ไม่ใช่สารเคมีอันตราย ไม่ใช่อาวุธร้ายแรง แต่พิษสงร้ายกาจยิ่งนัก ข่าวทีวีหลายช่องอ้างอิงข้อมูลจากเพจดัง “Army Military Force” ได้รับแจ้งจากทหารไทยที่ประจำการชายแดนกัมพูชา ขอรับบริจาค “หน้ากากอนามัย” หรือ “หน้ากากผ้า” สีดำหรือสีลายพราง พร้อมยาดม ยาลม ยาหม่อง สเปรย์สมุนไพรหอม เพื่อดับ “กลิ่นศพ” ทหารเขมรจำนวนมากที่เสียชีวิตจากการสู้รบ ถูกทิ้งให้ขึ้นอืด เน่าเหม็น โชยตลบอบอวลมาเตะจมูกทหารไทยสะอิดสะเอียน ชวนอาเจียน ถึงขั้นกินข้าวไม่ลงไปตามๆกันตามสภาพการณ์แนวรบหน้างานที่ประจานด้วยหลักฐานจะจะ กลิ่นเน่าเหม็นโชยข้ามชายแดน สะท้อนถึงสันดาน “พญาตะกวดเขมร” ที่ชื่อ “ฮุน เซน” ที่โหดเลวสุดขั้วแบบไร้คำบรรยายในพจนานุกรมไทยสัญชาตญาณโหดเหี้ยมของ “ผู้นำกองโจรเขมรแดง” ที่เห็นชีวิตคนเป็นผักปลา ชินชากับการสังหารหมู่คนชาติเดียวกันอย่างเลือดเย็น ณ จุดที่ตัวเองโพสต์อวดอ้างศักดา นั่งเฝ้าหน้าจอคอมพิวเตอร์ไม่หลับไม่นอน สั่งการเกมรบ 24 ชั่วโมง อยู่ในคฤหาสน์หรู ไม่ดูดำ ดูดีกับทหารที่ตายสังเวยลูกบ้าผู้นำระยำกองทัพไทยต้องเผชิญกับคน “หน้าด้าน” ที่น่ากลัวสุดในบรรดาคู่ต่อสู้ตามเงื่อนไขสถานการณ์แนวรบชายแดนไทย-กัมพูชา ยังละสายตาไม่ได้ ทหารไทยยังต้องตรึงกำลังเข้ม ประจันหน้ากองโจรชั่วของ “ฮุน เซน” พร้อมทำในสิ่งที่มนุษย์ธรรมดาคิดไม่ถึงได้ทุกวินาทีวิถีอันธพาลต้องช่วงชิงในสิ่งที่ยัง “ปล้นแผ่นดินไทย” ไม่สำเร็จฉากแนวรบชายแดนตะวันออกด้านอีสานยังเร้าดีกรีร้อน กระตุ้นเลือดรักชาติของสังคมไทย กระแสประชาชนเทใจให้ทหารปกป้องมาตุภูมิ มุ่งความมั่นคงใน “อธิปไตย” มาก่อนสิ่งอื่นใดตามรูปการณ์แบบที่สังเกตได้ อารมณ์ผู้คนส่วนใหญ่แทบไม่ได้ใส่ใจ หรือยินดียินร้ายกับ “ข่าวดี” ที่ทีมไทยแลนด์นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและ รมว.คลัง ตีปี๊บจดหมายจากทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกาแจ้งอัตรา “ด่านไถภาษี” ลดจาก 36 เปอร์เซ็นต์ มาอยู่ที่ร้อยละ 19 ตัวเลขเดียวกันเป๊ะ เท่ากันเลยกับคู่อาฆาต “กัมพูชา” ตามสถานการณ์มันก็ชัดเจน “คาวบอยซ่า” โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯจัดขนมให้เท่ากัน รางวัล “เด็กดี” ว่าง่าย สั่งให้หยุดยิงก็หยุดสงครามภาษีไปโยงเป็นคนละเรื่องเดียวกันกับการรบปะทะชิงดินแดนไทย–เขมรและก็เป็นฝ่ายไทยที่นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนตำแหน่งนายกฯ ถูกวิจารณ์อย่างหนัก ถือ “แต้มอ่อน” ไปเจรจาตกลงหยุดยิงอย่างไม่มีเงื่อนไขเสียท่าฝ่าย “ฮุน มาเนต” นายกฯตัวลูกเขมร เอาเงื่อนภาษีสหรัฐฯ “มัดคอ” กองทัพไทย บีบทหารในพื้นที่ชายแดน ต้องเสี่ยง “พลีชีพ” เพื่อเข้ายึดพื้นที่ปราสาทตาควาย ในนาทีเข้าด้ายเข้าเข็มก่อนเวลาหยุดยิงเที่ยงคืนวันที่ 28 กรกฎาคม 19 เปอร์เซ็นต์ แลกกับ 4 ศพทหารหาญ ไม่นับพวกที่ขาขาดพิการในสมรภูมิปราสาทตาควายและยังไม่รู้ด้วยซ้ำจะคุ้มค่าแค่ไหน ในสถานการณ์ที่ยังเห็นแค่ตัวเลขที่ “คาวบอยทรัมป์” ยื่นขนมเป็นรางวัลเด็กดี ว่าง่าย แต่ยังไม่รู้ไทยต้องแลกกับอะไรบ้างในการเปิดโปรโมชัน 0 เปอร์เซ็นต์ ลดภาษีนำเข้ากับสินค้าจากอเมริกาตามสภาพที่คนในฝั่งพรรคร่วมรัฐบาลยังไปกันคนละทางอย่างที่ “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ขาใหญ่พรรคกล้าธรรม ผู้คุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โชว์หล่อประกาศดังๆจะไม่ยอมให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูและคนปลูกพืชไร่ต้องเสียประโยชน์แลกกับการแก้ผ้าภาษีให้สหรัฐฯหนีไม่พ้นขัดแข้งขัดขากับกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์แน่ๆแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันก็ไม่ได้เลวร้ายซะทีเดียว ตามความเห็นแบบเป็นกลางของคนนอกอย่างนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ กัปตันทีมเศรษฐกิจทั้งรัฐบาลไทยรักไทยและรัฐบาล “ลุงตู่” มองทะลุปัญหาเศรษฐกิจ ผลกระทบภาษีต่อเกษตรกรแม้จะมาก แต่ก็พอมีทางแก้ไข ในบริบทที่ทุกประเทศอาเซียนเสียค่าต๋งเท่าๆกัน ไม่ได้เปรียบเสียเปรียบที่น่าห่วงจริงๆ คือคนที่น่าเชื่อถือของไทยที่จะมาคุมเกม ประคองดุลความสัมพันธ์กับทางการจีนแผ่นดินใหญ่ ให้มีความเชื่อมั่น มั่นใจไทย ในยามที่เราจำเป็นต้องอะลุ่มอล่วยกับเกมกดดันของผู้นำสหรัฐฯบีบอาเซียนเลือกข้าง ทั้งสิงคโปร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย แทงหวย “ทรัมป์” หมดแล้วฟังดูก็เหมือนจะไม่ยากเย็นอะไร เว้นแต่ในสภาพอำนาจการเมืองตกหล่ม รัฐบาลเพื่อไทยเจอวิกฤติศรัทธาอย่างหนัก ฝ่ายบริหารยี่ห้อ “ทักษิณ” ไร้ความเชื่อมั่นอย่างรุนแรงอย่าว่าแต่ต่างชาติ ในอารมณ์คนไทยก็ยังทั้งแค้นทั้งระแวงเกมลึก “2 ตระกูล”.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม