ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ ขุมนรกแห่งกัมพูชากำลังถูกรุมทะลวง เพราะการแสวงหาลาภที่ไม่ควรได้จนฉาวไปทั่วโลกสหรัฐฯ อังกฤษ เกาหลีใต้ เปิดฉากรุมสกรัมธุรกิจหลอกลวง “สแกมเมอร์” ที่มี “ฮุน เซน” เป็นโต้โผใหญ่ลูกน้องคนสนิทมือทำงานถูกรัฐบาลสหรัฐฯสั่งยึดทรัพย์มูลค่านับแสนล้าน ซึ่งเป็นเม็ดเงินก้อนใหญ่ที่สุดที่เคยทำมาธุรกิจผิดกฎหมายที่กัมพูชานั้น ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แต่ทุกประเทศสามารถที่จะถูกหลอกลวงได้ทั้งนั้นถือว่าเป็นอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่อันตรายที่สุดพูดง่ายๆว่า “กาสิโน” นั้นแค่จิ๊บๆ แต่คอลเซ็นเตอร์ลักษณะนี้ทำเงินมหาศาลและขยายวงไปได้ทั่วโลกไม่ว่าจะอยู่ไหนแห่งใดขอเพียงแค่ใช้ “มือถือ” ติดต่อได้ก็เรียบร้อยจึงไม่แปลกที่ตระกูล “ฮุน เซน” จึงร่ำรวยมหาศาล ทั้งๆที่ไม่มีกิจการอะไรเป็นเนื้อเป็นหนัง นอกจากหากินกับธุรกิจสีเทา โดยใช้คนสีเทาดำเนินการ“กาสิโน” นั้นเป็นเพียงแค่ม่านบังตาเท่านั้นแรงกดดันจาก 3 ประเทศที่เอาจริง เอาจังดังที่ปรากฏ คงทำให้ “ฮุน เซน” สะท้านอย่างแน่นอน นอกจากธุรกิจสีเทาจะถูกไล่บี้แล้วรายได้ที่เคยเป็นกอบเป็นกำก็คงต้องหายไปด้วยนั่นเท่ากับว่ากำลังจนตรอกเข้าไปทุกที!รอดูว่าจะรักษาอำนาจต่อไปได้นานแค่ไหนว่าไปแล้วการที่เปิดศึกกับไทยนั้นได้ไม่คุ้มเสียแน่ เพราะไม่ใช่แค่การสู้รบตบมือกันเท่านั้น แต่ต้องสูญเสียรายได้มหาศาลเกียรติภูมิของประเทศก็ยับเยินไปด้วยจากนี้คงไม่มีประเทศไหนเขาคบด้วย“ไทย” แม้จะต้องทนรำคาญกับเพื่อนบ้านคิดร้ายอย่างนี้ อีกด้านหนึ่งก็สามารถแก้ไขปัญหาการถูกหลอกลวงไปได้ระดับหนึ่งได้ความยอมรับนับถือจากนานาชาติในความอดทนและสุจริตแต่ที่ยังมีปัญหาค้างคาใจก็คือ นัก การเมืองไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มสแกมเมอร์เหล่านี้หรือไม่ เนื่องจากมีผลประโยชน์มหาศาลสามารถเอาไปทุ่มใช้ในการเลือกตั้งสร้างพรรคให้ใหญ่โตได้จากนั้นก็จะมีอำนาจคุมประเทศได้!ประเด็นที่เป็นเงื่อนปมก็คือการที่ “รังสิมันต์ โรม” สส.พรรคประชาชน ได้นำข้อมูลมาเปิดเผยพร้อมภาพการสนทนาระหว่าง “ทักษิณ ชินวัตร”–“เบน สมิท”– “ธรรมนัส พรหมเผ่า”“เบน สมิท” นั้นแนบแน่นกับ “ฮุน เซน” และเกี่ยวข้องกลุ่มธุรกิจสแกมเมอร์“รังสิมันต์ โรม” ถามว่า รัฐมนตรีที่อยู่ในวงสนทนานั้นมีส่วนได้เสียด้วยหรือไม่“รัฐมนตรี” คนดังคำรามใส่ว่าจะฟ้องร้อง เพราะทำให้เขาเสียหายแต่ก็ไม่ได้ฟ้อง!เรื่องนี้ก็เลยกลายเป็นข่าวฮือฮาชวนให้ติดตามยิ่งนักพรรคประชาชนจึงนำประเด็นนี้มาเคลื่อนไหวต่อด้วยการตั้งคำถามนายก รัฐมนตรี “อนุทิน ชาญวีรกูล” ว่าทำไมไม่สอบสวนเรื่องนี้เพื่อหาข้อเท็จจริงมิฉะนั้น รัฐบาลจะเกิดความเสียหาย“อนุทิน” ก็หลบฉากไปมา กระทั่งต้องตั้งคณะทำงานเพื่อจัดการกับธุรกิจสแกมเมอร์ โดยรับเป็นประธานเองพร้อมกับคำถามที่ว่า นายกรัฐมนตรีปกป้องรัฐมนตรีหรือไม่?เพราะดูไม่เอาจริงเอาจังหรือเหมือนไม่กล้าเข้าไปแตะต้อง“รังสิมันต์ โรม” เกาะให้ติดเรื่องนี้ เพราะต้องมีข้อมูลลึกๆอีกมากดูสิว่าจะมีนักการเมืองเข้าไปหาประโยชน์ด้วยหรือไม่!ลิขิต จงสกุลคลิกอ่านคอลัมน์ “สับรางวันอาทิตย์” เพิ่มเติม