โลกกำลังจับตาดูท่าที อิหร่าน จะมีการ “ปิดช่องแคบฮอร์มุซ” ในตะวันออกกลางหรือไม่ เพื่อตอบโต้สหรัฐฯที่ส่ง เครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน B–2 stealth 7 ลำ พร้อม ระเบิด Bunker Buster 14 ลูก บินจากรัฐมิสซูรีสหรัฐฯไปโจมตีเป้าหมายโรงงานนิวเคลียร์ที่อิหร่านระยะทางไปกลับกว่า 2 หมื่น กม. ทำลายเป้าหมาย 3 แห่งได้สำเร็จ แต่ผู้เชี่ยวชาญยังไม่สามารถยืนยันความเสียหายที่แท้จริงได้ โดยเฉพาะ โรงงานนิวเคลียร์ฟอว์โดว์ เป้าหมายหลัก ซึ่งอยู่ลึกลงไปใต้ภูเขา 90 เมตร ระเบิดบังเกอร์บัสเตอร์สามารถเจาะลึกลงไปทำลายเป้าหมายได้เพียง 60 กว่าเมตร สำนักข่าวรอยเตอร์ อ้างแหล่งข่าวระดับสูงอิหร่านระบุว่า อิหร่านได้ย้ายยูเรเนียมเสริมสมรรถนะสูงไปเก็บไว้ในสถานที่ลับก่อนถูกโจมตีแต่ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ก็โพสต์คุยว่า “เป้าหมายโดนเต็มๆ”เจ.ดี.แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ว่า สหรัฐฯไม่ได้อยู่ในภาวะสงครามกับอิหร่าน แต่เป็นสงครามกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน การโจมตีครั้งนี้จะทำให้โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านถอยหลังไปอีกนานมาก พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหม ก็ให้สัมภาษณ์ว่า สหรัฐฯไม่ได้มีเป้าหมายที่จะโค่นล้มรัฐบาลอิหร่าน และยํ้าว่าการโจมตีครั้งนี้ไม่ใช่การเปิดศึกยืดเยื้อ ในขณะที่ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ยืนยันว่า สหรัฐฯไม่มีแผนโจมตีเพิ่มเติม เว้นแต่อิหร่านจะตอบโต้ รูบิโอ ยังเรียกร้องให้ รัฐบาลจีน ช่วยยับยั้งไม่ให้อิหร่าน “ปิดช่องแคบฮอร์มุซ” ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งนํ้ามันสำคัญของโลกถึง 20% และจีนเป็นประเทศที่ซื้อนํ้ามันจากอิหร่านมากที่สุดหลังจากที่ถูกโจมตี รัฐสภาอิหร่าน สนับสนุนให้ “ปิดช่องแคบฮอร์มุซ” แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ สภาความมั่นคงแห่งชาติอิหร่าน ซึ่งยังเงียบอยู่ช่องแคบฮอร์มุซ (Hormuz) ตั้งอยู่ระหว่าง อิหร่าน กับ โอมาน เป็นช่องแคบที่เชื่อมต่อ อ่าวเปอร์เซีย กับ อ่าวโอมาน และ ทะเลอาหรับ จุดแคบที่สุดกว้าง 33-39 กม. แต่เส้นทางเดินเรือที่กำหนดกว้างเพียง 3 กม. ช่วงที่ลึกที่สุด 200 เมตร รับเรือนํ้ามันขนาดใหญ่ได้ นํ้ามันดิบในตะวันออกกลางวันละ 17-18 ล้านบาร์เรล และก๊าซ LNG ต้องส่งออกผ่านช่องแคบนี้ อิหร่านจึงมีอิทธิพลอย่างมาก ผู้เชี่ยวชาญนํ้ามันคาดกันว่า ถ้าอิหร่านปิดช่องแคบฮอร์มุซ จะทำให้ราคานํ้ามันดิบโลกพุ่งขึ้นไปถึง 110-120 เหรียญต่อบาร์เรล แต่ราคานํ้ามันดิบโลก ช่วงบ่ายวันจันทร์ยังอยู่ที่ 74-76 เหรียญต่อบาร์เรล ปรับขึ้นไปนิดหน่อยไม่ถึง 1 เหรียญ แสดงว่าโลกเริ่มคลายความวิตกกังวลไทยแม้จะอยู่ไกล แต่การ “ปิดช่องแคบฮอร์มุซ” ก็ส่งผลกระทบมาถึงไทยโดยตรงดร.คุรุจิต นาครทรรพ ผู้อำนวยการสถาบันปิโตรเลียมและ พลังงานแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันไทยใช้พลังงานจากนํ้ามันเกือบ 40% ก๊าซธรรมชาติเกือบ 30% ของพลังงานทั้งหมด ต้องนำเข้านํ้ามันจากต่างประเทศ 85% นำเข้าก๊าซธรรมชาติ 40% ไทยต้องพึ่งนํ้ามันและก๊าซจากต่างประเทศในสัดส่วน 46% ส่วนใหญ่มาจากตะวันออกกลาง คือ ยูเออี คูเวต ซาอุดีอาระเบีย โอมาน ส่งมาทางเรือผ่าน “ช่องแคบฮอร์มุซ” สรุปได้ว่า 1 ใน 3 ของพลังงาน ที่ใช้ในประเทศไทยคือนํ้ามันและก๊าซธรรมชาติ ต้องขนส่งผ่านช่องแคบฮอร์มุซถ้า ปิดช่องแคบฮอร์มุซ ไทยจะขาดแคลนพลังงาน 1 ใน 3 ของพลังงานที่ใช้ทั้งหมด ขาดแคลนมากที่สุดคือนํ้ามัน ทำให้ราคานํ้ามันแพงขึ้นอย่างมาก จะเกิดการขาดแคลนนํ้ามันทั่วโลก (supply ลดลงไป 20%) ราคานํ้ามันดิบในตลาดโลกจะพุ่งขึ้นเกิน 100 ดอลลาร์ ต่อบาร์เรลแน่นอน อาจขึ้นไปสูงถึง 200 ดอลลาร์ก็เป็นไปได้ปัจจุบัน ไทยมีนํ้ามันสำรองใช้ได้เพียง 60 วัน แต่ก๊าซอาจจะไม่ถึง ถ้าปิดช่องแคบฮอร์มุซเกินเดือน ไทยลำบากแน่นอน จะเกิดภาวะขาดแคลนนํ้ามัน ราคานํ้ามันแพงลิ่ว ขาดแคลนก๊าซผลิตไฟฟ้า ราคาไฟฟ้าจะแพงขึ้นไปอีก แค่จินตนาการก็สยองแล้วครับ ก็ต้องขอบคุณ ฮุน มาเนต นายกฯเขมร ที่ได้สั่งเลิกซื้อนํ้ามันจากไทย ขอให้เลิกซื้อไปนานๆนะครับ ไทยจะได้มีนํ้ามันสำรองฉุกเฉินมากขึ้น ปตท.ไม่เจ๊งแต่เขมรตายแน่นอน.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม