“เศรษฐา” ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ฮึดสู้แจงคดีคลิปเสียง บอกอย่ามองข้ามช็อตอุบัติเหตุ การเมือง ย้ำ พท.ยังมี “ชัยเกษม” เป็นแคนดิเดต นายกฯ โต้ “เสี่ยหนู” นักท่องเที่ยวหายห่วงความปลอดภัยไม่ใช่กาสิโน เพราะยังไม่เกิด กระตุกทีมไทยแลนด์หาช่องต่อรองสหรัฐฯรีดภาษี 20 เปอร์เซ็นต์เท่าเวียดนาม แนะเคลียร์ให้ชัดมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี “จตุพร” เตรียมซอฟต์โลนช่วยผู้ประกอบการ รับสนใจร่วมงานการเมืองพรรคโอกาสใหม่ “วิสุทธิ์” ห่วง รบ.เสียงปริ่มน้ำ โวยถ้า สส.มีวินัยก็ไปได้ ย้ำหนุนเปิดชื่อประจาน สส.โดดร่ม “โรม” เหน็บ พท.ปากบอกจะขจัดไฟขัดแย้ง แต่หนุนร่าง รทสช.เลือกปฏิบัติล้างผิด กปปส.ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.วัฒนธรรม อยู่ระหว่างถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกฯ จนเสถียรภาพรัฐบาลตกอยู่ในสภาพไม่แน่นอน ล่าสุดนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ที่ประสบอุบัติเหตุทางการเมืองพ้นจากตำแหน่งไปก่อนหน้า ออกมาให้กำลังใจ น.ส.แพทองธารให้ลุกขึ้นสู้“เศรษฐา” ให้กำลังใจ “อิ๊งค์” ฮึดสู้เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 10 ก.ค. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมแสดงวิสัยทัศน์หัวข้อ “Rethinking Thai Sports in Disruptive Era” ภายในงาน SPLASH-soft power forum 2025 ถึงเสถียรภาพทางการเมืองขณะนี้ พรรคเพื่อไทย (พท.) ยังจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้หรือไม่ว่า แน่นอนว่าการเมืองเป็นส่วนที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ความมั่นใจต่อนักลงทุนและความมั่นใจต่อประชาชนทั่วไป ต้องให้การเมืองมีเสถียรภาพ ขณะนี้ยังมีอีก 2-3 เรื่อง จะต้องเดินไปข้างหน้า เช่น คดีต่างๆที่จะทำให้คน wait and see (รอดู) เมื่อถามว่าได้ให้กำลังใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯและ รมว.วัฒนธรรม ที่เจอทั้งศึกนอกและศึกในอย่างไรบ้าง นายเศรษฐากล่าวว่า ได้พูดคุยและบอกให้ลุกขึ้นสู้ ท่านเองกำลังใจเต็มเปี่ยมอยู่แล้ว แล้วเชื่อว่าท่านสู้อยู่แล้วลั่น พท.ยังมีก๊อก 3 “ชัยเกษม”เมื่อถามว่าขณะนี้ น.ส.แพทองธารถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้น หลังจากนี้จะสร้างความเชื่อมั่นได้อย่างไรหากมีนายกฯคนต่อไปมาจากพรรค พท. นายเศรษฐากล่าวว่า อย่ามองข้ามช็อต ขณะนี้ปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมทำงานไปก่อน ขณะที่ น.ส.แพทองธารเตรียมข้อชี้แจง แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย (พท.) ยังมีนายชัยเกษม นิติสิริ เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับนายชัยเกษมบ้างหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่ได้พูดคุย แต่ครั้งล่าสุดที่เจอคือในที่ประชุมพรรค พท. แค่ทักทายสวัสดี แต่ท่านยังดูแข็งแรงและสดชื่นดี เมื่อถามถึงกรณีปรากฏภาพนายชัยเกษมออกมาตีกอล์ฟ นาย เศรษฐากล่าวว่า นายชัยเกษมตีกอล์ฟอยู่เป็นประจำ และตีเก่งอยู่แล้ว แต่ที่มีปรากฏภาพ เพราะมีคนนำภาพไปโพสต์สวน “อนุทิน” กาสิโนยังไม่เกิดเมื่อถามถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ที่นักท่องเที่ยวจีนหาย เป็นเพราะรัฐบาลจะเดินหน้าเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีกาสิโนรวมอยู่ด้วย นายเศรษฐากล่าวว่า มันไม่ใช่ จริงๆแล้วกาสิโนยังไม่เกิด นักท่องเที่ยวจะเป็นห่วงเรื่องนี้ได้อย่างไร น.ส.แพทองธารตอบชัดเจนแล้ว เป็นเรื่องของความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัย เป็นเรื่องของรัฐบาลที่ต้องมีความเข้มในเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น ขณะที่เมื่อ 3 วันก่อน น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.ไปลงพื้นที่สุขุมวิทดูแลเรื่องนี้ น่าจะทำเป็นสุขุมวิทโมเดล จะมีการจัดระเบียบแผงลอย สินค้าที่ไม่ถูกต้อง ไม่ว่าเซ็กซ์ทอย ยาเสพติด กัญชา เรื่องเหล่านี้เป็น เรื่องนักท่องเที่ยวเฝ้าดูอยู่ โมเดลนี้จะกระจายไปอีกหลายพื้นที่ เช่น ประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ ที่ถนนบางรา ป่าตอง จ.ภูเก็ต รวมถึงเยาวราชด้วย เพราะความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยว เมื่อถามถึงกรณีที่มีการเตรียมแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายเศรษฐาส่ายหัว พร้อมกล่าวสั้นๆว่า ไม่ทราบ“วิสุทธิ์” รับเสียงปริ่มน้ำถ้ามีวินัยไปได้นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล ประธาน สส.พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคฝ่ายค้านมองว่า การที่รัฐบาลถอนร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ออกจากการพิจารณาของสภาฯ เนื่องจากกลัวเสียงไม่เพียงพอว่า เป็นเรื่องที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าเสียงเราพอ หากรัฐมนตรีที่เป็น สส. รวมถึง สส.รัฐบาลทั้งหมดมาประชุม เสียงเราเพียงพออยู่แล้ว ยอมรับว่าเสียงฝ่ายรัฐบาลปริ่มน้ำ แต่หากรัฐมนตรีที่เป็น สส. รวมถึง สส.รัฐบาลทั้งหมดมาร่วมประชุม อย่างไรก็โหวตกฎหมายผ่าน แม้จะผ่าน 10 หรือ 20 เสียงถือว่าผ่าน ไม่เป็นอะไร เมื่อถามว่า ขณะนี้มีอะไรน่าเป็นห่วงหรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ยังห่วงอยู่ จะบอกว่าไม่เป็นห่วงไม่ได้ แต่หากทุกคนมีความรับผิดชอบ มีวินัยในตัวเอง สส.ทุกคนมาทำหน้าที่ในสภาฯ ก็ไม่น่าเป็นห่วงอะไรย้ำขอเปิดชื่อประณาม สส.โดดร่มนายวิสุทธิ์กล่าวต่อว่า เหมือนที่เคยพูดไปหากวันไหนที่องค์ประชุมสภาฯล่ม ขอให้มีการเปิดชื่อ สส.คนไหนบ้างที่โดดประชุมสภา ประชาชนจะได้รู้ว่าแค่สัปดาห์ละ 2 วันมาทำงานไม่ได้ ต่อไปอย่าเป็นเลย เมื่อถามว่าหากเปิดชื่อจะมีปัญหาในการทำงานร่วมกับเพื่อนสมาชิกคนอื่นหรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ไม่สนใจ จะเปิดชื่อให้ทุกคนได้ตรวจสอบ ประชาชนจะได้ทราบ รวมถึงสื่อมวลชนอยากทราบว่าใครบ้างที่โดดประชุมสภาฯ ไม่ว่าจะเป็น สส.หรือรัฐมนตรี อยู่กันเช่นนี้ อยู่ได้ ไม่เป็นอะไร และขอประชาชนอย่าเชิญ สส.ไปร่วมงานในวันพุธหรือวันพฤหัสบดี แต่ให้เชิญไปวันเสาร์และวันอาทิตย์ เพื่อที่ สส.จะได้มาทำงานในสภาฯยันรอง ปธ.สภาฯคนที่ 2 โควตาอีสานนายวิสุทธิ์กล่าวว่า กรณีการโหวตเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 หลังนายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ออกจากตำแหน่งว่า ยอมรับว่าด้วยเสียงที่ปริ่มน้ำ ยังมีบางกลุ่มหรือบางพรรคอยากได้ ทั้งนี้ยืนยันว่าขณะนี้ยังเป็นโควตาของพรรค พท.อยู่ แต่ต้องให้ผู้ใหญ่ในพรรคที่ไปดีลกัน เขาไปคุยกันให้จบก่อน ไม่มีปัญหา เพราะการเลือกรองประธานสภาฯใช้เวลาไม่มาก เมื่อถามว่าพรรค พท.ได้วางตัวบุคคลที่จะเป็นรองประธานสภาฯคนที่ 2 ไว้แล้วหรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกัน แต่หากพรรค พท. ได้ ต้องเป็นโควตาของภาคอีสาน เพราะภาคเหนือมีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย เป็นรองประธานสภาฯคนที่ 1 อยู่แล้วโอ่ สส.น้อยลงแต่คุณภาพแน่นขึ้นนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ สส.รัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำ ว่า พวกเราไม่กังวล เพราะยุคนี้ปริมาณลดลงแต่ได้ ความเข้มข้น ความมุ่งมั่นในการทำงานเพิ่มมากขึ้น และต้องทำความเข้าใจว่าสภาฯยังไม่เคยล่ม คราวที่แล้วประธานก็สั่งปิดการประชุม หลังจากที่ได้มีการเปิดโอกาสให้หารือ และเมื่อมีการโหวตจริงเสียงของรัฐบาลก็ยังชนะอยู่ แต่เราก็ไม่ได้ประมาทหรือชะล่าใจ พรรคเพื่อไทยก็ยังคงเป็นพรรคแกนหลัก ในการที่เป็นองค์ประชุม ส่วนพรรคอื่นก็มีความมุ่งมั่นที่ช่วยกัน เมื่อถามถึงกรณีที่หลายฝ่ายมองว่าหากปิดประชุมก่อนที่จะมีการโหวตหรือนับองค์ประชุม จะทำให้การดำเนินการเรื่องการพิจารณากฎหมายต่อจากนี้ยากขึ้น นายอนุสรณ์กล่าวว่า ไม่ยากขึ้น แต่ทุกคนต้องมีความพร้อมมากขึ้น รวมถึงต้องสแตนด์บายทุกเสียง เมื่อทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเอง ตนเชื่อว่า สส.พรรคร่วมก็มีความพร้อมที่จะสนับสนุนในการสนับสนุนหรือออกนโยบายต่างๆของรัฐบาล“จตุพร” เตรียมพร้อมรับมือภาษีทรัมป์วันเดียวกัน นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์พิเศษไทยรัฐทีวีถึงมาตรการช่วยเหลือภาคเอกชน ในกรณีนโยบายเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกาว่า อย่างไรมันก็ไม่เหมือนเดิม แต่มาตรการมีเตรียมไว้แล้วทั้งรายเล็ก รายใหญ่ ให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์เตรียมการดูแนวโน้มสถานการณ์ทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่เตรียมรองรับไว้จัดให้มี สินเชื่อ Soft loan แก่ผู้ประกอบการ อีกทั้งกระทรวงพาณิชย์ยังดำเนินการหาตลาดใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการ การแก้ปัญหานี้ต้องมองให้ครบทุกมิติ ครอบคลุมระบบการทำงานทั้งหมด ดังนั้นจึงจะมีการประชุมหารือวันที่ 11 ก.ค. โดยในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ ตนให้นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รมช.พาณิชย์รับผิดชอบร่วมงาน “ปลัดฉิ่ง” พรรคโอกาสใหม่เมื่อถามถึงเสถียรภาพของรัฐบาล นายจตุพร ตอบว่าเสถียรภาพเป็นอย่างไร ต้องทำงานให้ดีที่สุด แม้อยู่สั้นอยู่นาน ต้องอย่าให้ประชาชนสิ้นหวัง เชื่อมั่นว่ารัฐมนตรีทุกคนพร้อมทำงานให้ดีที่สุด เมื่อถามว่านายจตุพรเป็นหนึ่งในโควตากลุ่ม 18 พรรคร่วมไทยสร้างชาติ (รทสช.) หรือไม่ นายจตุพรตอบว่าถือเป็นโควตากลาง ไม่ใช่โควตาของใคร ให้รอดูไปก่อนจะเข้าใจเอง เมื่อถามถึงความสนใจร่วมงานพรรคโอกาสใหม่ นายจตุพรตอบว่ามีความสนใจในพรรคโอกาสใหม่ เชื่อมีอุดมการณ์ชัดเจน ตนกับปลัดฉิ่งหรือนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทยสนิทกันอยู่แล้ว ทำงานด้วยกันตั้งแต่เด็ก ทุกอย่างประจวบเหมาะกันพอดี เมื่อถามว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้ามีโอกาสอยู่พรรคโอกาสใหม่หรือไม่ นายจตุพรตอบว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ เมื่อถามว่าการเป็นรัฐมนตรีปูทางสู่การเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายจตุพรตอบว่าอยากทำงานให้กับประชาชนจริงๆ หากมีโอกาสทางการเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้าถือเป็นสิ่งที่โชคดี “เศรษฐา” หวังภาษีเท่าเวียดนาม 20% เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ กล่าวถึงกรณีสหรัฐฯขยายเวลาเจรจาภาษีครั้งสุดท้ายเป็นวันที่ 1 ส.ค. ไทยจะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 36% หรือไม่ว่า ขณะนี้ไทยมีเวลาถึง 1 ส.ค. เชื่อว่านายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและ รมว.คลัง พร้อมทีมไทยแลนด์ ต้องหารือกันอย่างขะมักเขม้น เพื่อให้ไทยได้รับการยกเว้นอัตราภาษีได้ดีขึ้น ได้เจอกับปลัดกระทรวงพาณิชย์บอกยังสู้เต็มที่อยู่ ยังมีความหวังอยู่ เพราะเรายังมีอะไรอีกหลายอย่าง ต้องไปดูรายละเอียดว่าจำนวนสินค้าในหมวดต่างๆตัวไหนที่เราให้เขาแล้ว ไม่ต้องเสียอะไรมากมาย และสำคัญที่สุดเหนือสิ่งอื่นใด ทีมงานเราเอง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ต้องมานั่งดูกันให้หมดว่าอะไรที่เกี่ยวข้อง และต้องพูดเป็นเช่นเดียวกัน อย่าให้เสียงแตกและที่จะทำให้สหรัฐฯพอใจ เมื่อถามว่าหลายฝ่ายวิจารณ์ว่าการรับมือของรัฐบาลล่าช้า นายเศรษฐากล่าวว่า เชื่อว่าตอนนี้เราต้องพยายามรวมใจกันวันที่ 1 ส.ค.ให้ลดภาษีลงให้ได้ก่อน เชื่อว่าเป้าหมายเราอย่างน้อยๆต้องเท่าเวียดนาม อัตราภาษี 20% เชื่อว่าเป็นประเด็นที่อยู่ในใจทุกๆคนอยู่ ส่วนแผนงานรองรับอื่นๆคงต้องตามมาเร่งเคลียร์มาตรการที่ไม่ใช่ภาษีนายเศรษฐากล่าวว่า รวมทั้งยังมีอีกหลายเรื่อง เช่น Non Tariff มาตรการทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร ที่ไม่เกี่ยวข้องกับ Tariff อัตราภาษี ขั้นตอนศุลกากรที่เขายังเห็นว่ามีปัญหาอยู่ การสวมสิทธิ์ต่างๆ เป็นเรื่องที่ไทยต้องให้ความกระจ่างให้ดีขึ้นในเรื่องนี้ และแน่นอนถ้าไม่ได้ 20% แล้วได้สูงกว่า เชื่อว่ามีปัญหาหลายๆอุตสาหกรรมที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามาในไทย หวังว่าเราจะไม่เสียเปรียบเพื่อนบ้าน แต่แน่นอนเรามีข้อได้เปรียบอยู่หลายข้อ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตที่ปลอดภัยในราคาประหยัด (low cost safe living) ระบบภาษีที่ชัดเจนกว่า และมีระบบราชการที่ให้ความดูแลนักลงทุนอย่างเป็นธรรม เชื่อว่ามีหลายๆประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเลข แต่แน่นอนว่าตัวเลขต้องใกล้เคียงกันถึงจะมาพูดคุยกันได้แนะทำโรดโชว์เอาข้อดีเสนอต่างชาตินายเศรษฐากล่าวอีกว่า ส่วนการช่วยเหลือ SME เป็นเรื่องใหญ่ เป็นปัญหาที่หมักหมมมานาน เรื่องของภาษีทรัมป์ถ้าไม่ได้รับการผ่อนปรนมาเท่ากับเวียดนาม จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งจะต้องมีการช่วยเหลือกัน เข้าใจว่าทีมกำลังจะศึกษาดูแลอยู่ แต่ระหว่างนี้เชื่อว่าเขามีมาตรการอยู่แล้ว เรื่องสินเชื่อพิเศษ ดอกเบี้ยต่ำว่ากันไป เมื่อถามว่าระหว่างนี้จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศอย่างไร นายเศรษฐากล่าวว่า เชื่อว่าถ้าเรามีการเจรจากันอย่างดี และผลออกมาเป็นเชิงบวก ตรงนั้นเป็นประเด็นหนึ่ง แต่ว่าแน่นอนถ้าเกิดออกมาไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ เชื่อว่าคงต้องมีการทำโรดโชว์ต่างๆ เพื่อเอาข้อดีอื่นๆของประเทศไทยไปเสนอต่างชาติด้วยพท.ย้ำจุดยืนนิรโทษไม่รวม ม.112อีกเรื่อง นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล ประธาน สส.พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงท่าทีของพรรค พท.ต่อการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข หมายถึงร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่มี 5 ฉบับจากพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคกล้าธรรม พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชน และภาคประชาชนว่า พรรค พท.เคยเสนอไปแล้ว และมีการตั้งข้อสังเกตว่าจะช่วยคนนั้นคนนี้ ไม่เป็นความจริงเลย เราเพียงต้องการให้การเมืองเดินหน้าไปได้ โดยไม่นิรโทษคดีที่เกี่ยวกับการทุจริตหรือความผิดมาตรา 112 แต่เพื่อให้มันเดินไปได้เราเลยถอนร่างของพรรค พท.ออกมา ตอนนี้มีอยู่ 5 ร่าง จุดยืนเราชัดเจนว่าไม่เอาร่างที่มีการนิรโทษการกระทำที่มีความผิดเกี่ยวกับมาตรา 112 จะยึดร่างของพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นหลัก เราต้องการให้กฎหมายฉบับนี้ออกมาให้สำเร็จเพื่อสร้างความสามัคคีของคนในชาติ ช่วยคนที่ถูกคดีจากความคิดเห็นทางการเมืองให้มันจบ อย่าไปทะเลาะเบาะแว้ง เพราะความขัดแย้งทางการเมือง 20 กว่าปีไม่มีใครได้อะไรมีแต่ความเสียหาย อยากให้นิรโทษให้จบ เราทำเพื่อเสริมสร้างสันติสุข เลิกแล้วต่อกันมาร่วมกันเดินหน้าประเทศ“โรม” ชี้ร่าง รทสช.จ้องล้างผิด กปปส.นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล พูดถึงจุดยืนพรรค พท.ในการนิรโทษกรรม ไม่รวมความผิดมาตรา 112 และจะยึดร่างของพรรครทสช.เป็นหลักว่า ร่างพรรค รทสช.เป็นร่างที่เลือก ปฏิบัติ เน้นนิรโทษกรรมให้กับแกนนำ กกปส. แกนนำที่เป็นจุดเริ่มต้นของการรัฐประหาร เป็นการติดกระดุมที่ผิดมากๆ จุดยืนในร่างพรรค ปชน.ให้เป็นหน้าที่คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดการกระทำความผิดเพื่อการนิรโทษกรรมเป็นผู้ตัดสินใจ จะไม่ทำให้เกิดการเลือกปฏิบัติแน่นอน แต่หากร่างพรรค รทสช. อันตรายอาจจะนำไปสู่การเลือกปฏิบัติ และปัญหาใหม่อาจเกิดขึ้นด้วย ทั้งนี้คณะกรรมการที่จะตั้งขึ้นตามร่างพรรค ปชน.มีทั้งตัวแทนศาล อัยการและฝ่ายการเมือง ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเลย คนที่โดนมาตรา 112 คงจะไม่ง่าย แต่เราไม่ควรเริ่มจากการปิดประตู เราควรแง้มประตูไว้ก่อน สุดท้ายเขาจะได้เมื่อไหร่ อย่างไรเป็นดุลพินิจของคณะกรรมการว่ากันอีกทีแซะ พท.หนุน ก.ม.เลือกปฏิบัติ“ฝากถึงพรรค พท. ว่าพรรค พท.พูดมาตลอดว่าอยากขจัดความขัดแย้ง มาวันนี้กลับกลายเป็นว่าไปสนับสนุนกฎหมายเลือกปฏิบัติโดยที่ไม่สนใจ คิดว่ามันก็เป็นบทพิสูจน์ความจริงใจของพรรค พท. ขอเน้นย้ำว่าพรรค ปชน. เราพร้อมโหวตให้ทุกร่าง ถ้าสมมติว่าเราได้รับการสนับสนุนเช่นเดียวกัน เพราะเราอยากให้ร่างของเราผ่าน คุณโหวตให้เราอย่างไร เราก็โหวตให้อย่างนั้น”เผยร่าง ปชน.เปิดช่องสละสิทธิ์ไว้เมื่อถามว่าบางฝ่ายกลัวถ้าร่างนิรโทษกรรมฉบับพรรค ปชน.เสนอผ่านไปได้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะ ก้าวหน้า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า รวมถึงคนในข่ายพรรคก้าวไกลเดิม จะได้รับอานิสงส์ นายรังสิมันต์ตอบว่าในร่างมีช่องทางหนึ่งที่เราเขียนเอาไว้เรื่องการสละสิทธิ์ไม่รับการนิรโทษกรรมก็ได้ แต่ตอบแทนนายทักษิณหรือคนอื่นๆไม่ได้ แต่เข้าใจว่าเคยเห็นบทสัมภาษณ์ หรือเคยได้ยินว่าอาจมีบางท่านคิดหรือมีแนวคิดว่าจะสละสิทธิ์ ดังนั้นเราจึงพยายามเปิดช่องตรงนี้เอาไว้เหมือนกันว่า ถ้าการนิรโทษกรรมบางคนแล้วนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองไม่รู้จบ ทำให้คนทุกคนไม่ได้สิทธิ์ เราเปิดช่องเอาไว้ว่าคุณอาจพิจารณาว่าจะใช้หรือไม่ใช้สิทธิ์นิรโทษกรรม รวมถึงแกนนำ กปปส.บางคนเคยพูดว่าไม่อยากได้นิรโทษกรรม ยืนยันว่าตัวเองบริสุทธิ์พร้อมสู้คดี ใช้ช่องทางสละสิทธิ์ไม่เข้าสู่กระบวนการนิรโทษได้ออก ก.ม.ฟอกผิดพวกพ้องรับได้หรือไม่เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงว่าสมมติว่าร่างนิรโทษกรรมฉบับพรรค ปชน.ผ่าน โดยมีคณะกรรมการขึ้นมา นายทักษิณ นายธนาธร นายปิยบุตร รวมถึงคนเครือข่ายพรรค ก.ก.เดิม รวมถึง กปปส.ที่หากเข้าข่ายได้นิรโทษกรรม คนกลุ่มนั้นสละสิทธิ์ขอไม่รับการนิรโทษกรรมก็ได้ นายรังสิมันต์ตอบว่าถูกต้อง แต่อยู่ที่ว่าเจ้าตัวจะแสดงออกอย่างไร แต่เราต้องยอมรับว่า การที่จะสร้างกลไกมายกเว้นหลายๆอย่างมันไม่ง่าย ทางกฎหมาย การระบุชื่อคนมันเป็นไปไม่ได้ แต่เราต้องไม่ลืมว่าอย่างแกนนำ กปปส.หลายคนเป็นนักการเมือง เป็นแกนนำต่างๆถ้าเราจะใช้หลักคิดว่าคนระดับไฮโปรไฟล์ ไม่ควรได้รับการนิรโทษกรรม เราอาจยิ่งต้องตั้งคำถามว่าแล้วอย่างนี้การออก พ.ร.บ. เพื่อนิรโทษกรรมพวกพ้อง มันเป็นเรื่องที่ยอมรับได้จริงๆหรือเปล่า“เท้ง” ชงทางแก้เที่ยวไทยคนละครึ่งเมื่อเวลา 18.00 น. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ปชน.โพสต์เฟซบุ๊กว่า เที่ยวไทยคนละครึ่งล้มเหลว เพราะรัฐไทยไม่มีกลไกกลางควบคุมการทำแอปให้เป็นไปตามมาตรฐานโครงการ เที่ยวไทยคนละครึ่งกลายเป็นครึ่งๆกลางๆ ทั้งที่ใช้งบระดับพันล้าน แต่กลับเต็มไปด้วยปัญหา แอปล่ม ระบบพัง ผู้ประกอบการเข้าไม่ถึง ประชาชนใช้งานไม่ได้ พรรค ปชน.เสนอให้ยกระดับ “TOR กลางขั้นต่ำ” ให้เป็นมาตรฐานร่วมของทุกโครงการดิจิทัลภาครัฐ TOR กลางขั้นต่ำ ควรกำหนดเงื่อนไขพื้นฐาน เช่น ต้องเชื่อมต่อกับระบบกลาง อย่างแอป “ทางรัฐ” ต้องยืนยันตัวบุคคลได้ผ่าน Digital Id ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ต้องรองรับการใช้งานกลุ่มผู้ใช้ทุกกลุ่ม เช่น กลุ่มคนพิการ ผู้สูงวัย ฯลฯ รัฐควรใช้บทเรียนจากโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เป็นโอกาสยกระดับมาตรฐานการพัฒนาและบริหารโครงการดิจิทัลของภาครัฐ ให้ประชาชนเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้จริง ไม่ใช่เป็นเพียงโครงการที่สร้างภาพความสำเร็จโดยปราศจากผลสัมฤทธิ์ในทางปฏิบัติอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่