“มาริษ” หารือรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น ขอใช้กลไกอนุสัญญาออตตาวาไต่สวนการกระทำของกัมพูชา พร้อมกดดันให้เก็บทุ่นระเบิด ส่วนที่กัมพูชาส่งจดหมายร้องเรียนประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และเลขาธิการสหประชาชาติ ยืนยันกัมพูชาไม่มีหลักฐานกล่าวหาไทย ภูมิธรรมยันรัฐบาลพร้อมหนุนงบฯปกป้องอธิปไตยไทย จัดงบกลางช่วยกองทัพภาคที่ 2 เต็มที่ ใช้วิธีพิเศษพิจารณาจัดหายุทโธปกรณ์ให้ได้ ด้านกองทัพภาคที่ 2 ขอบคุณประชาชนแสดงพลังสามัคคีร่วมส่งลวดหนามหีบเพลง ก่อนปิดรับการบริจาค ศบ.ทก.เตรียมนำผู้ช่วยทูตทหารลงพื้นที่อุบลราชธานีสังเกตการณ์ผลกระทบ คณะเจ้าหน้าที่จากสำนักงานภูมิภาค คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) ดูปั๊มน้ำมันที่โดนระเบิดกัมพูชาและผลกระทบที่ จ.ศรีสะเกษ ทหารพรานคนกล้าอาการดีขึ้นแล้ว หลังมีกำลังใจดีเยี่ยม เผยนาทีเท้าเหยียบระเบิดเต็มตีนกัมพูชายังคงมีพฤติกรรมยั่วยุบิดเบือนข้อเท็จจริง สร้างข่าวเท็จหลอกลวงชาวโลกตลอดมา นับแต่เปิดการสู้รบกับไทย ล่าสุดเล่นละครฉากใหญ่ พาทูตทหารหลายประเทศไปดูลูกระเบิดขึ้นสนิม อ้างว่าไทยใช้เครื่องบิน F-16 ยิงระเบิดใส่หมู่บ้านแต่ไม่ระเบิด เป็นการปั้นข่าวเท็จสร้างภาพลบให้ไทย หนำซ้ำยังมีพฤติกรรมฝ่าฝืนข้อตกลงหยุดยิงที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 7 ส.ค. ทั้งยังลอบมาฝังทุุ่นระเบิดในเขตฝั่งไทย โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ทำให้ทหารพรานไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดอีก 1 นาย ขณะกำลังออกลาดตระเวน เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ใช้กลไกออตตาวากดดันเก็บทุ่นระเบิดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 13 ส.ค. นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินการภายหลังกำลังพลกองร้อยทหารพรานที่ 2610 รวม 7 นาย ที่ลาดตระเวนในพื้นที่ช่องจุ๊บตาโมก จ.สุรินทร์ เหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลบาดเจ็บขาขาดไป 1 นาย เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ซึ่งละเมิดพันธกรณีตามอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (อนุสัญญาออตตาวา) ว่า ได้โทรศัพท์หารือกับ รมต.ต่างประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ซึ่งญี่ปุ่นจะเป็นประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาในเดือน ธ.ค. เพื่อขอใช้กลไกอนุสัญญาออตตาวาไต่สวนการกระทำของกัมพูชา วันที่ 15 ส.ค. จะมีการพูดคุยกับประเทศผู้บริจาคในกรอบอนุสัญญาออตตาวา เพื่อให้เห็นการดำเนินการของกัมพูชา โดยเฉพาะในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชาหรือ GBC ซึ่งไทยเสนอเรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิดแต่กัมพูชากลับปฏิเสธและยังได้โทรศัพท์พูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ ขอให้ใช้กลไกอาเซียน กดดันให้กัมพูชาร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ช่วงที่ไปเยือนนครนิวยอร์ก สหรัฐ อเมริกาได้พบเลขาธิการสหประชาชาติและรัฐมนตรีญี่ปุ่นแล้ว ได้ประท้วงท่าทีความไม่จริงใจของกัมพูชาต่อทั้ง 2 บุคคล และในโอกาสต่างๆเสมอมาลั่นกัมพูชาไม่มีหลักฐานกล่าวหาไทยเมื่อถามถึงกรณี รมว.ต่างประเทศกัมพูชา ส่งจดหมายร้องเรียนต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือ UNSC และเลขาธิการ UN เมื่อวันที่ 11 ส.ค. กล่าวหาฝ่ายไทยละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา รวมถึงกฎหมายระหว่างประเทศ ข้อตกลงทวิภาคี และเงื่อนไขของการหยุดยิงที่ตกลงกันไว้อย่างต่อเนื่อง นายมาริษกล่าวว่า ที่ผ่านมา กัมพูชาไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด แต่ฝ่ายไทยมีข้อมูลชัดเจน เกี่ยวกับการยั่วยุ ของกัมพูชา และการวางทุ่นระเบิด ที่สุด UNSC ก็ไม่ได้มีการประชุมเรื่องนี้อีกครั้งแต่อย่างใด“ภูมิธรรม” ชี้ทหารมีสิทธิป้องกันตัวเองที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดขาขาดอีก 1 นาย เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ว่า ขอแสดงความเสียใจต่อนายทหารที่บาดเจ็บ ส่วนที่มีทหารระบุหลังจากเกิดกรณีนี้ ต้องมีการปกป้องตนเองนั้น ตามสนธิสัญญาและกฎหมายระหว่างประเทศสามารถทำได้ ถ้าคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่กระทบ เป็นปัญหาที่ผิดอนุสัญญาต่างๆ โดยเฉพาะการใช้กับระเบิด ซึ่งผิดอนุสัญญาออตตาวาอยู่แล้ว เตรียมพร้อมจะยื่นอยู่แล้ว เพราะเห็นได้ชัดว่ากัมพูชาไม่ได้มีเจตนาที่จะให้เกิดสันติภาพ ส่วนที่ประชาชนเกิดความไม่มั่นใจ เริ่มอพยพออกจากบ้านเรือนอีกระลอก เพราะหวั่นเกิดการสู้รบอีก โดยเฉพาะที่ จ.ศรีสะเกษ และ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ รู้สึกเห็นใจประชาชนที่ยังมีความหวาดระแวงยัน รบ.พร้อมหนุนงบฯป้องอธิปไตยเมื่อถามถึงกรณีกองทัพภาคที่ 2 โพสต์ขอรับการสนับสนุนลวดหนามหีบเพลง นายภูมิธรรมกล่าวว่า อะไรที่ขาดหรือจำเป็นขณะนี้ ให้รีบทำเรื่องเสนอขึ้นมา รัฐบาลจะให้งบฯกลางช่วยเต็มที่ เรื่องเหล่านี้หากเสนอขึ้นมาอนุมัติหมด จริงๆยังไม่จำเป็นไปถึงขนาดขึ้นเพจเฟซบุ๊กขอให้ประชาชนช่วย จะทำให้เกิดความไม่เข้าใจ รัฐบาลไม่มีอะไรขัดขวาง อยากจะเรียน มทภ.2 ได้ทราบ ถ้าขาดจริงๆบอกมา เรามีงบฯให้อยู่แล้ว ตรงไหนขาดบอกมาจะใช้วิธีพิเศษพิจารณาให้ ยืนยันขณะนี้อะไรเป็นเรื่องที่สร้างความเข้มแข็งให้กับกำลังพลรักษาอธิปไตยประเทศ รัฐบาลนี้ไม่ขัดข้องได้เปิดงบฯกลางให้ได้ใช้อยู่แล้วลั่นฟ้องแน่นักวิจารณ์พูดพล่อยๆนายภูมิธรรมยังกล่าวว่า ส่วนที่มีนักวิจารณ์การเมืองบางคนพูดว่าให้ตัดขาตน จะได้รู้ว่าหัวอกเป็นอย่างไร ทั้งหมดนี้ตนจะฟ้อง ตนเป็นคนที่ไม่เคยคิดจะฟ้องใคร แต่คิดว่าเรื่องนี้ต้องทำให้ประจักษ์ อย่าพูดอะไรพล่อยๆ ทำให้เกิดความแตกแยก ทำร้ายคนอื่น ต้องทำให้เป็นธรรม กำลังจะให้ทนายฟ้องทั้งหมดทบ.แจงปม “ภูมิธรรม” ขอให้เลิกรับบริจาคช่วงเที่ยง พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ขอให้กองทัพภาคที่ 2 หยุดรับบริจาคลวดหนามหีบเพลงจากประชาชน ให้มาขอกับรัฐบาล ว่า ยืนยันว่ารัฐบาลและกองทัพมีงบประมาณพอ แต่ติดขัดในกระบวนการจัดซื้อตามกฎหมายซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน หากไม่ปฏิบัติตามระเบียบ อาจทำให้ผู้จัดซื้อมีความผิด สถานการณ์ปัจจุบันจำเป็นต้องใช้ลวดหนามหีบเพลงทันที โดยเฉพาะ 4 จังหวัดชายแดน อุบลฯ-ศรีสะเกษ-สุรินทร์-บุรีรัมย์ จึงต้องขอรับการสนับสนุนจากประชาชน การจัดซื้อต้องเป็นไปตามระเบียบราชการ วิธีจัดหาใช้แบบพิเศษได้ แต่ก็ใช้เวลาเป็นเดือน ที่สำคัญลวดหีบเพลงสเปกที่ทหารใช้ ไม่มีในท้องตลาด ต้องสั่งผลิตจึงใช้เวลานานขึ้นไปอีก ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องของงบประมาณ งบฯมีเพียงพอ มีแค่เรื่องเวลาศบ.ทก.เตรียมนำผู้ช่วยทูตทหารลงอุบลฯที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 12.05 น. พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงผลการประชุม ศบ.ทก. ว่า สถานการณ์ทั่วไปบริเวณชายแดนที่ผ่านมาอยู่ในภาวะปกติไทยเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง การเสริมที่มั่นในพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดนฝ่ายกัมพูชายังอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ ที่ประชุม ศบ.ทก.หารือเรื่องการปฏิบัติของผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวของอาเซียน โดยการนำผู้ช่วยทูตทหารสมาชิกอาเซียน นำโดยผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารมาเลเซียประจำไทยลงพื้นที่เพื่อสังเกตการณ์ผลกระทบต่างๆ มีการประชุมคณะผู้ช่วยทูตต่างๆ กำหนดแผนงานการลงพื้นที่วันที่ 18-20 ส.ค. ที่ จ.อุบลราชธานีและพื้นที่ในส่วนกองทัพภาคที่ 2 ที่เกี่ยวข้อง เมื่อลงพื้นที่เสร็จเรียบร้อย วันที่จะสรุปผลการดำเนินการ ทบทวนแผนการปฏิบัติที่จะทำแผนการปฏิบัติต่อเนื่องในห้วงเวลาต่อไปยังพบกัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดพล.ร.ต.สุรสันต์กล่าวอีกว่า เรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิด พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบ.ทก. เร่งประสานเก็บกู้ แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับจากกัมพูชาเท่าที่ควร ล่าสุดได้เร่งขอให้ศูนย์อาเซียนเพื่อความร่วมมือด้านการปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรม (ARMAC) ที่ปัจจุบันผู้อำนวยการบริหารของศูนย์เป็นชาวกัมพูชา เราขอให้กัมพูชาและ ARMAC สนับสนุนการเก็บกู้ เนื่องจากยังพบทหารกัมพูชาลักลอบวางทุ่นระเบิดจำนวนมาก กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) หารือกับกัมพูชาและแจ้งมาว่าจะมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (อาร์บีซี) ในวันที่ 16 ส.ค. ที่ จ.ตราด ส่วนเรื่องการขอรับบริจาคลวดหนามให้หน่วยงานในพื้นที่ รัฐบาลกำลังเร่งรัดดำเนินการ ใช้งบส่วนกลางจัดหาลวดหนามอย่างเร่งด่วน ขอขอบคุณธารน้ำใจจากประชาชนทุกๆคนที่ช่วยจัดหาลวดหนามในช่วงเวลารีบเร่งแสดงออกถึงความรักความสามัคคี สนับสนุนการปกป้องอธิปไตยชาติประท้วงละเมิดอนุสัญญาออตตาวาด้านนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ที่ประชุม ศบ.ทก. หารือถึงกรณีทุ่นระเบิด ช่วงวันหยุดยาวเกิดเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดถึง 2 ครั้ง และ กต.ได้ออกแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรงที่สุด ต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชาเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย ขัดต่อหลักการพื้นฐาน ละเมิดพันธกรณี ภายใต้อนุสัญญาออตตาวาอย่างชัดเจน กต.มีหนังสือประท้วงฝ่ายกัมพูชาเรียกร้องให้รับผิดชอบ สำหรับเวทีระหว่างประเทศ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา มีหนังสือประท้วงถึงประธานที่ประชุมอนุสัญญาออตตาวาต่อเนื่อง ขณะที่เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ มีหนังสือถึงเลขาฯยูเอ็น เพื่อประท้วงอีกครั้ง วันที่ 15 ส.ค. กต.จะเชิญรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวารับฟังการบรรยายสรุปอธิบายข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ดังกล่าว เหตุการณ์ 2 ครั้งที่เกิดขึ้นล่าสุดสะท้อนถึงความไม่จริงใจของกัมพูชาในการแก้ไขปัญหาขัดต่อมาตรการหยุดยิงในการประชุมจีบีซี เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ไทยจะนำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวลงพื้นที่เร็วๆ นี้ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นชัดว่า กับระเบิดในพื้นที่ที่พบไม่ได้เป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ตามที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวอ้างมาโดยตลอด“จิรายุ” ซัดกัมพูชาโกหกไม่ได้วางระเบิดนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ในฐานะคณะกรรมการ ศบ.ทก. กล่าวถึงกรณีนายเพ็ญ โบนา โฆษกรัฐบาลกัมพูชา แถลงตอบโต้กรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ปฏิเสธกัมพูชาไม่เคยมีและวางทุ่นระเบิดใหม่และปฏิบัติตามอนุสัญญาออตตาวาอย่างเคร่งครัดว่า การที่รัฐบาลกัมพูชาออกมาโต้แย้งในประเด็นนี้ยิ่งทำให้เห็นถึงความไม่จริงใจและเป็นการโกหกรายวัน แล้วเมื่อวันที่ 7 ส.ค. ไทยยื่นข้อเสนอ 2 ข้อ คือ 1.การจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ค้ามนุษย์ 2.ให้มีการเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ทำไมไม่รับข้อเสนอ โดยเฉพาะข้อ 2 เห็นได้ชัดว่าขัดแย้งกับสิ่งที่รัฐบาลกัมพูชาพูดในวันนี้อย่างสิ้นเชิง เพราะถ้าตนเองไม่ได้เป็นผู้วางกับระเบิดเหตุใดจึงไม่รับข้อตกลงกต.เตรียมแจงทูตกว่า 50 ประเทศนายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่พลกองร้อยทหารพรานรวม 7 นาย ทำการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องจุ๊บตาโมก ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ว่า กระทรวงการต่างประเทศประท้วงไปยังฝั่งกัมพูชาและเร่งดำเนินการประท้วง ตามช่องทางทางการทูตที่เกี่ยวข้องแล้ว ในวันที่ 15 ส.ค. กระทรวงการต่างประเทศจะเชิญผู้แทนทางการทูตจากกว่า 50 ประเทศ ประกอบด้วยประเทศผู้บริจาคในกรอบอนุสัญญาออตตาวา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มารับฟังการบรรยายสรุปในเรื่องดังกล่าว จากนั้นวันที่ 16 ส.ค. รมว.ต่างประเทศจะนำคณะผู้แทนทางการทูตดังกล่าว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ให้รับทราบข้อเท็จจริงจากผู้ปฏิบัติในพื้นที่โดยตรงร้องกัมพูชาเลิกปิดหูปิดตาชาวกัมพูชาขณะที่นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า กรณีการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารของกัมพูชา ที่ผ่านมายังพบเห็นอย่างต่อเนื่องจากหน่วยงานภาครัฐและสื่อกัมพูชา ขัดต่อข้อตกลงการหยุดยิงของที่ประชุมจีบีซี ที่ให้งดเว้นการกระทำดังกล่าว เพื่อลดความตึง เครียดและความรู้สึกเชิงลบต่อสาธารณชน ส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเจรจาอย่างสันติ นอกจากนี้ยังปิดบังการเข้าถึงข้อมูลในช่องทางต่างๆของประชาชนกัมพูชา ที่หมายถึงสื่อหลักของไทยเกือบทั้งหมด เช่น การแถลงข่าวในวันนี้ก็ถูกบล็อก ปิดกั้นโดยรัฐบาลกัมพูชา สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลกัมพูชากำลังปิดหูปิดตาประชาชนไม่ให้รับฟังข้อมูลรอบด้าน ขอเรียกร้องให้กัมพูชาเปิดกว้างให้ประชาชนกัมพูชาเข้าถึงข้อมูลข่าวสารอย่างอิสระ ขอย้ำว่าประชาชนชาวกัมพูชาไม่ใช่ข้อขัดแย้งกับฝ่ายไทย แต่เป็นผู้ถูกจำกัดข้อมูลที่รอบด้านจากรัฐบาลกัมพูชากองทัพภาคที่ 2 ขอแสดงพลังสามัคคีขณะที่เมื่อวันที่ 13 ส.ค.เฟซบุ๊กเพจกองทัพภาคที่ 2 โพสต์ข้อความว่า กองทัพภาคที่ 2 ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อพี่น้องประชาชน เรื่องขอรับการสนับสนุนลวดหนามหีบเพลงที่มีความสำคัญยิ่งต่อการลดความเสี่ยงต่อชีวิตและความปลอดภัยของกำลังพลในพื้นที่ปฏิบัติการ รวมถึงเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันอธิปไตยของชาติ แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ปัจจุบันมีความต้องการลวดหนามหีบเพลงที่ใช้สูงกว่ากำลังการผลิตและจัดหากองทัพภาคที่ 2 จึงขอความร่วมมือจากภาคประชาชนที่ประสงค์จะสนับสนุน ได้ร่วมแสดงพลังความสามัคคี ส่งลวดหนามหีบเพลงไปยังฝ่ายกิจการพลเรือน กองกำลังสุรนารีโดยตรง เป็นลวดหนามหีบเพลงเส้นผ่าศูนย์ กลาง 100 ซม. แต่หาได้ยาก จึงใช้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 90 ซม. แทนได้ กองทัพภาคที่ 2 ขอขอบคุณทุกแรงสนับสนุนและความเข้าใจ ยืนยันว่าจะปฏิบัติภารกิจด้วยความมุ่งมั่นเต็มกำลัง เพื่อความปลอดภัยของประเทศชาติและความสงบสุขของประชาชนทุกคนจบลวดหนามปิดรับการสนับสนุนเวลา 13.10 น. เพจกองทัพภาคที่ 2 โพสต์ข้อความอีกว่า ขอแสดงความขอบคุณอย่างสูงต่อรัฐบาล หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน ประชาชนทุกภาคส่วน ที่ได้ให้การสนับสนุนลวดหนามหีบเพลงมายังกองทัพภาคที่ 2 อย่างต่อเนื่อง การสนับสนุนดังกล่าวมีส่วนสำคัญยิ่งต่อการเสริมสร้างความพร้อม ด้านการป้องกันพื้นที่และรักษาความมั่นคงของประเทศ ปัจจุบันกองทัพภาคที่ 2 ได้รับลวดหนามหีบเพลงเพียงพอต่อความต้องการใช้งานแล้วจึงขอปิดการรับการสนับสนุนลวดหนามหีบเพลง กองทัพภาคที่ 2 ขอขอบคุณทุกความร่วมมือและน้ำใจจากทุกภาคส่วนที่ร่วมกันสนับสนุนภารกิจปกป้องอธิปไตยของชาติ ขอให้ทุกท่านมั่นใจว่ากองทัพภาคที่ 2 จะใช้ทรัพยากรที่ได้รับอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อความปลอดภัยความมั่นคงของประเทศคณะ ICRC ดูผลกระทบศรีสะเกษที่ห้องประชุมกันทรลักษ์เรืองรอง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ช่วงเช้าวันที่ 13 ส.ค. นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่จากสำนักงานภูมิภาค คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (International Committee of the Red Cross: ICRC) นายอนุพงศ์ได้บรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ โดยเฉพาะผลกระทบจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชาให้คณะได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนที่เกิดขึ้น จากนั้นช่วงบ่ายคณะเจ้าหน้าที่ ICRC ลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บข้อมูลความเสียหาย และสอบถามข้อมูลจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง แล้วเดินทางไปยัง รพ.สต.ซำเม็ง และบ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบและได้รับความเสียหายมากที่สุดใน อ.กันทรลักษ์ มีกระสุนปืนตกใส่บ้านเรือนราษฎรมากถึง 190 หลังคาเรือนเก็บข้อมูลที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.เพิ่มเติมนอกจากนี้ คณะ ICRC ยังไปเยี่ยมผู้สูงอายุ เด็กและผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงที่ รพ.สต.บ้านภูมิซรอล แล้วเข้าเก็บข้อมูลเพิ่มเติมจากปั๊มน้ำมันปตท.บ้านน้ำเย็น ต.เมือง อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกยิงด้วยจรวด BM-21 ของฝ่ายกัมพูชา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวม 8 ศพ พูดคุยกับญาติผู้เสียชีวิตและเจ้าของปั๊มน้ำมัน รวบรวมข้อมูลเชิงลึกในการวางแนวทางช่วยเหลือและคุ้มครองตามหลักมนุษยธรรมสำหรับ ICRC เป็นองค์กรอิสระระหว่างประเทศ ที่ทำหน้าที่ด้านการอภิบาลและคุ้มครองตามหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ภายใต้อนุสัญญาเจนีวาทั้ง 4 ฉบับ (ค.ศ.1949) และพิธีสารเพิ่มเติมอีก 2 ฉบับ (ค.ศ.1977) โดยภารกิจสำคัญขององค์กร ได้แก่ การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ความขัดแย้ง การเยี่ยมเชลยศึก การติดตามผู้พลัดพรากจากครอบครัว และการคุ้มครองพลเรือนให้ได้รับสิทธิตามที่กฎหมายมนุษยธรรมกำหนดคนชายแดนอพยพผวาสู้รบอีกระลอกด้านบรรยากาศในพื้นที่ชายแดน จ.ศรีสะเกษ ตลอดคืนวันที่ 13 ส.ค. เต็มไปด้วยความวิตกกังวลของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะชาวบ้านตามแนวชายแดนบางส่วน ได้ขนย้ายทรัพย์สินพาครอบครัวเดินทางเข้ามาหลบภัยหาที่พักพิงภายในตัว อ.กันทรลักษ์ บางรายมาพักรถในปั้มน้ำมันที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมงหลังมีข่าวจะเกิดการปะทะขึ้นอีก แต่หากสถานการณ์สงบ ชาวบ้านบางส่วนมีแนวโน้มเดินทางกลับบ้าน บางส่วนไปพักอาศัยกับญาติในต่างอำเภอชั่วคราว ขณะที่บรรยากาศภายในตัวอำเภอกันทรลักษ์ โรงเรียนระดับประถมศึกษาบางแห่งเปิดการเรียนการสอนโรงเรียนระดับมัธยมได้ปรับรูปแบบการเรียนการสอนเป็นระบบออนไลน์ ส่วนราชการต่างๆเปิดตามปกติ สำนักงานอำเภอกันทรลักษ์เปิดให้บริการประชาชนด้านงานทะเบียนราษฎร การทำบัตรประจำตัวประชาชน มีประชาชนทยอยเข้ามารับบริการต่อเนื่องเผยนาทีเท้าเหยียบกับระเบิดเต็มตีนด้าน ส.อ.ธีรพลเผยถึงห้วงเวลาก่อนเหยียบกับระเบิดว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมพี่น้องทหารพราน พากันเดินลาดตระเวนเส้นทางเดิม เพราะไม่อยากให้พวกกัมพูชาขึ้นมาส่องดูพวกเรา และตนจะเดินนำหน้าเสมอ วันเกิดเหตุกำลังเดินลาดตระเวนและรู้สึกว่าเหยียบกับระเบิดจึงพูดขึ้นว่า “เต็มตีน” จากนั้นก็มีเสียงดังสนั่น ส่วนตัวเชื่อเสมอว่ากัมพูชาไม่เคยมีสัจจะใดๆทั้งนั้น และตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 13 ส.ค.ผู้คนจำนวนมากจากหลายอำเภอใน จ.สุรินทร์หลั่งไหลมาบริจาคเลือดกรุ๊ป AB ที่ รพ.สุรินทร์ ตลอดวันจน รพ.มีเลือดเพียงพอสำหรับช่วยทหารที่บาดเจ็บ เวลา 13.00 น. นายชำนาญ ชื่นตา ผวจ.สุรินทร์ พร้อมพลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อัญเชิญแจกันดอกไม้พระราชทาน มามอบให้ ส.อ.ธีรพลที่ รพ.สุรินทร์ เพื่อเป็นขวัญ กำลังใจแก่ทหารพรานผู้กล้า ที่เสียสละร่างกายเพื่อปกป้องแผ่นดินและอธิปไตยไทยเผา 2 ศพเหยื่อจรวด BM–21 ของกัมพูชาเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน ญาติของผู้เสียชีวิต 2 ศพจากเหตุทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ตกใส่พื้นที่หมู่บ้าน บ.โจรก ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 24 ก.ค. วันแรกของการสู้รบ มารับศพผู้เสียชีวิตที่ถูกเก็บไว้ที่ รพ.สุรินทร์ คือนายบัณฑิต อุ่นจิตร อายุ34ปี ด.ช.ธิติวัฒน์ บุญแต่ง หรือน้องน้ำโขง อายุ 8 ขวบ ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดประทุมเมฆ อ.เมืองสุรินทร์ มี จนท.แพทย์ พยาบาลและคณะผู้บริหาร รพ.สุรินทร์ ร่วมยืนส่งศพเป็นการให้เกียรติและไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต ในเวลา 16.00 น. นายชำนาญ ชื่นตา ผวจ.สุรินทร์ เป็นประธานวางพวงมาลาพระราชทานและพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ส่วนพิธีพระราชทานเพลิงศพมีขึ้นวันที่ 16 ส.ค.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่