เริ่มต้นเปิดสมัยประชุมรัฐสภารอบใหม่ สมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2568 เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 3 ก.ค.2568 หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาล ปรับพรรคภูมิใจไทยออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลไปเป็นฝ่ายค้าน พร้อมกับปรับ ครม.หลายตำแหน่ง ทำให้บทบาทการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติถูกจับตามองเป็นพิเศษเพราะผลพวงจากการปรับพรรคภูมิใจไทยที่มี 69 เสียง ออกจากการเป็นรัฐบาล ส่งผลให้ สส.ซีกรัฐบาลเหลืออยู่ 256 เสียง จากเดิม 324 เสียง ขณะที่เสียงสส.ฝ่ายค้านเพิ่มขึ้นเป็น 239 เสียง จากเดิมมี 171 เสียง แม้หักลบกับกลุ่ม สส.งูเห่าฝ่ายค้านที่มาช่วยเติมเสียงให้รัฐบาลแล้ว เสียง สส.รัฐบาลก็มีมากกว่าฝ่ายค้านแค่ 10 กว่าเสียงประเมินแล้วไม่ถือว่ามีความปลอดภัยทางการเมืองเท่าที่ควร ยังไม่สามารถโล่งใจได้ เพราะจำนวนเสียง สส.ซีกรัฐบาลอยู่ในระดับค่อนข้างปริ่มน้ำ ต้องคอยระมัดระวังตัวเรื่ององค์ประชุมในระหว่างการประชุมสภาฯ เพราะมีโอกาสเกิดความปั่นป่วนเรื่ององค์ประชุมได้ตลอดเวลา หากไม่จัดระเบียบเรื่ององค์ประชุมให้ดีตามบทเรียนที่เคยเห็นสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในช่วงแรกๆที่รัฐบาลมีคะแนนเสียงปริ่มน้ำ ทำให้เห็นปัญหาเรื่องการนับองค์ประชุมบ่อยครั้ง สส.พรรคฝ่ายค้านคอยจ้องตีรวนในการประชุมสภาฯ ขณะที่ สส.พรรคเล็กก็คอยหาช่องต่อรองเรื่องการโหวตลงคะแนนกฎหมายต่างๆ เพราะทุกคะแนนเสียงถือว่ามีราคาค่างวดนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภา หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า เชื่อว่าในบรรดาทุกกฎหมายต่อจากนี้ที่รัฐบาลจะผลักดัน หากยังเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ เกินจากเสียงฝ่ายค้านไม่กี่เสียงเท่านั้น ก็ยังมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง แล้วบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลก็ออกมาส่งข้อเรียกร้องต่างๆทุกครั้งนอกจากการตีรวนในสภาผู้แทนราษฎรแล้ว กลไกในชั้นวุฒิสภาก็น่าเป็นห่วงว่าจะเกิดปัญหาความวุ่นวายไม่แพ้กัน กฎหมายที่แม้จะผ่านการเห็นชอบจาก สส.แล้ว อาจถูกคว่ำในขั้นตอนวุฒิสภา ที่ถูกมองว่าเป็นองคาพยพของพรรคภูมิใจไทย และอาจผูกใจเจ็บพรรคเพื่อไทยที่มีส่วนร่วมขับเคลื่อนการดำเนินคดีฮั้วเลือก สว.การขับเคลื่อนของฝ่ายนิติบัญญัติในการพิจารณากฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาหลังจากนี้ จะเป็นเครื่องวัดจิตสำนึกการทำหน้าที่ของ สส. และ สว.ที่ต้องยึดผลประโยชน์ประเทศและประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ใช้เงื่อนไขเสียงปริ่มน้ำรัฐบาลมาต่อรองเล่นเกมการเมือง เพื่อประโยชน์ของพรรคการเมือง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม