกิดขึ้นแล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับรัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ได้ถึง 2 สมัย สบายๆ ทั้งหมดเกิดจากการติดกระดุมผิดเม็ดในระบอบประชาธิปไตยกลุ่มนักเคลื่อนไหวอารมณ์ค้างออกมาทวงคำตอบของรัฐบาลในการยกเลิก MOU43–44 กับกัมพูชา ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาบันทึกความเข้าใจไทย-กัมพูชามี ไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทยเป็นประธาน ขณะที่ชาวบ้านบ่นปอดแปดเมื่อไหร่รัฐบาลจะแก้ปัญหานี้ให้ชัดเจนไม่ใช่ยื้อเวลาแบบนี้พรรคการเมืองที่มีความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่ผิดไปจากภูมิใจไทย ไม่เช่นนั้นคงไม่มีนักการเมืองนกรู้ไหลเข้าพรรคเป็นว่าเล่น ไม่ใช่แค่ สส. สว. กกต. ปปช.ก็พร้อม เห็นข่าว IMFคาดการณ์เติบโตทางเศรษฐกิจของไทยปีนี้โต 2% ปีหน้า 1.6% ปีต่อๆไปจะอยู่ในระดับ 2-3% ในปี 2573 หรืออีก 5 ปีเศรษฐกิจไทยจะรั้งท้ายในอาเซียนการเมืองไม่ว่าใครจะชนะในวันนี้ ประเทศไทยก็พ่ายแพ้อยู่ดี.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม