“อีสานแอมบาสเด้อ” คือชื่อกิจกรรมสัมพันธ์ ชาวอีสานพลัดถิ่นนับร้อยคน มารวมตัวที่พรรคประชาชน (ปชน.) สัปดาห์ก่อนอย่างคึกคัก ภายใต้บรรยากาศการพูดคุยสถานการณ์การเมืองกระบวน การสร้างพรรค การออกแบบบ้านเมืองในฝัน แลกเปลี่ยนมุมมองกับ สส.อีสานของพรรค ปชน. หลายเรื่องฟังแล้วควรต่อยอดทางความคิดเช่น เรื่องศักยภาพบนความท้าทาย ว่าด้วยนโยบายที่ชาวอีสานอยากเห็น และอยากให้เป็น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการจัดทำนโยบายสู่การเลือกตั้งครั้งต่อไปของค่ายส้ม นายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร รองหัวหน้าพรรค ปชน. ชวนตั้งคำถามดังๆ อีสานไม่ใช่ภาคที่จำต้องถูกสาปให้อยู่ภายใต้ความแห้งแล้ง อับจนไปตลอดกาลอีสานแบบใดที่อยากเห็น ได้คำตอบที่แบ่งกลุ่มระดมความคิดจนตกผลึก เป็นข้อเสนอ ภาคอีสานควรนำเทคโนโลยีพัฒนาด้านการเกษตรไปใช้ มีสวัสดิการลดความเหลื่อมล้ำ แก้ยาเสพติด กระจายอำนาจ พัฒนาการศึกษา สาธารณสุข ระบบขนส่งสาธารณะทั่วถึง เท่าเทียม จัดการน้ำ ทั้งน้ำเพื่อการเกษตร น้ำประปาดื่มได้พลังอีสานมุ่งสู่อนาคต รัฐบาลประชาชน นำไปสู่โจทย์ที่ว่า พรรค ปชน. จะเดินทางไปสู่จุดนั้นได้อย่างไร นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ บรรยายว่า นโยบายอีสานที่ผ่านมาของประเทศไทย เปรียบเสมือนเป็นการให้ยาแก้ปวดที่เห็นผลเร็ว เห็นผลชัด แต่เมื่อผ่านไปสักพัก คนไข้ก็กลับมาปวดใหม่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ตั้งพรรคสีส้ม นายปิยบุตรชี้ขายฝันระยะสั้นไม่พอ จะแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนต้องปฏิรูปโครงสร้าง ต้องชนกับกลุ่มอำนาจเดิม บ้านใหญ่ ระบบราชการ กลุ่มทุนขนาดใหญ่ พรรค ปชน. ไม่ต้องลุ้นเลยว่าจะได้ใบอนุญาตที่สอง จากชนชั้นนำ แต่ต้องเอาใบอนุญาตที่หนึ่งจากประชาชนมาให้ได้อย่างถล่มทลายเท่านั้นผู้คนและการเดินทาง เป็นโจทย์และความท้าทายที่พรรคประชาชนต้องเจอในวันข้างหน้า กุนซือค่ายส้มย้ำเตือนการไปสู่จุดหมาย ไม่สามารถเดินทางไปด้วยแกนนำ ผู้ปฏิบัติงาน และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของพรรคโดยลำพังได้ แต่มันคือการเดินทางร่วมกันของมวลชนไปสู่การสร้างประเทศไทยในฝันของประชาชนกิจกรรมสัมพันธ์นี้ พรรค ปชน. สืบสานทำกันมาต่อเนื่อง ตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของการมุ่งหน้าสู่การสร้างพรรคมวลชน ที่สมาชิกพรรคและผู้สนับสนุนมีส่วนร่วมไปสู่เป้าหมาย ด้อมส้มผลิบานให้เห็นเป็นตัวอย่างกันไปแล้ว พรรคการเมืองไหนจะเดินตามแนวทางนี้ พรรค ปชน.ก็คงไม่สงวนลิขสิทธิ์.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม