การขับเคลื่อนงานการเมือง บทจะยากก็แสนยาก บทจะง่ายก็แสนง่าย อย่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางให้มี ส.ส.ร.มาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตลอดหลายปีที่ผ่านมามีหลายพรรคการเมืองผลักดันเสนอต่อรัฐสภา ปรากฏว่าติดล็อกหลายชั้นไม่คืบหน้าไปไหนเลย แต่พอพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทยตกลงทำ MOA ร่วมกัน ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ผ่านวาระแรกอย่างง่ายดาย สว.ที่เคยเป็นด่านยาก คราวนี้กลับพลิกท่าทีหันมาสนับสนุนเทคะแนนโหวตให้เกินครึ่งที่เหนือความคาดหมายคือ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาชนได้เป็น ร่างหลัก ของการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการ ปาดหน้าร่างของพรรคภูมิใจไทยอย่างฉิวเฉียด สาเหตุมาจากการชิงเหลี่ยมในสภา สว.ลงคะแนนเห็นชอบร่างของพรรคเพื่อไทยไม่ถึง 1 ใน 3 ร่างของพรรคเพื่อไทยจึงตกไป ทำให้ สส.พรรคเพื่อไทยหันมาเทคะแนนหนุนร่างของพรรคประชาชนเป็นร่างหลักในบรรดาร่างทั้ง 3 ฉบับ สูตร ส.ส.ร.ของพรรคประชาชนยึดโยงกับประชาชนมากที่สุด แต่รูปแบบค่อนข้างซับซ้อน สื่อสารให้ชาวบ้านเข้าใจยาก และมีความเสี่ยงถูกยื่นตีความว่าขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ห้ามผู้ร่างรัฐธรรมนูญมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนส่วนร่างของพรรคภูมิใจไทย แม้มั่นใจได้ว่าไม่ขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ แต่มีความยึดโยงกับประชาชนน้อยเหลือเกิน และง่ายต่อการบล็อกโหวตเลือก ส.ส.ร. ขณะที่ร่างของพรรคเพื่อไทย ถือว่าเดินทางสายกลางเปิดให้ประชาชนเลือกตั้ง ส.ส.ร.โดยอ้อมวันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมาธิการนัดแรก เพื่อเลือกตำแหน่งต่างๆ และวางกรอบเวลาการทำงาน จากนั้นจะลงรายละเอียดปรับปรุงเนื้อหาให้ลงตัวที่สุด กรรมาธิการแต่ละคนเชี่ยวชาญช่ำชองอยู่แล้ว ถ้าหยุดพักช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมือง รวมพลังทำเพื่อชาติสักครั้งย่อมจัดร่างที่สมบูรณ์ออกมาได้ทันไทม์ไลน์ช่วงเวลาดีที่สุดคือ ลงมติวาระ 2-3 ประมาณกลางเดือน ธ.ค. จะได้มีเวลาทำความเข้าใจกับประชาชน เพื่อลงประชามติทีเดียว 2 คำถาม (1.เห็นชอบการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ 2.เห็นชอบรูปแบบกระบวนการตามร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่) พร้อมกับการเลือกตั้งใหม่ที่ตั้งตุ๊กตาไว้วันที่ 29 มี.ค.69ที่น่าเป็นห่วงคืออุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เปิดสภาสมัยหน้าพรรคเพื่อไทยอาจยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล ซึ่งรัฐบาลเสียงข้างน้อยโหวตสู้ไม่ได้อยู่แล้ว ถ้านายกฯหนูชิงยุบสภาหนีซะก่อน ประชามติแก้รัฐธรรมนูญก็จะไม่ได้ถามสักข้อผมถึงอยากให้ทุกพรรคการเมืองและ สว.ประนีประนอมต่อกัน ร่วมแก้รัฐธรรมนูญเปิดประตูตั้ง ส.ส.ร.ให้เรียบร้อยก่อน ที่เดินหน้าร่วมกันมาจนผ่านวาระแรกถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดีแล้วเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดใน MOA ที่พรรคประชาชนคิดขึ้นมา ไม่มีจังหวะไหนดีเท่านี้อีกแล้วที่จะทำให้พรรคภูมิใจไทยกับ สว.สีน้ำเงินยอมสนับสนุนโดยไม่บิดพลิ้ว ส่วนประเด็นยุบสภาเป็นเรื่องรอง เพราะถ้าต้องการแค่ยุบสภา พรรคประชาชนคงจับมือกับพรรคเพื่อไทยซึ่งยื่นข้อเสนอยุบสภาทันทีไปแล้วเคยมีกระแสข่าวลือดีลลับ พรรคภูมิใจไทยให้พรรคประชาชนส่งคนมาเป็นรัฐมนตรี 8 คน พร้อมช่วยเคลียร์คดี 44 สส.เสนอแก้มาตรา 112 ถึงวันนี้ความจริงปรากฏชัดว่าไม่มีรัฐมนตรีในโควตาพรรคประชาชนเลย ส่วนคดี 44 สส.งวดเข้ามาทุกขณะ ป.ป.ช.จะชี้มูลภายในสิ้นปีนี้เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ทุกอย่าง ถ้าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านวาระ 3 ตั้ง ส.ส.ร.ได้จริง ก็ต้องถือว่า MOA ของพรรคสีส้มคุ้มค่า.ลมกรดคลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม