ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ รัฐบาล “หนู 1” ยังอยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน จึงยังไม่ค่อยมีอะไรปรากฏให้เห็นมากนักนอกจากการปัดกวาดบ้านให้เข้าที่เข้าทางดูสดใสน่ายลมากขึ้นเท่านั้นที่เห็นและเป็นอยู่ก็คือการแก้ปัญหาที่ค้างคาอยู่อย่างไทย–กัมพูชาก็มีเรื่องการสร้างรั้วที่ชายแดน ซึ่งที่ประชุม สมช.มีมติร่วมกันนอกจากนั้น “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี ก็เดินสายตรวจเยี่ยมชายแดนสุรินทร์ บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพื้นที่ปัญหานอกจากจะได้ใจชาวบ้านแล้ว ยังเป็นพื้นที่เป้าหมายเพื่อคะแนนเสียงเลือกตั้งนอกจากนั้นก็จะเป็นการแต่งตั้งบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อปฏิบัติหน้าที่และเป็นรางวัลตอบแทนที่พอจะเห็นหน้าเห็นหลังหน่อยก็คงเป็นเรื่องเศรษฐกิจที่ทีมเศรษฐกิจโดยรัฐมนตรี “คนนอก” ที่คัดคนมีฝีมือ จึงทำงานได้ทันทีไม่ต้องศึกษางานให้เสียเวลาเนื่องจากเป็นรัฐบาล “เฉพาะกิจ” ที่มีเวลาเพียงแค่ 4 เดือนก็ต้องยุบสภาอะไรทำได้เร็วก็ต้องจัดการให้แล้วเสร็จ!อย่างที่นายกรัฐมนตรีชอบพูดบ่อยๆว่า “สั่งงานวันนี้ ต้องเสร็จตั้งแต่เมื่อวานนี้”วันนี้ต้องยอมรับว่า “ภูมิใจไทย” ที่ “อนุทิน” เป็นหัวหน้าพรรค กำลังเนื้อหอม บรรดานักการเมืองบ้านเล็กบ้านใหญ่แห่เข้ามาสมทบกันเพียบก็ตีกินตามฟอร์มไม่ว่าจะเป็น สส.จากพลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติที่ทำให้หัวหน้าพรรคเหงาไปถนัดใจ“บิ๊กป้อม” หัวหน้าใหญ่ ต้องยอมขึ้นหิ้งให้ “ตรีนุช เทียนทอง” มาเป็นหัวหน้าพรรคแทนก็ไม่รู้ถึงวันยุบสภาแล้วจะอยู่ถึงหรือไม่ หรือเอาแค่เป็นพรรคที่มี สส.ไม่กี่คนเพื่อดำรงความเป็นพรรคอยู่เท่านั้นเพราะการเมืองในมิติใหม่ขอให้ได้ สส.คนเดียวก็อยู่ในเวทีได้ไม่ต่างไปจาก “รวมไทยสร้างชาติ” ที่เหลือหัวหน้าพรรคคนเดียว เพราะลูกพรรคโดดไปอยู่กับพรรคที่มีอนาคตมากกว่าเป็นอันว่าพรรคลุงทั้ง 2 พรรคถึงเวลาต้องลาจากเมื่อหมดภารกิจก็เป็นพรรคเฉพาะกิจให้คนอาศัยไปได้แค่นี้ก็ดีถมแล้วแต่พรรคการเมืองที่ผู้คนจับตามองว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรต่อ“ประชาธิปัตย์” พรรคการเมืองเก่าแก่ที่มีท่าทีว่าจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง หาก “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” จะกลับเข้าสู่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคเนื่องจากมีกองเชียร์คือคนเก่าที่ออกไปแล้วส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งยังรักษา พรรคเอาไว้กำลังรวมพลังครั้งใหญ่ เพื่อนำพรรคระดับ “สถาบัน” ให้มีชีวิตอีกครั้งพูดง่ายๆ ต้องการ “ชุบชีวิต” ก่อนที่จะหมดอนาคตจริงๆก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะเสียดายความเป็นพรรค และ “อุดมการณ์” ความเป็นฝ่ายค้านอีกพรรคหนึ่ง...ไม่พูดถึงไม่ได้!“เพื่อไทย” ภายใต้บารมี “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ติดคุกอยู่ ณ เวลานี้ แต่ก็ยังมีพลังภายในที่พยายามช่วยเหลือเพื่อให้ออกคุกเร็วที่สุดแต่เมื่อคนเปลี่ยนอำนาจก็เปลี่ยน จึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะทำเช่นนั้นประเด็นก็คือในยามที่ “เพื่อไทย” ตกต่ำอย่างนี้ จะทำอย่างไรให้ฟื้นตัวขึ้นมาให้ได้ก็คงไม่ง่ายเหมือนก่อนขนาดเจ้าของพรรคเองก็ยัง “โดน” นับประสาอะไร...การแต่งตั้งสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ จึงต้องวางแผนที่แยบยลและต้องสร้าง “ผู้นำ” คนใหม่ เพื่อกอบกู้พรรคให้ได้ถ้าทำไม่ได้ก็มี 2 ทางเลือก1.ปิดเกม “ชินวัตร” บนถนนการเมือง2.ยอมเป็นพรรคเล็กๆในสนามเท่านั้น! ลิขิติ จงสกุลคลิกอ่านคอลัมน์ “สับรางวันอาทิตย์” เพิ่มเติม