ข่าวในสำนักข่าวออนไลน์หลายๆสำนักรายงานตรงกันว่า “ท่องเที่ยวเวียดนาม” ขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งอาเซียนแล้ว เมื่อนักท่องเที่ยวจีนหันมาเปลี่ยนจุดหมายปลายทางเข้าเที่ยวเวียดนามพุ่งพรวด แซงทั้งไทยและมาเลเซียได้อย่างเหลือเชื่อในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาของปี 2568สำนักข่าว บลูมเบิร์ก อ้างอิงข้อมูลจากรัฐบาลจีน ระบุตัวเลขนักท่องเที่ยวจีน ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายน หรือครึ่งปี 2568 มีนักท่องเที่ยวจีนไป เวียดนาม สูงสุดในอาเซียน 2.7 ล้านคน ไทย รองลงมา 2.3 ล้านคน และ มาเลเซีย รวมแล้ว 2.2 ล้านคนเป็นอันดับสามทำให้ประเทศไทยที่เคยเป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวจีน ในกลุ่มประเทศอาเซียน ต้องร่วงหล่นลงมาเป็นที่ 2 ในครึ่งแรกของปีนี้ และอาจจะตลอดปีนี้ด้วยซํ้าในส่วนของนักท่องเที่ยวรวมกันทั้งหมดนั้น บลูมเบิร์ก ระบุว่านับถึงสิ้นเดือนสิงหาคม มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้าเที่ยวเวียดนามเกือบ 14 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 44 เปอร์เซ็นต์ และกลุ่มที่เพิ่มมากสุดก็คือจีนนี่เองนอกจากนี้นักวิเคราะห์บางสำนักยังพบด้วยว่าจากยอดนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นสามารถขับเคลื่อนยอดค้าปลีกของเวียดนามให้พุ่งสูงขึ้นถึง 51% และยังคาดการณ์ล่วงหน้าว่าปีนี้ทั้งปีเวียดนามจะดึงนักท่องเที่ยวได้ถึง 22.6 ล้านคน ซึ่งจะทำลายสถิติสูงสุดเดิมในปี 2561 ที่เวียดนามเคยมีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศถึง 18 ล้านคนผมอ่านตัวเลขและรายงานเหล่านี้แล้วแม้จะรู้สึกใจหายอยู่บ้างที่ดูเผินๆเหมือนกับว่าเราแพ้เวียดนามไปแล้วในเรื่องยอดนักท่องเที่ยวทั้งหมด...แต่พอเห็นตัวเลขรวมที่เขาคาดว่าเวียดนามปีนี้จะได้นักท่องเที่ยวรวมกัน 22.6 ล้านคน เป็นสถิติสูงสุด...ก็รู้สึกผ่อนคลายหรือคลายใจลงไปมากเพราะถ้าทั้งปีเวียดนามทำตัวเลขได้ 22.6 ล้านคนจริงๆละก็น่าจะยังแพ้เราอยู่พอสมควรเพราะจากตัวเลขล่าสุดที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของเราแถลงไว้...ณ วันที่ 14 กันยายนประเทศไทยเราก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวรวมกัน 22,953,136 คน หรือ 22 ล้าน 9 แสนกว่าคน มากกว่าตัวเลขทั้งปีของเวียดนามที่คาดไว้ด้วยซ้ำไปที่เราแพ้เขาจริงๆก็เห็นจะเป็นนักท่องเที่ยวจีนเท่านั้นเอง...ซึ่งก็สืบเนื่องมาจากข่าวร้ายทั้งที่ปล่อยออกมา และที่เกิดขึ้นจริงๆโดยกลุ่มคนจีนสีเทานั่นเอง...มีการล่อลวงคนดังจีนที่มาเมืองไทยแล้วส่งไปทำงานสีเทาที่ประเทศเพื่อนบ้านดังที่ทราบกันอยู่แล้วแต่ก็ต้องขอบคุณบทวิเคราะห์ต่างๆที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเครื่องบ่งชี้หรือข้อเตือนใจให้เราระมัดระวังตัว และทบทวนที่จะแก้ปัญหา เพื่อต่อสู้ช่วงชิงนักท่องเที่ยวจีน (ที่มีคุณภาพ) ให้กลับคืนมาอีกครั้งขณะเดียวกันก็ต้องขอชื่นชม และให้กำลังใจกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่ตระหนักในปัญหาและพยายามแก้เกม โดยการบุกเบิกทำตลาดในจีนอย่างหนักตลอดระยะเวลา 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้ขอให้เดินหน้าต่อไปอย่าท้อถอยนะครับ ผมมั่นใจว่าเมื่อความจริงเริ่มเป็นที่ประจักษ์ และความวิตกกังวลต่างๆเริ่มคลี่คลาย นักท่องเที่ยวจีนจะหันกลับมาเที่ยวประเทศไทยต่อไปตามเดิมเราตระหนักดีว่า แม้นับมาถึงเดือนนี้ (กันยายน) นักท่องเที่ยวโดยรวมของเราจะเกิน 22 ล้านคนไปแล้ว แต่ก็ลดจากระยะเดียวกัน เมื่อปีกลายถึง 7.11 เปอร์เซ็นต์การรู้ตัวและไม่ประมาทจะนำมาสู่การแก้ไขปัญหาดังที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และ ททท. ของเราดำเนินการอยู่อย่างขมักเขม้นฝากนายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล และรัฐมนตรีการท่องเที่ยวฯ คนใหม่ไว้ด้วยก็แล้วกันว่านี่คืองาน “เร่งด่วน” ที่จะต้องทำให้สำเร็จใน 4 เดือนนี้---ธุรกิจท่องเที่ยวไทยโดยรวมต้องไม่แพ้เวียดนาม!“ซูม”คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม