เริ่มนับถอยหลัง... อีก 4 เดือนจากนี้ไปคือ 120 วันตามเงื่อนไข คือ “ยุบสภา” เพื่อเลือกตั้งใหม่ นี่เป็นข้อตกลงที่เป็นฉันทามติรับรู้กันไปทั้งประเทศดูตามหน้าเสื่อแล้ว “อนุทิน ชาญวีรกูล” ในฐานะนายกรัฐมนตรีก็ยืนยันมาหลายรอบแล้วว่า “ไม่เบี้ยว” เด็ดขาดเพราะในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ต้องการสร้างศรัทธาเพื่อให้ประชาชนยอมรับ พูดอะไรตกลงอะไรไว้ก็ต้องให้เป็นไปตามนั้นแม้จะอยู่ในตำแหน่งแค่ชั่วคราวก็ตามเพราะไม่ได้มองแค่นายกรัฐมนตรี 4 เดือน แต่มองยาว ไปอีก 4 ปี เป็น 4+4 จึงต้องรักษาคำมั่นเพื่อให้ได้รับการยอมรับเป็น “วีรบุรุษการเมือง” ที่รักษาสัจจะที่ผ่านมาก็เห็นอยู่แล้วว่าไม่ว่าจะทำงานการเมืองหรืออะไรก็แล้วแต่จะต้องยึดมั่น จะอ้าง “เสียสัตย์เพื่อชาติ” ก็เห็นแล้วว่าบั้นปลายเป็นอย่างไร?เกิดความไม่ยอมรับในสังคมก็ไปไม่รอดแล้วสำคัญว่าเมื่อจำเป็นต้องทำตามสัญญาที่มีเวลาน้อยแค่ 4 เดือน แล้วจะทำอย่างไรให้มีผลงานเพื่อผลแห่งชัยชนะในการเลือกตั้งสิ่งหนึ่งที่เป็นตัวบอกเหตุหลังจากเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโพลได้สอบถามความเห็นประชาชนในด้านความนิยมปรากฏว่า “อนุทิน” คะแนนพุ่งทะยานขึ้นมาเป็นอันดับ 3อันดับ 1 ยังไม่มีผู้ใดเหมาะสมอันดับ 2 “เท้ง” แห่งพรรคประชาชนที่ยังรักษาความนิยมในระดับคงที่อันดับ 3 “อนุทิน ชาญวีรกูล”ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้จะอยู่ในอันดับเกือบท้ายๆ แต่ปัจจุบันกลับได้รับความนิยมสูงขึ้น อันเป็นปรากฏการณ์ใหม่ทางการเมืองถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีมีโอกาสต่ออายุไปอีก 4 ปีได้ก็อยู่ที่การวางตัว การหานักการเมืองมาสนับสนุนที่สำคัญคือนโยบายที่จะต้องซื้อใจผู้คนได้!รัฐมนตรีคลังประกาศ “ควิก บิ๊ก วิน” คือรวดเร็วและผลงานที่เข้าถึงประชาชนส่วนใหญ่ที่รัฐบาลจะดำเนินการก็ต้องรอดูรายละเอียดว่าจะมีอะไรบ้าง จะทำอะไรบ้างประเด็นหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้ก็คือแรงหนุนจากคนเมืองหลวงถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะไม่ว่าพรรคการเมืองไหนก็ตามถ้าคนกรุงเทพฯสนับสนุน พรรคนั้นย่อมไม่พลาดไม่ว่าประชาธิปัตย์ เพื่อไทย ประชาชน ต่างได้รับการสนับสนุนจากคนกรุงเทพฯจึงชนะเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 1“ภูมิใจไทย” และ “อนุทิน” นั้นไม่ต่างไปจากพรรคบ้านนอกที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าใด การสำรวจความนิยมที่ผ่านมาอยู่รั้งท้ายตลอดวันนี้กำลังจะกลายมาเป็นขวัญใจคนเมืองหลวงจะทำอย่างไรจึงเป็นเรื่องที่ต้องคิดและวางแผน แน่นอนด้วยตัวตนของ “เสี่ยหนู” นั้นเริ่มได้รับการยอมรับมากขึ้นทีมเศรษฐกิจที่ได้คนเก่งคนที่ผู้คนยอมรับก็ได้อีกส่วนหนึ่งเหลือก็เพียงนโยบายที่เป็นรูปธรรมเข้าถึงใจได้หรือไม่... เท่านั้น!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม